พิธีครอบเศียรพ่อแก่ หรือปู่ฤๅษีพรหมเมศ เสริมดวง การงานการเงิน โชคลาภ มีแต่ความสำเร็จ มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง
วันนี้ (5 ก.พ.65) ทีมข่าวมีภาพบรรยากาศในพิธีครอบเศียรปู่ฤๅษีพรหมเมศ ในงานไหว้ครูประจำปี 2565 ภายในอาศรมฤๅษีเณร ธาตุพุทธคุณ ถนนวงแหวนตะวันตกหมายเลข 9 ปทุมธานี – บางปะอิน ต.โพธิ์แตง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีฤๅษีเณร ธาตุพุทธคุณ เป็นเจ้าพิธี พร้อมด้วยลูกศิษย์จำนวนกว่า 1,000 คน ร่วมพิธี ซึ่งในช่วงเช้าได้มีพิธีบรวงสรวง องค์บรมครูปู่ฤาษีพรหมเมศ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ความสูง 43 เมตร
ซึ่งก่อนเข้าร่วมพิธี ต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ลงชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของผู้ที่จะเข้าไปยังบริเวณจัดพิธี เจ้าหน้าที่จะติดสติ๊กเกอร์ให้กับทุกคน ที่ผ่านจุดคัดกรอง
และพิธีอัญเชิญบรมครู เหล่าทวยเทพเทวดา และอัญเชิญเทพทุกสารทิศมาร่วม อนุโมทนา บรมครูปู่ฤๅษีพรหมเมศ ประทับเพื่อครอบเศียรประสิทธิ์ประสาทสรรพวิชาให้เหล่าบรรดาลูกหลานมาร่วมพิธี
ช่วงบ่ายมีพิธีครอบเศียรพ่อแก่ หรือปู่ฤๅษีพรหมเมศ โดยงานไหว้ครูของอาศรมฤๅษีเณร จัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ภายในงานครั้งนี้ จัดเพื่อให้กับศิษยานุศิษย์เป็นการครอบครูปู่ฤๅษีฯ เสริมดวง การงานการเงิน โชคลาภ ทุกท่านมีครูบาอาจารย์ที่เราได้ร่ำเรียนมาทุกแขนง ทุกอาชีพ ทุกศาสตร์ มีแต่ความสำเร็จ มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง
อีกทั้งยังมีการมีการแจกทุนการศึกษา ให้แก่นักเรียนโรงเรียนวัดโพธิ์แตงใต้ และโรงเรียนวัดมฤคทายวัน โรงเรียนละ 30 ทุน ทุนละ 500 บาท รวมทั้งหมด 60 ทุน รวมเป็นเงิน 60,000 บาท เพื่อเป็นการส่งเสริมการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชน
นอกจากนี้ ประชาชนที่มาร่วมพิธีไหว้ครูประจำปี 2565 ยังได้ร่วมกันกราบไหว้ขอพรจากองค์ท้าวเวสสุวรรณ ปาง 9 หน้า สูง 16 เมตร เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยท้าวเวสสุวรรณ มีกายสีแดง ทรงอาภรณ์สีเขียว ตั้งอยู่เบื้องซ้ายขององค์พ่อปู่ฤาษีพรหมเมศ องค์ใหญ่และด้านหน้าขององค์ท้าวเวสสุวรรณนั้น ยังได้จัดเป็นพื้นที่สวนหย่อม และสระปลาคราฟอีกด้วย สร้างความร่มรื่นให้ผู้ที่มากราบไหว้ขอพรยังบริเวณดังกล่าว
สำหรับคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ 9 หน้า อาศรมฤาษีเณร ตั้งนะโม 3 จบ จุดธูป 9 ดอก เวสสะ พุทสะ ยักษ์ขะ พันตา โอม ท้าวเวสสุวรรณโณ 9 หน้า โคคัน ยักษ์โข อิติปิโส ภะคะวา เธอจึง ขึ้นมาช่วยข้า อิติปิโส ภะคะวา แล้วตั้งจิตอธิฐานขอพร
นอกจากบริเวณโดยรอบ ยังมีสวนธรรมให้ประชาชนได้มาศึกษาอีกหลายจุดด้วย รวมถึงถ้ำจำลองที่ใกล้กับจุดขอพรกุมารเจ้าสัวเฮง ที่ด้านบนประดับด้วยพญาครุฑ และล้อมรอบด้วย องค์ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเคยใช้ในการประกอบพิธีสำคัญด้วย
จัดพิธีเข้มขลัง ไหว้ครูนาฏศิลป์ ครอบครูละคร-โขน จัดพิธีในอุโบสถ วัดบวรสถานสุทธาวาส พร้อมจัดพุทธาภิเษก พระพิราพ พระอาจารย์ประสูติ ประธานจุดเทียนชัย
ประเพณี “ไหว้ครูนาฏศิลป์" ครอบครูโขน-ละคร กล่าวได้ว่าเป็นประเพณีชั้นสูงที่มีความศักดิ์สิทธิ์และได้รับการสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ ตามประวัติได้มีการเริ่มจดบันทึกขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมีครูเกษ ซึ่งท่านเป็นข้าหลวงเดิมมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 3 และทำการตกทอดสืบเนื่องมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน
ว่ากันว่าครูผู้เป็นประธานไหว้ครูนาฏศิลป์ครอบครูโขน-ละครได้นั้นจะต้องได้รับการมอบหมายหรือสืบทอดกันอย่างเป็นทางการ โดยในปี2527 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสืบทอดประเพณีดังกล่าวจึงโปรดเกล้าฯให้ทาง กรมศิลปากร คัดสรรผู้ทรงคุณวุฒิเข้ารับมอบเป็นประธานผู้ประกอบพิธี "ไหว้ครูนาฏศิลป์" ครอบครูโขน-ละคร จากพระองค์จำนวน 5 ท่าน นายธีระยุทธ์ ยวงศรี(เสียชีวิตแล้ว) ,นายธงไชย โพธยารมย์,นายทองสุก ทองหลิม(เสียชีวิตแล้ว),นายอุดม อังศุธรและ"นายสมบัติ แก้วสุจริต"
เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่วัดบวรสถานสุทธาวาส หรือ วัดพระแก้ววังหน้า ภายใน วิทยาลัยนาฏศิลป์ เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า มูลนิธิ โอ.เค.ไลฟ์ ได้จัดพิธีการไหว้ครูนาฏศิลป์ โดยมี นายสมบัติ แก้วสุจริต หรือ "ครูสมบัติ" เป็นเจ้าพิธี และครูผู้ครอบครู ครอบเศียรครู ให้กับผู้เข้าร่วมพิธี
ตั้งแต่ช่วงเช้า ได้เริ่มการประกอบพิธี โดยมีการสวดพระปริต ถวายสังฆทาน บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่วัดพระแก้ววังหน้า จนเริ่มเวลา 09.00 น. "ครูสมบัติ" เริ่มประกอบพิธี
โดยสวดอ่านโองการบูชาเทพ บูชาครู ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ จากนั้น เชิญ นายธนอรรถ ตรีธิติธัญ ประธานมูลนิธิ โอเค ไลฟ์ สรงน้ำองค์มหาเทพทั้งสาม ได้แก่ พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์
ถัดมา "ครูสมบัติ" ประกอบพิธีครอบครู โดยผู้ที่จะรับการครอบครู จะเดินแถวเรียงลำดับ เข้ามอบขันธ์ครู ให้กับเจ้าพิธี จากนั้น ครูสมบัติเริ่มครอบเศียรครูให้แต่ละคนจำนวน 3 เศียร ได้แก่ 1.ศีรษะพระฤษี 2.ศีรษะพระพิราพ 3.ศีรษะเทริดโนราห์ เพื่อความเป็นสิริมงคล
ประเพณี “การไหว้ครูนาฏศิลป์" ครอบครูโขน-ละคร จะให้ความสำคัญกับครูเป็นพิเศษเพราะจะถือว่าครูเปรียบเสมือนกับเทพเจ้า ผู้มาประสิทธิประสาทวิชาให้กับตน ว่ากันว่า “พระอิศวร”เป็นเทพเจ้าสูงสุดอยู่บนสวรรค์ คือครูคนแรกที่ถ่ายทอดท่าร่ายรำนาฏศิลป์มาสู่โลกมนุษย์ โดยให้ พระภรตฤาษี เป็นผู้จดบันทึกท่าร่ายรำ และนำไปสั่งสอนกุลบุตรกุลธิดาต่อไป
พระภรตฤาษีก็คือครูผู้ใหญ่ หรือครูคนแรกที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดท่ารำระบำบรรพ์อันวิจิตร จากพระอิศวรมาสู่โลกมนุษย์ และนำไปสั่งสอนเป็นลำดับต่อไป การ"ไหว้ครูนาฏศิลป์" ครอบครูโขน-ละครจึงขาดไม่ได้ที่จะมีเศียรของเหล่าเทพเจ้า และศีรษะฤาษีเป็นเครื่องบูชาเคารพกราบไหว้