เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าทุกวันนี้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนต้องผจญกับมลภาวะต่างๆและอากาศที่เป็นพิษที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีก็ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างเครื่องมือมาช่วยทำให้อากาศสะอาด สดชื่น นั่นก็คือ เครื่องฟอกอากาศ อุปกรณ์ที่ทำการกรองอากาศในบริเวณที่เราอยู่อาศัย เช่น ในรถ ในห้องนอน หรือ ภายในบ้านพักอาศัย โดยมีหลักการทำงานสำคัญด้วยการเน้นไปที่เทคโนโลยีแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูงสามารถดักจับพวกเชื้อแบคทีเรียที่ลอยมากับอากาศได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงความสามารถในการดักกลิ่น กรองกลิ่นต่างๆ ที่อยู่ภายในอากาศได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ปัจจุบันนี้มีเครื่องฟอกอากาศราคาตั้งแต่หลักหมื่นต้นๆไปถึงหลายหมื่นตามรุ่น ยี่ห้อ และความสามารถในการกรองอากาศให้เลือกซื้อมาใช้ในบ้านกันอย่างหลากหลาย เพราะข้อดีและประโยชน์ที่เห็นได้ชัดคือช่วยเพิ่มโอโซนในอากาศ และทำให้อากาศในบ้านสะอาดมากขึ้น
เลือกเครื่องฟอกอากาศราคาไม่แพงไว้ในบ้านเครื่องเดียว ได้ประโยชน์ถึง 5 อย่าง
- ช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและโรคทางเดินหายใจที่เกิดจากฝุ่น เชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคภูมิแพ้ เพราะในอากาศเต็มไปด้วยฝุ่นละอองและอะไรหลายๆอย่างที่มีอนุภาคเล็กมากจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ต่างๆ เครื่องฟอกอากาศจะช่วยกรองสิ่งต่างๆเหล่านี้เพื่อให้ทุกคนได้สูดอากาศที่ปลอดภัยที่สุด
- ช่วยลดอาการกำเริบของภูมิแพ้ มีหลายคนและหลายครอบครัวที่ตัดสินใจซื้อเครื่องฟอกอากาศ เพื่อเป็นตัวช่วยทำให้อาการภูมิแพ้ทุเลาลง และส่วนใหญ่ก็ได้ผลเป็นอย่างดี รวมไปถึงอาการเป็นไข้หวัดคัดจมูกด้วย
- แก้ปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับหรือหลับยาก จากอาการนอนหลับไม่สนิท หรือหลับๆ ตื่นๆ อ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากสภาวะอากาศและฝุ่นละออง เครื่องฟอกอากาศจะทำให้ปัญหาเหล่านี้จะค่อยๆลดลงไปและทำให้นอนหลับสนิทตลอดคืนในบรรยากาศของอากาศบริสุทธิ์
- เครื่องฟอกอากาศช่วยให้ปอดทำงานดีขึ้น อากาศที่สะอาดก็เหมือนได้ช่วยฟอกปอดให้แข็งแรง เพราะการได้สูดดมอากาศที่สดชื่น ย่อมมีผลให้ร่างกายได้รับแต่สิ่งที่ดีและลดการทำงานหนักของปอดลงได้ ส่งผลไปถึงสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ขอแนะนำว่าถ้ามีงบประมาณเพียงพอไม่เดือดร้อน การเลือกเครื่องฟอกอากาศราคาสูง ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ประสิทธิภาพสูง นอกจากจะทำให้อากาศสดชื่น ยังมีคุณสมบัติทำให้อากาศปลอดมลพิษ และขจัดกลิ่นได้อย่างดีเยี่ยม รวมทั้งฆ่าเชื้อโรค ยับยั้งเชื้อโรคในอากาศไม่ให้แพร่และขยายจำนวน ทำลายกลิ่นสารเคมี ก๊าซพิษ ไม่ให้มีสารพิษตกค้าง
เพิ่มโอโซนในบ้านเพื่อสุขภาพของคนที่คุณรัก
ปัจจุบันมีเครื่องฟอกอากาศแบบผลิตโอโซน ซึ่งเป็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยีออกวางจำหน่าย โดยมีคุณสมบัติเฉพาะตัวคือช่วยให้บริเวณที่ติดตั้งมีสภาวะปลอดมลพิษไร้กลิ่นและยังช่วยให้อากาศสดชื่น สามารถฆ่าเชื้อโรคได้รวดเร็วโดยเฉพาะแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคและกลิ่นเหม็น เมื่อทำปฏิกิริยากับมลพิษเสร็จทุกครั้ง จะได้ออกซิเจนกลับมาในอากาศ สามารถผลิตขึ้นได้จากอากาศทั่วๆไปและบริเวณที่มีไฟฟ้าใช้ ควบคุมการทำงานได้ง่ายเพราะเป็นระบบอัตโนมัติ ที่สำคัญคือโอโซนมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคได้ดีกว่าคลอรีนหลายเท่าโดยไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างที่มีอันตราย เหมาะกับบ้านที่มีเด็กกับสัตว์เลี้ยงเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นแมวหรือสุนัข ที่บางบ้านก็ชอบเลี้ยงไว้ในบ้าน ซึ่งสัตว์เหล่านี้ก่อให้เกิดมลภาวะทั้งทางอากาศคือกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยังเป็นที่สะสมเชื้อโรคที่มองไม่เห็นอีกด้วย เพราะฉะนั้นถ้ามีโอโซนเยอะๆ ก็จะช่วยทำให้ลดความเสี่ยงกับการเกิดโรคภัยไข้เจ็บที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ไม่น้อย ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการใช้งานและบำรุงรักษาเครื่องฟอกอากาศแบบผลิตโอโซนก็ไม่สูงมากจนเกินไป ทั้งยังมีความอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งหมดนี้ก็เป็นคุณสมบัติและประโยชน์แบบคร่าวๆ เพื่อประกอบการพิจารณาถึงข้อดี ข้อเสีย ต่างๆ ที่จะได้รับ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อมาไว้เพิ่มปริมาณโอโซนที่บ้านอีกเครื่อง
จะเห็นได้ว่าเครื่องฟอกอากาศก็มีให้เลือกใช้งานค่อนข้างหลากหลาย ตาม รุ่น ยี่ห้อ และราคา โดยมีเทคโนโลยีการผลิตเป็นคุณสมบัติสำคัญ การพิจารณาเลือกเครื่องฟอกอากาศราคาไม่แพงก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพไม่ดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่การใช้งานด้วยส่วนหนึ่ง เพราะประโยชน์หลักๆที่จะได้รับก็คือการทำให้อากาศสะอาด มีโอโซนที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ส่งผลให้ผู้รับอากาศบริสุทธิ์เข้าไปได้นอนหลับสบาย มีสุขภาพที่แข็งแรง ปอดก็ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ไม่เป็นหวัดหรือโรคภัยไข้เจ็บอะไรได้ง่ายๆ และนอกจากจะเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ทำงานได้ดีแล้ว ผู้ใช้งานก็ต้องทราบวิธีในการดูแลและใช้งานมันอย่างถูกต้องด้วยเช่นกัน
คำแนะนำเรื่องการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับบ้านและอากาศที่แย่ลงทุกๆ วัน
รู้จัก เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )
เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยกำจัดฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอมในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย เชื้อไวรัส กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )จึงเหมาะสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ สำหรับการทำงานของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) คือการดูดอากาศเข้าตัวเครื่องและผ่านตัวกรองให้ดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศ อากาศที่ออกมาจึงบริสุทธิ์และสะอาด
เราจำเป็นต้องใช้ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ไหม
โดยปกติถ้าอากาศไม่ได้มีสภาพเลวร้าย อากาศไม่ได้มีฝุ่นละออง เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) จึงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้มีความจำเป็นมากนัก แต่ใครที่เป็นภูมิแพ้เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนี้จะเหมาะและมีความจำเป็นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่กรุงเทพฯ กำลังเผชิญกับค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐาน
ข้อดีของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )
– ช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและโรคทางเดินหายใจที่เกิดจากฝุ่น เชื้อแบคทีเรีย เพราะ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) จะช่วยกรองสิ่งต่างๆ ให้อากาศบริสุทธิ์
– ตัวช่วยคนเป็นโรคภูมิแพ้ มีหลายๆ บ้านอาการภูมิแพ้บรรเทาลงเพราะได้ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) และยังทำให้การเป็นไข้หวัดคัดจมูกดีขึ้นด้วย
– ทำให้หลับสนิทได้มากขึ้น เนื่องจาก เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ทำให้อากาศดีขึ้น
ข้อเสียของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )
– เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ไม่ใช่เครื่องกำจัดฝุ่นละออง ดังนั้นฝุ่นละอองต่างๆ จึงยังอยู่ เพียงแต่มีเครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) เป็นตัวกรองให้อากาศสะอาดขึ้น
– ไม่ใช่ตัวช่วยทำให้โรคภูมิแพ้หาย แต่ช่วยทำให้อาการทุเลาลงได้
วิธีเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )
เมื่อตัดสินใจจะเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) นี่คือปัจจัยที่ใช้พิจารณาประกอบการเลือกซื้อ
ขนาดของห้อง ใช้หลักการเดียวกันกับการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศเลยก็ว่าได้ ยิ่งห้องมีขนาดใหญ่เท่าไร ก็ต้องเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อจะได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นวิธีการคือวัดขนาดกว้าง ยาวของห้อง แล้วดูค่าเปลี่ยนถ่ายอากาศทุกชั่วโมงของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ว่าค่าคือเท่าไร
ค่า CADR อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการพิจารณาซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) คือการดูจากอัตราเปลี่ยนถ่ายอากาศต่อชั่วโมง หรือค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) ซึ่งตัวเลขนี้จะได้จากการวัดปริมาณอากาศทั้งหมดที่ระบบฟอกอากาศสามารถทำความสะอาดได้ภายใน 1 นาที ซึ่งปกติจะแสดงผลเป็นตัวเลข 3 ตัวเลขคืออัตราทำความสะอาดอากาศที่มีฝุ่นละออง อากาศที่มีเกสรดอกไม้ และอากาศที่มีควันบุหรี่ ยิ่งตัวเลขสูง ย่อมแสดงว่า เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) นั้นสามารถทำงานได้ดี
Air Volume หรือ Air Flow นี่เป็นอีกสิ่งที่ควรพิจารณาประกอบการเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) เพราะเมื่อมีสิ่งสกปรกเข้าไปอัดแน่นอยู่เป็นจำนวนมาก มันจะเป็นเครื่องกรองที่ช่วยทำความสะอาด เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ด้วยตัวเอง
ระบบการใช้งานต่างๆ เรื่องระบบการใช้งานต่างๆ นั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าต้องการตอบสนองความสะดวกสบายของตนเองมากน้อยแค่ไหน เช่น ระบบที่สามารถปรับระดับความเบา ความแรงของเครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )ได้เองโดยอัตโนมัติ รวมทั้งควรมีฟังก์ชั่นการตั้งเวลาเปิด-ปิดเพื่อให้เครื่องสามารถหยุดการทำงานในขณะที่เราหลับหรือไม่อยู่บ้าน
ระดับเสียง เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่ดีควรมีระดับเสียงต่ำขณะทำงาน เพราะผู้เป็นภูมิแพ้บางคนอาจต้องเปิดเครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ขณะนอนหลับ ดังนั้นจึงควรเลือกระดับเสียงในการทำงานที่มีค่าประมาณ 30-31 เดซิเบล ส่วนใครที่ไม่คิดว่าจำเป็นต้องใช้งานตอนกลางคืน อาจข้ามเรื่องเสียงไป
อะไหล่เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) เมื่อต้องตัดสินใจซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) นอกจากเรื่องของระบบการทำงาน ดีไซน์ต่างๆ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรคิดและพิจารณาไว้ล่วงหน้าเลยก็คืออะไหล่ของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่อาจต้องพิจารณาว่าถ้าเกิด เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) มีปัญหาขึ้นมาในภายหลัง เราจะสามารถหาซื้ออะไหล่เหล่านั้นได้สะดวกหรือไม่ โดยเฉพาะพวกแผ่นกรองและไส้กรองต่างๆ
ประหยัดค่าไฟ ส่วนหนึ่งที่ทำให้มีผลต่อค่าไฟคือแผ่นกรอง ถ้าแผ่นกรองหนาแน่นมากอากาศผ่านได้น้อย จะยิ่งทำให้เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ทำงานหนัก และกินไฟ ดังนั้นควรเลือก เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่มีแผ่นกรองแบบที่อากาศไหลผ่านได้ดี รวมทั้งให้พิจารณาฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ร่วมด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook