โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย ชนิดหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน (STEMI) เป็นภาวะที่หลอดเลือดหัวใจมีการอุดตันแบบสมบูรณ์ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่รับเลือดอยู่เกิดการขาดเลือดแบบเฉียบพลัน โดยจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเป็นนาทีหรือไม่เกินชั่วโมง กลไกการเกิดโรคส่วนใหญ่เกิดจากการปริแตกของตะกรันไขมันที่เกาะในหลอดเลือด เมื่อมีการปริแตกร่างกายจะระดมเกร็ดเลือดและสร้างลิ่มเลือดขึ้นมาอุดหลอดเลือดส่วนนั้น จนส่งผลให้หลอดเลือดมีการอุดตันโดยสมบูรณ์ ผู้ป่วยมักจะมีอาการเจ็บแน่นกลางอกหรือหน้ามืดเป็นลม บางรายอาจถึงขั้นหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ภาวะนี้เป็นภาวะฉุกเฉินมีอันตรายถึงชีวิต อัตราการเสียชีวิตของโรคนี้อยู่ที่ร้อยละ 5-10 การรักษาคือการเปิดหลอดเลือดที่อุดตันให้เร็วที่สุด “เพราะทุกนาทีที่เสียไป หมายถึงกล้ามเนื้อหัวใจที่เสียหายขาดเลือดตามไปด้วย”
ศูนย์หัวใจโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ได้พัฒนาแนวทางปฏิบัติและการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคนี้โดยอ้างอิงจากแนวทางปฏิบัติระดับสากลในต่างประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ทันเวลา โดยปัจจุบัน วิธีการเปิดหลอดเลือดนั้นทำได้ 2 วิธี คือ
- การให้ยาสลายลิ่มเลือด (Fibrinolytics)
- การสวนหัวใจเพื่อทำการเปิดหลอดเลือดด้วยบอลลูนหรือขดลวด (Percutaneous Coronary Intervention, PCI)
การเปิดหลอดเลือดด้วยวิธีการสวนหัวใจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน โดยอัตราความสำเร็จในการเปิดหลอดเลือดได้อยู่ที่ร้อยละ 95 เมื่อเทียบกับวิธีการให้ยาสลายลิ่มเลือดที่ร้อยละ 60-70 ดังนั้นศูนย์หัวใจโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตจึงเลือกวิธีการสวนหัวใจเป็นวิธีแรก แพทย์และทีมงานต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อเปิดหลอดเลือดให้เร็วที่สุด ตามมาตรฐานสากลผู้ป่วยควรจะได้รับการเปิดหลอดเลือดหัวใจภายในเวลา 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่มีอาการ และภายใน 90 นาทีนับตั้งแต่พบบุคลากรทางการแพทย์
ศูนย์หัวใจโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตมีห้องสวนหัวใจที่ได้มาตรฐาน ทีมแพทย์ศูนย์หัวใจและบุคลากรมีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง การตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็วและมีระบบการรับผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถเปิดหลอดเลือดได้ภายใน 90 นาที
อัตราการเปิดหลอดเลือดหัวใจโดยวิธีการสวนหัวใจ นับตั้งแต่ผู้ป่วยพบบุคลากรทางการแพทย์ภายใน 90 นาที
ในปี พ.ศ.2562 ผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายชนิดหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลันของโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต มีอัตราการเปิดหลอดเลือดหัวใจภายในระยะเวลา 90 นาที นับตั้งแต่ผู้ป่วยพบบุคลากรทางการแพทย์ ที่ร้อยละ 93.75 โดยเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ.2561 ถึงร้อยละ 4.75 ซึ่งเป็นสถิติที่ดีเมื่อเทียบกับผลลัพธ์การรักษาของโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา ในอันดับที่ 50 เปอร์เซ็นต์ไทล์ ที่มีอัตราการเปิดหลอดเลือดหัวใจภายในระยะเวลา 90 นาที นับตั้งแต่ผู้ป่วยพบบุคลากรทางการแพทย์ ร้อยละ 85.1
*อ้างอิง: ACC-NCDR Registry. Percentage of STEMI patients receiving Primary PCI with In 90 minutes. A Data Form The NCDR Chest Pain-MI Registry. J Am Coll Cardiol [Internet]. 2018 [cited 2019 Apr 12]. Available from: //cvquality.acc.org/NCDR-Home/registries/hospital-registries/chest-pain-mi-registry
1. ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
เกิดเนื่องจากมีการตีบตันเฉียบพลันของหลอดเลือดหัวใจนั่นเอง โดยมีกลไกอันเนื่องมาจากไขมันที่เคยสะสมในหลอดเลือดมาช้านาน เกิดมีการปริแตกขึ้น หลังจากนั้นจะไปกระตุ้นให้เกิดการก่อตัวของลิ่มเลือดจนทำให้หลอดเลือดเส้นนั้นเกิดการตีบตันขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจบริเวณที่เคยรับเลือดเกิดการขาดเลือดไปเลี้ยงอย่างทันทีทันใด กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใน เวลาไม่เกินชั่วโมง
2.อาการแสดงเป็นอย่างไร ?
ส่วนใหญ่จะมีอาการ เจ็บแน่นอกเหมือนมีของหนักกดทับ เป็นได้ตั้งแต่บริเวณกลางอกจนถึงลิ้นปี บางครั้งอาการเจ็บอาจร้าวขึ้นกรามและแขนทั้งสองข้างได้ นอกจากนั้นอาการอื่นที่เกิดขึ้นได้ก็เช่น อาการวูบหรือหมดสติ และอาการเหนื่อยง่ายเวลาออกแรง
3.การรักษาทำได้อย่างไร ?
หลักการคือต้องทำการเปิดหลอดเลือดหัวใจที่ตีบให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งช้า กล้ามเนื้อหัวใจยิ่งได้รับความเสียหายหรือเกิดการตายอย่างถาวรได้ โดยวิธีการในปัจจุบันแบ่งออกเป็นสองวิธี คือ 1. การให้ยาสลายลิ่มเลือด ( Fibrinolytic) และ 2. การฉีดสีสวนหัวใจ (PCI) การรักษาโดยวิธีการสวนหัวใจนั้น ณ ปัจจุบัน ถือเป็นวิธีรักษาหลักที่ให้ผลดีที่สุด มีโอกาสเปิดหลอดเลือดหัวใจได้สำเร็จมากกว่าร้อยละ 90 ในขณะที่การให้ยาสลายลิ่มเลือดนั้นโอกาสที่ยาจะเปิดหลอดเลือดหัวใจได้เพียงร้อยละ 60-70
4. ภาวะนี้มีความเร่งด่วนในการรักษาแค่ไหน ?
ลักษณะการตีบตันของหลอดหัวใจนั้นจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ 1. ตีบแบบสมบูรณ์ ( STEMI) และ 2. ตีบแบบไม่สมบูรณ์ (NSTEMI) ถ้าเป็นการตีบชนิดสมบูรณ์หรือตันไปเลยนั้น กล้ามเนื้อหัวใจจะขาดเลือดแบบรุนแรง ดังนั้นควรเปิดหลอดเลือดให้ได้ภายในสองชั่วโมงนับแต่วินิจฉัยได้ หรือเร็วที่สุดนับตั้งแต่มีอาการ ส่วนถ้าเป็นการตีบชนิดไม่สมบูรณ์ ซึ่งการตีบลักษณะนี้หลอดเลือดจะยังพอมีทางให้เลือดไหลผ่านได้บ้าง อย่างไรก็ตามควรทำการฉีดสีสวนหัวใจเพื่อเปิดหลอดเลือดภายใน 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่วินิจฉัย
5. การสวนหัวใจมีวิธีการทำอย่างไร ?
แพทย์จะทำการแทงเข็มขนาดประมาณเข็มน้ำเกลือเข้าสู่หลอดเลือดแดงบริเวณข้อมือ หรือขาหนีบ ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์แต่ละท่าน และร่อนสายลวดและอุปกรณ์ทุกอย่างผ่านเข็มนี้ขึ้นไปสู่หลอดเลือดหัวใจ หลังจากนั้นจะทำการฉีดสีเข้าสู่หลอดเลือดหัวใจเพื่อวินิจฉัยหาจุดตีบ และเมื่อเห็นจุดตีบ แพทย์จะพยายามเปิดเส้นเลือดด้วยสายลวดและบอลลูน เมื่อเส้นเลือดเปิดแล้วแพทย์จะต้องใส่ขดลวดหรือ stent เพื่อค้ำยันลอดเลือดบริเวณนั้นอีกครั้งเพื่อป้องกันการตีบซ้ำ
6. มีโรงพยาบาลแห่งใดในเขตอันดามันที่มีห้องสวนหัวใจ (cardiac cath lab) บ้าง?
ในเขตจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง ศูนย์หัวใจที่มีห้องฉีดสีสวนหัวใจ มีเฉพาะที่รพ.กรุงเทพ ภูเก็ต และ รพ.วชิระ ภูเก็ต เพียงสองแห่งเท่านั้น โดย ศูนย์หัวใจ รพ.กรุงเทพภูเก็ต เป็นที่ที่มีความพร้อมในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
- Facebook iconFacebook
- Twitter iconTwitter
- LINE iconLine