ตัวอย่าง resume จบใหม่ ไม่มี ประสบการณ์ ภาษาไทย

เรซูเม่ ถือเป็นสิ่งใหม่สำหรับนักศึกษาจบใหม่ทั้งหลาย ที่ไม่ค่อยจะแน่ใจนักว่าจะต้องเขียนอย่างไร ถึงจะออกมาดูดี เป็นมืออาชีพ และใช้สมัครงานได้จริง ๆ ในบทความนี้จะมา เผยแพร่ถึงเทคนิคทั้งหมดในการ เขียนเรซูเม่ของเด็กจบใหม่ ให้ได้ผลจริง ๆ

ส่วนใหญ่แล้ว นักศึกษาจบใหม่จะขาดความมั่นใจในการเขียนเรซูเม่และสมัครงาน เนื่องจากว่าขาดประสบการณ์ทำงาน และไม่ว่าจะเข้าไปในเว็บไซต์รับสมัครงานเว็บไหน ๆ ก็เจอแต่ตำแหน่งงานที่รับคนมีประสบการณ์ทั้งนั้นเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าคุณรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงานที่ลึกขึ้น คุณจะไม่รู้สึกอย่างนั้นอีกต่อไป พวกเราทีมงานเว็บ Resume.in.th เชื่อว่าถ้าคุณได้รู้จักกับเทคนิคที่เรากำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ คุณจะต้องเปลี่ยนความคิดไปอย่างแน่นอน

จุดสำคัญ ๆ ของเรซูเม่นักศึกษาจบใหม่

นี่คือรายละเอียดจุดสำคัญต่าง ๆ ที่เรซูเม่ของนักศึกษาจบใหม่ทุกคนควรจะรู้เอาไว้ และทำตามให้ได้มากที่สุด ครบทุกข้อได้เลยยิ่งเป็นผลดีต่อตัวเราเอง

1. เรซูเม่ที่ดี จะต้องมีเพียง 1 หน้าเท่านั้น

เรซูเม่สมัครงาน จะต้องยาวเพียง 1 หน้าเท่านั้น เพราะว่าเรซูเม่ (resume) นี้ก็คือเอกสารย่อที่สรุปประวัติในการทำงานของแต่ละคนลงให้เหลือสั้นและกระชับที่สุด ซึ่งก็คือ 1 หน้ากระดาษ A4 เท่านั้น ไม่ว่าคุณจะพิมพ์ลงกระดาษ หรือสร้างเป็นไฟล์ดิจิทัล (แนะนำ PDF) ก็จะต้องให้ได้ในขนาด 1 หน้ากระดาษ A4 เท่านั้น

เมื่อคุณทำงานไปจนมีประสบการณ์สัก 5-10 ปี แล้วคุณก็จะมีเรื่องราวมากขึ้นที่จะเล่าในเรซูเม่ของคุณ เมื่อนั้นค่อยขยับขยายไปใช้เรซูเม่ที่ยาวกว่า 1 หน้า

2. เรซูเม่ที่ดี จะต้องจัดระเบียบเรียบร้อย ไม่รก และเป็นสีขาวดำ

เรซูเม่ก็คือการจัดระเบียบข้อมูลของตัวเอง และพรีเซนต์มันออกไปให้กับผู้อ่าน ให้ผู้อ่านอ่านง่าย และเข้าถึงข้อมูลสำคัญๆที่จำเป็นได้อย่างรวดเร็วและทันที ผู้อ่านจะอ่านแบบสกิม (skimming) นั่นก็คือการอ่านแบบข้ามๆ อ่านจับใจความเฉพาะหัวข้อ โดยไม่อ่านทุกตัวอักษร

นอกจากนี้เรซูเม่ที่ดี ส่วนมากแล้ว 99% จะเป็นเรซูเม่ที่ออกแนวคลีนๆ ใช้โทนสีขาวดำ เทาเท่านั้น โดยใช้พื้นหลังสีขาวและตัวอักษรสีดำและเทา เพราะว่าในหลายๆครั้งก็จะมีการพิมพ์ลงกระดาษเพื่อใช้ในขั้นตอนการสมัครและคัดเลือกพนักงาน ดังนั้นเรซูเม่สี ๆ ถ้าพิมพ์ลงกระดาษแล้วจะอ่านยากมาก จนบางครั้งถึงกับอ่านไม่ออกเลยก็มี ดังนั้นถ้าคุณจะไปจ้างใครทำเรซูเม่ให้หน้าตาสวยงาม ใช้สีสันแล้วล่ะก็ ขอให้คิดใหม่ก่อนนะว่าตกลงแล้ว เป้าหมายของเราคืออะไร อยากได้เรซูเม่สวยๆ หรืออยากได้งานกันแน่

3. ใส่ข้อมูลที่สำคัญ 6 อย่างให้ครบ อย่าเว้นว่างหรือไม่ใส่

เรซูเม่สมัครงาน จะมีข้อมูลที่สำคัญที่จะต้องใส่ลงไปมากถึง 6 อย่างด้วยกัน ให้ให้ครบ เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่เสียโอกาสได้งานไป

  1. ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลติดต่อ
  2. Career Objective
  3. ประวัติการศึกษา
  4. ประวัติการทำงาน (สำหรับเด็กจบใหม่: ประวัติการฝึกงาน)
  5. สกิล และความสามารถพิเศษต่าง ๆ
  6. รางวัลที่เคยได้รับ (ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงาน)

บางคนบอกว่า ถ้าต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็ให้ถามสิ แต่ว่าในความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เรซูเม่ของคุณจะเป็นหนึ่งในผู้สมัครงานจำนวนมาก ที่ในบางครั้งการสมัครงานในบริษัทที่ใหญ่ ๆ ดัง ๆ คุณอาจมีผู้แข่งขันสูงถึงหลายร้อยคน ในการแย่งชิงตำแหน่งงานว่างเพียง 1 ตำแหน่งเท่านั้น และ HR (ฝ่ายคัดเลือกบุคคลของบริษัท) เองก็มองว่า ทำไมเขาจะต้องเลือกคนที่ใส่ข้อมูลมาขาดๆแล้วต้องไปถามเพิ่มเอาทีหลัง ในเมื่อก็มีคนที่ให้ข้อมูลมาครบตั้งแต่แรกอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก

HR มองว่า ทำไมเขาจะต้องเลือกคนที่ใส่ข้อมูลมาขาด ๆ แล้วต้องไปถามเพิ่มเอาทีหลัง ในเมื่อก็มีผู้สมัครที่ให้ข้อมูลมาครบตั้งแต่แรกอยู่แล้วเป็นจำนวนมาก

4. ใช้รูปสมัครงานที่สุภาพ

ส่วนใหญ่แล้วเรซูเม่ในประเทศไทย จะมีการติดรูปของผู้สมัครลงไปในเรซูเม่ ทั้งเวอร์ชั่นกระดาษ และดิจิทัล และรูปสมัครงานที่แนะนำให้ใช้มากที่สุดก็คือ รูปติดบัตร เท่านั้น อย่าใช้รูปอื่น ๆ เด็ดขาด เพราะจะถือว่าไม่สุภาพ และคุณก็จะเสียโอกาสไปมาก ถ้าใช้รูปอื่น ๆ นอกเหนือจากรูปติดบัตร

รูปติดบัตรก็คือรูปที่พื้นหลังสีพื้นๆ ถ่ายในร้านถ่ายรูป หรือถ้าไม่มีร้านถ่ายรูปใกล้บ้างคุณ ก็สามารถยืนถ่ายกับกำแพงเรียบ ๆ ได้ ไม่เป็นปัญหา แต่บางคนตีความผิดว่าจะต้องอัพรูปบัตรประชาชน อันนี้ไม่ใช่นะ คุณห้ามอัพรูปบัตรประชาชนของตัวเองไปที่ไหนอย่างเด็ดขาด และ HR ที่ได้รับผู้สมัครที่ใช้รูปบัตรประชาชนก็จะมองว่าคุณไม่มีความรู้รอบตัวว่าทำไมบัตรประชาชนของตัวเองถึงสำคัญ

5. ใส่ประวัติการฝึกงาน

เห็นไหมว่าส่วนนี้สำคัญมากจนต้องใส่ดาว 5 ดวง นี่คือจุดสำคัญที่สุดที่นักศึกษาจบใหม่มักจะพลาดกัน หลายๆคนบอกว่าก็ผมเพิ่งจบ ไม่เคยทำงานมาก่อน แล้วจะมีประสบการณ์ทำงานได้อย่างไร

ผิดแล้วล่ะ สำหรับนักศึกษาจบใหม่ส่วนมากแล้วมักจะมีวิชาฝึกงานเป็นวิชาบังคับ และทุกคนก็จะต้องผ่านการฝึกงานมาก่อนทั้งนั้น นี่แหล่ะคือประสบการณ์ทำงานของคุณ ถึงแม้ว่ามันจะไม่นานนัก แต่ก็นับว่าคุณมีประสบการณ์ทำงานแล้ว ก็ให้ใส่มันลงไป

เวลาใส่ประสบการณ์ฝึกงานก็ให้ใส่ชื่อบริษัทที่ตัวเองไปฝึกงาน ชื่อตำแหน่ง ระยะเวลาที่ชัดเจน และรายละเอียดสรุปเป็นหัวข้อๆ 2-4 บุลเล็ต บอกว่าตัวเองได้ทำงาน หรือเรียนรู้อะไรบ้างตอนฝึกงาน คุณสามารถอ่าน วิธีการใส่ประสบการณ์ฝึกงานลงไปในเรซูเม่ ได้อย่างละเอียด ในอีกบทความที่พวกเราเขียนขึ้นมา

6. ใส่เฉพาะข้อมูลที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น โดยให้เอาผู้อ่านเรซูเม่เป็นหลัก

ส่วนมากแล้วเด็กจบใหม่มักจะตกหลุมพรางด้วยการที่ใส่ข้อมูลที่ตัวเองนึกขึ้นได้ลงไปให้หมด ซึ่งก็ไม่ใช่ความคิดที่ผิดอะไรหรอกนะ แต่มันไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องที่สุด นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในข้อผิดพลาดที่นักศึกษาจบใหม่จะต้องได้เจอเสมอ ๆ ก็คือ การที่โฟกัสแต่ตัวเองในเรซูเม่

ในการเขียนเรซูเม่ คุณจะต้องเอาผู้อ่านเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล คุณจะต้องรู้ว่าผู้อ่านต้องการที่จะอ่านอะไรในเรซูเม่ของคุณ และคุณก็แค่เขียนสิ่งเหล่านั้นลงไปให้ดี แค่นี้ก็ได้เปรียบคนอื่นๆมหาศาลแล้วล่ะ

สิ่งที่ผู้อ่านต้องการอ่าน

  • ข้อมูลครบถ้วน สั้น กระชับ สรุปแล้ว
  • คุณเรียนจบอะไรมา (ประวัติการศึกษา)
  • คุณสนใจที่จะทำงานด้านไหน มีเป้าหมายอย่างไร (Career Objective)
  • คุณได้ทำอะไรมาตอนฝึกงานบ้าง
  • งานอดิเรกที่ตรงกับตำแหน่งที่สมัคร

สิ่งที่ผู้อ่านไม่ต้องการอ่าน

  • เรซูเม่ที่เวิ่นเว้อ ไม่ได้สรุปใจความสำคัญ
  • กิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครโดยตรง
  • งานอดิเรกที่ไม่มีประโยชน์
  • กราฟแสดงค่าพลังว่าคุณเก่งอะไรแค่ไหน

7. เน้นใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องล้วนๆ

นักศึกษาจบใหม่หลายราย พยามที่จะใส่ข้อมูลทั้งหมดของตัวเอง ตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ ลงไปในเรซูเม่ของตัวเอง เนื่องจากเหตุผลที่ว่า ก็มันโล่ง ไม่รู้ว่าจะใส่อะไรลงไปดี

แต่มืออาชีพในการเขียนเรซูเม่ตัวจริงจะไม่ทำอย่างนั้น กลับกัน เขาจะใส่เฉพาะข้อมูลที่ตรงกันกับตำแหน่งงานที่สมัครเท่านั้น เขาจะมาพิจารณาดูข้อมูลแต่ละอย่าง และเลือกเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานลงไป โดยหลาย ๆ ครั้งก็จะนำข้อมูลที่ไม่ได้ใช้งานออกไปด้วย ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับเทคนิคข้อต่อไปอย่างชัดเจน

8. เขียนเรซูเม่ 1 ใบ ต่อ 1 สายงานที่สมัคร

ด้วยเหตุผลที่ว่า ข้อมูลในเรซูเม่จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครมาก ๆ จึงส่งผลให้เราต้องเขียนเรซูเม่ขึ้นมาโดยใส่ข้อมูลในนั้นให้เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่เราสมัครให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราจึงไม่สามารถเขียนเรซูเม่ขึ้นมาหนึ่งใบเพื่อใช้ครอบจักรวาลได้ เช่น

  • จะสมัครงานการตลาด ก็เน้นเขียนเรซูเม่ที่พูดถึงประวัติการศึกษา พื้นหลัง และความสนใจในการตลาด
  • จะสมัครงานทางด้านภาษา ก็เน้นเขียนเรซูเม่ที่พูดถึงประวัติการศึกษา พื้นหลัง และความสนใจในด้านภาษา
  • จะสมัครงานโปรแกรมเมอร์ ก็เน้นเขียนเรซูเม่ที่พูดถึงประวัติการศึกษา พื้นหลัง และความสนใจในโปรแกรม

เห็นไหมว่าเราไม่สามารถเขียนเรซูเม่หนึ่งใบเพื่อสมัครงานทุกตำแหน่งได้ และจริง ๆ แล้วก็ไม่สมควรที่จะสมัครงานหว่านไปหว่านมาโดยที่ไม่ได้โฟกัสลงที่ตำแหน่งงานไหนโดยเฉพาะ ถ้าหากว่าคุณเรียนจบในระดับปริญญาตรีมาแล้วล่ะก็ อย่างน้อย ๆ ก็จะต้องรู้ตัวล่ะว่าต้องการทำงานอะไร หรือในสายงานไหน

ถ้าหากว่าไม่รู้ว่าตำแหน่งงานที่กำลังจะสมัครต้องทำอะไรบ้าง และต้องการคนแบบไหนล่ะ ไม่ยากเลย เริ่มต้นจากการอ่าน Job Description (คำอธิบายหน้าที่ของงาน) เพื่อทำความเข้าใจ และถ้าหากว่ายังมีข้อมูลไม่มากพออีกล่ะก็ ขอแนะนำให้ใช้อินเตอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์นะครับ

แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นอยู่บางประการ บางตำแหน่งงานคุณสามารถเขียนเรซูเม่ให้ออกมาเป็นเป็ดได้ (ทำมาทุกอย่างแต่ไม่ลงลึกสักสาย) นั่นก็คืองานทางด้านธุรการต่างๆ โดยงานธุรการเหล่านี้จะได้ทำงานครอบจักรวาลจริงๆ ซึ่งจะเหมาะมากกับคนที่ใช้เรซูเม่ครอบจักรวาลส่งสมัครงาน คีย์เวิร์ดของงานธุรการก็คือ ธุรการ แอดมิน และ เสมียน

9. ใช้ระบบทำเรซูเม่ของ Resume.in.th

ขอแนะนำให้ลองใช้ระบบสร้างเรซูเม่ของเราดูสิครับ คุณสามารถทำเรซูเม่ของตัวเองขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย โดยระบบของเราจะพาคุณไปใส่ข้อมูลที่สำคัญ ๆ ตามเทคนิคท่าเรากล่าวมาทั้งหมด ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาไม่เกิน 15-20 นาทีเท่านั้น ระบบของเราให้บริการฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ง่าย เร็ว ดี ฟรี มาครบเลย

สรุป

ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคที่จะทำให้เรซูเม่สมัครงานของนักศึกษาจบใหม่ ดูดีขึ้นและมีคุณภาพทัดเทียมเรซูเม่ที่เขียนโดยมืออาชีพอย่างแท้จริง เริ่มเขียนเรซูเม่ของคุณวันนี้โดยใช้เทคนิคที่เราเพิ่งพูดถึงไป แล้วคุณจะได้เรซูเม่ที่ดีและเป้นมืออาชีพอย่างแน่นอน ขอให้คุณโชคดีได้งานในฝัน และเงินเดือนเป้นที่พึงพอใจด้วยนะครับ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง