ถึงจะยังมีปัญหาไวรัสระบาดจนทำให้หลายคนไม่อยากออกไปเที่ยวไหน แต่ถ้าใครมีแผนจะไปเที่ยวอยู่ช่วงนี้ ก็ต้องแชะรูปให้คุ้มกับที่เตรียมตัวไปหน่อยแหละเนอะ! วันนี้เราก็เลยมีไอเดียถ่ายรูปเก็บวิวสวยๆ สำหรับคนที่กำลังจะไปเที่ยวกันค่า
ถ่ายรูปกับวิวแบบนี้เราจะไม่เน้นที่คนมาก เพราะไม่อยากไปขโมยซีนวิวสวยๆ อาจจะเป็นภาพหันหลัง หันข้าง หรือหันหน้าแต่ใช้มุมไกลๆ หน่อยก็ได้ ถ่ายมุมไกลให้มองเห็นวิวในภาพสัดส่วนเยอะหน่อย ที่ฮิตสุดๆ ก็ไม่พ้นให้คนอยู่ประมาณขอบล่างของภาพ แล้วเหลือพื้นที่ด้านบนให้สูงๆ เข้าไว้ แค่นี้ก็ได้รูปวิวสวยๆ เก็บไว้ลงโซเชียลได้อีกหลายรูปเลย
มายกระดับการถ่ายภาพบุคคล (Portrait) ด้วยการใช้ความงดงามจากธรรมชาติ มาดูกันว่าโลกแห่งสีเขียวรอบตัวคุณ ช่วยให้ภาพออกมาสวยงามได้อย่างไรธรรมชาติคือเวทีอันสง่างามสำหรับการถ่าย Portrait เราสามารถใช้ประโยชน์จากความงามนั้นยกระดับการถ่ายภาพบุคคลไปอีกขั้น ในแบบที่ไม่สามารถทำได้ในสตูดิโอ
ทิวทัศน์ที่สวยงามทำให้ภาพบุคคลมีพลัง ไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ น้ำตก ก้อนหิน ฯลฯ เพิ่มความลึกและมิติให้ภาพถ่ายของคุณ นอกจากนี้ลวดลายของธรรมชาติสร้างประสบการณ์การมองที่แตกต่างได้ เช่น สงบเงียบ ชื่นใจ ร้อนแรง น่าเกรงขาม เป็นต้น
หลังจากที่เกริ่นกันมาพอสมควรแล้ว ต่อไปนี้คือเทคนิคเคล็ดลับทั้ง 6 แบบที่คุณควรรู้ เพื่อยกระดับภาพ Portrait ของคุณให้ก้าวไปอีกขั้น
1. เซ็ตค่ากล้องให้ดีที่สุด
เลือกรูรับแสงให้เข้ากับสิ่งที่คุณอยากจะเห็นในภาพ เพื่อดึงเอาความเด่นของตัววัตถุออกมาให้ถึงขีดสุด วิธีการก็คือลองถ่ายภาพแล้วเปลี่ยนค่า F ไปเรื่อยๆ (ระหว่าง 2.8 - 4) คุณจะได้พื้นหลังที่ละลายสวยงาม แต่ถ้าคุณอยากให้ภาพดูรู้ว่าถ่ายอยู่ที่ไหนให้ดันค่า F ไปถึง 8 เลยก็ได้
ส่วนการตั้งค่า ISO นั้นขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ที่คุณอยู่มีแสงมากน้อยแค่ไหน ในช่วงกลางวันควรใช้ ISO ต่ำระหว่าง 100 - 400 แต่ถ้าอยู่ในสภาพแสงน้อย การตั้งค่า ISO สูงก็เป็นอีกทางเลือกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เข้าเรื่อง Shutter speed ขึ้นอยู่กับว่ามีการเคลื่อนไหวในฉากที่คุณถ่ายมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆหรือน้อยมาก เพื่อความปลอดภัยควรตั้งค่าอยู่ที่ 1/500 ไว้ก่อน เพื่อป้องกัน Motion blur
2.ใช้ธรรมชาติให้เป็นพร็อพ
ธรรมชาติคือพร็อพที่ดีที่สุดในการถ่าย Portrait คุณสามารถนั่งบนก้อนหิน ท่อนไม้ เล่นกับดอกไม้ เป็นต้น การมีปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติช่วยสร้างอารมณ์บางอย่างให้เกิดขึ้นกับรูปของคุณ
การควบคุมตัวแบบให้มีปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติ จะช่วยเบี่ยงเบนจุดสนใจจากเลนส์กล้อง สร้างความเป็นธรรมชาติให้กับรูปเป็นอย่างดี
3.ถ่ายภาพด้วยเลนส์กว้าง (Wide-Angle Lens)
ถ้าเป้าหมายของคุณคือการถ่ายภาพบุคคลที่เห็นวิวของฉากหลังเยอะๆ ตัวเลือกของเลนส์ที่คุณต้องใช้ก็คือเลนส์ Wide เพื่อไม่ให้พลาดฉากสำคัญๆที่ควรจะอยู่ในภาพ ถ้าคุณนึกอะไรไม่ออกว่าจะถ่ายอย่างไรดี ให้ตัวแบบยืนอยู่ตรงกลางฉากแล้วถ่ายวิวรอบๆที่รายล้อมตัวแบบก็พอ
คุณต้องลองเล่นกับระยะของตัวแบบกับฉาก โดยขยับห่างจากกันทีละน้อยๆเพื่อหาระยะที่เหมาะสมที่สุด
คำเตือน: การถ่ายภาพบุคคลโดยใช้เลนส์ Wide จะทำให้เกิดความเบี้ยวบริเวณขอบภาพ เพราะเนื่องจากระยะของเลนส์ Wide มีความกว้างกว่าตัวเซนเซอร์ของกล้อง จึงเกิดการบีบอัดเข้ามาบริเวณของภาพ พยายามหลีกเลี่ยงการวางวัตถุหลักไว้ที่ขอบภาพเพื่อกันความบิดเบี้ยว
4.หาแสงที่เหมาะสมที่สุด
ไม่มีอะไรทำให้ภาพมีชีวิตชีวาได้มากไปกว่าแสงที่ดีอีกแล้ว คุณคงรู้ว่าการถ่ายภาพเวลาที่เกิด Golden hour หรือแสงทองคำยามเย็นนั้น ทำให้ภาพดูดีกว่าแสงช่วงกลางวันที่แข็งจนดูไม่ได้
การถ่ายภาพในวันที่ฟ้าครึ้มเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ภาพออกมาสวย เพราะก้อนเมฆทั้งหลายนั้นทำหน้าที่เหมือน Soft box ช่วยกระจายแสงนั่นเอง ต่อให้แดดจ้าแค่ไหนแสงก็จะออกมานวลสายตาเสมอ
พยายามหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพรับแสงโดยตรงจากแสงอาทิตย์เพราะทำให้เกิดคอนทราสต์เยอะเกินไป จนบริเวณไฮไลท์ แสงและสีดูเข้มเกินความเป็นจริง
5.ใส่กรอบรูปให้ภาพด้วยธรรมชาติ
การใส่กรอบให้กับภาพด้วยธรรมชาติ เพิ่มความลึกและมิติมุมมอง นำสายตาคนดูไปในจุดที่ควรโฟกัสกลางภาพ
แล้วต้องจัดวางองค์ประกอบอย่างไร? อธิบายง่ายๆก็คือนำสิ่งที่อยากใช้เป็ฯ Foreground มาวางบริเวณระหว่างตัวแบบและกล้อง ยิ่งวัตถุจากธรรมชาติใกล้เลนส์เท่าไหร่ก็ยิ่งเบลอสวยเท่านั้น จากนั้นเปลี่ยนที่ถ่ายหรือหมุนวนสลับเปลี่ยนฉากไปเรื่อย ๆ เพื่อหาว่ามุมไหนดีที่สุด
6.โฟกัสที่ธรรมชาติ ปล่อยให้ตัวแบบเบลอ
เพื่อมุมมองที่แปลกใหม่ ลองโฟกัสที่ธรรมชาติแล้วปล่อยให้ตัวแบบเบลอดูดีไหม? วิธีนี้เหมาะกับการจับจังหวะโมเม้นที่ไม่ต้องการความชัดแต่ต้องการความรู้สึกในการมอง
อย่างเช่นถ้าคุณถ่ายรูปคู่รักโรแมนติก เดินจูงมือกันผ่านทุ่งหญ้าหรือนั่งริมน้ำด้วยกัน การจงใจถ่ายให้หลุดโฟกัสแล้วไปถ่ายทุ่งหญ้าเบื้องหน้าแทน เป็นการสื่อถึงผู้ชมว่ามีการแอบถ่าย สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับคู่รักในภาพ