สมบัติทางกายภาพของยางรถยนต์

เมื่อเข้าไปร้าน ขาย ยางรถยนต์ สิ่งหนึ่งที่เราต้องการก็คือยางที่มีคุณภาพและสมรรถนะที่ดี แต่คำถามก็คือ แล้วเราจะซื้อยางอะไรดี นอกจากคำอธิบายของร้าน ขาย ยาง รถยนต์แล้ว ตัวเราเองก็น่าจะพอมีความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของยางรถยนต์ที่ดีเอาไว้บ้าง เพื่อจะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจต่อไป  สำหรับคุณสมบัติดีๆที่ว่านี้ก็ได้แก่

6 คุณสมบัติของยางรถยนต์ที่ดี

  1. เรื่องการยึดเกาะถนน คุณสมบัติของยางที่ดีอันดับแรกเลยก็คือ การยึดเกาะถนนนั่นเอง เพราะมันหมายถึงความปลอดภัยในการขับขี่ เพราะยางคือส่วนเดียวที่ต้องสัมผัสกับถนนโดยตรง หากยางไม่สามารถยึดเกาะถนนได้ดีก็อาจทำให้รถลื่นไถลและเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ ดังนั้นจำไว้เลยว่าคุณสมบัติแรกที่เราต้องรู้เกี่ยวกับยางรถที่เราจะซื้อคือ มันยึดเกาะถนนได้ดีแค่ไหน
  1. ดอกยางรีดน้ำได้ดี ประโยชน์ของดอกยางหลักๆก็คือช่วยในการรีดน้ำในสภาพที่ถนนเปียกจากภาวะฝนตกหรือเหตุสุดวิสัย ซึ่งในสภาวะเช่นนี้น้ำที่อยู่บนพื้นจะเสมือนแผ่นฟิล์มที่เคลือบอยู่บนถนนจึงทำให้หน้ายางมีโอกาสสัมผัสกับพื้นผิวถนนน้อยลง จึงอาจทำให้รถมีโอกาสลื่นไถลและสูญเสียการควบคุมได้ง่ายขึ้น หรือที่เราเรียกว่า เกิดภาวะเหิรน้ำ ดังนั้นดอกยางจึงช่วยในการรีดน้ำที่อยู่ระหว่างพื้นผิวถนนและผิวหน้ายางโดยผ่านไปทางร่องยางเพื่อให้หน้ายางได้สัมผัสกับพื้นผิวถนนมากขึ้นการเหิรน้ำน้อยลง ดังนั้นยางรถที่ดีควรมีดอกยางที่ช่วยให้รีดน้ำได้ดีเพื่อลดการเหิรน้ำน้อยที่สุด
  1. มีระยะเบรกสั้น หากอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินต้องเบรกรถกะทันหัน ยางรถที่ดีต้องสามารถช่วยห้ามล้อได้ในระยะประชิดคือสามารถหยุดรถได้ในระยะที่สั้นที่สุด
  2. เนื้อยางควรมีความยืดหยุ่น นอกจากยางควรจะมีความแข็งแรงแล้วก็ควรมีความยืดหยุ่นไม่แข็งกระด้างจนเกินไป เพื่อรองรับน้ำหนักแรงกระแทกและแรงดันลมภายใน หากเนื้อยางมีสภาพแข็งกระด้างจนไม่สามารถเอาเล็บจิกบนหน้ายางได้นั่นคือสัญญาณบ่งบอกของยางเสื่อมสภาพ ซึ่งจะมีผลทำให้แรงเสียดทานในขณะห้ามล้อน้อยลงไปอีก แถมยังมีโอกาสลื่นไถลในขณะเบรกรถได้มากขึ้นกว่าปกติ
  1. ยางต้องเงียบนิ่มนวลทุกการขับขี่ ในขณะที่ขับรถอยู่ยางที่ดีต้องไม่มีเสียงดังรบกวนเด็ดขาด
  2. ยางต้องมีความสามารถในการรับน้ำหนัก ยางที่ดีต้องมีความสามารถรับน้ำหนักได้ดีเมื่อเมื่อเทียบกับยางประเภทเดียวกัน

เมื่อรู้แบบนี้แล้วก่อนซื้อยางรถยนต์ก็ควรตรวจเช็คให้ดี เพื่อให้ได้ยางรถยนต์ที่มีคุณภาพและสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

          ยางซิลิโคนเป็นยางที่มีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลต่ำ ส่วนใหญ่จึงไม่อยู่ในรูปของแข็ง แต่จะอยู่ในรูปของเหลวที่มีความหนืดสูงมาก และค่าความหนืดก็ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเพียงเล็กน้อย ยางซิลิโคนจะมีสมบัติความยืดหยุ่นดีจำเป็นต้องทำให้คงรูปโดยกระบวนการวัลคาไนซ์ด้วยเพอร์ออกไซด์เนื่องจากความแข็งแรงของพันธะระหว่างSi-O สูงกว่า C-C และไม่มีพันธะคู่อยู่ในโมเลกุล ยางซิลิโคนจึงทนต่อสภาพอากาศ โอโซน แสงแดด และความร้อนได้ดีกว่ายางที่เป็นพวกไฮโดรคาร์บอนยางชนิดนี้จึงเป็นยางชนิดพิเศษที่สามารถใช้งานได้ในที่อุณหภูมิสูงมากๆ (และต่ำมากๆ) อย่างไรก็ตามยางซิลิโคนมีค่าความทนต่อแรงดึง (tensile strength) ความต้านทานต่อการขัดถู (abrasion resistance) และความทนต่อแรงกระแทก (impact resistance) ต่ำมาก ดังนั้นจึงต้องมีการเติมสารเสริมแรง เช่น ซิลิกาเข้าช่วย ยางซิลิโคนมีความเป็นฉนวนที่ดีมาก มีอัตราการซึมผ่านของก๊าซและของเหลวสูง (ประมาณ 100 เท่าของยางบิวไทล์) แต่ว่ายางชนิดนี้ไม่ทน ต่อกรดและด่าง สารเคมีจำพวกเอสเทอร์ คีโตน และอีเทอร์การใช้งานของยางซิลิโคนจะถูกจำกัดอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถใช้ยางชนิดอื่นๆ ได้ เพราะยางชนิดนี้มีราคาสูงมาก ส่วนใหญ่จะใช้ในการผลิตยางที่เป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินและรถยนต์ ใช้ทำฉนวนหุ้มสายเคเบิล และใช้ในงานทางการแพทย์และเภสัชกรรมรวมถึงผลิตภัณฑ์ยางที่ต้องสัมผัสกับอาหาร

การนำยางธรรมชาติไปใช้งานมีอยู่ 2 รูปแบบคือ รูปแบบน้ำยาง และรูปแบบยางแห้ง ในรูปแบบน้ำยางนั้นน้ำยางสดจะถูกนำมาแยกน้ำออกเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของเนื้อยางขั้นตอนหนึ่งก่อนด้วยวิธีการต่าง ๆ แต่ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมคือการใช้เครื่องเซนตริฟิวส์ ในขณะที่การเตรียมยางแห้งนั้นมักจะใช้วิธีการใส่กรดอะซิติกลงในน้ำยางสด การใส่กรดอะซิติกเจือจางลงในน้ำยาง ทำให้น้ำยางจับตัวเป็นก้อน เกิดการแยกชั้นระหว่างเนื้อยางและน้ำ ส่วนน้ำที่ปนอยู่ในยางจะถูกกำจัดออกไปโดยการรีดด้วยลูกกลิ้ง 2 ลูกกลิ้ง วิธีการหลัก ๆ ที่จะทำให้ยางแห้งสนิทมี 2 วิธีคือ การรมควันยาง และการทำยางเครพ แต่เนื่องจากยางผลิตได้มาจากเกษตรกรจากแหล่งที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องมีการแบ่งชั้นของยางตามความบริสุทธิ์ของยางนั้น ๆ ผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ ได้แก่ ยางรถยนต์, รองเท้า, ท่อยาง, ปูพื้น, ลูกล้อ, ยางแท่นเครื่อง

สรุปคุณสมบัติของยางยางธรรมชาติ NR
-ทนการเสียดสี
- รับแรงกระแทก
- ยืดหยุ่นตัวดี
- ทนความร้อนได้ -20°C ถึง 80°C

2. ยางสังเคราะห์
ยางสังเคราะห์ คือ ยางวิทยาศาสตร์เป็นยางที่มนุษย์ผสมขึ้นมาเองได้แก่ ยาง NBR, SR, EPDM, SILICONE, VITON, HYPALON, CR, NEOPRENE, THERMOPLASTIC POIYURTEHANES และ URETHANE แต่ละชนิดมีคุณสมบัติดังนี้

ยางเทียมสังเคราะห์ (Synthesis Rubber SR) เป็นยางสังเคราะห์ที่ใช้งานกันมากในสหรัฐอเมริกา ยางมีส่วนผสมของบิวทาไดน์ 78% กับสไตรีน 22% มันอาจจะถูกผสมกันที่อุณหภูมิ 40 องศาฟาเรนไฮต์ เมื่อนำมาผสมกันที่ 40 องศาฟาเรนไฮต์ยางจะมีคุณสมบัติพิเศษกว่า ยางธรรมชาติจึงนำไป ใช้ทำยางรถยนต์ ยางสังเคราะห์มีความต้านทานต่อการขูดถลอก สภาวะของลมฟ้าอากาศที่แปรเปลี่ยนไป ต้านทานไฟฟ้าได้ดี เมื่อทิ้งไว้ให้ตากแดด ตากลม โอโซน แก๊สโซลีน และน้ำมัน ยางจะชำรุดเสียหายได้ ยางนี้ยังใช้ทำท่อยาง พื้นฉนวน สายพานลำเลียง วัสดุหีบห่อ พื้นรองเท้า

สรุปคุณสมบัติของยาง
- การใช้งานคล้ายยาง NR
- ทนการเสียดสี
- ต้านทานไฟฟ้าได้ดี
- ทนความร้อนได้ -20°c ถึง 80°c

ยางโพลียูรีเทน (Polyurethane, PU) ผลิตขึ้นครั้งแรกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้ทดแทนยางธรรมชาติ และยังใช้ผลิตผ้าที่มีความทนทาน เคลือบผิวเครื่องบิน โลหะ เพื่อป้องกันการกัดกร่อนและสารเคมี โพลียูรีเทนผลิตจากโพลีออลกับไดไอโซไซยาเนตหรือโพลีเมอริก ไอโซไซยาเนต โพลียูรีเทนส่วนใหญ่เป็นพลาสติกชนิดเทอร์โมเซ็ต คือ ไม่สามารถหลอมเหลวและขึ้นรูปใหม่ได้ ซึ่งผลิตออกมาหลายรูปแบบได้แก่ ท่อลมอัด เป็นโฟมยืดหยุ่น โฟมแข็ง สารเคลือบป้องกันสารเคมี

สรุปคุณสมบัติของยาง POLYURETHANE
- ทนต่อการเสียดสีได้ดีมาก
- ทนต่อแรงลมอัดได้สูง
- ทนน้ำมัน
- ทนความร้อนได้ -40°c ถึง 100°c

ยางเทอร์โมพลาสติก โพลียูรีเทน (Thermoplastic Polyurethanes) TPU มีลักษณะอ่อนเหมือนกัน แต่ไม่อ่อนเท่าเนื้อของ TPU จะลื่นกว่าและมีความแข็งกว่า ส่วนใหญ่จะนำมาใช้เป็นยางกันกระแทกที่จะใช้ TPU เป็นวัสดุ ด้วยเหตุผลที่คงทนกว่า ไม่เกิดอาการย้วย วัสดุประเภทนี้จะไม่เสียทรง หรือ สูญเสียทรงน้อยมาก

ยางรถยนต์ต้องมีสมบัติแบบใด

เนื้อยางควรมีความยืดหยุ่น นอกจากยางควรจะมีความแข็งแรงแล้วก็ควรมีความยืดหยุ่นไม่แข็งกระด้างจนเกินไป เพื่อรองรับน้ำหนักแรงกระแทกและแรงดันลมภายใน หากเนื้อยางมีสภาพแข็งกระด้างจนไม่สามารถเอาเล็บจิกบนหน้ายางได้นั่นคือสัญญาณบ่งบอกของยางเสื่อมสภาพ ซึ่งจะมีผลทำให้แรงเสียดทานในขณะห้ามล้อน้อยลงไปอีก แถมยังมีโอกาสลื่นไถลในขณะเบรก ...

คุณสมบัติของยางคืออะไร

ยางธรรมชาติ เป็นโพลิเมอร์ชนิดหนึ่งที่มีสมบัติเด่นหลายประการ เช่น มีสมบัติเชิงกลดี มีความยืดหยุ่น (elastic) สูง มีความเหนียว (toughness) มีความต้านทานต่อการขัดถู (abrasion resistance) สูง และสามารถยึดติดกับวัสดุอื่น เช่น โลหะและสิ่งทอได้ดี จึงสามารถนำาไปใช้งานทางวิศวกรรมได้หลากหลายมากขึ้น

ล้อรถมีสมบัติอะไร

1. รองรับน้ำหนักตัวรถบรรทุก 2. ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนน ป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อถนน และ ตัวรถยนต์ตลอดจนน้ำหนักสิ่งของรถบรรทุก 3. ถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อน และต้านทานการหยุดของตัวรถ (แรงเสียดทาน)การเบรก) 4. เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ของตัวรถ (การบังคับเลี้ยว)

ยางได้มาจากไหนมีสมบัติอย่างไร

ยาง คือวัสดุพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจนและคาร์บอน ยางเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง ยางที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติจะมาจากของเหลวของพืชบางชนิด ซึ่งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาว คล้ายน้ำนม มีสมบัติเป็นคอลลอยด์ อนุภาคเล็ก มีตัวกลางเป็นน้ำ ยางในสภาพของเหลวเรียกว่าน้ำยาง ยางที่เกิดจากพืชนี้เรียกว่ายางธรรมชาติ ในขณะเดียวกันมนุษย์ ...

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง