Privacy Policy หมายถึงอะไร

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ จัดทำขึ้นโดย บริษัท ฟินโนมีนา จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด บริษัท บีฟินน์ จำกัด และบริษัทในเครืออื่น ๆ ของบริษัท ฟินโนมีนา จำกัด (“บริษัท”)

บริษัทเคารพสิทธิส่วนบุคคลและให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าของบริษัท บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ขึ้น เพื่อแจ้งแก่ท่านว่า บริษัทมีวิธีปฏิบัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำไปใช้หรือเปิดเผยอย่างไร โดยมีวัตถุประสงค์ใดบ้าง และมีวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ครอบคลุมการให้บริการต่าง ๆ ของบริษัท ทั้งทางเว็บไซต์, แอพพลิเคชั่น, โซเชียลมีเดียและช่องทางอื่น ๆ แก่ลูกค้าและผู้มาติดต่อกับบริษัท แต่ไม่ใช้บังคับกับลูกจ้างและผู้สมัครงานกับบริษัท ท่านยอมรับว่า การที่ท่านใช้บริการของบริษัทผ่านทางช่องทางต่าง ๆ หรือการให้ข้อมูลกับบริษัท ถือว่าท่านได้ยอมรับวิธีปฏิบัติของบริษัทตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้แล้ว ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายในการพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการให้มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ บริษัทจึงอาจมีการปรับปรุงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว จึงขอให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นระยะ ๆ เพื่อที่ท่านจะได้ทราบนโยบายความเป็นส่วนตัวล่าสุดของบริษัท

เพื่อความสะดวกของท่าน ท่านสามารถกดที่ชื่อของแต่ละหัวข้อเพื่ออ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นรายหัวข้อ ดังนี้

นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

ข้อ 1 บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งใดบ้าง

  • จากท่านโดยตรง เช่น ข้อมูลที่ท่านกรอกขณะลงทะเบียนสมัครใช้บริการ ข้อมูลที่ใช้ในการสมัครใช้บริการสมาชิก FINNOMENA, ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) หรือข้อมูลที่ผู้ใช้บริการได้แก้ไขปรับปรุงในข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ของผู้ใช้บริการ หรือข้อมูลที่ได้จากการที่ผู้ใช้บริการติดต่อกับบริษัทหรือทีมงานของบริษัท (เช่น ตัวแทน  หรือข้อมูลที่ได้จากบัญชีผู้ใช้งาน (Account) อื่น ๆ ข้อมูลจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัท  การติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านเว็บไซต์ Call Center และช่องทางอื่น ๆ ของบริษัท  ตลอดจนข้อมูลในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในแพลตฟอร์ม, การทำสำรวจ, งานสัมมนาและ Road Show
  • เทคโนโลยีการติดตาม (tracking technology) เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของบริษัท
  • บริษัทในเครือ
  • บุคคลภายนอก เช่น

o  หน่วยงานของรัฐ

o  สถาบันการเงิน

o  ตัวแทน นายหน้า และคนกลางอื่น ๆ

o  พันธมิตรทางธุรกิจ

o  ผู้ให้บริการข้อมูล

o  โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์ม และผู้ให้บริการโฆษณาต่าง ๆ

ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และการให้บริการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น

ข้อ 2 การใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีการติดตาม (tracking technologies) อื่น ๆ

บริษัท ใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีการติดตาม (tracking technologies) อื่น ๆ เช่น Google Analytics และ Facebook Conversion Tracking เพื่อช่วยให้บริษัทเก็บข้อมูล เช่น ชนิดของเบราว์เซอร์ เวลาที่ใช้บริการออนไลน์ หน้าที่เข้าชม URL ที่อ้างอิง การตั้งค่าภาษาและข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์อื่น ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อการแสดงผลข้อมูลที่มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลทางสถิติ และเพื่อพัฒนาประสบการณ์การเข้าชมเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นให้ตรงตามความต้องการของท่านขณะที่ใช้บริการออนไลน์ นอกจากนี้ คุกกี้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัทสามารถเลือกการโฆษณาหรือข้อเสนอที่ท่านน่าจะสนใจมากที่สุด เพื่อแสดงในขณะที่ท่านใช้บริการออนไลน์หรือ เพื่อส่งอีเมลทางการตลาด และบริษัทยังใช้คุกกี้เพื่อติดตามการตอบสนองต่อโฆษณาออนไลน์และอีเมลทางการตลาด

โดยท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของบริษัทได้ที่ นโยบายเกี่ยวกับคุกกี้ (Cookies Policy)

ข้อ 3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

  • ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล, อายุ, วันเดือนปีเกิด, เพศ, สถานภาพสมรส, เลขประจำตัวประชาชน, เลขหนังสือเดินทางหรือข้อมูลยืนยันตัวตนอื่นที่รัฐออกให้, ที่อยู่ไปรษณีย์, สถานที่ทำงาน, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, ไอดีไลน์, IP address, Cookie ID, ข้อมูลเบราว์เซอร์และข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ท่านใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น และช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ของบริษัท
  • ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชีเงินฝาก ประวัติทางการเงิน รายการทรัพย์สิน รายการเดินบัญชี
  • ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น การลงทุน คำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านเคยซื้อ ใช้ พิจารณา หรือแนวโน้มการซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ ของท่าน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชั่น หรือโครงข่ายอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่น ประวัติในการเยี่ยมชม ค้นหา และปฏิสัมพันธ์ของท่านกับเว็บไซต์ของบริษัทหรือโฆษณาต่าง ๆ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากคุกกี้ แท็กพิกเซล และเทคโนโลยีการติดตามอื่น ๆ
  • ข้อมูลเสียง ภาพ หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อื่นที่อาจบ่งชี้ตัวบุคคลได้ ซึ่งอาจรวมถึง ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
  • ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Data) บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้บริการ ข้อมูลชีวภาพ ความทุพพลภาพ หรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่นใดที่จะเป็นประโยชน์ในการให้บริการ ต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นตามที่กฎหมายอนุญาต โดยบริษัทอาจต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลชีวภาพ (Biometric) เช่น ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการที่ขอสมัคร และ/หรือทำธุรกรรมผ่านเว็บไซต์ Call Center หรือช่องทางอื่นใด เป็นต้น

ข้อ 4 ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้เสร็จสิ้น เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เก็บรักษาข้อมูลไว้นานกว่า ซึ่งอาจมีกำหนดประมาณ 5 – 10 ปี หรือเกินกว่านั้นเท่าที่จำเป็น เช่น ตามอายุความที่กฎหมายกำหนดสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินคดี หรือเพื่อการตรวจสอบของหน่วยงานที่กำกับดูแล

ข้อ 5 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

  • เพื่อบริการให้ตรงตามต้องการของท่าน บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อที่ท่านจะสามารถได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของท่านตามสัญญาหรือตามที่ท่านร้องขอ ในกรณีดังต่อไปนี้

การพิจารณาอนุมัติและ/หรือให้บริการต่าง ๆ เช่น การเปิดบัญชีซื้อขายหน่วยลงทุน การลงทุน การทำรายการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนหน่วยลงทุน

การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น การประมวลผล การติดต่อ การแจ้ง การมอบงานให้แก่บุคคลอื่นที่เป็นผู้ให้บริการภายนอก การโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่

หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการแก่ท่านได้

  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ และกฎหมายล้มละลาย บริษัทมีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทนของลูกค้านิติบุคคล และบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงบริษัทอาจมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการแก่ท่านได้
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เช่น

o   มาตรการรักษาความปลอดภัย บริษัทมีการบันทึกเสียงทาง Call Center การบันทึกภาพ CCTV  ณ ทางเข้าออกบริษัท

o  การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้าโดยพนักงานของบริษัท การสื่อสารหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ ประเภทเดียวกันกับที่ท่านมีอยู่กับบริษัทซึ่งเป็นประโยชน์กับท่านเป็นระยะ ๆ

o   การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การทุจริต การคุกคามทางไซเบอร์ การฟอกเงิน และกฎหมายอื่น ๆ

o   การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data)

o  วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติหรือประชาสัมพันธ์บริษัท เช่น การบันทึกภาพ บันทึกเสียงในการจัดประชุม อบรม สันทนาการ หรือการออกบูธ

ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

  • เพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์จากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ เช่น  เพื่อให้ท่านได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน เพื่อให้ท่านได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์พิเศษ คำแนะนำ และข่าวสารต่าง ๆ รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ เป็นต้น

ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ข้อ 6 บริษัทเปิดเผยข้อมูลให้กับใครบ้าง

บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่านก่อน อย่างไรก็ดี ท่านรับทราบและยินยอมว่า เพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลต่อไปนี้

  • บริษัทในเครือ
  • พันธมิตรทางธุรกิจ
  • ผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูล ทั้งในและต่างประเทศ
  • หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย

โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากท่าน จะถูกเก็บไว้บนศูนย์ข้อมูล (Cloud) ของผู้ให้บริการประมวลข้อมูลซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ทั้งนี้ การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าของบริษัทไปยังผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูลภายนอกดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษา การสำรองข้อมูล บริการเรียกข้อมูล และเพื่อประโยชน์ในการให้บริการ ซึ่งบริษัทได้ตรวจสอบและเลือกผู้ให้บริการอย่างรอบคอบและมีข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและขอบเขตการประมวลผลข้อมูลกับผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง โดยในกรณีที่ผู้ใช้บริการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท จะถือว่าผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมในการถ่ายโอนข้อมูลข้ามพรมแดนและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น

อย่างไรก็ดี หากท่านเชื่อว่าบุคคลที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามข้างต้น ได้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้ ท่านสามารถแจ้งบริษัทตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้ บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการ หรือหน่วยงานกำกับดูแลผู้ใช้บริการ รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเป็นการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการของบริษัท ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท หรือการขายกิจการ บริษัทอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้อง

ข้อ 7 สิทธิของท่านในจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล

  • การแก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถแก้ไขหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา ท่านสามารถขอ “แบบคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล” เพื่อกรอกข้อมูลและส่งให้กับบริษัททาง  FINNOMENA Contact Center: dpo@finnomena.com หรือ โทร: 02-026-5100 ทั้งนี้ การลบข้อมูลอาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถรับบริการจากบริษัทได้ หรืออาจทำให้การให้บริการไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ในกรณีที่มีการร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากระบบหรือฐานข้อมูลลูกค้าของบริษัทนั้น บริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การดำเนินการตามคำร้องขอนั้นจะเสี่ยงต่อการละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการรายอื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลไว้เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการตรวจสอบหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ หรือเพื่อเป็นไปตามนโยบายความปลอดภัยของระบบ หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการ

อย่างไรก็ดี แม้ว่าบริษัทจะได้ดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการแล้ว ข้อมูลดังกล่าวอาจจะยังคงมีการบันทึกหรือทำสำเนาไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือระบบสำรอง (Backup System) ของบริษัท เพื่อเป็นการสำรองข้อมูลในกรณีที่เกิดความผิดพลาด บกพร่อง หรือเกิดจากความขัดข้องของระบบ

  • การขอเข้าถึง และขอสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ของข้อมูลส่วนบุคคล การขอให้เปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลอื่นด้วยวิธีการอัตโนมัติ การจำกัดหรือระงับการใช้ การปฏิเสธการประมวลผลข้อมูล ท่านสามารถขอ “แบบคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล” เพื่อกรอกข้อมูลและส่งให้กับบริษัททาง FINNOMENA Contact Center: dpo@finnomena.com หรือ โทร: 02-026-5100
  • การยกเลิกความยินยอม ท่านสามารถถอนความยินยอมของท่านที่ได้ให้แก่บริษัทเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลหรือกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจงต่าง ๆ ได้ทุกเวลาโดยติดต่อมายังบริษัทตามข้อมูลที่ระบุไว้ด้านล่าง

นอกจากนี้ หากท่านไม่ประสงค์จะรับข้อมูลและข่าวสารประชาสัมพันธ์จากบริษัท ท่านสามารถดำเนินการดังนี้

    • กรณีไม่ประสงค์รับข้อมูลข่าวสารทางโทรศัพท์ : โปรดแจ้งความประสงค์ทาง FINNOMENA Contact Center: dpo@finnomena.com หรือ โทร: 02-026-5100
    • กรณีไม่ประสงค์รับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล (E-Mail) : ท่านสามารถกด “ยกเลิกรับข้อมูลข่าวสาร” ในอีเมลที่ท่านได้รับจากบริษัทได้ทันที
  • การร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว

    Privacy Policy มีอะไรบ้าง

    Privacy Policy มีองค์ประกอบดังนี้.
    Scope. รูปแบบการเก็บข้อมูล (Electroinic, กระดาษ, มีการ Encrypted หรือไม่) ... .
    คำแถลงนโยบาย คำชี้แจงนโยบายการเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ... .
    ความหมายของข้อมูลส่วนบุคคล การจำแนกข้อมูลส่วนบุคคล.
    มาตรฐานการป้องกัน.
    วิธีการทำลายข้อมูล.
    ผู้รับผิดชอบในการตอบคำถาม (DPO).
    มีผลบังคับใช้เมื่อไหร่.

    ทำไมต้องมีนโยบายความเป็นส่วนตัว

    เพื่อการพัฒนาและบำรุงรักษาระบบการของเราให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด เราอาจทำความตกลงไว้กับบุคคลที่สามเพื่อให้ดำเนินงานกับเรา หรือดำเนินการในนามของเรา ทั้งนี้บุคคลที่สามนั้นจะต้องยอมรับข้อตกลงคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของคุณไว้เป็นความลับเช่นเดียวกัน

    นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คืออะไร

    PDPA คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นกฎหมายที่ถูกสร้างมาเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของทุกคน รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลและนำไปใช้โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบ และไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเสียก่อน

    กฎหมาย Pdpa ย่อมาจากอะไร

    Personal Data Protection Act หรือ PDPA คือ เป็น พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เป็น กฏหมายที่ออกมาคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การควบคุมไม่ให้องค์กรนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม ด้วยความที่ในปัจจุบันมีการล่วงละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การครอบครองเบอร์ ...

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง