ว่าไปแล้ววัดโพธิ์มีประวัติศาสตร์ยาวนานมิใช่น้อย แต่เดิมเรียกว่า“วัดโพธาราม” สร้างมาตั้งแต่รัชกาลพระเพทราชา สมัยกรุงศรีอยุธยา ครั้นนั้นถือว่าเป็นวัดโบราณราษฎร พอมาถึงสมัยธนบุรี พระเจ้าตากสินมหาราช ก็ยกฐานะให้เป็นพระอารามหลวงมีพระราชาคณะปกครอง จนสมัยรัชกาลที่ 1 มีการบูรณะและพระราชทานนามว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาส เป็นวัดประจำราชกาลที่ 1 (ก่อนจะเปลี่ยนเป็นวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในรัชกาลที่ 4) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯให้บูรณะอีกครั้ง ที่สำคัญทรงมีพระประสงค์ให้วัดโพธิ์ เป็นมหาวิทยาลัยสำหรับประชาชน จึงมีการรวบรวมวิชาความรู้ในแขนงต่างๆ จารึกติดไว้ตามอาคาร เพื่อให้ประชาชนที่สนใจมาศึกษา จนได้รับการยกย่องว่า เป็น“มหาวิทยาลัยเปิดแห่งแรกของประเทศไทย”
มนต์เสน่ห์ของวัดโพธิ์ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ จุดเด่นของวัดคือเจดีย์โดยรอบ ตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่มีมากถึง 99 องค์ แบ่งเป็นพระเจดีย์จำนวน 95 องค์ คือ พระเจดีย์ราย 71 องค์ พระเจดีย์กลุ่ม 5 องค์ และพระปรางค์ ในส่วนของพระเจดีย์รายจะเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ที่งดงามที่สุดของยุครัตนโกสินทร์ ได้รับการตกแต่งด้วยกระเบื้องถ้วยเคลือบสีและศิลาเขียว และพระมหาเจดีย์ 4 องค์ ประจำรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 4 ได้แก่ องค์แรก พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชรญดาญาณสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียว ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างพระมหาเจดีย์อีก 3 องค์ เพื่อบรรจุพระพุทธรูปพระนามว่า "พระศรีสรรเพชญ์" และถือเป็นเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1 เมื่อได้บรรจุพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช องค์ที่สอง พระมหาเจดีย์ดิลกธรรมกรกนิทาน อยู่ทางด้านเหนือ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีขาว สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่ออุทิศแด่พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ถือกันว่าเป็นพระเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 2 องค์ที่สาม พระมหาเจดีย์มุนีบัติบริขาร อยู่ทางทิศใต้ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีเหลือง สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และองค์ที่สี่ พระมหาเจดีย์ศรีสุริโยทัย อยู่ทางด้านทิศตะวันตกตรงกับองค์กลาง ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีขาบหรือสีน้ำเงินเข้ม สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ตามแบบพระเจดีย์ศรีสุริโยทัย กรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นพุทธบูชา ในส่วนนี้เราจะได้เห็นชาวต่างชาติต่างงัดกล้องถ่ายรูปออกมากันยกใหญ่ คงเพราะต่างก็ทึ่งในความละเอียดของการติดกระเบื้องเคลือบแต่ละชิ้นให้เป็นลวดลายรอบพระเจดีย์
2. มหัศจรรย์ตำราเวชเชตุพน ศาลาจารึกตำรานวดแผนโบราณ มีจิตรกรรมลายเส้นบอกตำแหน่งนวด นับเป็นบันทึกที่รวบรวมสรรพวิชาทั้งการแพทย์ การเมือง การปกครอง ประวัติการสร้างวัด และ วรรณคดี นับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ
3. มหัศจรรย์มหาเจดีย์ สี่รัชกาล เป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ 4 องค์ องค์พระเจดีนั้นเป็นแบบเจดีย์ย่อไม้สิบสอง ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ อันประกอบด้วย พระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1 – 4
4. มหัศจรรย์ต้นตำนานสงกรานต์ไทย คติความเชื่อตำนานสงกรานต์ ซึ่งรัชกาลที่ 3 ให้จารึกลงในแผ่นศิลาติดไว้ที่วัดโพธิ์ เป็นเรื่องเล่าถึงความเป็นมาของประเพณีดังกล่าว โดยสมมุติผ่านเรื่องราวธรรมบาลกุมารและนางสงกรานต์ทั้งเจ็ดเทียบกับแต่ละวันในสัปดาห์
5. มหัศจรรย์มรดกโลกวัดโพธิ์ ซึ่งรัชกาลที่ 3 ทรงให้นำองค์ความรู้จากปราชญ์ของไทยเช่น ตำราการแพทย์ โบราณคดี วรรณกรรม โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนฯลฯ จารึกลงบนแผ่นหินอ่อนประดับไว้ตามบริเวณผนังภายในวัดซึ่งความรู้ที่จารึกไว้บนแผ่นศิลาในปัจจุบันรวมเรียกว่า ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน โดยองค์การยูเนสโกมีมติรับรองขึ้นทะเบียนศิลาจารึกพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นเอกสารมรดกความทรงจำแห่งโลก
6. มหัศจรรย์ตำนานยักษ์วัดโพธิ์ บอกเล่าเรื่องราวตำนานเกี่ยวกับยักษ์วัดโพธิ์และยักษ์วัดแจ้งซึ่งทำให้เกิดท่าเตียนในปัจจุบัน
7. มหัศจรรย์ผ่านภพรัตนโกสินทร์ พระอุโบสถหลังเก่าของวัดโพธารามตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ภายหลังการสถาปนาพระอุโบสถหลังใหม่ของวัดพระเชตุพนแล้ว จึงได้ลดฐานะเป็นศาลาการเปรียญ โดยภายในมี “พระพุทธศาสดา” ประดิษฐานเป็นพระประธาน