สรรพากร ตรวจ เงินเข้าบัญชี

เริ่มแล้ว “สรรพากร” ตรวจเงินเข้าบัญชี

สรรพากร เริ่มแล้ว ตรวจรายการเงินเข้าบัญชีบุคคล เงินเข้า 3,000 ครั้งขึ้นไป เงินเข้า 400 ครั้ง

และยอดรวม 2 ล้านบาทขึ้นไป กฎหมายประกาศ 21 มี.ค. 62 ส่งข้อมูล 31 มี.ค. 63

ธุรกรรมลักษณะเฉพาะ

- ผู้ที่ทำการส่งข้อมูล

- ธนาคาร

- สถาบันการเงิน

- Payment gateway                                                          

หลักเกณฑ์การส่งข้อมูล

- เงินเข้า (ฝาก/รับโอนเงิน) 3,000 ครั้งขึ้นไป

- เงินเข้า 400 ครั้ง และยอดเงิน รวมกัน-ตั้งแต่ 2 ล้านบาท ขึ้นไป

เงื่อนไข

- ทุกบัญชีของ 1 ธนาคาร (แยกข้อมูลตามธนาคาร)

- ไม่ใช่ทุกบัญชี ทุกธนาคารรวมกัน

- บัญชีที่เปิดเป็นชื่อร่วมกัน จะถูกนำมารวมด้วย

- เงินเข้ารวมถึง ดอกเบี้ย เงินปันผล การโอนเงินระหว่างบัญชี

ข้อมูลที่ถูกส่ง จะส่งเป็นรายปี ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี (เริ่ม มีนาคม 2563 โดยใช้ข้อมูลของปี 2562)

จริงหรือเปล่าที่ธนาคารจะส่งข้อมูลให้สรรพากร
เหล่าพ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์ จะถูกตรวจสอบบัญชี ??  

      ข่าวที่แจ้งว่า  ธนาคารจะทำการส่งข้อมูลในการทำธุรกรรมของเราให้กับกรมสรรพากรนั้น เริ่มมีผลตั้งแต่ เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นมา

   

      แต่ว่า ใจเย็นๆ ก่อน กรมสรรพากร ไม่ได้จะเรียกขอข้อมูลของทุกคนหรอก เค้าจะดูเฉพาะคนที่เข้าข่ายว่า น่าจะทำธุรกิจ เท่านั้น  มีเกณฑ์อะไรบ้าง ไปดูกันเลยจ้า

       คนที่จะถูกส่งข้อมูลให้สรรพากรคือ คนที่มีธุรกรรมทางการเงิน เข้า 2 เงื่่อนไขนี้ แบบใดแบบหนึ่ง นั่นคือ

        1. มีเงินโอนเข้าบัญชี เกิน 3,000 ครั้งต่อปี หรือเฉลี่ย เดือนละ 250 ครั้ง แบบนี้ ยอดเงินรวมในบัญชีเท่าไหร่ก็ถูกส่งทั้งหมดจ้า   -- คนที่โอนยอดเล็กๆ น้อยๆ บ่อยๆ ก็ต้องระวังหน่อยน๊าาา

        2. มีเงินโอนเข้าบัญชี เกิน 400 ครั้งต่อปี และยอดเงินรวมเกิน 2 ล้านบาท แบบนี้ ต้องเข้าทั้ง 2 เกณฑ์ ถึงจะถูกนำส่งข้อมูลนะคะ

         สิ่งที่ต้องรู้ในการนับคือ
             1. แบงค์เดียวกัน 1 ชื่อ มีกี่บัญชี ถูกนับรวมกันหมด (เพราะฉะนั้น วางแผนกระจายแบงค์กันดีๆ นะจร้า)
             2. โอนออกไม่นับ นับเฉพาะโอนเข้า
             3. โอนให้ตัวเอง ธนาคารเดียวกัน ไม่นับ
             4. โอนให้ตัวเอง ต่างธนาคาร นับ
          เดี๋ยวนี้บางแบงค์จะมีนับให้ด้วย ว่าเดือนนี้ทำธุรกรรมไปกี่ครั้งแล้ว ยอดเท่าไหร่ให้ด้วยล่ะ

           ตัวอย่าง
           นาย เอ มีบัญชีกับแบงค์ ก. 2 บัญชี ทั้งสองบัญชี มีข้อมูลรวมกัน ทั้งปี มีเงินเข้า 3,200 ครั้ง ยอดรวม 1.4 ล้าน
แบงค์จะต้องส่งข้อมูลของ นายเอ ให้สรรพากร

           นางสาว บี เปิดบัญชี 2 แบงค์ แบงค์ ก. มี 2 บัญชี มีข้อมูลรวมทั้งปี เงินเข้า 400 ครั้ง ยอดรวม 2.1 ล้าน
แบงค์ ก. จะต้องนำส่งข้อมูลให้สรรพากร
           ในขณะที่ แบงค์ ข มีข้อมูลรวมทั้งปี เงินเข้า 600 ครั้ง ยอดรวม 1.4 ล้าน แบงค์ ข. จะไม่ต้องนำส่งข้อมูล เพราะยังไม่เข้าเงื่อนไขนั่นเอง

           นาย ซี เปิดบัญชีกับธนาคาร ก. ทั้งหมด 3 บัญชี ข้อมูลรวมทั้งปี มีเงินเข้า 300 ครั้ง ยอดเงินรวม 30 ล้าน ก็จะไม่ถูกส่งข้อมูล เพราะจำนวนครั้งที่ยอดเงินเข้าไม่ถึง 400 ครั้ง

           นางสาว ดี มีบัญชีธนาคารกับแบงค์ ก. 2 บัญชี ข้อมูลรวมมีเงินเข้า 1,000 ครั้ง ยอดเงินรวม 6 ล้าน แบงค์ ก. จะนำส่งข้อมูลให้สรรพากร
           ในขณะที่ แบงค์ ข. มีบัญชีเดียว ข้อมูลรวมทั้งปี มีเงินเข้า 500 ครั้ง ยอดเงิน 6 ล้าน ก็ถูกส่งข้อมูลให้สรรพากร เช่นเดียวกัน

          สำหรับคนที่ถูกนำส่งข้อมูลให้สรรพากร  ธนาคารจะส่ง เลขบัตรปชช. ชื่อ นามสกุล เลขที่บัญชีธนาคาร จำนวนครั้งที่เงินเข้า ยอดเงินเข้า ให้กับ กรมสรรพากร  ซึ่งทางสรรพากรบอกว่า ไม่ได้จะเอามาตรวจสอบเพื่อให้เสียภาษี แค่เอามาเก็บข้อมูล วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เสียภาษีเฉยๆ
          แต่เราคงไม่นิ่งนอนใจ 555 เพราะถ้ารายได้เราเกิน เราต้องเสียภาษีแน่ๆ ล่ะ และถ้าถูกตรวจสอบย้อนหลัง โดนค่าปรับกันน่าจะไม่คุ้มกันเลยล่ะจ้า

           สิ่งที่ทุกคนควรเตรียมตัวไว้คือ "การศึกษาเรื่องภาษี"   พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุกคน ควรจะต้องมีความรู้เรื่องนี้ จะรอให้ถูกตรวจสอบโดนปรับ แล้วโอดครวญว่า ก็ไม่รู้นี่นา ไม่ได้นะจ๊ะ
           เราต้องมีความรู้ในการเสียภาษีเบื้องต้น ทำบัญชีรายรับรายจ่ายของตัวเอง ของร้านค้า เก็บเอกสารใบเสร็จต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง หลักฐานการเสียภาษีของตัวเอง
           เกิดถูกเรียกตรวจสอบขึ้นมา อย่างน้อยเราก็มีข้อมูลไปชี้แจง กับกรมสรรพากรได้นั่นเอง ว่า เฮ้ย ตอนนั้น ชั้นใช้บัญชีในการระดมเงินบริจาคช่วยคุณลุงผู้แก่เฒ่า มีคนโอนมา 350 คน ยอดรวมเท่านั้น เสร็จแล้วชั้นเอาเงินไปบริจาคให้ลุงมาแล้วจริงๆ ยอดเข้าในส่วนนี้ ไม่ใช่รายได้ของชั้นนะ เป็นต้น
           ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรจำไว้ว่า "การเสียภาษี เป็นหน้าที่ของทุกคน" คนที่ไม่ถูกส่งข้อมูลในสรรพากร ก็ต้องไปเสียภาษีให้ถูกต้องอยู่ดีนะจ๊ะ  อย่างที่บอกไว้ ถูกตรวจสอบย้อนหลัง มันไม่คุ้มจริงๆ 

หมึกกันน้ำญี่ปุ่น StazOn หมึกปั๊มพลาสติก มีกี่แบบ
1 เดือนที่ผ่านมา
หมึกกันน้ำญี่ปุ่น StazOn หมึกปั๊มพลาสติก มีกี่แบบ เพื่อนๆ ที่กำลังหาข้อมูลจะสั่ง ตรายางกันน้ำ ตรายางปั๊มพลาสติก ตรายางปั๊มแก้วกาแฟ อาจจะนึกสงสัย หมึกที่แต่ละร้านขาย ดูไม่เหมือนกัน ใช้งานได้เหมือนกันมั๊ยนะ กันน้ำจริงหรือเปล่า ปั๊มพลาสติก ปั๊มแก้วกาแฟไ…

ตรายางมีกี่แบบ ประเภทของตรายาง
2 เดือนที่ผ่านมา
สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่เคยตรายางมาก่อน อาจจะสงสัยว่า เอ แล้วตรายาง มีกี่แบบ กี่ประเภทกันนะ แล้วควรจะสั่งแบบไหนดี วันนี้เรามีคลิปมาอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังกันจ้า ว่า ตรายางมีกี่แบบ แต่ละแบบต่างกันยังไง ในคลิปนี้ เราแยกประเภทตามชนิดของด้ามตรายางแบ่งออกเป็น 1.…

ตราปั๊มใส ตรายางอะคริลิค ตรายางกันน้ำ ตรายางปั๊มพลาสติก แตกต่างจาก ตรายางทั่วไปอย่างไร
1 ปีที่ผ่านมา
ตราปั๊มใส ตรายางกันน้ำ ตรายางปั๊มพลาสติก มีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากตรายางด่วน ตรายางทั่วไป ดังนี้ ตราปั๊มใส จะเป็นยางสีเหลืองทองติดบนแป้นอะคริลิค ไม่มีด้ามสูงขึ้นมาสำหรับจับ เพื่อให้เรามองเห็นตำแหน่งที่เราต้องการปั๊มได้อย่างชัดเจน และสามารถกระจายแ…

ดดดด
1 ปีที่ผ่านมา
เรานำเข้าหมึกปั๊มจากญี่ปุ่น เพื่อให้งานที่ปั๊มลงบรรจุภัณฑ์ออกมาสวยงาม เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้เทียบเท่ากับงานพิมพ์ นอกจากนี้ ยังสามารถพิมพ์ลายลงบนวัสดุต่างๆ ได้หลากหลายอีกด้วย เช่น แก้วพลาสติก ถ้วยกระดาษ โลหะ ไม้ ผ้า ฯลฯ รวมถึง หมึกเติม ถาดหมึก และ…

วิธีเติมหมึกตรายาง
1 ปีที่ผ่านมา
วิธีเติมหมึกตรายาง สิ่งที่หลายๆ คนไม่รู้ เมื่อตรายางหมึกหมด คือ วิธีเติมหมึกตรายาง จะต้องเติมหมึกให้ถูกประเภทกับตรายางเท่านั้น ถ้าเติมผิดรุ่น หรือ ผิดประเภท หมึกจะไม่ซึมลงฟองน้ำ และอาจะทำให้ตรายางเสีย ใช้งานไม่ได้ ต้องสั่งทำใหม่ สิ่งที่ต้องรู้ก่อนคือ…