ประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์ 10 ข้อ

เคยสงสัยมั้ย ทำไมบางคนถึงได้คิดเก่ง คิดในเรื่องที่คนอื่นเขาคิดกันไม่ได้ มีไอเดียใหม่ ๆ มานำเสนออยู่ตลอด ๆ ลองไปดู 12 ลักษณะเฉพาะ ของคนที่มีหัวครีเอท ที่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนพวกนี้สามารถมองในมุมที่คนอื่นมองไม่เห็น คิดในเรื่องที่คนอื่นไม่คิด และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขา “แตกต่าง” และคนรอบข้างต้องเข้าใจ ในสิ่งที่เขาเป็น ส่วนใครที่อยากมีความคิดดี ๆ กับเขาบ้าง ก็อาจจะลองทำตามได้ในบางข้อ จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย

เบื่อง่าย

ไม่ชอบอยู่กับอะไรเดิม ๆ หากมีโอกาสใหม่ ๆ เข้ามา เขาจะรู้สึกว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่มันน่าเบื่อ! และพร้อมที่จะลองอะไรใหม่ ๆ เสมอ

มองโลกในมุมของเด็ก

คนพวกนี้ยังมีบางมุมที่ยังไม่โต และไม่น่าเชื่อว่าการมองโลกในมุมมองของเด็กจะเป็นวิธีที่สร้างไอเดียแปลก ๆ ใหม่ ๆ ได้

ฝันกลางวันเป็นเรื่องปกติ

ไม่แปลก ถ้าจะเห็นคนพวกนี้ชอบนั่งเหม่อลอย คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย บอกเลยว่าไอเดียดี ๆ ส่วนใหญ่ก็เกิดตอนที่เขากำลังฝันกลางวันนี่แหละ

สิ่งที่คนอื่นมองว่าเป็น ‘ปัญหา’ เขากลับมองเป็น ‘โอกาส’

สามารถมองโลกในมุมที่คนอื่นมองไม่เห็น และมักจะมองโลกในแง่บวกอยู่เสมอ สิ่งที่เป็นเรื่องยากสำหรับคนอื่น พวกเขากลับคิดว่านั่นเป็นโอกาสที่จะทำให้เขาได้พัฒนาตัวเอง และไปถึงเป้าหมายได้

Photo by Laurenz Kleinheider on Unsplash

กล้าเสี่ยง

กล้าคิด กล้าทำ กล้าเสี่ยงกับอะไรใหม่ ๆ เรื่องที่คนอื่นไม่กล้า แต่คนพวกนี้ไม่เคยกลัว! เพราะคติประจำใจของพวกเขาคือ “ไม่ลอง ไม่รู้”

ต้องใช้เวลา และพื้นที่ในการคิดอะไรใหม่ ๆ

เนื่องจากคนพวกนี้ชอบที่จะดื่มด่ำไปกับความคิดของตัวเอง ถ้าต้องการไอเดียอะไรจากเขา อาจต้องให้เวลามากกว่าคนอื่นสักหน่อย ยิ่งกว่านั้นเขายังเกลียดการถูกรบกวน เพราะต้องใช้สมาธิสูงมาก ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตาม

ฟังหัวใจมากกว่าสมอง

เพราะเป้าหมายในชีวิตของเขาคือ ความสุข ทำให้เขามักจะทำอะไรตามที่หัวใจเรียกร้อง ถึงแม้ว่าสมองจะบอกให้ทำอีกอย่างก็ตาม

เปลี่ยนใจง่าย

ตอนนี้ชอบ อีกสักพักอาจจะไม่ชอบ รวมถึงผลงานของเขาด้วย บางทีตอนทำงานเสร็จใหม่ ๆ ก็รู้สึกว่างานนี้มันเจ๋งจริง ๆ แต่พอผ่านไปไม่นาน เขากลับรู้สึกว่ายังทำมันได้ไม่ดีพอ

ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ดี

สามารถเชื่อมโยงเรื่องราวได้เป็นอย่างดี และยังมองภาพรวมได้ดีกว่าคนอื่นอีกด้วย อย่างเวลาที่มีเรื่องที่เข้าใจได้ยาก เขาก็มักจะเป็นคนแรก ๆ ที่ร้องอ๋อ! ขึ้นมา

ไม่กลัว การเริ่มต้นใหม่

เขาไม่กลัวการเริ่มต้นใหม่ ถึงแม้ว่าจะเดินมาไกลแค่ไหนก็ตาม ไม่มีการมานั่งเสียใจหรือเสียดายสิ่งที่ทำมา ถ้ารู้สึกว่ามันไม่โอเค เขาพร้อมที่ทิ้งงานนั้น แล้วเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

ช่างสังเกต

เรื่องที่คนอื่นมองไม่เห็น แต่เขาไม่เคยพลาด ถึงแม้จะเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม และเรื่องเล็กน้อยนั่นแหละ ที่เป็นตัวจุดไอเดียให้เขามีความคิดใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ไม่ชอบอยู่ในกรอบ

คนพวกนี้มีความเป็นตัวเองอยู่สูงมาก เขาจะรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ต้องทำตามกฎ หรือข้อบังคับ และรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่งี่เง่าเหลือเกิน

justsomething

Written by: Typrn

บทความแนะนำ

  • 11 ความเชื่อแปลก ๆ ที่มีอยู่จริง จากทั่วโลก – แมวดำวิ่งตัดหน้า ถือว่าโชคร้าย
  • พาไปดู สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสัน คัลเลอร์ฟูลมากเว่อร์!
  • เรื่องราวของ 4 มนุษย์สุดแปลกที่มีชีวิตอยู่จริง ไม่ได้อิงนิยาย!

บทความ “ ความคิดสร้างสรรค์ เป็นพื้นฐานขอบุคคลผู้ประสบความสำเร็จ ” เป็นบทความลำดับที่ 3 ของหมวด เรื่องเล่า ความฝัน และความสำเร็จ จะกล่าวถึง ความนำ ความคิดสร้างสรรค์คืออะไร ประโยชน์ของการคิดสร้างสรรค์ การคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้อย่างไร คุณสมบัติของคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ อุปสรรคของการสร้างความคิดสร้างสรรค์ ประเภทของความคิดเชิงสร้างสรรค์ ตัวอย่างความคิดสร้างสรรค์ของบุคคลผู้ประสบความสำเร็จ สรุป และคุยกับดร.ชา

  • 1.ความนำ
  • 2. ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) คืออะไร
    •              ความคิดสร้างสรรค์
    •             2.1 ต้องเป็นความคิดด้านบวก (Positive Thinking)  
    •             2.2 ต้องเป็นความคิดออกด้านข้าง (Lateral Thinking)
    •             2.3 ต้องเป็นความคิดใหม่ (New, original)
    •             2.4 ต้องเป็นความคิดที่นำมาใช้การได้ (Workable)
    •             2.5 ต้องไม่เป็นความคิดที่ทำร้ายใคร (Constructive Thinking)
    •             2.5 ต้องเป็นความคิดที่เหมาะสม (Appropriate)
  • 3.ประโยชน์ของการคิดสร้างสรรค์
    •             3.1 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาได้ลงตัว
    •             3.2 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ก่อให้เกิดนวัตกรรม
    •             3.3 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ ทำให้เราได้สิ่งที่ดีกว่า แทนการจมอยู่กับสิ่งเก่า ๆ
    •             3.4 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์เป็นความฉลาดประเภทหนึ่ง ซึ่งมีอยู่หลายด้าน เช่น ความฉลาดในการสร้างสรรค์ (Creative Intelligence) ความฉลาดในการคิดวิเคราะห์ (Analytic Intelligence) ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) และความฉลาดในการปฏิบัติ (Practical Intelligence) เป็นต้น
  • 4. ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้อย่างไร
    •             4.1 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์เกิดจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว
    •             4.2 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ เกิดจากการเปรียบเทียบ
    •             4.7 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ มักจะเกิดกับคนที่เป็นนักอ่าน
    •             4.8 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ อาจเกิดจากการจดบันทึก
  • 5.คุณสมบัติของคนที่มีความคิดสร้างสรรค์
    •             5.1 ต้องมีพื้นฐานความรู้ในเรื่องนั้น
    •             5.2 ต้องคนเป็นมีสติปัญญาดี แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นอัจฉริยะ
    •             5.3 มีบุคลิกลักษณะอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เย่อหยิ่งจองหอง
    •             5.4 ต้องชอบศึกษาใฝ่หาความรู้ใหม่ ๆ
  • 6.อุปสรรคของการคิดสร้างสรรค์
    •             6.1 เป็นคนที่ชอบมองโลกในแง่ลบ
    •             6.2 เป็นคนที่กลัวความล้มเหลว
    •             6.3 ไม่มีเวลาที่จะคิดให้ได้ดี
    •             6.4 เป็นคนที่ยึดมั่นในกรอบมากจนเกินไป
    •             6.5 เป็นคนชอบทึกทักเอาเองว่า คงไม่มีอะไรใหม่
    •             6.6 ชอบอ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา
    •             6.7 ชอบคิดว่า ตนเองเป็นไม่มีความคิดริเริ่มในเชิงสร้างสรรค์
  • 7.ประเภทของความคิดเชิงสร้างสรรค์
  • 8.ตัวอย่างความคิดในเชิงสร้างสรรค์
    •             8.1 วาทะบุคคลสำคัญของโลก แสดงให้เห็นความคิดในเชิงสร้างสรรค์
  • 9. สรุป
  • คุยกับดร.ชา   

1.ความนำ

            ในบทความ (1) ได้กล่าวถึง ความสำเร็จจะเกิดขึ้น หากบุคคลมีแรงบันดาลใจ มีความฝันมีความทะเยอทะยาน มีความมุ่งมั่น และความเพียรพยายาม

            ปัญหา คือ คนเราควรจะใช้ความคิดประเภทใดในการสร้างความฝัน เพราะหากไม่รู้จักว่าควรจะใช้ความคิดประเภทใด ความฝันที่สร้างขึ้นอาจเป็นความฝันลม ๆ แล้ง ๆ เป็นความฝันที่ทำลายตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติก็ได้

            ดังนั้น ในบทความนี้ จะนำเสนอเรื่องราวของการคิดสร้างสรรค์ ที่บุคคลผู้ต้องการประสบความสำเร็จทั้งหลายพึงมี

2. ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) คืออะไร

          ความคิดของคนเรา อาจแบ่งออกเป็น 3 ประเภทกว้าง ๆ คือ ความคิดสร้างสรรค์ ความคิดทำลาย และความคิดกลาง ๆ

             ความคิดสร้างสรรค์

            ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ เป็นความคิดด้านบวก เป็นความคิดออกด้านข้าง เป็นการใช้จินตนาการหรือความคิดริเริ่มใหม่ ๆ  เพื่อนำไปสร้างสิ่งใหม่ ๆ โดยมีองค์ประกอบ 6 ประการ คือ

            2.1 ต้องเป็นความคิดด้านบวก (Positive Thinking)  

           การมีความคิดด้านบวก หมายความว่า ต้องมองโลกในแง่ดี ไม่ใช่มองโลกในแง่ร้าย

            คนหลายคนชอบมองโลกในแง่ร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสังคมยุคปัจจุบัน จะเต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารทางสื่อสังคมต่าง ๆ ใส่ร้ายป้ายสี บิดเบือนข้อมูลต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ไปในทางทำลาย คนประเภทนี้จัดเป็นคนที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่เป็นคนทีมีความคิดไปในทางทำลาย

            ท่ามกลางคนที่มีความคิดไปทางลบ หรือทางทำลาย ก็มีข้อมูลข่าวสารด้านบวกที่เราสามารถเลือกเสพได้เป็นจำนวนมากเช่นกัน

            หากท่านชอบการเสพแต่ข้อมูลข่าวสารด้านลบหรือด้านทำลาย โดยไม่สนใจว่า ข้อมูลเหล่านั้น เป็นความจริงหรือไม่เพียงใด ย่อมแสดงว่า ท่านเป็นคนชอบไปทางลบหรือทางทำลายเช่นเดียวกัน

            ในทางตรงกันข้าม หากท่านเลือกเสพแต่ข้อมูลข่าวสารด้านบวก แสดงว่า ท่านมีแนวโน้มที่จะเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์

            2.2 ต้องเป็นความคิดออกด้านข้าง (Lateral Thinking)

            ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ เป็นความคิดออกทางด้านข้าง ไม่ใช่ความคิดในแนวดิ่ง ดังนั้น จึงเป็นความคิดที่ไม่มีข้อจำกัด ไม่มีขอบเขต เพราะเป็นความคิดออกนอกกรอบ

            แต่ถ้าเป็นความคิดในแนวดิ่ง มีข้อจำกัด เพราะเป็นความคิดในกรอบหรือเป็นความคิดที่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์

            2.3 ต้องเป็นความคิดใหม่ (New, original)

            ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ จะต้องเป็นความคิดริเริ่มใหม่ ๆ  แม้อาจจะไม่ใหม่ที่สุดในโลก หากเป็นความคิดใหม่ในชุมชน สังคม หรือองค์กร ก็ถือว่า เป็นความคิดใหม่ได้ เพราะบางครั้งคนเราอาจจะมีความคิดใหม่ ๆ ขึ้นมาตรงกันหรือสอดคล้องกันโดยบังเอิญได้

            หรือแม้แต่การเอาความคิดเก่า ๆ ในอดีตที่เสื่อมความนิยมไปแล้ว นำมาใช้ใหม่ในปัจจุบัน ก็อาจถือเป็นความคิดใหม่ได้ อย่างเช่น แฟชั่นในการแต่งกาย มีการเปลี่ยนกลับไปกลับมา ตามกระแสนิยมในแต่ละยุค

            รวมทั้งการนำความคิดจากต่างประเทศมาใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ก็ถือเป็นความคิดในเชิงสร้างสรรค์ของประเทศไทยได้เช่นกัน เช่น การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของต่างประเทศมาใช้ในประเทศไทย

            2.4 ต้องเป็นความคิดที่นำมาใช้การได้ (Workable)

            ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ จะต้องเป็นความคิดที่นำมาใช้การได้ หรือนำมาทำประโยชน์

            ความคิดใหม่ของผู้คนมีมากมาย แต่มีเพียงไม่กี่ความคิดที่นำมาใช้ได้หรือนำมาปฏิบัติได้จริง อย่างเช่น มีผลงานคิดค้นใหม่ ๆ ของนักศึกษาปริญญาโทหรือปริญญาเอก เป็นจำนวนมากที่ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์หรือแก้ปัญหาอันใดในสังคม อย่างนี้ยังไม่นับว่าเป็นความคิดในเชิงสร้างสรรค์ เพราะเป็นเพียงความคิดที่เก็บไว้ในห้องสมุดเท่านั้น

            ในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทย เป็นประเทศที่ไม่ได้นำผลของการคิดค้นใหม่ ๆ ที่ได้จากการศึกษาวิจัยมาใช้ประโยชน์  ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะผลการศึกษาวิจัยที่ได้มายังไม่มีคุณภาพพอก็ได้

            2.5 ต้องไม่เป็นความคิดที่ทำร้ายใคร (Constructive Thinking)

            ความคิดใหม่นั้น ต้องไม่เป็นความคิดที่มีจุดประสงค์ทำร้ายใคร หมายความว่า แม้จะไม่ได้เป็นความคิดที่ทำให้ทุกคนได้ประโยชน์ แต่ก็ต้องไม่ใช่ความคิดที่ทำร้ายใคร

            อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัติ ความคิดแปลกใหม่บางอย่างก็อาจจะมีผลกระทบต่อบุคคลบางกลุ่มหรือบางอาชีพได้ เช่น โครงการรถไฟฟ้า อาจจะส่งผลกระทบผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ เพราะรถไฟฟ้าอาจจะส่งผลทำให้จำนวนคนขึ้นรถแท็กซี่ลดน้อยลง

            2.5 ต้องเป็นความคิดที่เหมาะสม (Appropriate)

            ความคิดใหม่ดังกล่าว ต้องสามารถนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสมกับบริบทหรือสภาพแวดล้อมของสังคม จึงจะนับเป็นความคิดในเชิงสร้างสรรค์  เพราะมีความคิดใหม่หลายอย่างที่อาจจะนำมาใช้บริบทอย่างหนึ่ง แต่พอมีบริบทแตกต่างกัน ความคิดใหม่นั้นก็ไม่อาจจะนำมาปฏิบัติหรือใช้ประโยชน์ได้

            อย่างเช่นสินค้าบางอย่าง ออกแบบไว้ให้ใช้ในประเทศที่มีอากาศหนาว แต่นำมาใช้ในประเทศที่มีอากาศร้อน สินค้าดังกล่าวก็ใช้ไม่ได้ จำเป็นต้องคิดแก้ปัญหาใหม่

3.ประโยชน์ของการคิดสร้างสรรค์

          การมีความคิดในเชิงสร้างสรรค์ มีประโยชน์ ดังนี้

            3.1 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาได้ลงตัว

            การแก้ปัญหาต่าง ๆ เมื่อสภาวะแวดล้อมหรือบริบทเปลี่ยนแปลงไป การแก้ปัญหาด้วยวิธีการเดิม ๆ อาจจะไม่ได้ผล จำเป็นต้องคิดค้นหาวิธีการใหม่ ๆ เช่น

            ยุคปัจจุบัน การสื่อสารสามารถทำได้หลายทาง ไม่เหมือนในอดีตที่ทำได้เพียงบางช่องทาง เช่น ในอดีตการจะค้นคว้าหาข้อมูลข่าวสารทางอินเตอร์เน็ตทำได้ยาก สามารถทำได้เฉพาะทางคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊ก ไม่สามารถผ่านช่องทางมือถือได้ ดังนั้น ถ้ารัฐอยากแก้ปัญหาการเสพข้อมูลบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสี รัฐจำเป็นต้องใช้ทุกช่องทางที่มีอยู่ในสังคมขณะนั้น  เพราะแต่ละช่องทาง สามารถเข้าถึงกลุ่มบุคคลเป้าหมายได้แตกต่างกัน

            3.2 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ก่อให้เกิดนวัตกรรม

            ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ หากสามารถนำไปใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ เรียกว่า นวัตกรรม (Innovation)

            นวัตกรรมจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าหากขาดความคิดในเชิงสร้างสรรค์ ประเทศใดที่รัฐสนับสนุนให้สถาบันการศึกษาและภาคเอกชนคิดค้นสร้างนวัตกรรมขึ้นมาได้มาก ประเทศนั้นก็จะเจริญก้าวหน้ามากกว่าประเทศที่ไม่มีนวัตกรรมเป็นของตนเอง

            นวัตกรรมทำให้เกิดเทคโนโลยีสมัยใหม่ และทำให้สามารถผลิตสินค้าที่แปลกใหม่ มีคุณภาพสูง ราคาไม่แพงจนเกินไป เข้าสู่ท้องตลาด เอาชนะคู่แข่งขันจากประเทศอื่น ๆ ได้ไม่ยาก

            3.3 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ ทำให้เราได้สิ่งที่ดีกว่า แทนการจมอยู่กับสิ่งเก่า ๆ

            โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวัน ความแตกต่างอยู่ที่ประเทศใดหรือสังคมใดจะเปลี่ยนแปลงช้าหรือเร็วกว่ากันเท่านั้น

            ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ จะทำให้เราสามารถสร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีกว่าเดิม แทนที่จะมัวจมปลักอยู่กับแต่อดีตอันเศร้าหมองหรือล้าหลัง

            3.4 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์เป็นความฉลาดประเภทหนึ่ง ซึ่งมีอยู่หลายด้าน เช่น ความฉลาดในการสร้างสรรค์ (Creative Intelligence) ความฉลาดในการคิดวิเคราะห์ (Analytic Intelligence) ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) และความฉลาดในการปฏิบัติ (Practical Intelligence) เป็นต้น

            บุคคลใดที่ไม่รู้จักการใช้ความคิดใหม่ ๆ แก้ปัญหา จะถือว่าบุคคลนั้นมีความฉลาดหาได้ไม่ เมื่อการแก้ปัญหาไม่สามารถใช้วิธีการเดิม ๆ ได้ คนฉลาดก็ต้องรู้จักคิดค้นหาวิธีการใหม่ ๆ มาแก้ปัญหาได้เสมอ

4. ความคิดสร้างสรรค์เกิดขึ้นได้อย่างไร

          หลายคนอาจจะเข้าใจว่า ความคิดแปลกใหม่ เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นยาก ถ้าหากไม่ได้เป็นคนเรียนหนังสือจบชั้นสูง ๆ  ความเข้าใจดังกล่าว อาจจะถูกต้องเพียงบางส่วน

            แท้ที่จริงความคิดในเชิงสร้างสรรค์ อาจเกิดขึ้นได้ด้วยการจินตนาการ หรือไม่ก็ด้วยองค์ความรู้ หมายความว่า แม้เป็นคนที่ไม่มีความรู้สูง แต่ถ้าเป็นคนที่รู้จักการสร้างจินตนาการ ก็ย่อมจะสร้างความคิดในชิงสร้างสรรค์ได้

            อย่างไรก็ตาม หากท่านอยากฝึกตัวเองให้เป็นคนรู้จักสร้างความคิดในเชิงสร้างสรรค์ ผมได้รวบรวมข้อชี้แนะของนักวิชาการด้านภาวะผู้นำ มาเล่าให้ทราบพอเป็นแนวทางเบื้องต้น ดังนี้

            4.1 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์เกิดจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว

            หมายความว่า ก่อนจะเกิดความคิดใหม่ ๆ ก็ให้ศึกษาดูความคิดที่มีอยู่เดิมก่อน ว่ามีปัญหาหรือจุดอ่อนอะไร และสมควรจะแก้ไขอย่างไร

            4.2 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ เกิดจากการเปรียบเทียบ

            หมายความว่า การเปรียบเทียบจะทำให้เราเห็นข้อแตกต่าง ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นให้เราเกิดความคิดใหม่ ๆ ได้

            4.3 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ อาจเกิดจากการค้นพบโดยไม่ตั้งใจหรือโดยไม่คาดฝันก็ได้

            หมายความว่า จู่ ๆ ความคิดแปลกใหม่อาจจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ตั้งใจก็ได้

            4.4 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ มักจะเกิดกับผู้ที่มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น

            คนประเภทนี้เวลาพบอะไรที่แปลกใหม่หรือผิดสังเกต เขามักจะตั้งคำถามขึ้นมาในใจว่า เป็นเพราะสาเหตุจึงเกิดเหตุการณ์หรือเรื่องราวนั้นขึ้น

            4.5 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์มักจะเกิดกับคนที่ชอบสังเกต

คนที่ชอบสังเกตมักจะพบสิ่งที่ผิดปกติ และแปลกใหม่เสมอ ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดความคิดในเชิงสร้างสรรค์ได้

            4.6 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ อาจจะเกิดจากการเงียบเพื่อฟังความคิด

            คนที่รู้จักฟังคนอื่นพูด มีโอกาสจะได้ความคิดใหม่ ๆ ผิดกับคนที่ไม่ชอบฟังคนอื่น เอาแต่คัดค้าน โต้แย้ง ย่อมยากที่จะสร้างความคิดแปลกใหม่ขึ้นมาได้

            4.7 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ มักจะเกิดกับคนที่เป็นนักอ่าน

            คนที่ชอบอ่านหนังสือเป็นนิสัย มีโอกาสจะได้รับความคิดใหม่ ๆ เข้ามาได้เสมอ ผิดกับคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ มักจะมีความคิดแบบเดิม ๆ ซ้ำซาก

            4.8 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ อาจเกิดจากการจดบันทึก

กรมสมเด็จพระเทพรัคนราชสุดา ฯ (วิกีพีเดีย, กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ , 21 มกราคม 2564) ทรงชอบการจดบันทึก

            เมื่อเราได้อ่าน ได้พบเห็น สิ่งใด หากเราได้จดบันทึกบางสิ่งบางอย่างไว้ จะทำให้เกิดความคิดที่แปลกใหม่ขึ้นมาได้

            4.9 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ อาจเกิดจากการทดสอบสมมุติฐาน

            หมายความว่า เมื่อเราได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องใด ๆ เราอาจลองตั้งคำถาม แล้วลองเดาหาคำตอบ  ต่อจากนั้นให้ทดสอบสมมุมิฐานหรือคำตอบที่เราเดาไว้ว่า ถูกต้องหรือไม่ วิธีนี้จะทำให้เราได้ความคิดใหม่ ๆ ขึ้นมา

            4.10 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ อาจเกิดความนึกคิดในส่วนลึกของจิตใจ

            หมายความว่า ความคิดแปลกใหม่อาจเกิดจากจิตใต้สำนึก พอมีสิ่งกระตุ้นความคิดนั้นก็อาจผุดขึ้นมาได้

            4.11 ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ ไม่จำเป็นต้องรอแรงบันดาลใจ

            หมายความว่า หากเราต้องการหาความคิดแปลกใหม่ เราก็สามารถคิดได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอแรงบันดาลใจอะไร

            4.12 การสร้างทักษะในการคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytic Skills) ให้แหลมคม จะทำให้เกิดความคิดในเชิงสร้างสรรค์ได้

            หมายความว่า การวิเคราะห์อย่างแหลมคม จะทำให้เราสามารถแยกแยะข้อมูล และวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรค และสาเหตุของปัญหา และจะนำไปสู่ความคิดใหม่ในการแก้ปัญหา

            4.13 อย่ารีบร้อนตัดสินใจ เพื่อรอให้เกิดความคิดดี ๆ ขึ้นมาก่อน

            บางเรื่องคำตอบที่ได้อาจจะยังไม่ชัดเจนหรือดีพอ ก็ให้เรารอการตัดสินใจไว้ก่อน แล้วค่อยคิดหาคำตอบอีกที เพื่อให้ได้คำตอบที่ดีกว่าเดิม

            4.15 หัดฝึกหัดใช้ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ในชีวิตประจำวัน

            ในชีวิตประจำวันของคนเรา อาจจะมีปัญหาให้ขบคิดอยู่เสมอ ลองใช้ความคิดใหม่ ๆ แก้ปัญหาดู

5.คุณสมบัติของคนที่มีความคิดสร้างสรรค์

          คนที่จะสามารถสร้างความคิดแปลกใหม่ ควรจะมีคุณสมบัติ ดังนี้

            5.1 ต้องมีพื้นฐานความรู้ในเรื่องนั้น

            หากไม่มีพื้นฐานความรู้ ก็คงยากที่จะสร้างความคิดในเชิงสร้างสรรค์ได้ยาก

            5.2 ต้องคนเป็นมีสติปัญญาดี แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นอัจฉริยะ

            คนที่สมองทึบ คงคิดอะไรใหม่ ๆ ในทางสร้างสรรค์ไม่เป็น

            5.3 มีบุคลิกลักษณะอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เย่อหยิ่งจองหอง

            หากไม่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน คงยากที่จะได้รับความรู้หรือข้อมูลจากผู้อื่น เมื่อขาดความรู้หรือข้อมูล การสร้างความคิดแปลกใหม่จะเกิดได้ยาก

            5.4 ต้องชอบศึกษาใฝ่หาความรู้ใหม่ ๆ

            ความรู้ในโลกเกิดขึ้นใหม่อยู่เสมอในทุกด้าน หากเราไม่ชอบการติดตามหาความรู้ใหม่ ๆ ก็คงยากที่จะสร้างความคิดในเชิงสร้างสรรค์ได้

6.อุปสรรคของการคิดสร้างสรรค์

            การที่คนเรามีความรู้สึกว่า ตนเป็นคนไม่มีความคิดใหม่ ๆ กับเขา ก็เนื่องจากมีอุปสรรคอยู่ 7 ประการ คือ

            6.1 เป็นคนที่ชอบมองโลกในแง่ลบ

            คนพวกนี้มักจะมองปัญหาทุกอย่างไปในทางลบหมด แม้คนส่วนใหญ่จะชื่นชอบว่าดี แต่พวกนี้ก็จะมองไปในทางตรงกันข้าม พอได้ยินได้ฟังอะไรที่สังคมเขาว่าดี คนพวกนี้ก็จะมองไปในทางตรงข้ามหรือทางลบอยู่เสมอ เรียกว่าชอบเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายแค้นนั่นเอง

            คนที่ชอบมองโลกในแง่ลบ ไม่มีทางที่จะเกิดความคิดในทางสร้างสรรค์ได้ เพราะในจิตใจเต็มไปด้วยอคติ โกรธแค้นชิงชัง หรือไม่ก็อาจจะเกิดความคิดรุนแรงถึงขั้นอยากทำลาย

            6.2 เป็นคนที่กลัวความล้มเหลว

            ไม่กล้าเสนอความคิดใหม่ ๆ เพราะในใจมีแต่ความกลัว กลัวความล้มเหลว จึงไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงอะไร

            6.3 ไม่มีเวลาที่จะคิดให้ได้ดี

            การไม่มีเวลาคิดให้ดี อาจจะเกิดจากความไม่สนใจ ทำให้มีความรู้สึกว่า ตนไม่มีความคิดดี ๆ จึงไม่กล้าเสนอความคิดใหม่ ๆ

            6.4 เป็นคนที่ยึดมั่นในกรอบมากจนเกินไป

            คนที่ยึดมั่นอยู่ในกรอบ เป็นคนที่ไม่กล้าคิดออกด้านข้าง เพราะกลัวผิด ในเมื่อไม่กล้าคิดออกด้านข้าง ความคิดใหม่ ๆ จึงไม่อาจจะเกิดขึ้นได้

            6.5 เป็นคนชอบทึกทักเอาเองว่า คงไม่มีอะไรใหม่

            เมื่อเชื่อว่าหรือคิดว่า คงไม่มีอะไรใหม่ จึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามสภาพเดิม ไม่ยอมรับความจริงว่า โลกเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

            6.6 ชอบอ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา

            เป็นการอ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่อปกป้องตนเองในการที่จะไม่ยอมคิดเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ ๆ ทั้ง ๆ ที่เหตุผลที่ยกขึ้นมาอ้างมานั้น ฟังไม่ขึ้นเลย เพราะเป็นเหตุผลในทางปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น

            6.7 ชอบคิดว่า ตนเองเป็นไม่มีความคิดริเริ่มในเชิงสร้างสรรค์

            ในเมื่อเกิดความคิดว่า ตนเป็นคนที่ขาดความสามารถในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จึงเคยชินกับการอยู่ตามสภาพเดิม ไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้น

7.ประเภทของความคิดเชิงสร้างสรรค์

            ความคิดเชิงสร้างสรรค์อาจแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

            7.1 ความคิดเชิงสร้างสรรค์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์

            7.2 ความคิดเชิงสร้างสรรค์ที่สามารถนำไปจดทะเบียนสิทธิบัตรได้ ตามกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตร

            7.3 ความคิดเชิงสร้างสรรค์ทั่วไป ที่อยู่นอกเหนือ 7.1 และ 7.2

8.ตัวอย่างความคิดในเชิงสร้างสรรค์

          เพื่อให้ท่านผู้อ่านมองเห็นภาพได้ชัดเจนว่า ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ คืออะไร และเป็นอย่างไร ขอยกตัวอย่างประกอบ ดังนี้

            8.1 วาทะบุคคลสำคัญของโลก แสดงให้เห็นความคิดในเชิงสร้างสรรค์

จอห์น เอ็ฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy,21 st January 2021) ประธานาธิบดีอเมริกาคนที่ 35 ผู้มีวาทะเป็นความคิดสร้างสรรค์

            จอห์น เอ็ฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy)  ประธานาธิบดีอเมริกาคนที่ 35 ได้มีวาทะแสดงความคิดในเชิงสร้างสรรค์ที่เป็นที่จดจำของคนทั้งโลก คือ

            “ ผู้นำและการเรียนรู้ไม่สามารถแยกออกจากกันได้”

             เป็นการชี้แสดงว่า เป็นผู้นำต้องใฝ่หาความรู้ใส่ตัวอยู่เสมอ มิฉะนั้น อาจจะสูญเสียความเป็นผู้นำ

            “ อย่าถามว่า ประเทศชาติจะให้อะไรแก่ท่านบ้าง แต่จงถามว่า ท่านจะให้อะไรแก่ประเทศชาติได้บ้าง ”

            เป็นการชี้แสดงว่า ประชาชนพึงตระหนักในหน้าที่ของตนเองที่มีต่อประเทศชาติ มิใช่คอยคิดเอาแต่สิทธิประโยชน์จากประเทศชาติแต่อย่างเดียว

            8.2 พระดำรัสของสมเด็จพรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย และคนไทยพระองค์แรก ที่องค์การยูเนสโก ยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก

            “ เจ้าคุณ… อำนาจที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่พระแสงศาสตราวุธ  แต่อยู่ที่ประชาชนเชื่อถือ หากประชาชนเชื่อถือ แม้แต่ในหลวงก็ถอดถอนเจ้าคุณไม่ได้ ”

            เป็นพระดำรัสในการสั่งสอนนักปกครองทั้งหลายให้มีความคิดในเชิงสร้างสรรค์ในการปฏิบัติตนต่อประชาชน กล่าวคือ นักปกครองที่ดีต้องสร้างศรัทธาแก่ประชาชนด้วยการไปนั่งอยู่ในหัวใจของประชาชน ไม่ใช่มุ่งที่จะใช้อำนาจรังแกข่มเหงประชาชนให้ได้รับความเดือดร้อน

            8.3 โครงการของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน

            มีโครงการของรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลายโครงการที่ใช้ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นกลไกในการให้ประชาชนผู้มีสิทธิ สมัครขอรับสิทธิหรือขอลงทะเบียนผ่านทางแอพพลิเคชัน  และจ่ายเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีของประชาชนผู้ได้รับสิทธิโดยตรง เช่น

            โครงการคนละครึ่ง

            โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

9. สรุป

ความคิดเชิงสร้างสรรค์ เป็นพื้นฐานสำคัญของคนที่จะประสบความสำเร็จ กล่าวคือ คนที่จะประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องรู้จักมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพื่อทำงานให้ประสบความสำเร็จ

            ความคิดเชิงสร้างสรรค์อาจแบ่งออกเป็น 3 ประเภทกว้าง ๆ คือ

            ความคิดเชิงสร้างสรรค์ที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์

            ความคิดเชิงสร้างสรรค์ที่สามารถนำไปจดทะเบียนสิทธิบัตรได้ตามกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตร

            และความคิดเชิงสร้างสรรค์ทั่วไป

            ความคิดเชิงสร้างสรรค์อาจเกิดจากการมีจินตนาการ หรืออาจเกิดจากองค์ความรู้

            สำหรับความคิดเห็นเพิ่มเติม กรุณาติดตามได้ในหัวข้อ คุยกับดร.ชา ท้ายบทความนี้

คุยกับดร.ชา   

            คู่สนทนาของผมในวันนี้ คือ คุณเบน เช่นเดิม

คุณเบน กับเพื่อนที่อุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่

            “สวัสดี คุณเบน คราวที่แล้ว เราได้คุยกันในเรื่องราวของ อีลอน มัสก์ บุคคลที่รวยที่สุดในโลกประจำปี 2021

            แต่วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องความคิดเชิงสร้างสรรค์ว่า เป็นพื้นฐานในการทำให้บุคคลประสบความสำเร็จ ” ผมเกริ่นนำเล็กน้อย

            “ สวัสดีครับ อาจารย์ ผมคิดว่า น่าจะดี ฟังดูแค่ชื่อแล้วก็น่าสนใจ ขอเชิญอาจารย์กำหนดประเด็นเลยครับ ” คุณเบนตอบสนองด้วยดี

            “ ประเด็นแรก คุณเบนคิดว่า การจดบันทึกมีส่วนสำคัญต่อการสร้างความคิดเชิงสร้างสรรค์หรือไม่อย่างไร ทำไม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี   เวลาเสด็จไปทรงงาน ณ ที่แห่งใด มักจะทรงบันทึกลงในสมุดบันทึกของพระองค์ทุกครั้ง ”  ผมถามประเด็นแรก

            “ ผมคิด การบันทึกจะทำให้เราสามารถจดจำในสิ่งที่เราได้เห็น ได้อ่าน ได้ยิน หรือได้ฟัง ได้ดี หากเราไม่บันทึกไว้ เชื่อว่าไม่นานก็จะลืม และเมื่อลืมแล้ว ก็จะไม่มีข้อมูลหรือองค์ความรู้ที่จะต่อยอดไปได้

            ดังนั้น การที่กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ทรงชอบการบันทึกสิ่งที่ได้ทอดพระเนตร ก็คงจะมีวัตถุประสงค์เช่นนี้

            ผมคิดว่า พวกเราเวลาเดินทางไปศึกษาดูงานที่ใด ก็น่าบันทึกอะไรไว้บ้าง ตามแบบอย่างของพระองค์ท่าน ”                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                     

รถยนต์ไฟฟ้าเทสลา โมเดล 3 ก็เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ ของอีลอน มัสก์ และทีมงาน

            “อาจารย์เห็นด้วยกับคุณเบนนะ พวกเราเวลาเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ เวลาไปศึกษาดูงาน มักจะดูเฉย ๆ ไม่ค่อยชอบจดบันทึกอะไรเลย

            ต่อไปประเด็นที่สอง อาจารย์ขอความเห็นเกี่ยวกับวาทะของจอห์น เอ็ฟ. เคนเนดี ประธานาธิบดีอเมริกาคนที่ 35 ที่ว่า ผู้นำและการเรียนรู้ไม่สามารถจะแยกออกจากกันได้ คุณเบนคิดอย่างไร ” ผมถามถึงบุคคลสำคัญของโลกคนหนึ่ง

            “ ผมคิดว่า ท่านประธานาธิบดี กล่าวได้ถูกต้อง เพราะการเป็นผู้นำ เราจะต้องเรียนรู้อยู่เสมอ เนื่องจากความรู้ในทุกแขนงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  หากเราขี้เกียจไม่ยอมเรียนรู้ให้ทันสมัย เวลาเข้าประชุมหรือทำงานร่วมกับคนอื่น เราก็อาจจะเหมือนคนโง่ ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา

            เรียกว่า หากไม่มีความรู้ที่ทันสมัย สภาวะผู้นำก็แทบจะหมดไปแล้ว ” คุณเบนตอบด้วยความมั่นใจ

            “ ใช่ ถูกต้อง คุณเบน อย่างอาจารย์ทุกวันนี้ก็ต้องหาความรู้ใส่ตัวอยู่เสมอ มิฉะนั้น ก็อาจจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง

            ขอประเด็นสุดท้าย ตามพระดำรัสของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยพระองค์แรกที่ว่า  อำนาจอยู่ที่ราษฎรเชื่อถือ ไม่ใช่อยู่ที่พระแสงศาสตราวุธ คุณเบนคิดอย่างไร ” ผมถามถึงพระดำรัสขององค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยบ้าง

            “ อ๋อ ข้อนี้ ผมเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์เลย เพราะการจะทำให้ประชาชนหรือราษฎรเชื่อถือได้ ต้องทำหลายอย่าง แต่อาจจะพูดสั้น ๆ ได้ว่า ต้องมีสี่ครอง ต้องครองตน ครองคน ครองงาน และครองพื้นที่

            แต่ละครองก็มิใช่ของง่าย แต่ก็มิใช่ว่าจะยากจนเกินไป หากมีความตั้งใจจะทำก็คงจะทำได้ ” คุณเบนตอบแบบใช้ความคิดตามสมควร

            “ในประเด็นสุดท้ายนี้ อาจารย์คิดว่า คุณเบนให้ความเห็นได้ดี เป็นความเห็นในเชิงสร้างสรรค์ สมกับเป็นนักปกครองหนุ่มอนาคตไกล

            วันนี้ อาจารย์ขอรบกวนเวลาเท่านี้ ขอบคุณมาก คุณเบน มีโอกาสค่อยพบกันใหม่นะ

            ขอให้เจริญในหน้าที่การงานสมปรารถนานะ ขอให้โชคดี” ผมกล่าวปิดท้ายการสนทนา

            “ด้วยความยินดีครับ อาจารย์”

ดร.ชาตรี ดิเรกศรี (Dr.Chartri Direksri) เคยรับราชการเป็นนักปกครองในตำแหน่งปลัดอำเภอตรี เมื่อปีพ.ศ.2517 ผ่านการดำรงตำแหน่งนายอำเภอหลายอำเภอ เป็นปลัดจังหวัด และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อปีพ.ศ.2554 นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาจารย์ผู้บรรยายพิเศษ หลักสูตรปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นเวลา 9 ปี

View all posts by Dr.Char | Website

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง