“ประจำเดือนมาน้อย” หรือ “เลือดออกกะปริบกะปรอย”
กรกฎาคม 16, 2019 | Yesmom
เคยสงสัยกันใช่ไหมว่า เลือดที่เปื้อนกางเกงใน หรือติดกระดาษทิชชู่เวลาซับออกมานั้น ใช่เลือดประจำเดือนหรือเปล่า? เพราะบางทีก็โผล่มาในช่วงที่ประจำเดือนยังไม่สมควรมา หรือก็ออกมาน้อยซะจนไม่น่าใช่ประจำเดือน
IN BRIEF
- ประจำเดือนมาน้อย = ประจำเดือน ดังนั้นต้องเกิดขึ้นในช่วงประจำเดือนเท่านั้น
- ประจำเดือนมาเร็วหรือช้ากว่ากำหนดไม่เกิน 7 วัน = ปกติ
- เลือดออกกะปริบกะปรอย ≠ ประจำเดือน ดังนั้นมักจะเกิดขึ้นในช่วงอื่น ๆ ของรอบเดือน
- แต่! เลือดออกกะปริบกะปรอยที่ออกมาก่อนกำหนดประจำเดือนมา 3 วัน = เลือดประจำเดือน
ทำแบบสอบถามและดูข้อมูลเพิ่มเติม
ประจำเดือนคืออะไร
ประจำเดือน คือ เลือดที่มดลูกขับออกมาพร้อมเยื่อบุโพรงมดลูก เมื่อไม่มีการฝังตัวของไข่ในรอบเดือนนั้น ๆ ซึ่งเกิดขึ้นได้ทุก ๆ 22-45 วัน แตกต่างกันไปในแต่ละคน ประจำเดือนสามารถมาเร็วหรือช้ากว่าวันที่คาดไว้ได้ประมาณ 7 วัน โดยยังถือว่าปกติ
ประจำเดือนมาน้อยเป็นแบบไหน
ประจำเดือนมาน้อย คือ เลือดที่ออกมาในช่วงที่คุณมีประจำเดือน แต่มีปริมาณน้อยกว่าปกติ หรือมาไม่เกิน 2 วัน โดยอาจจะเป็นเลือดหยด ๆ หรือเปื้อนผ้าอนามัยเพียงเล็กน้อย
ประจำเดือนมาน้อยอาจเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน ความเครียด หรือการขาดสารอาหารบางชนิด ซึ่งยังไม่มีอะไรต้องกังวลมากค่ะ ตราบใดที่ประจำเดือนยังมาทุกเดือน ไม่ได้หายไปไหน ก็โอเคจ้า
เลือดออกกะปริบกะปรอยเป็นแบบไหน
เลือดออกกะปริบกะปรอย คือ เลือดที่ออกมาในช่วงที่คุณไม่ได้มีประจำเดือน โดยมักมีปริมาณน้อยมาก หรือมีปริมาณเดียวกับประจำเดือนมาน้อย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้บ้าง แต่ไม่ควรเกิดขึ้นติดต่อกันนานเกิน 7 วัน และไม่ควรเกิดขึ้นเป็นประจำ เพราะอาจเป็นสัญญาณบอกอาการผิดปกติบางอย่างค่ะ
เลือดออกกะปริบกะปรอยจะนับเป็นเลือดประจำเดือนในกรณีไหนบ้าง
แม้ว่าปกติแล้ว “เลือดประจำเดือน” และ “เลือดออกกะปริบกะปรอย” จะเป็นคนละอย่างกัน แต่ก็มีบางกรณีที่เราจะถือว่าเลือดออกกะปริบกะปรอยคือเลือดประจำเดือน นั่นคือ เลือดออกกะปริบกะปรอยที่เกิดขึ้นก่อนวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมา ประมาณ 3 วัน
…
ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าเลือดที่ออกมาเป็นเลือดชนิดไหน และจะส่งผลอะไรต่อสุขภาพในวันข้างหน้าหรือเปล่า จึงควรบันทึกทุกครั้งที่มีเลือดออกกะปริบกะปรอย นอกจากนี้หากอยากรู้ว่าสาเหตุของเลือดออกกะปริบกะปรอยเกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนไหม สามารถตรวจฮอร์โมน Yesmom’s Fertility Test ได้ด้วยนะ โดยชุดตรวจภาวะเจริญพันธุ์ Yesmom ช่วยวิเคราะห์ผลตรวจฮอร์โมนของคุณอย่างเข้มข้นและแนะนำว่าคุณควรทำความเข้าใจและจัดการภาวะเจริญพันธุ์ของคุณอย่างไรเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ปัญหาเรื่องประจำเดือนที่มาไม่ปกติ
ในทุกวัยของสุภาพสตรี ถ้ามีประจำเดือนมากระปริดกระปรอย หรือมากกว่าปกติก็คงจะตกใจไม่น้อย และ อาจเกิดความกังวลอย่างมาก ซึ่งสาเหตุประจำเดือนมาผิดปกติเกิดได้หลายสาเหตุ
เพื่อให้คุณสุภาพสตรีมีความเข้าใจเรื่องประจำเดือนมากขึ้น จึงขออธิบายข้อมูลเกี่ยวกับประจำเดือนให้ทราบดังนี้
ประจำเดือนในสุภาพสตรีคืออะไร?
เลือดที่ออกจากช่องคลอดของคุณผู้หญิงที่จะมีมาช่วงทุกๆ 21–35 วัน ซึ่งบางคนจะเรียกเลือดนี้ว่า “เมนส์” โดยปกติจะมาครั้งละไม่เกิน 7 วัน และใช้ผ้าอนามัยวันละประมาณ 3–4 แผ่น โดยทั่วไปผู้หญิงจะเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกตอนอายุประมาณ 12-13 ปี และ จะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเมื่อมีอายุประมาณ 45-55
ปี
สาเหตุเลือดประจำเดือนออกผิดปกติ
1. ถ้าเป็นสุภาพสตรีที่มีอายุน้อยและผ่านการมีเพศสัมพันธ์แล้ว แต่ไม่ได้คุมกำเนิด อาจเกิดจากการตั้งครรภ์หรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น การแท้งบุตร เป็นต้น
2. สุภาพสตรีบางคนอาจทานยาบางชนิดที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิง เช่น กวาวเครือ ก็เป็นสาเหตุที่กระตุ้นทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้
3. สุภาพสตรีในวัยที่เพิ่งเริ่มมีประจำเดือน เช่น อายุ 13 ปี หรือ วัยใกล้หมดประจำเดือน เช่น อายุ 49 ปี มักมีภาวะฮอร์โมนแปรปรวน
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการที่เลือดออกผิดปกติได้
4. สุภาพสตรีที่อยู่ในภาวะเครียด เช่น การนอนดึก มีปัญหาทางบ้าน ทะเลาะกับแฟน สิ่งต่างๆเหล่านี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีฮอร์โมนแปรปรวน ซึ่งเป็นสาเหตุของเลือดออกผิดปกติได้
5. การติดเชื้อหรือแผลบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ในสุภาพสตรี เช่น บริเวณปากมดลูก หรือ เยื่อบุโพรงมดลูก ก็สามารถทำให้เกิดแผลแล้วมีเลือดออกได้
อีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญและน่ากลัวที่สุด คือ มะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์ของสุภาพสตรี เช่น มะเร็งปากมดลูก หรือ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกผิดปกติในสุภาพสตรีที่พบได้บ่อยเช่นกัน
การสังเกตอาการที่บ่งบอกถึงสัญญาณความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
1. การมีเลือดออกจากช่องคลอดกระปริดกระปรอย เช่น มีเลือดออกทุกวัน หรือ วันเว้นวัน
2. การมีรอบประจำเดือนที่มาเร็วกว่าทุก 21 วัน
3. มีเลือดออกนอกรอบประจำเดือน
4. มีเลือดออกจากช่องคลอดปริมาณมากและลักษณะเป็นลิ่มเลือดหรือเป็นก้อน ๆ และใช้ผ้าอนามัยมากกว่าวันละ 5 แผ่น
5. มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์
6.
มีเลือดออกหลังจากเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนไปแล้ว
วิธีการรักษา
สุภาพสตรีที่มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจหาสาเหตุ โดยทั่วไปแพทย์จะซักถามประวัติผู้ป่วยก่อน เช่น ประวัติการกินยา การคุมกำเนิด หลังจากนั้นก็จะทำการตรวจร่างกายทั่วไป เช่น วัดไข้ ความดันโลหิต และ ขออนุญาตตรวจภายในเพื่อตรวจหามะเร็งปากมดลูกไปพร้อมกัน ซึ่งไม่ยุ่งยากและไม่เจ็บ โดยการตรวจนั้นทำในห้องที่มิดชิดมีแพทย์เป็นผู้ตรวจและนางพยาบาลอยู่เป็นเพื่อนผู้รับการตรวจโดยใช้เวลาตรวจไม่เกิน 5
นาที แต่ถ้าแพทย์ยังไม่สามารถหาสาเหตุของเลือดออกผิดปกติที่แน่ชัดได้ ก็อาจจำเป็นต้องขอส่งตรวจวิธีพิเศษ เช่น ตรวจเลือด ตรวจอัลตราซาวด์ หรือ หากจำเป็นจริง ๆ แพทย์ก็อาจขอขูดมดลูกเพื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจวินิจฉัยหาเซลล์มะเร็งต่อไป
วิธีการป้องกัน
คุณสุภาพสตรีควรหันมาใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน กินให้ครบ5หมู่ ไม่กินยาใดๆ โดยไม่จำเป็น หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รักษาอารมณ์ให้แจ่มใส และ สุดท้ายสุภาพสตรีทุกคนที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว หรือ ผู้หญิงโสดที่มีอายุเกินกว่า 35 ปี
ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อรับการตรวจภายในประจำปี และ ตรวจหามะเร็งปากมดลูก แม้ว่าจะยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ตามโดยคุณผู้หญิงจะต้องเลือกไปพบแพทย์ในวันที่ไม่มีประจำเดือน งดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 7 วัน การตรวจภายในประจำทุกปีในขณะที่คุณผู้หญิงยังไม่มีอาการผิดปกตินับว่าเป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็งในสตรี เนื่องจากแพทย์จะสามารถตรวจหาโรคในระยะเริ่มแรกที่ยังไม่มีอาการและสามารถรักษาให้หายได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ทีเดียว