เนี่ยพงษ์สัตว์ชาวกสิกร ศิษย์เอกอาจารย์หมึกพอล เงินเดินแค่ 1 % ของพวกนี้น๊ะ เพื่อนๆก็อิจฉาน่าดู คงแกล้งพงษ์สัตว์สารพักล่ะ ตอนนี้ยังไม่ถึง 3 หมื่นพร้อมกับหนี้ท่วมหัว ยังถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง ย้ายไม่รู้จะกี่สาขาเพราะเพื่อนแกล้งด้วยความอิจฉา
อยู่สินเชื่อสำนักงานใหญ่ยังบอกเมียถูกผู้จัดการโกงที่รวมกันเล่นหุ้นอีกต่างหาก ผู้จัดการหอบเงินหนี้ไปเมืองนอกเป็นร้อยล้าน ขำกลิ้งเลย เล่นไพ่เสียไปเย๊อะไปหลอกเมียเฉยเลย เมียก็โง่เชื่อไปได้ เนี่ยถ้าพงษ์สัตว์เงินเดือนแค่ 10% ของพวกนี้น๊ะ
พงษ์สัตว์ทำเดือนเดียวออกเลยล่ะ ได้เงินแล้วไปเล่นไพ่ดีกว่าชัวร์ สาขาท่าพระแกล้งพงษ์สัตว์กันละป่าว
จัสติน เป็นที่รักของคนในแวดวงนักการเมืองโลก ขนาดว่ามีข่าวไม่ค่อยจะดี อย่างการไปเที่ยววันหยุดพักผ่อนที่เกาะส่วนตัวของมหาเศรษฐีในบาฮามาส ในปี 2017 จะถูกจับตามองว่ามีผลประโยชน์อะไรหรือไม่ และทำให้เกิดกระแสความขัดแย้งทางการเมืองก็ตาม
โยชิเดะ ซูกะ
ตำแหน่ง : นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
เงินเดือน : US$255,000
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเดินทางด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER เครื่องบินทวินเจ็ทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเขาใช้ร่วมกับจักรพรรดิของญี่ปุ่น เครื่องบินสำหรับนายกรัฐมนตรีและผู้ร่วมงานของเขามีห้องวีไอพีและพื้นที่ทำงาน พร้อมด้วยที่นั่งแบบชั้นธุรกิจจำนวน 106 ที่นั่งสำหรับแขก
รัฐบาลญี่ปุ่นมีเครื่องบินโบอิ้ง 777 จำนวน 2 ลำ สำหรับนายกรัฐมนตรี ลำหนึ่งสำหรับใช้งานหลัก และอีกลำเป็นเครื่องสำรอง
โยชิเดะ ซูกะ ได้ฉายาว่า”กำแพงเหล็ก" จากใบหน้าที่ไร้อารมณ์และมักมีการตอบโต้ที่เยือกเย็น เขาอยู่ในแวดวงการเมืองมานานมาก เรียกว่า ยาวนานที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นก็ว่าได้ เนื่องจากการจัดการโอลิมปิกที่โตเกียวและโควิด-19 ทำให้คะแนนนิยมของเขาตกลงอย่างรวดเร็ว จนเพิ่งอกมาประกาศจะเลิกเล่นการเมือง เมื่อหมดวาระการเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งนี้
อเล็กซานเดอร์ เดอ ครู
ตำแหน่ง : นายกรัฐมนตรีเบลเยี่ยม
เงินเดือน : US$267,000
สำหรับเที่ยวบินระยะไกล นายกรัฐมนตรีของเบลเยียมมักจะเดินทางโดยใช้แอร์บัส A321 แต่พวกเขายังมี Dassault Falcon 90, Embraer ERJ 135 และ Embraer ERJ 145 อีกสองเครื่อง ซึ่งสมาชิกของราชวงศ์เบลเยี่ยมก็อาศัยเป็นพาหนะหลักด้วยเช่นกัน
ผู้นำพรรคเสรีนิยมเฟลมิช กลายเป็นนายกรัฐมนตรีของเบลเยียมในเดือนตุลาคม 2020 โดยดำรงตำแหน่งที่ว่างมาเกือบสองปี ตระกูลของ อเล็กซานเดอร์ เป็นนักการเมืองโดยสายเลือด เขาในฐานะลูกชายของแอร์มัน เดอ ครู สมาชิกสภาจากพรรคเฟลมิช แม้ว่าจะเคยทำงานในบริษัทเอกชนมาก่อน แต่ท้ายที่สุดก็กลับมาสู่เส้นทางการเมืองตามพ่อ และตอนนี้เขากำลังเป็นผู้นำประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรี
ซาเวียร์ เบทเทล
ตำแหน่ง : นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก
เงินเดือน : US$271,000-340,000
สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศต่างๆ ของนายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก มีเครื่องบินส่วนตัว Cessna 550 Citation II, Learjet 35A และแม้แต่ 737-700 ที่เช่าเหมาลำจากสายการบินลักซ์แอร์
ซาเวียร์ เบทเทล เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของลักเซมเบิร์ก และเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของยุโรปที่เปิดเผยว่าเป็นกลุ่มคน LGBTQ+ เขาสร้างประวัติศาสตร์ในปี 2019 ด้วยการปราศรัยอย่างเร่าร้อนเกี่ยวกับสิทธิของ LGBTQ+ ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ประเทศเล็กๆแต่ร่ำรวยของเขา มีประชากรเพียง 614,000 คน
จาซินดา อาร์เดิร์น
ตำแหน่ง : นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์
เงินเดือน : US$324,000
จาซินดา อาร์เดิร์น ไม่เพียงแต่คลอดลูกในที่ทำงานเท่านั้น เธอยังเป็นสตรีคนเดียว หลังจาก นายกรัฐมนตรีเบนาซีร์ บุตโต ของปากีสถานที่ทำแบบนั้น นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่พาลูกไปร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติด้วย
จาซินดา เป็นหนึ่งในผู้หญิง 15 คนที่ขึ้นปก British Vogue ฉบับเดือนกันยายน 2019 ระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 เธอกล้าออกมาประกาศลดเงินเดือนตัวเอง 20% เพื่อเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับพลเมืองนิวซีแลนด์ 5 ล้านคนที่ตกงานหรือต้องได้รับเงินเดือนที่ลดลง อันเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์ในประเทศ
เซบาสเตียน เคิร์ซ
ตำแหน่ง : นายกรัฐมนตรีออสเตรีย
เงินเดือน : US$328,600
เนื่องจากรัฐบาลออสเตรีย ไม่เคยให้บริการเครื่องบินขนส่งวีไอพี ประมุขแห่งรัฐของออสเตรียจึงมักบินตามตารางเที่ยวบินพาณิชย์ของสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เว้นแต่งานอย่างเป็นทางการมากๆ เขาจะอาศัยการเช่าเหมาลำ Saab 105OE สี่ที่นั่ง (จากกองทัพอากาศออสเตรีย) สำหรับการเดินทางภายในประเทศ
การเป็นหัวหน้ารัฐบาลที่อายุน้อยที่สุดในโลก - ที่อายุ 35 ปี - มีข้อดีและข้อเสียสำหรับ เซบาสเตียน เคิร์ซ ด้านหนึ่งเขาได้รับการมองว่าเป็นผู้วิเศษทางการเมืองของออสเตรีย ดิ อีโคโนมิสต์อธิบายว่าเขา “สุภาพและมารยาทดีมากๆ” แต่บางสื่อก็ตั้งข้อสังเกตว่า เขามีเรื่องฉาวๆ อยู่มากมายบนเส้นทางการเมืองของเขา โดยเฉพาะการจับตามองรายได้ของเขาที่สูงประมาณหกเท่าของเงินเดือนโดยเฉลี่ยของชาวออสเตรียทั่วไป
แองเกลา แมร์เคิลตำแหน่ง : นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
เงินเดือน : US$369,700
Konrad Adenauer หรือที่รู้จักในชื่อ Airbus A340-313X VIP เป็นเครื่องบินของประจำตำแหน่ง แองเกลา แมร์เคิล ซึ่งเธอยังมีเครื่องบินราคาแพงอีกหลายลำ ที่จัดการโดยกองทัพเยอรมัน
นักวิทยาศาสตร์ที่ผันตัวมาเป็นผู้นำประเทศสตรี ซึ่งอยู่ในตำแหน่งมายาวนานถึง 16 ปี กำลังจะลงจากบัลลังก์ในเร็วๆ นี้ เธอถือว่าเป็นผู้นำสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ขับเคลื่อนเยอรมนีผ่านวิกฤตทางการเงินและกลับสู่การเติบโตอีกครั้ง
แองเกลา แมร์เคิล ทำรายได้มหาศาล ขณะที่รับใช้ประเทศ โดยเธอมีรายได้ประมาณแปดเท่าของค่าจ้างเฉลี่ยของพลเมืองเยอรมัน
สกอต มอร์ริสัน
ตำแหน่ง : นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย
เงินเดือน : US$395,500
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย มีบ้านอย่างเป็นทางการถึง 2 แห่ง คืออาคารสไตล์จอร์เจียชื่อ เดอะ ลอดจ์ ที่สร้างในปี 1927 กับ เคอร์ริบิลลิ ในย่านชานเมืองฝั่งท่าเรือของซิดนีย์
นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของออสเตรเลียได้รับค่าจ้างสูงกว่ารายได้เฉลี่ยของคนทั่วไปถึงหกเท่า สกอต มอร์ริสัน เริ่มต้นอาชีพในตำแหน่งผู้จัดการนโยบายและการวิจัยของสภาทรัพย์สินแห่งออสเตรเลีย ก่อนที่จะย้ายไปทำงานด้านการท่องเที่ยวในฐานะรองหัวหน้าผู้บริหารของ Australian Tourism Task Force และต่อมาเป็นผู้จัดการทั่วไปของสภาการท่องเที่ยวแห่งออสเตรเลีย
ในฐานะนายกรัฐมนตรี เขาต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ อย่างน้อยก็มีการต่อต้านอย่างรุนแรงต่อความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โจ ไบเดน
ตำแหน่ง : ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
เงินเดือน : US$400,000
หกชั้นและ 132 ห้องของทำเนียบขาวยังไม่เพียงพอ โจ ไบเดน ยังมีพื้นที่ในแอร์ฟอร์ซวันที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกสามชั้น รวม 4,000 ตารางฟุต พร้อมห้องแพทย์ที่สามารถทำการผ่าตัดฉุกเฉินได้บนเครื่องเลย นอกจากนี้ ยังมีห้องชุดส่วนตัวสำหรับประธานาธิบดี และห้องครัวที่สามารถรองรับอาหารได้ถึง 100 คนในแต่ละครั้ง
หลายคนอาจคิดว่า โจ ไบเดน เป็นผู้นำที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดในโลก แน่ละว่า เงินเดือนประธานาธิบดีนั้นไม่ใช่น้อย แต่ก็ไม่ใช่ที่สุดในโลกหรอกนะ
แคร์รี แลม
ตำแหน่ง : ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง
เงินเดือน : US$672,000
ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง มักใช้รถไฮบริด Lexus LS 600h L ในการเดินทางไปรอบเกะฮ่องกง หรือบางครั้งก็ใช้ Mercedes-Benz S500L ปี 1997 แต่รถของเธอไม่มีป้ายทะเบียน มีเพียงสัญลักษณ์ฮ่องกงที่ด้านหน้าและด้านหลังแทนที่จะเป็นป้ายทะเบียนรถแบบปกติ
แคร์รี แลม ผู้นำหญิงคนแรกของฮ่องกงได้รับฉายาว่า “นักสู้” เนื่องจากเธอไม่เคยท้อถอยระหว่างการต่อสู้ทางการเมืองและเป็นคนบ้างาน หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง แคร์รี เริ่มอาชีพในวงราชการและกลายเป็นปลัดกระทรวงกิจการภายในในปี 2008 ซึ่งมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปักกิ่งปี 2008
ตั้งแต่ เธอเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าผู้บริหารของฮ่องกงในปี 2017 (และประธานคณะกรรมการเพื่อการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติในปี 2020) ค่าจ้างของเธอจึงเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 12.4% ตามการเปลี่ยนแปลงสะสมในดัชนีราคาผู้บริโภค
แม้จะเป็นหนึ่งในข้าราชการที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก แต่เธอก็นิยมจะเก็บเงินสดเอาไว้กับตัว เธอปฏิเสธบริการธนาคารที่จำเป็นหลายอย่าง เนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
เธอเคยให้สัมภาษณ์เอชเคไอบีซีว่า เธอเป็นหัวหน้าผู้บริหารของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงที่ไม่มีบริการธนาคารสำหรับเธอ “ฉันใช้เงินสดทุกวันเพื่อทุกสิ่ง ฉันมีเงินสดกองอยู่ที่บ้าน รัฐบาลจ่ายเงินให้ฉันเป็นเงินเดือน เพราะฉันไม่มีบัญชีธนาคาร”
ลีเซียงลุง
ตำแหน่ง : นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์
เงินเดือน : US$1.6 ล้าน
นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ทำงานในสำนักงานบนพื้นที่ 43 เฮกตาร์ (106 เอเคอร์) ที่เรียกว่า ดิ อิสทานา เป็นอาคารสไตล์นีโอพัลลาเดียนที่ดูเหมือนบ้านมาเลย์ทั่วไป ขนาบข้างด้วยเสาที่สง่างาม เฉลียงลึก หน้าต่างบานเกล็ด และประตูกรุไม้ หอคอยสูงสามชั้นที่อยู่ตรงกลางอาคารนี้ และมีผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการถึง 21 สมัยและดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 8 สมัย
เงินเดือน 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีของ ลีเซียงลุง นั้น มากกว่าที่ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียรับถึง 12 เท่า
แน่นอนว่า ลีเซียงลุง รู้ดีว่า ค่าจ้างของเขาคือ ‘ทอล์คออฟเดอะเวิลด์’ เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “แม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐยังได้รับค่าจ้างน้อยกว่าผม แต่คนจากทำเนียบขาวเขาเดินทางด้วยเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน อาศัยอยู่ในทำเนียบขาว และพักผ่อนในแคมป์เดวิดเชียวนะ”