ความสำคัญของการบำรุง รักษา

ถึงแม้ว่า ตอนนี้เครื่องจักรภายในโรงงานนั้นจะได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วการยืดอายุการใช้งานเครื่องจักรนั้นก็ยังคงมีความสำคัญต่อวงการอุตสาหกรรมมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้สำหรับผู้ประกอบการทั้งหลาย เนื่องจากเมื่อเครื่องจักรผ่านการใช้งานเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง เครื่องจักรและชิ้นส่วนต่างๆ ก็มักเกิดการสึกหรอขึ้นได้ตามอายุและปริมาณการใช้งาน เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการจึงควรหมั่นทำ Preventing Maintenance โดยตรวจสอบและซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักรอย่างสม่ำเสมอ หรือทำการป้องด้วยการทำกระบวนการต่างๆ เพื่ออายุการใช้งานของเครื่องจักร ด้วยการอบชุบทางความร้อน และทำการเคลือบผิวส่วนประกอบของเครื่องจักร เพื่อทำให้ผิวงานมีความแข็งแรงทนทานเพิ่มมากขึ้น ลื่นขึ้น ลดการเสียดสี และลดพลังงานที่ต้องใช้ในการขับเคลื่อนชิ้นงานนั้นๆ โดยเฉพาะเครื่องจักรที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีระดับความชื้นสูง มีสารเคมี ยิ่งต้องทำการอบชุบทางความร้อนและเคลือบผิวเครื่องจักรให้แข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการเกิดสนิมและป้องกันการกัดกร่อนของสารเคมีในกระบวนการผลิตด้วย เพียงเท่านี้คุณก็สามารถยืดอายุการใช้งานเครื่องจักรได้อย่างเหมาะสมแล้ว


Thai Parker ไทยปาร์คเกอร์ไรซิ่ง ในฐานะผู้นำทางด้านเทคโนโลยีการเคลือบผิวแข็ง (PVD) การเตรียมผิว และชุบโลหะสำหรับวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาและทำการวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน หากผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจใช้บริการเราในการเคลือบผิวแข็ง เตรียมผิวและชุบโลหะ เพื่อวางแผนบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventing Maintenance) คือเพื่อลดการสึกหรอของอุปกรณ์และการเกิดสนิมในเครื่องจักร ทางเรายินดีให้บริการท่านอย่างเต็มที่

การบำรุงรักษาที่ก่อให้เกิดผลโดยทุกคนมีส่วนร่วม

                                                                                                                                    พยัพ มาลัยศรี

ตอนที่1: การบำรุงรักษาทำไมจึงสำคัญนัก                               

มนุษย์เราเริ่มรู้จักการบำรุงรักษา เมื่อเจริญเติบโตขึ้น จนกระทั่งเริ่มช่วยเหลือ ตนเองได้ใช้อุปกรณ์เครื่องมือ ทำความสะอาดร่างกายประจำวันเป็นเช่น แปรงสีฟัน หวี ขันน้ำ แก้วน้ำ กล่องสบู่ ฯลฯ ซึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้จำเป็นต้องใช้เป็นประจำทุกวันจึงต้องมีการจัดเก็บ  ทำความสะอาด  ให้มีความพร้อมใช้งานอยู่เสมอไม่เช่นนั้นต้องค้นหาและจัดเตรียมกันใหม่อยู่เรื่อยหรือการที่เราไปหาหมอตรวจสุขภาพประจำปีก็เพื่อให้รู้ว่าสภาพร่างกายของเราปัจจุบันนี้ยังคงปกติอยู่หรือไม่  มีสมรรถนะความพร้อมของร่างกายดีอยู่ หรือเปล่าซึ่งเราเรียกกันว่า การตรวจเช็คเพื่อการรักษาสุขภาพที่ดีให้คงอยู่กับตัวเราไว้นั่นเอง

             ในการปฏิบัติงาน การใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร เป็นปัจจัยสำคัญ 1 ใน 4 อย่าง(4M ซึ่งประกอบด้วย คน เครื่องจักร วัตถุดิบ และวิธีการ) ของการทำงานเพื่อให้ได้ผลผลิตออกมาดี ตามความต้องการ   สมรรถนะความพร้อมในการใช้งานของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร จึงมีความจำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าเครื่องมือบกพร่องหรือใช้ไม่ได้นั่นก็คือองค์ ประกอบในการทำงานไม่สมบูรณ์หรือไม่ครบ ผลผลิตก็จะไม่สามารถผลิตออกมาได้หรือได้ก็ไม่ดี  

                การบำรุงรักษาที่ดี เมื่อมีการใช้งานอุปกรณ์  แล้วก็จะต้องทำความสะอาด ตรวจสอบสภาพหลังการใช้งานคืนสภาพให้มีความพร้อมในการใช้งานตลอดเวลา และจัดเก็บให้เป็นระเบียบด้วย แต่ในทางปฏิบัติจริง ผู้คนส่วนใหญ่มักไม่ปฏิบัติตามนี้   ทั้งงานส่วนตัว เช่น  บ้านพักอาศัย รถยนต์ หรืออุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ส่วนตัว  และงานส่วนรวมเช่น  สถานที่ราชการ อาคาร บริษัท โรงงาน เครื่องจักรจึงทำให้เกิดสภาพไม่พร้อมใช้งานเกิดขึ้นกันบ่อยๆ

              การแก้ไขปัญหาสภาพไม่พร้อมใช้งานของอุปกรณ์  เครื่องมือ เครื่องจักร ซึ่งเป็นเครื่องใช้ส่วนตัวเมื่อเกิดเหตุขัดข้อง หรือผิดปกติจากสภาพการใช้งานเดิมที่เคยใช้อยู่ซึ่งมีหลายลักษณะเช่น ใช้งานไม่ได้เลยซึ่งเราเรียกว่าเสีย  ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้างซึ่งเราเรียกว่า เดิน ๆ หยุด ๆ หรือการหยุด ชะงัก ใช้ได้เพียงบางหน้าที่เท่านั้น ทำงานไม่เต็มความสามรถที่กำหนดไว้ ใช้งานได้แต่คุณภาพของงาน ไม่สม่ำเสมอดีบ้าง เสียบ้าง ใช้ได้แต่ช้ากว่าเดิมมาก ฯลฯ เราก็จะทำการแก้ไขให้กลับสู่สภาพเดิม ซึ่งเราเรียกกันว่า ซ่อมนั่นเอง

                การซ่อมอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้หรือ เครื่องจักร ซึ่งเป็นของใช้ส่วนตัว ของใช้ประจำบ้านเมื่อเกิดเหตุขัดข้อง หรือผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเครื่องมืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ  แม้แต่จักรยาน จักรยายนต์ รถยนต์ก็เช่นเดียวกัน เครื่องใช้ประจำบ้านส่วนใหญ่ จะใช้วิธีการซ่อม แบบเสียแล้วจึงซ่อม (Break down) เช่นหลอดไฟฟ้า วิทยุ โทรทัศน์ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า  นาฬิกา ไมโครเวฟ พัดลม แอร์ คอมพิวเตอร์ เครื่องเขียน โทรศัพท์ ฯลฯ ไม่มีใครใช้วิธีซ่อมก่อนเสีย (Preventive)  เหมือนกับรถยนต์ เพราะรถยนต์ถ้าปล่อย ให้รถถึงกับเสีย วิ่งไม่ได้ก็จะต้องเดินกันไปทำงานเลยทีเดียว

                แต่ของใช้ส่วนรวม อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้  เครื่องจักร ในบริษัทหรือโรงงานเราจะใช้วิธีการซ่อมแบบเครื่องใช้ประจำบ้านไม้ได้เพราะในระหว่างการปฏิบัติงานอยู่  ถ้าหากเครื่องมือเครื่องใช้ เกิดเหตุขัดข้องใช้งานไม่ได้หรือสภาพไม่พร้อมใช้งาน นั่นก็คือปฏิบัติงานไม่ได้นั่นเอง จะไม่มีผลผลิตหรือบริการออกมา ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเฉพาะบุคคลหรือหน่วยงานเดียวเท่านั้น แต่มันเชื่อมโยงกันทั้งองค์การ เพราะงานมันต่อเนื่องกัน ตัวอย่าง เช่น ถ้าเครื่องจักรเสียช่วงใด ช่วงหนึ่งของกระบวนการ  ก็ไม่มีผลผลิตหรือบริการออกมาเลย มันสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากต่อองค์กรหรือโรงงาน ดังนั้น จึงมีแนวคิดซ่อมก่อนเสียเกิดขึ้น ในสถานที่ทำงาน อาคาร โรงงาน  ซึ่งต่อมาเราเรียกกันว่า การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ( Preventive maintenance ) นั่นเอง

                ทำไมเมื่อมีการบำรุงรักษา เชิงป้องกันแล้วรถยนต์ ยังเสียหายระหว่างการใช้งานอยู่เลย ผู้ที่ขับรถไปทำงาน ใช้รถมานาน ๆ ก็จะเข้าใจได้ดี ว่าเราดูแลบำรุงรักษารถ ตามกำหนดระยะเวลาที่บริษัทผู้ผลิตกำหนดมาให้เป็นประจำ นำรถไปเข้าศูนย์บริการตรวจเช็กตามระยะทางและซ่อมเชิงป้องกันด้วยการเปลี่ยนอะไหล่ก่อน การชำรุดเสียหายจะเกิดขึ้นทุกครั้งยอมเสียค่าใช้จ่ายมากมาย แต่รถยนต์ก็ยังมีปัญหา ในระหว่างการใช้งาน เสียระหว่างการเดินทาง  เช่น เครื่องยนต์ขัดข้อง  แบตเตอรี่ไฟหมด ระบบส่งกำลัง เกียร์ เพลา คลัช ขัดข้อง ยางรั่ว ซึม แตก ระบบเบรค ศูนย์ล้อ น้ำหล่อเย็น หม้อน้ำตัน แอร์เสีย ฯลฯ ทำไมเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้น การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ที่ทำไปช่วยอะไรไม่ได้เลยหรือ

                          เครื่องจักรในโรงงานก็ เช่นเดียวกันทำไมจึงยังมีการเสียหายระหว่างทำการผลิต (Beak down) ทั้ง ๆ นี้มีการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน กันอย่างดี บางโรงงานเครื่องจักรยังใหม่อยู่เลย บางโรงงานเพิ่งจะซ่อมไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง บางโรงงานโชคดีหน่อย 6 เดือนแล้วเครื่องจักรยังไม่เสียเลย ทำไมจึงไม่มีความแน่นอนเลย ทุกวันนี้ทำงานอยู่บนความเสี่ยงตลอดเวลา  ถ้าวันไหนเครื่องจักรเสีย  คนงานก็จะไม่มีอะไรทำ นั่งรอนอนรอกันว่าเมื่อไร ช่างจะซ่อมเสร็จ สินค้าก็ส่งลูกค้าไม่ได้ รายได้ก็ไม่มีแต่ก็ต้องจ่ายค่าแรง ให้คนงานเต็มวัน ความเสียหายที่เกิดขึ้นมองเห็นได้ทันที ด้วยเหตุนี้กระมังผู้บริหารโรงงานจึงอยู่เฉยไม่ได้ พยายามหาวิธีดูแลเครื่องจักร ไม่ยอมให้เครื่องจักรเสียหาย ระหว่างการผลิต เพราะรู้ฤทธิ์ เดชของ Break down ดี มีวิธีการหนึ่งที่โรงงานหลายแห่งค้นพบ และนำไปทดลองใช้ จนประสบผลสำเร็จมาแล้ว หลายโรงงานแต่เป็นกิจกรรมสไตล์ญี่ปุ่น

                           ประเทศญี่ปุ่นนำระบบการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน( Preventive Maintenance : PM ) มาจากประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อมๆกับการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมกระบวนการซึ่งจะใช้งานเครื่องจักรเป็นหลัก PM จึงมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการเพิ่มขึ้นของคุณภาพและผลผลิตของผลิตภัณฑ์

ต่อมาเมื่อมีความต้องการลดแรงงานในอุตสาหกรรมประกอบและแปรรูปจึงได้มีการใช้เครื่องจักรทดแทนคนงานมากขึ้นนั่นคือทำให้มีการพัฒนาเครื่องจักรเป็นระบบอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพสูงมากขึ้นจนเป็นหุ่นยนต์ (ROBOT) ทำให้มีความสนใจพัฒนา PM เพิ่มขึ้นโดยให้มีลักษณะเฉพาะในสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งเรียกกันว่า  การบำรุงรักษาทวีผลที่ทุกคนมีส่วนร่วม ( TOTAL PRODUCTIVE MAINTENANCE ) หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่า TPM  นั่นเอง

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที

ความสำคัญของการบำรุงรักษามีอะไรบ้าง

การบำรุงรักษาไม่เพียงแต่ช่วยให้โครงสร้างทางเทคนิคหรือประสิทธิภาพการผลิตของบริษัทมีความมั่นคงเท่านั้น แต่การบำรุงรักษาเป็นประจำยังมีบทบาทสำคัญในการทำให้สภาวะการทำงานปลอดภัยและดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้นด้วย การขาดการบำรุงรักษาหรือการบำรุงรักษาที่ไม่เพียงพออาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงหรือปัญหาด้านสุขภาพได้

เหตุใดจึงต้องมีการบำรุงรักษา

วัตถุประสงค์ของการบํารุงรักษา 1. เพื่อให้อุปกรณ์อย่ในสภาพพร้อมใชงานตลอดเวลา คือการบำรุงรักษาที่กระทำก่อนที่อุปกรณ์จะชำรุด 2. เพื่อแก้ไขซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ชำรุดใหกล้บมาอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน 3. เพื่อเพิ่มความไว้วางใจหรือความน่าเชื่อถือ(Reliability)ในการใช้อุปกรณ์เครื่องจักรนั้น

การบำรุงรักษามีประโยชน์อย่างไร

ประหยัดเงินโดยการยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น เพิ่มความปลอดภัยและลดโอกาสบาดเจ็บของพนักงาน ลดค่าเสื่อมสภาพที่ไม่จำเป็นของอุปกรณ์ต่างๆลง ป้องกันอุปกรณ์หลักพังก่อนเวลาอันควร

การบํารุงรักษาคืออะไร

การบำรุงรักษา (Maintenance) หมายถึง :“การพยายามรักษาสภาพของเครื่องมือเครื่องจักรต่างๆ ให้มีสภาพที่พร้อมจะใช้งานอยู่ตลอดเวลา” การบำรุงรักษานั้นครอบคลุมไปถึงการซ่อมแซมแซม (Repair) เครื่องด้วย

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง