ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่เรียกกันว่ายุคนี้ คือ ยุคดิจิตอล ระบบการตลาดก็เช่นเดียวกัน ผลจากเทคโนโลยีทำให้ระบบการตลาดเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้การตลาดต้องปรับตัวให้ทัน กับระบบการค้า บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอแนวคิดทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า
การที่เทคโนโลยี และอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้การตลาดแบบดั้งเดิมนั้นถูกลดบทบาท และถูกแทนที่ด้วยการตลาดดิจิทัล โดยใช้เครื่องมือใหม่ๆ ในการประชาสัมพันธ์, โปรโมท และเผยแพร่ข้มูลออกไปได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้นผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ในโลกออนไลน์
การตลาดแบบดั้งเดิม (TRADITIONAL MARKETING)
- ใช้ช่องทางออฟไลน์เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย เช่น โฆษณาผ่านโทรทัศน์วิทยุสื่อ สิ่งพิมพ์บิวบอร์ด
- เป็นการสื่อสารเพียงด้านเดียว ทำให้การวัดผลทำได้ค่อนข้างช้า และไม่แม่นยำ
การตลาดดิจิทัล (DIGITAL MARKETING)
- มีอินเตอร์เน็ตเข้ามาเป็นตัวช่วยในการประชาสัมพันธ์โปรโมท เผยแพร่ข้อมูล
- สามารถอัปเดตข้อมูล และวัดผลได้ตลอดเวลา
- เป็นการสื่อสารสองด้าน
ข้อดีของการทำตลาดออนไลน์
- สามารถเข้าถึงผู้คน เพราะคนเราใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น
- สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากได้ด้วยงบประมาณที่จำกัด เมื่อเทียบกับการทำโฆษณาผ่านโทรทัศน์ ทำให้บริษัทขนาดเล็กมีโอกาสในการแข่งขันกับบริษัทขนาดใหญ่ได้
- สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
- สามารถติดตามและตรวจสอบแคมเปญ เช่นค่า ROI, Conversion rate, View Count, Like, Share แบบ Real-Time และสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ตัวอย่าง Keyword ที่นักการตลาดดิจิทัลควรรู้
SMM – Social Media Marketing
SMM คือ การทำการตลาดบนสังคมออนไลน์เช่น Facebook, Instagram, LinkedIn, Twitter, Pinterest, Snapchat, TikTok เป็นต้น
โดยปัจจัยสำคัญสำหรับการทำ SMM คือต้องมีความเข้าใจแพลตฟอร์มต่างๆ และพฤติกรรมผู้บริโภคให้ดีใช้กลยุทธ์ให้สอดคล้องกับแพลตฟอร์มนั้น ๆ เช่น การโพสต์ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ รวมถึงการลงโฆษณา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
SEO – Search Engine Optimization
- SEO เป็นเทคนิคที่ทำให้เว็บไซต์ของเราอยู่ในอัดดับต้นๆ ของ Search Engine
- ไม่เสียค่าโฆษณา แต่ใช้เวลาระยะยาวนานกว่าจะเห็นผล
- ไม่สามารถการันตีว่าเว็บของเราจะขึ้นมาหน้าแรก ๆ ขึ้นอยู่กับการจัด Ranking และ Algorithm ของ search engine
หลักการทำงานของ SEO สามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
- On Page SEO: การใส่ Keyword ไปบนส่วนของเว็บไซต์ของเรา เช่น ใน Meta Description, URL, ชื่อหัวข้อหลัก เนื้อหา คำอธิบายรูปภาพ
- Off Page SEO: เป็นการทำ SEO บนแหล่งอื่นที่ไม่ใช่หน้าเว็บของเรา เช่น Submit Web ไปที่ Search Engine การแปะลิงค์ในเว็บเพจอื่น ๆ การแชร์ลิงค์ไปบนโซเชียลมีเดีย
- Technical SEO: การทำโครงสร้างเว็บเพจให้ดีขึ้น เช่น การใช้ https เพื่อเพิ่มความปลอดภัย การโหลดเว็บที่รวดเร็ว หรือการรองรับการดูบนมือถือ
SEM – Search Engine Marketing
คือ การซื้อโฆษณาบน Search Engine โดยมีการเรียกเก็บเงินในรูปแบบจ่ายตามจำนวนคลิก ตัวอย่างเช่น Google Ads
- มีอีกชื่อเรียกคือ Pay Per Click (PPC)
- ต้องจ่ายเงินอย่างต่อเนื่อง
- เหมาะกับการเพิ่ม Sales มากกว่าการสร้างความน่าเชื่อถือ
- เห็นผลลัพธ์ทันที
- เจ้าของเว็บไซต์หรือคนทำโฆษณาต้องทำการประมูล Keyword ที่อยากให้เว็บไซต์ไปปรากฏเมื่อมีการค้นหา โดยที่ตำแหน่งของโฆษณาจะไปแสดงผลอยู่ตรงมุมไหนของ Search Engine ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยเช่น เพดานราคาต่อคลิ๊กที่ถูกกำหนด (Max. Cost per click) และคะแนนคุณภาพของเว็บไซต์ (Quality Score) ยิ่งโฆษณาตรงกับ Keyword มากเท่าไร คะแนนก็จะยิ่งสูงขึ้น
Inbound Marketing
- การทำการตลาดแบบดั่งเดิม มักจะเป็นแบบ Outbound (Brand-Centric) ซึ่งเป็นการผลักโฆษณาหรือข้อมูลของแบรนด์ออกไปหาลูกค้า
- แต่ในยุคที่คอนเทนต์มีปริมาณมากมายมหาศาล การผลักข้อมูลออกไปหาลูกค้าเริ่มที่จะไม่มีประสิทธิภาพเท่าเดิมอีกต่อไป ลูกค้าสามารถหลีกเลี่ยง และเลือกที่จะเสพคอนเทนต์ที่ต้องการได้ด้วยตนเอง
- Inbound Marketing (Customer-Centric) คือ การทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาเอง ซึ่งนอกจากจะลดการส่งโฆษณาที่ทำให้ลูกค้ารำคาญแล้ว ยังสามารถเพิ่มยอดขายได้ดีและทำให้ลูกค้าเกิดความผูกพันกับแบรนด์ได้อีกด้วย
หลักการทำงานของ Inbound Marketing ประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน
- Attract : เปลี่ยนคนแปลกหน้า (Stranger) เป็นผู้ชม (Visitor)
- Convert : เปลี่ยนผู้ชม (Visitor) เป็นว่าที่ลูกค้า (Lead)
- Close : เปลี่ยนว่าที่ลูกค้า (Lead) เป็นลูกค้า (Customer)
- Delight : เปลี่ยนลูกค้า (Customer) เป็นโปรโมเตอร์(Promoter)
Affiliate Marketing
Affiliate Marketing คือ “การฝากขาย” ซึ่งจะเป็นการทำการตลาดแบบเน้นไปที่ความสามารถในการนำเสนอและขายสินค้าโดยตัวบุคคล โดยจะเป็นโมเดลที่ใช้การแบ่งส่วนต่าง หรือกำไรค่าคอมมิชชั่น (Commission) ให้กับผู้ขายโดยตรงเมื่อขายได้ (Pay-per-Sale) เช่น การเป็น Influencer รีวิวแนะนำสินค้า แชร์ลิงก์ไปที่หน้าซื้อสินค้า และสามารถปิดการขายให้กับผู้ติดตามได้ เป็นต้น
Email Marketing
Email Marketing คือ การใช้การส่ง Email ในการโปรโมทสินค้า, โปรโมชั่น และข้อมูลต่างๆ ของแบรนด์ไปยังผู้ซื้อโดยตรง ในปัจจุบันการใช้ Automated Newsletters เป็นที่นิยมของบริษัทต่างๆ เพราะฉะนั้นการเก็บรวบรวม Email ของผู้ซื้อมาทำเป็น Email List จึงเป็นหน้าที่หนึ่งที่สำคัญของนักการตลาดยุคดิจิทัล
อาชีพสาย Digital Marketing ทำหน้าที่อะไรบ้าง?
นักการตลาดดิจิทัล แบ่งออกเป็นหลายตำแหน่งตามความเชี่ยวชาญ ซึ่งมีหลายหน้าที่จนสามารถตั้งเป็นเอเจนซี่ (Agency) ได้เลย ซึ่งหน้าที่ของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป เช่น
- Strategic Planner คือ ผู้วางแผน ‘สร้างแบรนด์ – Branding’ ในภาพรวมว่าจะทำอย่างไร และควรสื่อสารออกไปอย่างไร
- Account Executive คือ “ผู้บริหารงานลูกค้า” ที่จะคอยประสานงานกับทั้งลูกค้าและแผนงงานต่างๆ ในบริษัท ให้ทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ถูกต้อง เสร็จตามเวลาและตามงบประมาณที่กำหนด
- Online Planner คือ ผู้วางแผนการสื่อสารในช่องทางออนไลน์ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ว่ามีอะไรกำลังเป็นที่นิยมบ้าง
- Creative คือ ผู้สร้างสรรค์และพัฒนาไอเดียต่างๆ ทั้งบนโทรทัศน์, วิทยุ และช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อที่จะสร้าง Talk/Viral ให้กับโปรดักซ์หรือบริษัทที่เราดูแลอยู่
- Project Manager คือ ผู้ที่คอยประสานงานกับทีม Production เพื่อที่จะสร้างชิ้นงานให้เกิดขึ้นจริง เช่น การจัด Event, การถ่ายโฆษณา, การทำสปอตวิทยุ ฯลฯ
- SEO Specialist คือ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการ ทำเว็บไซต์หรือคอนเทนต์ให้ติดในหน้าแรกๆ ของ Search Engine ตัวอย่างเช่น ใน Google ที่คนไทยนิยมมากที่สุดในการค้นหาข้อมูลต่างๆ
- Media คือ ผู้ที่ดูแลช่องทางมีเดียต่างๆ เช่น Biddable Media Buyer คือผู้เชี่ยวชาญในการซื้อ Ads โฆษณา, Boost Post ในแพลตฟอร์มต่างๆ
- Accountant คือ ผู้ดูแลบัญชี และรายรับ รายจ่ายต่างๆ
โดยหน้าที่และเป้าหมายหลักของนักการตลาดโดยรวมก็คือ
- ออกแบบ วางแผน และดูแลทุกด้านของแผนกการตลาดดิจิทัล
- การจัดการฐานข้อมูลการตลาดอีเมลและแคมเปญโฆษณา
- วางแผนและจัดการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
- พัฒนาและตรวจสอบงบประมาณของแคมเปญ
- ประเมินตัวชี้วัดที่สำคัญที่มีผลต่อการเข้าชมเว็บไซต์เช่น Traffic, Conversion
หากสนใจและอยากย้ายมาทำงานในสายการตลาดดิจิทัล แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง? อาจจะลองค้นหาความถนัด และความชอบของตัวเองให้เจอ จากการลงมือทำ แล้วฝึกฝนทักษะในตำแหน่งงานนั้นๆ แบบลงลึกจนมีความเชี่ยวชาญ
สามารถรับฟัง Podcast เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของการทำงานในสาย Digital Marketing ในเอเจนซี่ เพิ่มเติมได้ที่ Career Disruption #11 | กว่าจะมาเป็น AE ใน Agency ยักษ์ใหญ่ – Adaptivity
ชื่อตำแหน่งงาน & เงินเดือน
ตัวอย่างของ ชื่ออาชีพในตำแหน่งงานสายการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) ที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานยุคดิจิทัล และ เงินเดือน & รายได้เฉลี่ย จากการรายงานของ Glassdoor และ Adecco
- Social media marketing ($32,000 – $86,000 / year)
- Social media director ($35,000 – $126,000 / year)
- SEO Manager ($45,000 – $110,000 / year)
- SEO Director ($55,000 – $116,000 / year)
- SEO Specialist ($31,000 – $70,000 / year)
- SEM Specialist ($31,000 – $88,000 / year)
- Digital Marketing ($36,000 – $96,000 / year)
- Online Marketing Specialist ($54,000 – $115,000 / year)
ทักษะเฉพาะที่จำเป็น (Hard Skills)
Hard Skills คือ ทักษะเฉพาะที่ต้องมีความเชี่ยวชาญ สำหรับคนที่ทำงานในสายงานการตลาดดิจิทัล จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ (Digital Marketing Tools) ต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว, มีความสามารถในการวิเคราะห์, เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า และติดตามเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่ง Hard Skills ยอดฮิตในสาย Digital Marketing ได้แก่ . . .
- Search Engine Optimization (SEO)
- Search Engine Marketing (SEM)
- Social Media Marketing (SMM)
- Email Marketing
- E-Commerce
- Video and Audio production
- Content Management
- Marketing Automation
- Web Design
- Web Development
- Copywriting and Editing
- Business and Marketing Strategy
- Data Driven Marketing
ทักษะมนุษย์ (Soft Skills)
Soft Skills คือ ทักษะมนุษย์ ที่เกี่ยวกับอุปนิสัย, อารมณ์ และการทำงานร่วมกับผู้อื่น ปัจจุบันทักษะมนุษย์ได้กลายเป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่สำคัญ ในการรับเข้าทำงาน จะเห็นได้ว่าบน Job Description ประกาศรับสมัครงานของบริษัทจะมีการรีเควสไว้ด้วย ซึ่ง Soft Skills ยอดฮิตในสาย Digital Marketing ได้แก่ . . .
- ทักษะการทำงานเป็นทีม (Teamwork)
- ทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking)
- ทักษะการนำเสนอ (Presentation)
- ทักษะการแก้ปัญหา (Problem Solving)
- ทักษะการสื่อสาร (Communication)
- ทักษะการจัดการเวลา (Time Management)
- ทักษะการบริการ (Service Mind)
- ทักษะความยืดหยุ่น อดทน ใจเย็น (Resilience)
- ทักษะความละเอียด แม่นยำ ถูกต้อง (Detail Oriented)
“ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน หากไม่มี ‘ทักษะมนุษย์’ ที่ดี ก็ไม่มีใครอยากรับเข้าทำงาน”
ตัวอย่าง Profile สุดปัง
ลองไปสำรวจตัวอย่าง Resume, LinkedIn และ Portfolio สุดปัง ของคนที่ทำงาน สายการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) จนประสบความสำเร็จกัน ว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร มีทักษะความสามารถ ประสบการณ์การทำงานอะไรบ้าง !!
Resume
Portfolio
Coming Soon . . .
อ่านมาถึงตรงนี้ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ?
ใครที่กำลังอยากย้ายมาทำงานสายการตลาดดิจิทัล หวังว่าหลังจากอ่านแล้วคงจะได้ไอเดียไปไม่มากก็น้อยจาก Career Guild ของเรา และสามารถนำความรู้ไปปรับใช้พัฒนาตนเองจนสามารถทำงานในสายนี้ได้กันทุกคนเลยยย !!
Written by
Hussaporn Chuwong
A guy who wants to share knowledge and passion through Online Contents & helps migrate people to "Digital Career" !!