ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่า การหักเหของแสง เราอาจ จะให้คำจำกัดความ การหักเหของแสงได้ว่า เป็น การเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ของแสง ซึ่งเป็นผลจากการเคลื่อนที่ของแสงจากตัวกลางหนึ่งไปยังอีกตัวกลางหนึ่ง โดยมีทิศทางการเคลื่อนที่ของแสง ดังรูป 2
รูปที่ 2 แสดงการหักเหของแสงผ่านตัวกลาง
กฎการหักเหของแสง เมื่อแสงเดินทางจากตัวกลางหนึ่งไปยังอีกตัวกลางหนึ่ง แสงจะเกิดการหักเห และเป็นไปตามกฎการหักเหของแสง ดังต่อไปนี้
การหักเหของแสงเมื่อเคลื่อนที่ผ่านปรึซึม
มาศึกษาที่วีดีโอกัน
การทดลองการหักเหของแสงผ่านตัวกลาง
//phet.colorado.edu/sims/html/bending-light/latest/bending-light_th.html
มุมวิกฤต
มุมวิกฤต คือ มุมตกกระทบที่ทำให้เกิดมุมหักเหเป็นมุม 90 องศา พอดี เกิดจากแสงจากตัวกลางที่มีความหนาแน่นมากกว่าไปสู่ตัวกลางที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า หรือแสงจากตัวกลางที่มีดัชนีหักเหมากไปสู่ตัวกลางที่มีดัชนีหักเหน้อยกว่าดังรูป
การสะท้อนกลับหมด (Total reflection) คือ ปรากฏการณ์ที่เกิดจากมุมตกกระทบมีขนาดโตกว่ามุมวิกฤต จะทำให้แสงเกิดการสะท้อนกลับสู่ตัวกลางเดิมทั้งหมด ไม่มีการหักเหออกไปอีก
ลึกจริง ลึกปรากฏ
นำแท่งพลาสติกใสผิวระนาบวางทับตัวหนังสือ ดังรูป เมื่อมองดูตัวหนังสือใต้แท่งพลาสติก จะมองเห็นตัวหนังสือที่ตำแหน่งที่ไม่ใช่ตำแหน่งจริง เป็นตำแหน่งที่ไม่ใช่ตำแหน่งจริง เป็นตำแหน่งที่สูงขึ้นกว่าตำแหน่งเดิม การเห็นวัตถุในลักษณะนี้เนื่องจากอากาศมีดรรชนีหักเหน้อยกว่าแก้ว ดังนั้นมุมหักเหในอากาศจึงมีค่ามากกว่ามุมตกกระทบในแก้ว ภาพที่มองเห็น จึงเรียกว่า ความลึกปรากฏ ส่วนตำแหน่งของวัตถุจริง จึงเรียกว่า ความลึกจริง ดังแสดงได้จาก รูปต่อไปนี้
"เรียนรู้ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเพื่ออยู่ร่วมกับธรรมชาติ"
Privacy & Cookies: This site uses cookies. By continuing to use this website, you agree to their use.
To find out more, including how to control cookies, see here: Cookie Policy
สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด
เมื่อแสงเคลื่อนที่จากตัวกลางโปร่งหนึ่งไปยังอีกตัวกลางโปร่งใสหนึ่ง จะเกิดการหัก มีอัตราเร็วของแสงเปลี่ยนไป และอาจเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ แสงที่เกิดการหักเหเมื่อเคลื่อนที่ผ่านวัตถุที่วัสดุเป็นตัวกลางโปร่งใส เช่น ปริซึม หรือหยดน้ำ แสงจะแยกออกเป็นแสงสีต่าง ๆ เรียกว่า สเปกตรัมของแสง เนื่องจากแสงแต่ละสีมีอัตราเร็ว ของแสงที่แตกต่างกันในตัวกลางนั้น ๆ จึงหักเหได้ไม่เท่ากันและกระจายออกให้เห็นสีต่าง ๆ เรียกว่า การกระจายของแสง
ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้
- อธิบายการกระจายของแสงเมื่อผ่านปริซึม
- อธิบายปรากฎการณ์ทางแสงด้วยการหักเหของแสง
ด้านทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
- การสังเกต การกระจายของแสงเมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านปริซึม หรือหยดน้ำ
- การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป โดยแปลความหมายข้อมูลจากการทดลอง และลงข้อสรุปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการหักเหและการกระจายของแสง
- การสร้างแบบจำลอง โดยเขียนแผนการเคลื่อนที่ของแสงแสดงการหักเหของแสงในปริซึม เพื่ออธิบายการกระจายแสงในตัวกลางโปร่งใส เช่นปริซึม หรือหยดน้ำในธรรมชาติ
ด้านจิตวิทยาศาสตร์
- วัตถุวิสัย โดยแปลความหมายข้อมูลสอดคล้องกับหลักฐานอย่างเที่ยงตรง
- ความอยากรู้อยากเห็น โดยกระตือรือร้นในการสืบเสาะหาความรู้ตามที่สงสัยในการทำกิจกรรม
- ความมุ่งมั่นอดทน โดยตั้งใจและรับผิดชอบในการทำกิจกรรมเพื่อให้ได้หลักฐานนำไปสู่การอธิบาย ลงข้อสรุป และทำให้งานสำเร็จ
ด้านสมรรถนะที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน
- การอธิบายปรากฎการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยสร้างคำอธิบายเกี่ยวกับการกระจายของแสงจากความสัมพันธ์ระหว่างมุมตกกระทบและการกระจายแสงภายในปริซึมได้สเปกตรัมของแสง และนำไปใช้อธิบายปรากฎการณ์ที่กำหนด
- การแปลความหมายข้อมูลและใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ โดยวิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลจากผลการทำกิจกรรม และลงข้อสรุปเกี่ยวกับการกระจายของแสงเนื่องจากการหักเหของแสงที่เดินทางจากอากาศเข้าไปในปริซึม
การวัดผลและประเมินผล
วิธีการ
1. การตอบคำถามในใบงานเกี่ยวกับการการกระจายของแสงเมื่อผ่านปริซึมอย่างถูกต้อง
2. การทำแบบฝึกหัดเรื่องการหักเหของแสงในใบงานอย่างถูกต้อง
3. การสังเกต การบันทึกผลกิจกรรม มีความละเอียดรอบคอบและไม่ใส่แนวคิดผู้สังเกต เกี่ยวกับการกระจายแสงเมื่อแสงหักเหผ่านปริซึม หรือหยดน้ำ
4. การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป จากการบันทึกผลกิจกรรมและการตอบคำถามในใบงาน โดยแปลความหมายและสรุปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการหักเหของแสงในปริซึมและการกระจายของแสง
5. การสร้างแบบจำลอง จากการบันทึกผล และการตอบคำถามในใบงาน โดยใช้การเขียนแผนภาพแสดงการเคลื่อนที่และการหักเหของแสงในปริซึม เพื่ออธิบายการกระจายแสงในตัวกลางโปร่งใสให้เข้าใจได้ง่ายและถูกต้อง
6. วัตถุวิสัย จากการบันทึกผลและการตอบคำถามในใบงานที่สะท้อนความสอดคล้องของหลักฐานและการแปลความหมายที่เที่ยงตรง
7. ความอยากรู้อยากเห็น จากการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงความกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็นในการทำงาน
8. ความมุ่งมั่นอดทน จากการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงความมุ่งมั่นอดทนเพื่อทำงานระหว่างทำกิจกรรม และทำให้งานประสบความสำเร็จ
9. การอธิบายปรากฎการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการบันทึกผลการการทำกิจกรรม การตอบคำถามในใบงาน และตั๋วออก สร้างคำอธิบายเกี่ยวกับการหักเหของแสงในปริซึมและการ กระจายของแสง นำไปอธิบายปรากฎการณ์รุ้งหรือพระอาทิตย์ทรงกลดได้ถูกต้อง
10. การแปลความหมายข้อมูลและการใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์ จากการตอบคำถามในใบงาน วิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลผลการทำกิจกรรม และลงข้อสรุปเกี่ยวกับการกระจายของแสงเนื่องจากการหักเหของแสงผ่านปริซึมที่สะท้อนความสัมพันธ์ของข้อมูลและหลักฐาน