Soloist
ประกอบด้วยนักดนตรีจำนวน 1 ท่าน เล่นเครื่องดนตรี 1 ชิ้น สามารถเลือกได้ระหว่าง......
กีต้าร์, เปียโน (หรือคีย์บอร์ด), ไวโอลิน, เชลโล่, แซ็กโซโฟน
*** เลือกได้เพียง 1 เครื่องดนตรีที่ต้องการเท่านั้น
Music Connection - Soloist จัดเป็นรูปแบบวงดนตรีขนาดเล็กที่สุดที่สามารถบรรเลงในงานได้ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเรียบง่ายของดนตรีบรรเลงคลอบรรยากาศ หากเป็นเดี่ยวกีต้าร์ จะได้ซาวน์ดนตรีแบบอะคูสติกใสๆ ฟังสบายๆ เหมือนแนวดนตรี Cover ที่นิยมเผยแพร่ใน Youtube หากเป็นเดี่ยวเปียโน จะได้ความนุ่มละมุน ยิ่งโดยเฉพาะงานที่ใช้เปียโนไม้จริง นอกจากจะได้ความนุ่มของเสียงจากเนื้อไม้เปียโนแล้ว ยังได้ภาพของความหรูหราอีกด้วย ส่วนไวโอลินและแซ็กโซโฟนจัดเป็นเครื่องดนตรีโซโล่ หากต้องบรรเลงเดี่ยว จะนิยมใช้ Backing Track ประกอบการเล่นเพื่อความสมบูรณ์ของเพลง
TOTAL : 13,000 Baht
สิ่งที่จะได้รับใน Package
นักดนตรีจำนวน 1 ท่าน (โดยเลือกประเภทเครื่องดนตรีที่ต้องการ 1 ชิ้นตามข้างต้นค่ะ)
ชุดเครื่องเสียง (Sound System) พร้อมด้วย Sound Engineer และทีม Back Stage ดูแลตลอดจนจบงาน
เงื่อนไขการทำงาน
ระยะเวลา Stand By ประมาณ 3 ชั่วโมง รวมเวลาพักของทีมงาน (ไม่รวมเวลาเข้า Set Up อุปกรณ์)
นักดนตรีจะพิจารณารูปแบบและระยะเวลาการเล่นในแต่ละช่วง รวมถึงเพลงที่เหมาะบรรยากาศหน้างานจริง หรือตามที่ลูกค้ากำหนดมาอย่างเหมาะสม
สามารถ Request แนวเพลง หรือเพลงพิเศษที่ต้องการให้บรรเลงในงานได้
ราคานี้สำหรับเขตกรุงเทพฯ และใกล้เคียง สำหรับงานต่างจังหวัด ขอรับตั้งแต่ Package - Duo ขึ้นไป
ราคาข้างต้น เป็นราคาเริ่มต้นตามเงื่อนไขระยะเวลาการทำงานที่ระบุไว้ และสเปกเครื่องเสียงรองรับแขกได้ตั้งแต่ 50-350 ท่าน
กรณีที่ต้องการเพิ่มเวลา Stand By หรือเพิ่มสเปกเครื่องเสียงให้เหมาะกับสเกลงาน จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สอบถามได้ทาง Line นะคะ
การบรรเลงดนตรีไทย แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ การบรรเลงเดี่ยว และการบรรเลงหมู่
2. การบรรเลงหมู่ 2.2 การบรรเลงเครื่องดนตรีหลายชนิดประสมกันเป็นวง เป็นลักษณะการบรรเลงที่นำเครื่องดนตรีหลายชนิดมาประสมกันเป็นวงตามแบบแผนดนตรีไทย ได้แก่ วงปี่พาทย์ชนิดต่างๆ วงเครื่องสาย และวงมโหรี การบรรเลงลักษณะนี้
ผู้บรรเลงต้องตรวจสอบความพร้อมของเครื่องดนตรีอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดนตรีประเภทที่ใช้สาย สายอาจตึง หย่อน หรือขาดได้ ต้องรู้จักหน้าที่ของเครื่องดนตรีที่ตนบรรเลง ไม่ก้าวก่ายหน้าที่ของเครื่องดนตรีอื่น ทุกคนต้องขยันหมั่นฝึกซ้อมร่วมกัน เพื่อให้การบรรเลงพร้อมเพรียง ไพเราะ น่าฟัง ไม่ผิดพลาด
รูปแบบการบรรเลงดนตรีไทย
1. การบรรเลงเดี่ยว
1.1 การบรรเลงเครื่องดนตรีชนิดใดชนิดหนึ่งตามลำพังคนเดียว ไม่มีเครื่องดนตรีใดๆมาร่วม การบรรเลงลักษณะนี้
ผู้บรรเลงสามารถกำหนดระดับเสียงได้ตามต้องการ ส่วนใหญ่ใช้บรรเลงเพื่อฝึกซ้อม หรือการบรรเลงที่ไม่เป็นพิธีการ ทำนองเพลงเป็นทำนองปกติ ไม่มีลีลาพิเศษ
1.2 การบรรเลงคนเดียวที่ผู้บรรเลงต้องแสดงความสามารถ หรือฝีมือในการแสดงโดยคำนึงถึงความสมบูรณ์แบบของการบรรเลง ทั้งเสียง ทำนอง จังหวะ ตลอดจนเทคนิคการบรรเลง การบรรเลงประเภทนี้จะมีเครื่องกำกับจังหวะ ได้แก่ ฉิ่ง กลอง ประกอบการบรรเลงด้วย
การบรรเลงหมู่ หมายถึง การบรรเลงโดยผู้บรรเลงมากกว่า 1 คนขึ้นไป มีลักษณะ ดังนี้
2.1
การบรรเลงเฉพาะเครื่องดนตรีชนิดใดชนิดหนึ่งพร้อมกันมากกว่า 1 คนขึ้นไป มีแต่การบรรเลงไม่เกี่ยวข้องกับการขับร้อง เช่น การบรรเลงขิมหมู่ จะเข้หมู่ ระนาดเอกหมู่ เป็นต้น การบรรเลงลักษณะนี้ผู้บรรเลงทุกคนต้องตรวจสอบเสียงของเครื่องดนตรีให้ตรงกัน ต้องบรรเลงให้ทำนองเหมือนกันและพร้อมเพรียงกัน ไม่ว่าขึ้นเสียงสูงหรือลงเสียงต่ำก็ต้องเหมือนกันทุกคน การบรรเลงลักษณะนี้ ผู้บรรเลงทุกคนจึงจำเป็นต้องฝึกซ้อมร่วมกันให้มาก เพื่อให้เสียงที่บรรเลงออกมาเป็นเสียงเดียวดุจการบรรเลงเพียงคนเดียว
โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้
เครื่องหมาย และสัญลักษณ์ในดนตรีสากล
เครื่องหมาย และสัญลักษณ์ทางดนตรีสากลที่ประดิษฐ์ขึ้น เพื่อใช้ในการบันทึกบทเพลงต่างๆมิให้สูญหาย และเป็นที่ยอมรับกันในระดับสากล มีดังนี้ 1. บรรทัด 5 เส้น (Staff) บรรทัด 5 เส้น เป็นสัญลักษณ์ทางดนตรีที่ผู้เรียนดนตรีสากลควรทราบต่อจากตัวโน้ตและตัวหยุด เป็นสิ่งที่แสดงว่าตัวโน้ตที่บันทึกลงในบรรทัด 5 เส้นนี้มีระดับใด เสียงสูง หรือต่ำ กว่าตัวโน้ตตัวอื่นๆ หรือไม่ ลักษณะของบรรทัด 5 เส้น หรือเส้นบันทึกโน้ต เป็นเส้นตรงแนวนอน 5 เส้น ที่ขนานกันและมีระยะห่างเท่าๆกัน ใช้สำหรับบันทึกตัวโน้ตและตัวหยุด วิธีการนับเส้นและช่อง จะนับจากเส้นข้างล่างขึ้นไปหาเส้นข้างบน ดังนี้ นอกจากบรรทัด 5 เส้น ซึ่งใช้เป็นหลักในการบันทึกตัวโน้ต และตัวหยุดแล้ว ยังมีเส้นที่ใช้ขีดใต้ บรรทัด 5 เส้น หรือ เหนือบรรทัด 5 เส้น เป็นเส้นสั้นๆ ที่ใช้ขีดเฉพาะตัวโน้ตที่มีระดับเสียงต่ำกว่า หรือมีระดับเสียงสูงกว่าเส้นที่ปรากฏในบรรทัด 5 เส้น เรียกเส้นสั้นๆนี้ว่า เส้นน้อย (Ledger Line) 2. ลักษณะตัวโน้ต และตัวหยุด 1) ตัวโน้ต คือ เครื่องหมายที่ใช้บันทึกแสด
ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์งานดนตรี
การสร้างสรรค์บทเพลง หรือประพันธ์เพลงไทยแต่ละเพลง เปรียบได้กับการประพันธืบทร้อยกรองในลักษณะต่างๆ เช่น โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน เป็นต้น เพราะการสร้งสรรค์บทเพลงไทยจะต้องพิจารณษนำเสียงแต่ละเสียงมาเรียบเรียงให้สอดประสานกลมกลืนกันอย่างเหมาะสมสามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ตามที่ตนต้องการถ่ายทอดให้แก่ผู้ฟังได้ ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงรูปแบบของเพลงแต่ละประเภทให้เป็นไปตามแบบแผนที่กำหนดไว้ด้วย เช่นเดียวกับการประพันธ์บทร้อยกรองต่างๆ ที่ผู้ประพันธ์ต้องคัดสรรคำแต่ละให้มีทั้งเสียงและความหมาที่สัมผัสคล้องจองกัน มีสัมผัสใน สัมผัสนอก แบ่งวรรคตอนให้ครบถ้วนตามแบบแผนที่กำหนดไว้ โดยปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์งานดนตรี มีดังนี้ ๑) ธรรมชาติ เป็นสิ่งหนึ่งที่มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อจินตนาการของผู้ประพันธ์บทเพลงไทย การได้เห็นธรรมชาติที่สวยงามไม่ว่าจะเป็นภูเขา นำ้ตก ทะเล ต้นไม้ ดอกไม้ หรือได้ยินได้ฟังเสียงของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น เสียงคลื่น ลม น้ำตก ฝน ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เสียงร้องของสัตว์ต่างๆ เป็นต้น ย่อมทำให้ศิลปิน หรือผู้ที่ได้สัมผัสสิ่งต่างๆเหล่า่นั้น เกิดจิน
วิวัฒนาการของดนตรีไทยในแต่ละยุคสมัย (สุโขทัยและอยุธยา)
การศึกษาเรื่องราวของดนตรีไทยนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทราบถึงแหล่งกำเนิด ความเป็นมา และวิวัฒนาการของดนตรีไท่ยในแต่ละยุคสมัย เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความซาบซึ้ง มองเห็นคุณค่าของดนตรีไทย อันเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมประจำชาติไทย ซึ่งการแบ่งยุคสมัยทางดนตรีของไทยจะนิยมกำหนดตามยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ดังต่อไปนี้ 1. สมัยสุโขทัย สมัยสุโขทัยนับเป็นสมัยเริ่มต้นที่คนไทยรวตัวกันเป็นชาติอย่างสมบูรณ์ แทนที่จะเป็นเพียงอาณาจักรที่มีเขตอิทธิพลอย่างจำกัดดังแต่กอ่น เรื่องราวของสุโขทัยมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อพ่อขุนรามคำแหงได้ประดิษฐ์อักษรไทยและจารึกเรื่องราวต่างๆ ลงในหลักศิลาจารึก และจากศิลาจารึกนี้เองทำให้คนรุ่นหลังทราบว่าสมัยสุโขทัยเป็นยุคสมัยหนึ่งที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การทหาร ภาษา และศิลปวัฒนธรรม ชาวเมืองมีเครื่องเล่นสร้างควงามรื่นเริงบันเทิงใจ และมีอิสระเสรีที่จะแสดงออกในเรื่องราวของบทเพลงและดนตรี เพลงและเรื่องราวของดนตรีบางส่วนจึงปรากฏอยู่บนหลักศิลาจารึก เช่น ข้อความที่ว่า "เสียงพาทย์ เสียงพิณ เสียงเลื่อน เสียงขับ"