รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร การรีไฟแนนซ์บ้านในปี 2565 ควรยื่นรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารไหนดี ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง มีค่าใช้จ่ายหรือไม่
ลดดอกเบี้ยให้ถูกลงด้วยการรีไฟแนนซ์บ้านมีขั้นตอนอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง
ใครๆ ก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น แต่ในปัจจุบันนี้การจะมีบ้านสักหลังไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากมีราคาที่สูงมาก หลายคนจึงต้องกู้ยืมธนาคาร แต่ก็ทำให้คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยในระยะยาว ซึ่งหากคุณกำลังหาวิธีลดดอกเบี้ยบ้านเราสามารถทำได้ด้วยการ รีไฟแนนซ์บ้าน นั่นเอง
หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักกับการรีไฟแนนซ์บ้านว่าคืออะไร ช่วยลดดอกเบี้ยบ้านได้อย่างไร หากคุณอยากจะรีไฟแนนซ์บ้านต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ควรยื่นรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารไหนดี บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลที่คุณต้องรู้มาให้คุณแล้ว
รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร
รีไฟแนนซ์บ้าน คือ การขอกู้เงินสินเชื่อบ้านจากธนาคารแห่งใหม่ที่ยอมให้ดอกเบี้ยบ้านที่ถูกกว่า เพื่อนำไปปิดหนี้บ้านธนาคารเดิม ทำให้ผู้กู้จะไม่ต้องแบกดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แต่การจะรีไฟแนนซ์บ้านได้นั้น มีข้อยกเว้นอย่างคือ คุณจะสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้ ก็ต่อเมื่อหมดสัญญามาแล้ว 3 ปีกับธนาคารแห่งแรกที่ยื่นขอสินเชื่อบ้านไว้ หรือตามที่ระบุไว้ในสัญญา
ทำไมต้องรีไฟแนนซ์บ้าน
การรีไฟแนนซ์บ้านมีข้อดีหลายอย่างแก่ผู้กู้ ได้แก่
1. สามารถขอวงเงินกู้เพิ่มได้
การรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารแห่งใหม่ คุณจะสามารถขอวงเงินกู้เพิ่มได้ และระยะเวลาการกู้ก็จะเริ่มใหม่ด้วย ทำให้คุณมีเงินหมุนเวียนเพียงแค่คุณย้ายจากธนาคารเดิม
2. ช่วยลดดอกเบี้ยบ้าน
หากคุณครบเงื่อนไขสัญญามาแล้ว 3 ปีกับธนาคารแห่งแรก คุณสามารถการรีไฟแนนซ์บ้านได้ เพราะจะช่วยให้ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยถูกลงกว่าแน่นอน โดยคุณสามารถเลือกธนาคารที่ต้องการทำเรื่องรีไฟแนนซ์ได้ตามต้องการ
3. ช่วยลดระยะเวลาในการผ่อนบ้าน
การรีไฟแนนซ์บ้านจะทำให้ยอดผ่อนชำระบ้านถูกลง หากอัตราดอกเบี้ยถูกลง แล้วผ่อนชำระเท่าเดิม จะเป็นเงินต้นมากขึ้นยอดหนี้ก็จะลดลงเยอะขึ้น ส่งผลให้ผ่อนบ้านได้ไวขึ้น
4. ช่วยลดยอดการจ่ายต่อเดือน
ถ้าคุณอยากผ่อนชำระแบบสบายๆ การรีไฟแนนซ์บ้านก็อาจเป็นตัวช่วยคุณได้ เพราะดอกเบี้ยลดลง แล้วเป็นการทำสัญญาที่ใหม่ ที่อิงจากยอดหนี้คงเหลือ ส่งผลให้ยอดผ่อนก็อาจลดลงไปด้วยได้
หากต้องการรีไฟแนนซ์บ้านต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. พนักงานบริษัท ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ
สำหรับใครที่เป็นพนักงานบริษัท ข้าราชการ หรือทำงานในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้ที่ยังทำงานอยู่และเป็นสมาชิก กบข. เท่านั้น โดยการยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านมีสิทธิพิเศษคือ คุณสามารถขอวงเงินกู้ไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินราคาที่ดินพร้อมอาคาร หรืออาคาร หรือห้องชุด ตามวัตถุประสงค์การขอกู้เงินแต่ละประเภท
2. เจ้าของกิจการ เจ้าของธุรกิจ
เจ้าของกิจการหรือเจ้าของธุรกิจ การยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านผู้กู้ร่วมต้องเป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย
โดยมีอายุระหว่าง 20-65 ปี และเจ้าของกิจการรายได้ 50,000 บาทขึ้นไป เปิดดำเนินกิจการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี
3. กลุ่มคนที่ประกอบอาชีพอิสระ
คนที่ประกอบอาชีพอิสระ การยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านคุณจะต้องมีสำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และเอกสารแสดงรายได้ เช่น เอกสารแสดงภาษีเงินได้ 50 ทวิ, สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน ล่าสุด เป็นต้น
เอกสารสำคัญสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน
ไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพอะไรก็สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านได้ โดยคุณจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน ดังต่อไปนี้
1. เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ของคู่สมรส (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) / หย่า (ถ้ามี)
- สำเนาใบมรณบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
- สำหรับในกรณีที่มีผู้กู้ร่วม ต้องให้ผู้กู้ร่วมเตรียมเอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล เช่นนี้มาเหมือนกัน
2. เอกสารแสดงรายได้
สำหรับการยื่นเอกสารแสดงรายได้ จะขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารโดยจะพิจารณาว่าเราเข้าเงื่อนไขของธนาคารหรือไม่ ซึ่งทางธนาคารส่วนใหญ่จะขอเอกสารดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีรายได้ประจำ
เอกสารที่ต้องใช้มี สลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน และสำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 3 เดือน
- ผู้ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
เอกสารที่ต้องใช้มี สำเนาบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน หรือ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน/ใบทะเบียนการค้า และสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้/ผู้กู้ร่วม
- ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ
เอกสารที่ต้องใช้มี สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เอกสารแสดงรายได้ เช่น สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน ล่าสุด หรือเอกสารแสดงภาษีเงินได้ 50 ทวิ เป็นต้น
- ผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการ
เอกสารที่ต้องใช้มีสำเนาเดินบัญชีธนาคารไม่น้อยกว่า 6 เดือน ล่าสุด หรือเอกสารแสดงที่มาของรายได้
ทะเบียนการค้า หรือใบสำคัญการจดทะเบียนพาณิชย์ สำเนาหลักฐานการชำระภาษีต่างๆ 6 เดือนล่าสุด และรูปถ่ายและแผนที่ตั้งกิจการ
3. เอกสารแสดงหลักประกัน
เอกสารแสดงหลักประกันที่ต้องใช้ในการยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน ดังต่อไปนี้
- สำเนาสัญญาเงินกู้กับธนาคารเดิม
- สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน หรือ สำเนาสัญญาจำนองห้องชุด
- สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด อช.2
- สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ทด.13 หรือ สัญญาให้ที่ดิน ทด.14 หรือ สัญญาซื้อขายห้องชุด
- สำเนาใบเสร็จผ่อนชำระค่างวดบ้าน หรือ ถ้าผ่อนชำระแบบตัดค่างวดอัตโนมัติ ให้ใช้ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน
ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับรีไฟแนนซ์บ้าน
ค่าใช้จ่ายสำหรับรีไฟแนนซ์บ้านที่ต้องเตรียม ได้แก่
- ค่าประเมินราคา โดยประมาณ 2-3 พัน ซึ่งขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของธนาคาร
- ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของวงเงินกู้
- ค่าประกันอัคคีภัย
- ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงิน (ไม่เกิน 10,000 บาท)
- ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของธนาคาร
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้านที่ควรรู้
1. ตรวจสอบสัญญากู้เดิม
ขั้นตอนนี้ค่อนข้างสำคัญมากในการจะยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน เพราะคุณจะต้องอ่านพิจารณารายละเอียดของสัญญาเดิมให้ดีเสียก่อน คำนวณเงินผ่อนที่เหลือ และอัตราส่วนดอกเบี้ยรวมถึงระยะเวลา
2. เลือกธนาคารที่ชอบ โปรโมชั่นที่ใช่
คุณควรติดตามโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านของธนาคารต่างๆ เพื่อนำข้อมูลมาตัดสินใจสิ่งที่ต้องคำนึงหลักคือดอกเบี้ยและระยะเวลาการผ่อน หากคุณคิดว่ามีความคุ้มค่ามากกว่าธนาคารเดิมให้เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยื่นได้เลย
3. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
เมื่อคุณแน่ใจแล้วว่าต้องการจะยื่นรีไฟแนนซ์บ้านให้คุณเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน โดยอ้างอิงได้จากการเตรียมเอกสารการรีไฟแนนซ์ข้างต้น ให้คุณนำไปยื่นขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารที่ต้องการ
4. ยื่นขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์
การยื่นขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านผู้ขอสินเชื่อสามารถเข้าไปขอสินเชื่อกับทางธนาคารได้ หากธนาคารพิจารณาแล้วรับเรื่อง จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประเมินราคาหลักประกัน ถ้าคุณได้รับการอนุมัติทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจะติดต่อกับธนาคารเดิม เพื่อสอบถามรายละเอียดของหนี้ที่ยังค้างชำระ หลังจากนั้นจะนัดคุณมาพบในวันถัดไป
5. ทำสัญญาและจดจำนอง
เมื่อผ่านขั้นตอนยื่นขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ถือสัญญาไปให้เซ็นที่กรมที่ดิน และทำสัญญาจดจำนองในวันเดียวกัน เมื่อผ่านการทำสัญญาและจดจำนองเรียบร้อยแล้ว จึงถือเป็นอันครบกระบวนการรีไฟแนนซ์บ้าน
แนะนำการรีไฟแนนซ์บ้านอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
หากคุณครบสัญญากับธนาคารเดิมแล้ว ให้คุณพิจารณาโปรโมชั่นจากธนาคารใหม่ คุณควรเลือกธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และระยะเวลาที่เหมาะสม
เราแนะนำให้คุณรีไฟแนนซ์บ้านกับ Refinn ที่เป็นเว็บไซต์ที่รวมดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ของธนาคารต่างๆ ในประเทศไทยไว้ พร้อมช่วยเปรียบเทียบโปรโมชั่นของแต่ละธนาคารให้เราด้วยว่ายื่นกับธนาคารไหนช่วยประหยัดได้เยอะที่สุด หากสนใจแล้วก็สามารถสมัครได้เลย ทำทุกอย่างบนออนไลน์ไม่ต้องไปสาขา
5 ธนาคารชั้นนำ รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารไหนดี
1. รีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส)
รีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส)ให้คุณผ่อนบ้านอย่างสบายๆ โดยระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานเพราะให้ระยะเวลาผ่อนมากถึง 40 ปี ผู้กู้สามารถผ่อนบ้านได้ถึง 70 ปี นอกจากนี้รีไฟแนนซ์บ้าน ธอสสามารถเลือกอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อได้ตามต้องการ เช่น ดอกเบี้ยต่ำใน 3 – 5 ปีแรก หรืออยากได้ดอกเบี้ยต่ำคงที่ แต่ผ่อนในระยะยาวเราก็มีให้คุณเลือก
2. รีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารออมสิน
สำหรับใครที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านอยากประหยัดค่าใช้จ่าย แนะนำรีไฟแนนซ์บ้าน ออมสินโดยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ให้วงเงินกู้รวมสูงสุด 110% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ ให้คุณผ่อนชำระแบบเบาๆ ได้นานสูงสุด 40 ปี
และคุณยังสามารถกู้เพิ่มเติมอุปโภคบริโภคได้สูงสุด 5 ล้านบาท
3. รีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารกรุงไทย
หากอยากได้อัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าใคร refinance บ้าน ธนาคารกรุงไทยให้ดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 0.75% ต่อปี ไม่มีค่าธรรมเนียมยื่นกู้ ทางธนาคารออกค่าจดจำนองให้ 1% และคุณสามารถผ่อนนานสูงสุด 40 ปี
4. รีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารกรุงศรี
ใครที่อยากได้วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน รีไฟแนนซ์บ้าน กรุงศรีเราให้ดอกเบี้ยปีแรก 2% คุณสามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี นอกจากนี้ยังฟรีค่าประเมินหลักประกัน
และค่าจดจำนอง
5. รีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารกสิกร
รีไฟแนนซ์บ้าน กสิกรเราให้วงเงินกู้ไม่เกิน 80% แต่ไม่เกิน 80% ของราคาประเมินหลักประกัน ให้อัตราดอกเบี้ย MRR = 5.97% โดยอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเฉพาะที่อยู่อาศัยเท่านั้น ไม่รวมการซื้อที่ดินเปล่า ในกรณที่เป็นอาคารพาณิชย์ ต้องเป็นบ้านใหม่ บ้านมือหนึ่ง บ้านพร้อมโอน (ไม่รวมอาคารพาณิชย์สั่งสร้าง)
รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิมได้ไหม
สำหรับใครที่อยากรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิมสามารถทำได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วดอกเบี้ยบ้านจะลดได้น้อยกว่าไม่เท่ากับการรีไฟแนนซ์บ้าน
รู้จักการรีเทนชั่น (Retention) ทำดีไหม
การรีเทนชั่น ก็คือ การรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิม แค่เรียกอีกแบบ แม้อย่างที่บอกไปด้านบนว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงไม่เยอะ แต่การดำเนินเรื่องจะง่ายกว่าการรีไฟแนนซืบ้าน
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินคืออะไร
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินคือ วงเงินส่วนต่างจากการรีไฟแนนซ์บ้านใหม่โดยจะนำเอาราคาประเมินบ้านมาหักด้วยยอดหนี้คงเหลือ จึงทำให้คุณได้ส่วนต่างที่เหลืออยู่ที่สามารถขอวงเงินเพิ่มเพื่อนำไปใช้ได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้าน
ผ่อนบ้าน 1-2 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม
สำหรับใครที่เพิ่งจะผ่อนบ้าน 1-2 ปี ถ้าคุณอยากจะรีไฟแนนซ์บ้านก่อน 3 ปี คุณอาจจะต้องจ่ายค่าปรับให้กับทางธนาคารโดยมักจะอยู่ที่ประมาณ 3% ของยอดหนี้ที่เหลือ
รีไฟแนนซ์บ้านได้กี่ครั้ง
หลายคนอาจสงสัยว่าเราสามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้กี่ครั้ง ซึ่งการรีไฟแนนซ์บ้านคุณสามารถทำกี่ครั้งก็ได้ แต่ควรอ่านสัญญาธนาคารเดิมให้ดีเสียก่อนที่จะทำสัญญากับธนาคารแห่งใหม่ เพราะหากยังไม่หมดสัญญากับธนาคารเดิมคุณจะต้องเสียค่าปรับตามที่กำหนดไว้
มีประวัติเสียทางด้านการเงิน รีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม
สำหรับใครที่อยากจะรีไฟแนนซ์บ้านนั้น คุณจำเป็นจะต้องมีเครดิตทางการเงินที่ดี ดังนี้ ไม่ติดเครดิตบูโร ไม่เคยค้างชำระใดๆ ประวัติไม่จ่ายล่าช้าเกิน 90 วัน หรือถ้ายังมีการชำระหนี้ภาระหนี้ต้องไม่เกินกว่าที่ธนาคารกำหนด