ค่าธรรมเนียมการซื้อ-ขายหลักทรัพย์
Click to Icon hide
ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำต่อวัน* | 50 บาท + Fee 0.007% + VAT 7% | 50 บาท + Fee 0.007% + VAT 7% | 50 บาท + Fee 0.007% + VAT 7% | 50 บาท + Fee 0.007% + VAT 7% |
X <= 5 ล้าน | 0.257% + Vat 7% | 0.157% + VAT 7% | 0.207% + VAT 7% | 0.157% + VAT 7% |
5 ล้าน < X <=10 ล้าน | 0.227% + VAT 7% | 0.137% + VAT 7% | 0.187% + VAT 7% | 0.137% + VAT 7% |
10 ล้าน < X <=20 ล้าน | 0.187% + VAT 7% | 0.117% + VAT 7% | 0.157% + VAT 7% | 0.117% + VAT 7% |
X > 20 ล้าน | 0.157% + VAT 7% | 0.107% + VAT 7% | 0.127% + VAT 7% | 0.107% + VAT 7% |
*ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำต่อวัน
ในวันที่ท่านมีรายการซื้อขายหลักทรัพย์ หากมีค่าธรรมเนียมซื้อขายต่อวัน ต่ำกว่า 50บาท บริษัทจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 50 บาท บวกด้วย ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Trading Fee) 0.005%, ค่าธรรมเนียมการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (TSD Clearing Fee) 0.001%, ค่าธรรมเนียมการกำกับดูแล (Regulatory Fee) 0.001% ของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ต่อวัน และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) หากมีค่าธรรมเนียมซื้อขายต่อวันมากกว่า 50 บาท บริษัทจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามจริง
หมายเหตุ :
- อัตราค่าธรรมเนียมตามตารางข้างต้น ได้รวมค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Trading Fee) 0.005% ค่าธรรมเนียมการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (TSD Clearing Fee) 0.001% และค่าธรรมเนียมการกำกับดูแล (Regulatory Fee) 0.001% ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%)
- อัตราค่าธรรมเนียมสำหรับบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์บัญชีแคช (Cash Account) รวมค่าธรรมเนียมการหักบัญชีเงินฝากธนาคารอัตโนมัติ (ATS Fee) 14 บาท
- สำหรับบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทแคชบาลานซ์ Cash Balance บนระบบซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ (Streaming และ efin Trade Plus) บริษัทฯ จะสำรองวงเงินจาก Line Available เป็นจำนวน 53.50 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว แต่ยังไม่รวมค่าFee 0.007%) โดยมีผลในวันที่ 18 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป
- กรณีที่มีจำนวนเงินสดที่คงเหลือในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ 0 บาท ระบบจะแสดงข้อมูลวงเงินที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ (Line Available) เป็น -53.50 บาท
- สำหรับบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประเภท Cash Balance บนระบบซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ “Streaming” บริษัทฯ จะสำรองวงเงินจาก Line Available เป็นจำนวน 53.50 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีผลในวันที่ 18 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป
ประกาศแจ้งเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บของ SCBNDQ(A)
28 มกราคม 2565
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด ขอแจ้งเปลี่ยนแปลงอัตราการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน ค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า และค่าธรรมเนียมการจัดการของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส เอ็นดีคิว (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBNDQ(A)) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2565 เป็นต้นไป รายละเอียดมีดังนี้
ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุน | เดิม (ร้อยละของมูลค่า หน่วยลงทุน) | ใหม่ (ร้อยละของมูลค่า หน่วยลงทุน) |
ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน | 0.15 | ยกเว้นไม่เรียกเก็บ |
ค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า | ||
ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุน | เดิม (ร้อยละของมูลค่า ทรัพย์สิน) | ใหม่ (ร้อยละของมูลค่า ทรัพย์สิน) |
ค่าธรรมเนียมการจัดการ | 0.50 | 0.2675 |
หมายเหตุ : อัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
ประกาศ ณ วันที่ 28 มกราคม 2565
