ปลัดสธ.เซ็นประกาศปรับโครงสร้างอัตราค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานกระทรวงสาธารณสุขกว่าแสนราย มีผล 1 เม.ย.2565 หากใครปรับแล้วเงินไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ มีปรับอีก 1 ต.ค. 65 เพื่อให้ถึงเกณฑ์ทุกคน พร้อมกำหนดแนวทางการดำเนินงาน และรายละเอียดบัญชีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2565 นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์
Hfocus ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้มีการสร้างขวัญกำลังใจแก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานในกระทรวงฯ ทุกระดับ โดยล่าสุด นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงนามในหนังสือกระทรวงสาธารณสุขให้มีการปรับโครงสร้างอัตราค่าจ้างของลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานกระทรวงสาธารณสุข มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2565 เป็นต้นไป โดยให้ปรับอัตราค่าจ้างเพิ่มขึ้น 5% แก่บุคลากรในกระทรวงฯ กลุ่มลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีประมาณกว่า 1 แสนคน
“การปรับขึ้นครั้งนี้จะมีบางส่วนที่ทำงานมาก่อน และแม้จะปรับเงินเดือนขึ้น 5% ก็ยังไม่ถึงเงินเดือนขั้นต่ำ ซึ่งตรงนี้จะปรับขึ้นเงินเดือนอีกในวันที่ 1 ต.ค.2565 ทำให้ทุกคนมีเงินเดือนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำตามสายงานของตนทั้งหมด ซึ่งเกณฑ์เงินเดือนขั้นต่ำก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละสายงาน โดยจะมีการกำหนดแนวทางการดำเนินการเพื่อให้แก่ผู้บริหารทราบ” รองปลัดสธ. กล่าว วันเดียวกัน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ลงนามในหนังสือที่ สธ.0208.04/ว261 เรื่อง
บัญชีโครงสร้างอัตราค่าจ้างของลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ส่งถึงอธิบดีทุกกรม/เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา / อธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก/ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข/ผู้อำนวยการสำนักงานเขตสุขภาพ/ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด/ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ทุกแห่ง โดยหนังสือดังกล่าวลงนาม ณ วันที่ 30 มี.ค.2565
โดยหนังสือดังกล่าวอิงตามประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เรื่องค่าจ้างของพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565
ใจความสำคัญ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ปรับปรุงบัญชีโครงสร้างอัตราค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว เงินนอกงบประมาณ(เงินบำรุง) สำหรับกลุ่มวิชาชีพและกลุ่มสนับสนุน สังกัดสำนักงานปลัดฯ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2565 เป็นต้น โดยให้มีการปรับเพิ่มค่าจ้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ทั้งนี้ ยังได้กำหนดแนวทางการดำเนินการการเพิ่มค่าจ้างของลูกจ้างชั่วคราวนอกงบประมาณ(เงินบำรุง) และแนวทางการเพิ่มค่าจ้างของพนักงานกระทรวงสาธารณสุขทั่วไป แบ่งดังนี้
**แนวทางการเพิ่มค่าจ้างของลูกจ้างชั่วคราวนอกงบประมาณ(เงินบำรุง)
1.เป็นลูกจ้างชั่วคราวเงินบำรุง(รายเดือน) ก่อนวันที่ 1
เม.ย.2565
2.การให้ได้รับค่าจ้าง ให้ปรับอัตราค่าจ้างอีกร้รอยละ 5 จากฐานค่าจ้างของลูกจ้างชั่วคราวเงินบำรุง(รายเดือน) แต่ละบุคคล มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2565 กรณีลูกจ้างชั่วคราวเงินบำรุง ที่ได้รับการปรับอัตราค่าจ้างแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นต่ำให้ปรับค่าจ้างให้ถึงขั้นต่ำ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565
**แนวทางการเพิ่มค่าจ้างของพนักงานกระทรวงสาธารณสุขทั่วไป
1.ผู้ที่ได้รับการจ้างเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุขทั่วไป ก่อนวันที่ 1 เม.ย.2565
2.ให้ได้รับเงินเพิ่มเพื่อเป็นค่าจ้างร้อยละ 5 จากฐานค่าจ้างของพนักงานกระทรวงสาธารณสุขทั่วไปแต่ละบุคคล โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2565 ทั้งนี้ กรณีพนักงานกระทรวงสาธารณสุขทั่วไปที่ได้รับเงินเพิ่มเพื่อเป็นค่าจ้างแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นต่ำของบัญชีอัตราค่าจ้างดังกล่าว ให้ได้รับเงินเพิ่มเพื่อเป็นค่าจ้างให้ถึงขั้นต่ำ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ //www.facebook.com/Hfocus.org
- ข่าว
- บุคลากรสาธารณสุข
- ปรับโครงสร้างเงินเดือนสธ.
- ลูกจ้างชั่วคราว
- พนักงานกระทรวงสาธารณสุข
- นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต
- นพ.สุระ วิเศษศักดิ์
- 90914 views
ระบบค่าตอบแทน
Compensation
กลุ่มพัฒนาระบบค่าตอบแทน
ที่ตั้ง : อาคารสำนักงาน ก.พ. ชั้น 8 โทรศัพท์ : 0 2547 1000 ต่อ 8823, 8825, 8826, 8827, 8834, 8842
ติดต่อ กลุ่มพัฒนาระบบค่าตอบแทน
เงินประจำตำแหน่ง
เงินประจำตำแหน่ง คือ ค่าตอบแทนกำหนดขึ้นสำหรับข้าราชการที่ได้รับการแต่งตั้งและปฏิบัติหน้าที่หลักในตำแหน่งที่ ก.พ. กำหนด เช่น ตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะด้านการบริหารซึ่งมีความรับผิดชอบทั้งด้านการบริหารแผนงาน แผนเงิน และแผนคนในองค์กร รวมทั้งตำแหน่งที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถทางด้านอาชีพ เป็นต้น ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการกำหนดเงินประจำตำแหน่งนั้น ก็เพื่อลดความแตกต่างของอัตราค่าตอบแทนของภาคราชการกับอัตราตลาด และเพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียกำลังคนในภาคราชการในขณะนั้น
การได้รับเงินประจำตำแหน่ง
อัตราเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญ
- บัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญแนบท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
กฎ ก.พ
- กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2564
- (ให้ ผอ.สคทช. ได้รับเงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท และรอง ผอ.สคทช. ได้รับเงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท)
- กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2561
- (เพิ่มสายงานวิศวกรรมรังวัด (ชช.))
- กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่
10) พ.ศ. 2561
- (ให้เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้รับเงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท)
- กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2559
- (เพิ่มสายงานวิชาการสหกรณ์ (ทว.))
- กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2559
- (ให้เลขาธิการ ป.ป.ท. ได้รับเงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท และรองเลขาธิการ ป.ป.ท. ได้รับเงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท)
- กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2559
- (ให้เลขาธิการ ปปง. ได้รับเงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท และรองเลขาธิการ ปปง. ได้รับเงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท)
- กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2558
- (เพิ่มสายงานจดหมายเหตุ (ชช.) และสายงานวิชาการชั่งตวงวัด (ชช.))
- กฎ ก.พ.
ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558
- (เพิ่มสายงานอุตุนิยมวิทยา (ทว.) และสายงานเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก (ชก., ชพ.))
- กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558
- (ให้เลขาธิการ BOI ได้รับเงินประจำตำแหน่ง 21,000 บาท และรองเลขาธิการ BOI ได้รับเงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท)
- กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2556
- (เพิ่มสายงานกายอุปกรณ์ (ชก., ชพ.))
- กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555
- (ยกเลิกบัญชีกำหนดสายงานท้ายกฎ ก.พ. ปี 2551 และให้ใช้บัญชีกำหนดสายงานท้าย กฎ ก.พ. ฉบับนี้แทน)
- กฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2551
หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
- ว18/2551 หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการรับเงินประจำตำแหน่งสำหรับตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการและระดับทรงคุณวุฒิ
การจ่ายเงินประจำตำแหน่ง
- พระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินประจำตำแหน่งฯ พ.ศ. 2539 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ update ล่าสุด)
- พระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินประจำตำแหน่งฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550
- พระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินประจำตำแหน่งฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547
- พระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินประจำตำแหน่งฯ พ.ศ. 2539
- ว21/2551 ระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยการจ่ายเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2551
ค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือน
ค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือน คือ ค่าตอบแทนที่กำหนดขึ้นด้วยเหตุผลในลักษณะคล้ายคลึงกับเงินประจำตำแหน่ง โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดความแตกต่างของอัตราค่าตอบแทนภาคราชการกับอัตราตลาด และเพื่อรักษาไว้ซึ่งกำลังคนคุณภาพในภาครัฐซึ่งในขณะนั้นมีการสูญเสียไปสู่ภาคเอกชนจำนวนมาก โดยข้าราชการที่ได้รับเงินประจำตำแหน่งจะได้รับเงินค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนเท่ากับเงินประจำตำแหน่ง ยกเว้นตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ จะไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนในส่วนนี้ และข้าราชการประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ ที่ไม่ได้รับเงินประจำตำแหน่งจะได้รับค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือนในอัตรา 3,500 บาทต่อเดือน
ระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
- ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษนอกเหนือจากเงินเดือนฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2553
- ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษนอกเหนือจากเงินเดือนฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2552
- ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษนอกเหนือจากเงินเดือนฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550
- ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษนอกเหนือจากเงินเดือนฯ พ.ศ. 2547
ข้อมูล : เงินประจำตำแหน่ง