ขึ้นเขาลงเขาควรใช้เกียร์อะไร

เคยได้ยินว่า “เวลาขับรถขึ้นหรือลงเขาให้ใช้เกียร์ต่ำ” แต่หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมถึงต้องใช้เกียร์ต่ำเวลาขึ้น-ลงเขา แล้วมันต่างจากการใช้เกียร์แบบปกติอย่างไร? วันนี้ EasyCompare มาตอบคำถามให้คุณแล้วครับ

ทำไมขับรถขึ้น-ลง เขาต้องใช้เกียร์ต่ำ?

เกียร์ต่ำ (หรือเกียร์ที่อยู่ในช่วงเกียร์ 1-2) เป็นเกียร์ที่ทำให้เครื่องยนต์มีความถี่สูง สามารถเร่งความเร็วของรถได้ดี ทำให้รถสามารถพุ่งตัวได้ดีในช่วงแรก ซึ่งจะเป็นการดีสำหรับผู้ที่ขับรถยนต์ในเส้นทางลาดหรือทางชัน เพราะ ต้องใช้ความเร่งเครื่องสูงแต่ว่าความเร็วของรถยนต์ต่ำ เพื่อให้สามารถควบคุมการทรงตัวของรถในทางลาดหรือทางชันได้ง่ายกว่าเกียร์ที่ความเร็วแบบปกติ หากจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ก็เหมือนกับการที่เราเดินขึ้นทางชัน ที่ต้องใช้กำลังขามากกว่าปกติ การใช้เกียร์ต่ำจึงเป็นเหมือนการที่เราใช้แรงจากขามากขึ้นเพื่อไต่ทางชัน หลังจากที่เราหลุดพ้นทางชันมาได้เราจึงสามารถวิ่งในความเร็วปกติได้

ข้อควรปฏิบัติในการขับรถ

สำหรับเกียร์ธรรมดา

การขึ้นเขา – ในทางที่มีความชันมาก ให้ขับที่เกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 หากรู้สึกว่าความเร็วของรถเริ่มตกขณะที่ขับในทางชันใน ลดเกียร์ลงมา 1 ระดับ เพื่อให้สามารถเร่งเครื่องยนต์และผ่านเส้นทางชันนั้นไปได้ แล้วจึงเปลี่ยนเข้าเกียร์ตามความเร็วแบบปกติ

การลงเขา – ควรใช้เกียร์ต่ำ เพราะในทางลาดรถยนต์อาจจะไม่ต้องการกำลังของเครื่องมากนัก แต่ต้องการแรงฉุดเพื่อชะลอความเร็ว เกียร์ต่ำจะทำให้รถมีแรงฉุดมากกว่าทำให้รถไม่ไหล ง่ายต่อการเลี้ยงเบรกและบังคับรถเข้าโค้งในทางลาดได้ดีกว่า

ข้อควรระวัง - ควรปรับเปลี่ยนเกียร์ตามความเหมาะสม อย่าลากเกียร์เป็นระยะเวลานาน ควรแตะเบรกเป็นระยะ ไม่ควรเหยียบเบรกค้าง เพราะอาจทำให้เบรกไหม้

สำหรับเกียร์ออโต้

การขึ้นเขา - ให้ใช้เกียร์ D2 หรือ เกียร์ L ในการขับขึ้นเขาลงเขา แทนเกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 ในเกียร์ธรรมดา เมื่อพ้นทางชัน ควรสลับมาขับที่ เกียร์D ไม่ควรลากเกียร์ต่ำเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจนเครื่องดับกลางทางได้

การลงเขา – หากเป็นทางที่มีความลาดชันมากให้เปลี่ยนจากเกียร์ D มาขับที่ เกียร์D2 หรือ เกียร์ L แทน แต่ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ขณะฝนตกทางลื่น เพราะอาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้

ข้อควรระวัง – การเลือกใช้เกียร์ผู้ขับควรดูสภาพของถนนและเส้นทางที่ใช้เป็นหลัก เพราะ รถยนต์แต่ละรุ่น มีระบบเกียร์อัตโนมัติแตกต่างกัน ดังนั้นควรประเมินสภาพของเส้นทางและรถยนต์ก่อนขับขี่ถนนด้วย รวมถึงผู้ขับขี่ควรมีความชำนาญกับเส้นทางและตัวรถยนต์เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

ไม่ว่าจะโร้ดทริปไปไหน ความปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการขับขี่ อย่าลืมเพิ่มความคุ้มครองด้วยประกันภัยรถยนต์นะครับ จะประกันชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 3+ หรือ ชั้น 3 ก็ช่วยคุ้มครองให้คุณอุ่นใจ

โดยปกติแล้วทุกๆคนก็คงใช้เกียร์ D ซึ่งรถยนต์ที่ใช้เกียร์ออโต้นั้น จะต้องมีเกียร์นี้ทุกคันอย่างแน่นอน แต่เกียร์อื่นๆ นั้นก็จะมีไปตามแต่ยี่ห้อรถนั่นเองครับ เช่น เกียร์ S,L,B,D3,D2 ซึ่งในแต่ละคันก็จะมีต่างกันไปครับ แต่เกียร์เหล่านี้ก็สามารถใช้ และมีคุณสมบัติที่ไม่ได้ต่างกัน เพียงแค่รถแต่ละยี่ห้อผลิตและเรียกต่างกันเท่านั้นเอง

  • การขับขึ้นเขา – ให้ใช้เกียร์ D2 หรือ เกียร์ L ในการขับขึ้นเขาและลงเขา แทนเกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 ในเกียร์ธรรมดา เมื่อพ้นทางชัน ควรสลับมาขับที่ เกียร์D ไม่ควรลากเกียร์ต่ำเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจนเครื่องดับกลางทางได้
  • การลงเขา – หากเป็นทางที่มีความลาดชันมากให้เปลี่ยนจากเกียร์ D มาขับที่ เกียร์D2 หรือ เกียร์ L แทน แต่ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ขณะฝนตกทางลื่น เพราะอาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้

*** ข้อควรระวัง  การเลือกใช้เกียร์ผู้ขับควรดูสภาพของถนนและเส้นทางที่ใช้เป็นหลัก เพราะ รถยนต์แต่ละรุ่น มีระบบเกียร์อัตโนมัติแตกต่างกัน ดังนั้นควรประเมินสภาพของเส้นทางและรถยนต์ก่อนขับขี่ถนนด้วย รวมถึงผู้ขับขี่ควรมีความชำนาญกับเส้นทางและตัวรถยนต์เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่


วิธีขับรถขึ้นเขา ??

สามารถใช้ D เพื่อใช้ในการขับขึ้นเขาได้โดยปกติ แต่หากขับไปแล้วเส้นทางมีการลาดชันเกิดขึ้นจนทำให้เครื่องยนต์เริ่มตกลงมา ทำให้ขับต่อไปไม่ค่อยไหว คุณสามารถใช้เกียร์ D3  หรือ เกียร์ S แทนได้นะครับ เพราะการใช้เกียร์เหล่านี้ เป็นเกียร์ต่ำจึงทำให้อัตราการเร่ง และรถยนต์มีกำลังมากขึ้น และสามารถผ่านขึ้นเข้าได้อย่างต่อเนื่อง และผ่านไปได้ด้วยความปลอดภัย และหลังจากที่ผ่านช่วงที่เส้นทางสูงชันแล้วก็สามารถสลับมาใช้เกียร์ Dได้ดังเดิม


วิธีขับรถลงเข้า ??

การขับรถลงเขานั้นยากกว่าขับรถขึ้นเขาเป็นอย่างมาก และมีความเสี่ยงอันตรายมากกว่าการขับรถขึ้นเขามาก โดยคุณจะใช้เบรคเพื่อชะลอความเร็วเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะจะทำให้เบรคไหม้ได้ และห้ามเบรคบ่อยเกินไปอีกด้วย ดังนั้นคุณจึงควรใช้เกียร์ต่ำเข้าช่วย เพื่อให้เครื่องยนต์นั้นช่วงดึงกำลัง และเป็นการใช้เอนจิ้นเบรค (Engine Brake) นั่นเอง โดยคุณสามารถใช้เกียร์ D ได้ในกรณีที่ทางลงเขาไม่ได้ชันมากนัก แต่ถ้าเกิดเริ่มรู้สึกว่าทางลงนั่นชันมากขึ้นก็สามารถเปลี่ยนมาใช้เกียร์ D2 เกียร์ L  หรือเกียร์ B  และการใช้เกียร์ต่ำนั้นจะทำให้เครื่องยนต์ช่วยฉุดกำลังรถให้เคลื่อนที่ช้าลง เป็นการเบาแรงเบรกไปได้มากนะครับ


หากมีกลิ่นไหม้ !!!

หากคุณขับรถขึ้นเขา หรือ ลงเขา แล้วเกิดได้กลิ่นเหม็นไหม้ขึ้นมา แนะนำให้คุณรีบนำรถยนต์ของคุณเข้าไปจอดในที่ที่ปลอดภัยทันที เพราะกลิ่นเหม้นไหม้นั้นอาจจะเกิดขึ้นมาจากเครื่องร้อนมากเกินไป หรือเกิดเบรคไหม้เกิดขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสาเหตุไหนก็เป็นอันตรายอย่างยิ่งครับ


ขับรถขึ้นลงเขา ด้วยเกียร์ออโต้ การใช้เกียร์ต่างๆ นั้นสามารถช่วยให้คุณขับรถยนต์ขึ้นเขาและลงเข้าได้อย่างปลอดภัยและลดอุบัติเหตุได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในด้านของอุบัติเหตุก็ยังมีอีกหลายๆปัจจัยที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ การรู้วิธีการขับรถขึ้นเขาและลงเขาแล้ว ก็ใช้ว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุ หากเราไม่คุ้นชินกับเส้นทาง ไม่ชำนาญทาง หรือเป็นมือใหม่ในการขับรถ ก็ขอแนะนำว่า อย่าเสี่ยงที่จะขับขึ้นเขาและลงเขาเลยดีกว่า เพราะหากเกิดอะไรขึ้น มันจะไม่คุ้มกับสิ่งที่เราสูญเสียไปนะครับ



ด้วยความปรารถนาดีจาก เพจ ประกันรถถูกๆ ต่อง่ายๆ คุ้มครองเลย

สาระน่ารู้เรื่อง ประกันรถยนต์ที่ จริงจัง จริงใจ จริงจริง ♥

สนใจซื้อประกันรถยนต์ คลิ๊ก

  • ระบบเกียร์รถยนต์

  • รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ประกันคุ้มครองไหม

  • ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก

  • น้ำมันขึ้นเตือน ขับได้อีกกี่กิโล

ขึ้นเขาต้องใช้เกียร์อะไร

การขับรถลงเขานั้นควรใช้เกียร์ต่ำเป็นหลัก เกียร์ธรรมดา คือ เกียร์ 1-2 เกียร์ออโต้ คือ เกียร์ D2, D1, 2 หรือ L เพราะการใช้เกียร์ต่ำ เครื่องยนต์จะมีแรงฉุด แรงดึงของเครื่องยนต์ หรือที่เรียกกันว่า Engine Brake เป็นตัวช่วยในการลดความเร็ว และลดการใช้เบรกได้อีกด้วย ไม่ควรเหยียบคลัตช์

รถเก๋งขึ้นเขาใช้เกียร์อะไร

เกียร์ D1 หรือที่เรียกว่า เกียร์ต่ำ (เกียร์ L) เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ขับรถขึ้นภูเขาหรือพื้นที่ที่มีความลาดชันสูงนั่นเอง รวมไปถึงตอนลงภูเขาด้วยนะ เพราะเกียร์ D1 จะเป็นตัวช่วยให้เครื่องยนต์ถูกเบรกเอาไว้ ทำให้การไหลของรถช้าขึ้น ช่วยลดการเหยียบเบรกและมีผลพลอยได้ที่ทำให้ไม่ต้องใช้ผ้าเบรกสิ้นเปลืองนะคะ

ขึ้นเนินใช้เกียร์อะไร กระปุก

เช่นเดียวกับวิธีขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์กระปุกเลยครับคือ ห้ามใส่เกียร์ว่าง หรือ N เพราะจะทำให้รถไหลแล้วเสียการควบคุม ทางที่ดีควรเปลี่ยนเป็นเกียร์ D1-D2 เพื่อรักษาความเร็วของรถให้เสถียร รถจะวิ่งหน่วงๆ และช้าลง ทำให้คุณขับรถลงเขาอย่างปลอดภัย แล้วที่สำคัญไม่เหยียบคันเร่ง และไม่เหยียบเบรคยาวๆ

ขึ้นเขาใช้เกียร์อะไร ยาริส

S (Sport) : สำหรับเร่งแซง หรือขับขึ้นเขา ตอบสนองอัตราเร่งได้ดี เกียร์จะเปลี่ยนช้าลง ได้รอบที่สูงขึ้น B (Brake) : สำหรับขับขึ้นลงทางชัน ช่วยเบรกในระบบการทำงานด้วยเกียร์ (ใช้งานเหมือนเกียร์ L)

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง