การติดตั้งตู้เย็นอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ตู้เย็นมีอายุการใช้งานเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยป้องกันอันตรายอันเกิดจากตู้เย็นได้อีกด้วย
1. ควรตั้งตู้เย็นในที่เรียบและสม่ำเสมอ ถ้าตั้งในที่ไม่เรียบจะทำให้ตู้เย็นสั่นและมีเสียงดัง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตู้เย็นเคลื่อนที่เวลาเปิดประตูตู้เย็น
2. ควรติดตั้งในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ด้านหลังห่างจากผนังไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร ด้านบนควรห่างจากเพดานไม่ต่ำกว่า 30 เซนติเมตร ด้านข้างทั้งสองข้างห่างจากผนังไม่ต่ำกว่า 5 เซนติเมตร
ตู้เย็นหนึ่งในของใช้ประจำครัวที่ทุกบ้านต้องมี เพราะตู้เย็นถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญสำหรับการเก็บรักษาอาหารหรือของสดทั้งหลาย เพราะความเย็นของตู้เย็นมีที่มีระดับความเย็นในแต่ละส่วนที่ต่างกัน ทำให้ตู้เย็นสามารถเก็บรักษาอาหารให้คงความสดใหม่และไม่เน่าเสียไว้ได้ตามความเหมาะสมของอุณหภูมิและประเภทของอาหาร ในปัจจุบันมีตู้เย็นอยู่ทั้งหมด 3 ประเภทหลักๆคือ
- ตู้เย็นแบบประตูเดียว ตู้เย็นแบบนี้จะมีลักษณะแบบมีประตูเปิดเพียงประตูเดียวและเป็นตู้เย็นแบบที่เราใช้งานกันทั่วไปในบ้าน ตู้เย็นประเภทนี้สามารถประหยัดไฟได้มากกว่าตู้เย็นประเภทอื่น
- ตู้เย็นแบบสองประตู ตู้เย็นแบบนี้จะมี หนึ่งประตูสำหรับเปิดช่องแช่เย็นและอีกหนึ่งประตูสำหรับช่องแช่แข็ง เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานและเป็นสัดส่วนมากขึ้น และยังสามารถช่วยรักษาความเย็นในช่องแช่แข็งได้ดีขึ้น
- ตู้เย็นแบบ side by side ถูกการออกแบบให้เปิดออกในลักษณะประตูด้านซ้ายและประตูด้านขวา โดยตู้เย็นประเภทนี้เป็นตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตู้เย็นทั้ง 3 แบบ
และตู้เย็นยังมีระบบในการละลายน้ำแข็ง 3 แบบด้วยกันได้แก่
- ระบบกดละลายน้ำแข็ง ระบบแบบนี้ใช้มือเราล้วนๆ นั่นคือเราต้องกดปุ่มเพื่อละลายน้ำแข็งเองและยังต้องเอาน้ำที่ละลายออกมาไปเททิ้งเองอีกด้วย
- ระบบกึ่งอัตโนมัติ สำหรับตู้เย็นหนึ่งประตู ซึ่งเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ โดยเราต้องกดปุ่มเพื่อละลายน้ำแข็งเอง แต่ตัวคอมเพรสเซอร์จะทำให้น้ำที่ละลายออกมาระเหยออกไปเอง
- ระบบอัตโนมัติ สำหรับตู้เย็นสอง ประตู หรือที่เรียกกันว่า NO FORST ระบบนี้เป็นระบบอัตโนมัติก็เพราะการละลายน้ำแข็งแบบนี้จะใช้การเป่าลมออกมาตลอดเวลาทำให้ไม่มีการเกาะกลุ่มกันของน้ำแข็งในช่องแช่แข็งของตู้เย็น โดยที่เราไม่ต้องไปกดละลายน้ำแข็งเองนั่นเอง
ต้องบอกก่อนเลยว่าระบบอัตโนมัติ หรือระบบ NO FORST ถือเป็นระบบการละลายน้ำแข็งที่ดีที่สุดในตอนนี้ ซึ่งทำให้ในปัจจุบันนำระบบนี้มาใช้กับตู้เย็นสองประตูเกือบทุกรุ่นแล้ว นั่นก็เพราะระบบที่มีพัดลมคอยพัดอากาศในตู้เย็นอยู่ตลอดเวลาจะทำให้ให้น้ำแข็งไม่สามารถเกาะตามพื้นผิวของตู้ได้แล้วยังทำให้อุณหภูมิในตู้เย็นมีความคงที่มากขึ้นด้วย ซึ่งด้วยระบบพัดอากาศให้ไปทั่วทั้งช่องบรรจุอาหารนี้นอกจากจะทำให้อาหารมีความสดใหม่ ไม่เกิดการสูญเสียคุณค่าทางอาหารแล้ว ยังทำให้ช่วยให้อุณหภูมิของตู้เย็นที่มีค่าเท่าๆกันในทุกส่วนของช่องเก็บของอีกด้วย เพราะจะพัดอากาศเย็นไปตามส่วนต่างๆของตู้เย็น และจะทำให้ระบบตรวจวัดอุณหภูมิของตู้เย็นวัดอุณหภูมิได้อย่างถูกต้อง แตกต่างจากตู้เย็นที่ไม่มีระบบ NO FORST นี้ ซึ่งจะมีส่วนใดส่วนหนึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่าส่วนอื่นๆของตู้ ซึ่งเป็นเหตุผลให้ตู้เย็นพยายามสร้างความเย็นมากขึ้นเพื่อให้ตู้เย็นมีอุณหภูมิในขอบเขตอุณหภูมิที่ตั้งไว้นั่นเอง
แต่ถึงระบบ NO FORST จะมีข้อดีมากมายอย่างไรก็ตามระบบนี้ก็ยังคงมีข้อเสียที่ทำให้หลายๆคนนั่นก็คือ ตัวระบบเอง ซึ่งนอกจากจะมีการใช้ไฟฟ้าในการทำให้เกิดการหมุนเวียนของลมภายในส่วนต่างๆของตู้เย็นตลอดเวลาแล้ว อีกการทำงานของระบบ NO FORST ก็คือระบบละลายน้ำแข็งภายในช่อง freeze ซึ่งเป็นการทำละลายทุกๆ 6 ชั่วโมง โดยใช้ความร้อนนั่นเอง ซึ่งในกรณีความร้อนจะเกิดขึ้นในผนังภายในช่องfreeze หลังจากการทำละลายน้ำแข็งเสร็จ ระบบคอมเพรสเซอร์สร้างความเย็นก็จะกลับมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าระบบการทำงานเหล่านี้จะคล้ายกับระบบกึ่งอัตโนมัติ แต่ระบบกึ่งอัตโนมัติจะทำงานเมื่อเรากดให้ทำงานเท่านั้น ส่วนระบบ NO FORST จะทำงานทุก 6 ชั่วโมงทำให้กินไฟเป็นอย่างมาก
และด้วยความต้องการให้ลูกค้าของคิทเช่นฟอร์มได้สิ่งที่ดีที่สุดและมีความปลอดภัยในการใช้งาน คิทเช่นฟอร์มจึงได้เลือกสรรและเลือกจำหน่ายเฉพาะตู้เย็นที่มีคุณภาพเท่านั้น มีหลากหลายแบรนด์ให้ท่านได้เลือกสรร และยังคำนึงถึงความปลอดภัยและสวยงามในคราวเดียวกัน ดังนั้นถ้าคิดจะซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำอาหารใดเพื่อใช้ในงานครัวของคุณ คิทเช่นฟอร์มอาจจะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยชื่อเสียงและการยอมรับของคิทเช่นฟอร์มในวงกว้างถึงคุณภาพที่ดีของเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำอาหาร นอกจากนี้บริษัทคิทเช่นฟอร์ม อินเตอร์เทรด จำกัดยังให้ความสำคัญเรื่องการบริการทั้งระหว่างการขายและหลังการขาย และกำหนดราคาขายที่เหมาะสมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วยบริการส่งสินค้าทุกชิ้นฟรีทั่วประเทศไทย รับประกันว่าคุณสั่งสินค้าวันนี้ทางคิทเช่นฟอร์มจะส่งสินค้าพรุ่งนี้ทันที ไม่จำเป็นต้องวางเงินประกันด้วยระบบเก็บเงินปลายทางนั่นเอง
ช่องแช่แข็งมีน้ำแข็งเกาะตัวหนา ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีวิธีละลายน้ำแข็ง ตู้เย็น ที่ถูกต้องปลอดภัย เพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายของไฟฟ้าและใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธี
เคยประสบกับปัญหาที่ต้องค้นวิธีละลายน้ำแข็ง ตู้เย็น ในทุก ๆ เดือนหรือไม่? เพราะไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ดูจะไม่เวิร์กเลย แถมบางวิธียังเสี่ยงอันตรายอีกด้วย บทความนี้ทางเซฟไทยมีวิธีละลายน้ำแข็ง ตู้เย็น ที่ถูกต้องและปลอดภัยมาบอกทุกคนแล้ว
หากคุณเคยใช้วิธีละลายน้ำแข็ง ตู้เย็น ด้วยการราดน้ำร้อนใส่ หรือฉีดน้ำล้างภายใน ใช้ของมีคมแซะน้ำแข็งที่เกาะตัวหนาในช่องแช่แข็ง เซฟไทยขอบอกเลยว่า ควรเลิกทำเดี๋ยวนี้! เพราะนี่ไม่ใช่วิธีละลายน้ำแข็ง ตู้เย็นที่เหมาะสมเลย เผลอ ๆ แล้วการกระทำเหล่านี้จะยิ่งทำให้ตู้เย็นเสื่อมประสิทธิภาพจนคุณต้องซื้อใหม่อีกด้วย
ก่อนจะไปดูวิธีละลายน้ำแข็ง ตู้เย็น เรามารู้จักระบบการทำงานกันว่าตู้เย็นที่บ้านเป็นแบบไหน หรือใครที่กำลังต้องการซื้อตู้เย็นใหม่จะได้ตัดสินใจถูกว่าแบบไหนจึงจะตอบโจทย์มากที่สุด
- ตู้เย็นระบบ Defrost – มักพบกับตู้เย็นแบบประตูเดียว หรือตู้เย็นรุ่นเก่า โดยบริเวณช่องแช่แข็ง หรือช่อง Freeze จะมีท่อน้ำยาความเย็น (Direct cool) ทำให้ความชื้นจากภายนอกเข้าไปได้ จนกลั่นตัวเป็นน้ำแข็งเกาะที่ผนัง ซึ่งสามารถละลายน้ำแข็งได้ด้วยการปิด Compressor ให้น้ำแข็งค่อย ๆ ละลายเองและไหลไปที่รองน้ำข้างหลังตู้เย็น
- ตู้เย็นระบบ No frost – มักพบในตู้เย็นรุ่นใหม่ หรือรุ่นที่แยกช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งออกจากกัน เป็นระบบความเย็นจากการใช้พัดลมเป่ากระจายความเย็นให้ทั่วทั้งตู้ โดยสังเกตว่าจะไม่มีน้ำแข็งเกาะตัวหนาในช่องแช่แข็งเลย เพราะมีการทำละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ และน้ำนั้นจะไหลออกไปตามทางที่กำหนดไว้
ทีนี้เราก็ไปดูวิธีละลายน้ำแข็ง ตู้เย็น ที่ถูกต้องและปลอดภัยกันว่าต้องทำอย่างไร?
วิธีเตรียมเคลียร์ตู้เย็น ก่อนทำละลายช่องแช่แข็ง
- จัดการนำอาหาร ข้าวของต่าง ๆ ที่แช่อยู่ทั้งในช่องแช่แข็งและภายในตู้เย็นออกมาข้างนอก เพราะเมื่อน้ำแข็งที่เกาะตัวหนาเริ่มละลายแล้ว น้ำจะไหลลงมาสู่ชั้นที่เอาไว้แช่เนื้อสัตว์และไหลออกไปทางข้างนอก ซึ่งจะอยู่หลังตู้เย็นนั่นเอง ฉะนั้น ช่วงที่น้ำไหลลงชั้นข้างล่างอาจจะทำให้ของที่แช่ไว้เลอะเทอะได้
- สำรวจที่รองน้ำหลังตู้เย็นว่ามีพื้นที่พอไหม เนื่องจากอาจมีน้ำละลายจากครั้งก่อนค้างอยู่ หากเราทำการละลายตู้เย็นครั้งใหม่ไป น้ำละลายในที่รองข้างหลังตู้เย็น อาจล้นจนส่งผลให้เกิดความเสียหายได้ จำเป็นต้องตรวจสอบให้ดีก่อน
- ถอดลิ้นชัก ถาดกั้น ชั้นวางต่าง ๆ ในตู้เย็นออกมา เพื่อทำความสะอาด ยกเว้นชั้นแช่เนื้อสัตว์ เพราะเป็นชั้นที่จะรองรับน้ำแข็งที่ละลายจากช่องแช่แข็ง
ขั้นตอนพร้อมวิธีละลายน้ำแข็ง ตู้เย็น
1. ตรวจหาปุ่มละลายน้ำแข็ง
อ่านคู่มือการใช้ตู้เย็นก่อนสักนิด เพื่อศึกษาว่าวิธีละลายน้ำแข็ง ตู้เย็นของคุณต้องทำอย่างไร ปุ่มละลายน้ำแข็งอยู่ตรงไหน เพราะตู้เย็นแต่ละรุ่นนั้นมีกระบวนการละลายน้ำแข็งที่แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นปุ่มสีเทาที่อยู่ตรงที่ปรับอุณหภูมิ
2. ปรับอุณหภูมิตู้เย็น
เมื่อเจอปุ่มละลายน้ำแข็งและนำของที่แช่ไว้ออกมาเรียบร้อยแล้ว ให้ปรับอุณหภูมิไปที่ Off แล้วทำการกดปุ่มได้เลย กดลงไปให้สุดแล้วจะมีเสียงขึ้นมา หลังจากนั้นให้ถอดปลั๊กตู้เย็นออก
3. เพิ่มความเร็วในการละลาย
เมื่อกดปุ่มแล้วจะปิดหรือเปิดตู้เย็นไว้ก็ได้ แต่ถ้าน้ำแข็งเกาะตัวหนามาก สามารถเปิดแล้วเอาพัดลมมาเป่าช่วยให้ละลายไวขึ้นได้ แต่ห้ามนำอะไรไปแซะน้ำแข็งออก หรือเทน้ำราดเด็ดขาด เพราะอาจเกิดผลเสียหายกับระบบความเย็น และเป็นอันตรายได้ สุดท้ายหากน้ำแข็งเริ่มละลายมากขึ้นแล้ว ส่วนไหนที่เราสามารถตักออกหรือเช็ดออกได้ก็ทำได้เลย
4. เช็ดทำความสะอาดชั้นแช่
เมื่อช่องแช่แข็งละลายน้ำแข็งออกหมดแล้ว ให้นำชั้นแช่เนื้อสัตว์ออกมาเพื่อเทน้ำออก และเช็ดทำความสะอาดให้แห้ง รวมทั้งทำการเช็ดส่วนประกอบ ชั้นวางต่าง ๆ ภายในตู้เย็นให้สะอาดและแห้งสนิท แล้วนำลิ้นชัก ชั้นวางที่ถอดออกไปกลับมาใส่เข้าที่ตามเดิม
5. กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
เสียบปลั๊กตู้เย็น หมุนปรับอุณหภูมิไปที่เลข 6 หรือระดับที่เย็นจัด ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นค่อยหมุนไปยังระดับความเย็นที่ต้องการ (Off ไม่ทำงาน, 1-2 เย็นเล็กน้อย, 3 ปานกลาง, 4-5 เย็นมาก, 6 หรือ Cold เย็นจัด)
Tips การละลายน้ำแข็ง ตู้เย็น
– ควรทำละลายน้ำแข็งตู้เย็นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง หรือสังเกตที่ปุ่มสีแดงข้างช่องแช่แข็ง หากน้ำแข็งเกาะหนาเกินปุ่มนี้ แสดงว่าควรละลายได้แล้ว ทางที่ดีอย่าปล่อยให้น้ำแข็งเกาะหนาเกินปุ่มแดงจะดีกว่า เพราะนอกจากจะส่งผลให้ตู้เย็นไม่ค่อยเย็นแล้ว ยังเปลืองไฟมากกว่าปกติด้วยนะ
หวังว่าวิธีละลายน้ำแข็ง ตู้เย็น ที่เซฟไทยนำมาฝากจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน หลังจากนี้จะได้ละลายน้ำแข็งตู้เย็นได้อย่างปลอดภัย