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด
“ค่าธรรมเนียมหุ้น” หรือที่บางคนเรียกว่าค่าคอมมิชชั่น เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนที่กำลังเริ่มเล่นหุ้นอาจจะมองข้ามไป เมื่อเราเริ่มต้นลงทุนในหุ้นที่มีการลงทุนผ่านระบบเทรดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Streaming หรือว่า efin ก็ตาม ซึ่งความจริงแล้วมันก็เป็นต้นทุนของเราเหมือนกัน เพราะอย่าลืมว่าไม่มีใครมาเปิดบริการให้เราใช้ฟรีแน่นอน
วันนี้พี่ทุยเลยมี 5 ข้อที่เราควรรู้เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นมาฝากกันสักหน่อย
1. “ค่าธรรมเนียมหุ้น” แตกต่างกันตามแต่ละประเภทบัญชีและวิธีการซื้อขาย
ปกติแล้วการซื้อขายหุ้นโดยทั่วไป เราสามารถซื้อขายหุ้นได้ 2 ช่องทาง คือ ซื้อขายเองผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ ซื้อขายผ่าน marketing ซึ่งแน่นอนว่าค่าธรรมเนียมที่เราซื้อขายเองย่อมต่ำกว่าซื้อขายผ่าน marketing แต่สำหรับการซื้อขายหุ้นด้วยตัวเอง ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างตามประเภทบัญชีที่เราใช้ คือ ถ้าเราซื้อขายผ่านบัญชีเงินสดจะเสียค่าธรรมเนียมสูงกว่าบัญชีแคชบาลานซ์หรือเครดิตบาลานซ์ ไว้พี่ทุยจะลองมาแยกให้ดูว่าบัญชีแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร
2. ในค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นที่เราเสียไปส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายให้ตลาดหลักทรัพย์ด้วย
อย่างที่เรารู้ดีว่าตลาดหลักทรัพย์มีหน้าที่กำกับดูแลและปกป้องนักลงทุนรายย่อย ซึ่งย่อมมีค่าใช้จ่าย แต่เป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คือ
- ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Trading Fee) : 0.005% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
- ค่าธรรมเนียมการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (TSD Clearing Fee) : 0.001% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
- ค่าธรรมเนียมการกำกับดูแล : 0.001% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
ซึ่งรวมกัน คือ 0.007% เท่านั้นเอง พี่ทุยว่าน้อยมาก ๆ แล้วก็เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการลงทุนก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
3. นอกจาก “ค่าธรรมเนียมหุ้น” แล้ว เรายังต้องจ่าย VAT อีก 7%
แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะ VAT ไม่ได้เก็บจากจำนวนเงินที่เราซื้อขายหุ้น แต่ VAT จะคิดจากค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นที่เราจ่ายให้กับโบรคเกอร์รวมกับค่าธรรมเนียมที่เราจ่ายให้ตลาดหลักทรัพย์ สมมติว่าเค้าเสียค่าธรรมเนียม 0.18% เราก็จะเสียค่าธรรมเนียมจริง ๆ ก็บวกไปอีก 7% ของ 0.18% หรือเท่ากับ 0.1926% เท่านั้นเอง ถ้าคิด 7% จากเงินลงทุน พี่ทุยว่าเล่นหุ้นชาติไหนจะรวยได้ละเนี้ย พี่ทุยคนนึงคงไม่เล่นหุ้นแน่ ๆ
4. เราสามารถต่อรองค่าธรรมเนียมได้ !!
ถ้าเรายิ่งเทรดจำนวนเงินเยอะ ๆ ค่าธรรมเนียมก็จะยิ่งถูกลง ๆ ได้เรื่อย ๆ ขึ้นอยู่การต่อรองกันทั้งนั้น แต่พี่ทุยบอกได้เลยว่ารายย่อยแบบเราไปต่อรองเค้าก็คงไม่ได้ให้โปรโมชั่นอะไรกับเราเท่าไหร่ แต่เผื่อไว้ในอนาคตที่เรารวย ๆ ก็อย่าลืมไปเจรจาต่อรองกันดู
5. มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำหรือเปล่า ?
ส่วนใหญ่โบรคเกอร์ที่คิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำจะคิดที่ 50 บาทต่อวัน สำหรับมือใหม่ที่เริ่มลงทุนน้อยๆปริมาณเทรดต่อวันไม่เกิน 25,000 บาท พี่ทุยแนะนำให้ไปลองหาโบรคเกอร์ที่เค้าไม่คิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำดีกว่า เพราะสมมติเราเทรดเองต่อวัน 10,000 บาท ค่าธรรมเนียมตามจริงที่เราจะเสียคือ 0.2% ก็คือ 20 บาท แต่โบรคเกอร์ที่เราใช้มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 50 บาท เท่ากับเรามีต้นทุนการซื้อขายเพิ่มขึ้นมา 1.5 เท่าเลยทีเดียว แบบนี้พี่ทุยแนะนำให้หาโบรคเกอร์ที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำจะดีกว่านะ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับ “ค่าธรรมเนียมหุ้น” พี่ทุยหวังว่าจะทำให้เข้าใจตลาดหุ้นและเรื่องค่าธรรมเนียมมากขึ้น ถ้าหากเรารู้เรื่องนี้ แล้วอยากที่จะเริ่มต้นซื้อหุ้นแบบจริงจังแต่ยังไม่รู้ว่าหุ้นตัวไหนเป็นหุ้นที่ดี ลองเข้ามาอ่านเทคนิคการเลือกหุ้นกันได้เลย
รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile