✿
ว่าด้วยเรื่องแต่งหน้าบางครั้งแค่รองพื้นก็เอาไม่อยู่จริง ๆ ใช่ม้า? พวกรอยสิว รอยคล้ำใต้ตาก็คือแบบหนักหนาสาหัสเหลือเกิ๊นนนนน~ ดังนั้นเนี่ยเราก็เลยจะต้องหาซื้อคอนซีลเลอร์ดี ๆ สักตัวมาใช้ แต่เอ๊ะ! พอหาไปหามาดันเจอสีที่ไม่ธรรมดา แบบสีเขียว สีชมพู สีม่วง ก็คือเป็นงงไปหมดว่านี่คือคอนซีลเลอร์หรืออะไร ถ้าไม่ใช่แล้วเรียกว่าอะไร เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยเจอเหตุการณ์อะไรประมาณนี้แน่นอนเลยใช่ม้า? คือมันเป็นมึนตึ๊บไปเลย แถมถ้าใครเป็นมือใหม่ละก็ยิ่งมึนกว่าเดิม วันนี้เราก็เลยจะมาอธิบายเรื่อง คอนซีลเลอร์ ( Concealer ) และ คอร์เรคเตอร์ ( Corrector ) ให้ทุกคนฟังแบบรวบรัด เข้าใจง่าย ว่าคืออะไร? และมีวิธีใช้ยังไง? อ่านจบแล้วเดินออกไปซื้อมาใช้ได้เลยทันที แอบกระซิบว่ามีแนะนำตัวไหนใช้เด็ดใช้ดีด้วยนะจ๊ะ เอาละ~ อย่ามัวแต่รอช้า เลื่อนลงมาส่องกันเลยดีกว่าจ้าาาาา ♥
● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ●
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
ว่าด้วยเรื่องของคอนซีลเลอร์กันก่อนเลยค่ะ คอนซีลเลอร์มาจากคำว่า Conceal ที่แปลว่าปกปิด เติม er เข้าไปก็หมายถึงตัวที่ใช้ในการปกปิดนั่นเอง และถ้าถามว่าปกปิดอะไร ก็คือปิดปิดพวกริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ไม่ว่าจะรอยดำ รอยแดงจากสิว เส้นเลือดบนใบหน้า รอยช้ำต่าง ๆ หรือรอยคล้ำใต้ตานั่นเองค่ะ รอยพวกนี้บางครั้งแค่รองพื้นหรือคุชชันก็เอาไม่อยู่นะคะ ต้องใช้เจ้าตัวนี้เพิ่มการปกปิดให้ผิวดูเรียบเนียนสวยมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็มีให้เลือกซื้อหลากหลายแบบเลยค่ะ แต่แบบที่จะนิยมสุด ๆ ก็คือแบบลิควิดและแบบครีมเลยค่ะ การใช้งานก็แตกต่างกัน ส่วนมากแบบครีมจะใช้ในการปกปิดรอยสิวหรือสิว ส่วนแบบลิขวิดก็จะใช้ในการปิดใต้ตาเพราะเป็นแบบน้ำ ๆ มีความยืดหยุ่นกว่า ช่วงใต้ตาของเราค่อนข้างจะขยับบ่อย ถ้าใช้แบบครีมอาจจะแห้งไปแล้วเสี่ยงทำให้มีรอยแตก ๆ นั่นเองค่า ใครจะใช้ปกปิดอะไรก็ลองไปหาซื้อกันดูนะคะ :-D
จบจากเรื่องคอนซีลเลอร์ก็มาต่อกันที่คอร์เรคเตอร์กันเลยค่า สำหรับคอร์เรคเตอร์ ( Corrector ) ถ้าแปลตรง ๆ ก็คือตัวแก้ไขจุดที่ผิด ซึ่งเจ้าตัวนี้ก็ทำหน้าที่แบบนี้จริง ๆ ค่ะ เจ้า Corrector จะใช้เพื่อปรับผิวของเราให้สม่ำเสมอเท่ากันทั้งใบหน้า แต่ไม่ได้ใช้ทั้งหน้านะคะ ใช้แก้ไขเฉพาะจุดเท่านั้น ซึ่ง Corrector จะมีหลายสีให้เลือกซื้อเลยค่ะ แล้วแต่ละสีก็จะแก้ไขปัญหาแตกต่างกันด้วย อย่างสีชมพู = แก้เรื่องใต้ตาคล้ำ สีเหลือง = แก้เส้นเลือดฝอย + รอยคล้ำบนเปลือกตา สีม่วง = รอยดำ + จุดที่สีผิวไม่สม่ำเสมอ สีเขียว = แก้รอยแดง สีฟ้า = รอยฝ้า กระ + ทำให้ผิวสว่างขึ้น สีส้ม = ความหมองคล้ำ ใครมีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าก็ลองไปหาซื้อกันได้น้า มีทั้งแบบลิควิดและแบบครีมเลยค่ะ แต่ส่วนมากถ้าอยากได้แบบครบจบในหนึ่งตลับจะเป็นแบบครีมให้เลือกซื้อเยอะกว่า ตรงนี้ก็ชั่งใจกันดูนะคะ
เนื่องจากว่ามันช่วยแก้ไขริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าเหมือนกัน หลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่าแล้วมันต่างกันยังไงใช่ไหมคะ สำหรับคอนซีลเลอร์สีมันก็จะคล้าย ๆ รองพื้นแต่เนื้อจะแน่นกว่า เข้มข้นกว่า มีอันเดอร์โทนเหลือง ชมพูและสีธรรมชาติ ซึ่งหลาย ๆ ครั้งมันก็ไม่สามารถแก้ไขริ้วรอยบนหน้าเราได้ไม่ดีพอสักเท่าไหร่ ถ้าอยากจะให้เป๊ะ ให้เนียนกริ๊บก็ต้องใช้คอร์เรคเตอร์ในการลงเพื่อปรับสีผิวตรงจุดนั้น ๆ ก่อน เช่น เรามีรอยแดงจากสิวกับรอยคล้ำใต้ตา ก็ใช้คอร์เรคเตอร์สีเขียวแก้รอยแดงจากสิว สีชมพูและสีส้มในการแก้รอยคล้ำใต้ตา สีผิวก็จะดูสม่ำเสมอมากขึ้น และเพื่อให้มันปกปิดแบบเลิศที่สุดก็ใช้คอนซีลเลอร์ทั่วไปลงทับอีกหนึ่งชั้น หลังจากนั้นก็ค่อยลงรองพื้นทับ หรือใครกลัวจะหนาไปก็ใช้แค่รองพื้นทับลงไปเลยก็ได้ค่ะ รับรองว่าทำตามนี้ผิวสวยเป๊ะแน่นอน
ขอเริ่มต้นที่ทริคในการเลือกคอร์เรคเตอร์ก่อนเลยแล้วกันค่ะ สำหรับคอร์เรคเตอร์คือเราต้องดูก่อนว่าเราจะแก้จุดไหนของผิว เช่น เราเป็นคนที่ใต้ตาคล้ำมาก ก็ซื้อแค่สีชมพูหรือสีส้มก็ได้ค่ะ หรือถ้าอยากได้แบบครบจบก็เลือกแบบพาเลตต์ไปเลยก็ดีนะคะ แก้ได้แบบทุกจุดอย่างเป๊ะปัง แต่ถ้าเป็นเนื้อครีมระวังการใช้ช่วงใต้ตาด้วยน้า บำรุงให้ดี ๆ นะคะไม่งั้นมันจะเสี่ยงมีรอยแตก ๆ ได้ ส่วนทริคเลือกคอนซีลเลอร์ก็ไม่ยากเลยค่ะ ถ้าอยากให้ใต้ตาดูสว่างขึ้นก็เลือกให้สว่างกว่าผิว 1 เฉด ส่วนถ้าอยากได้ปกปิดรอยสิวก็เลือกเข้มกว่าผิว 1 เฉดหรือเลือกสีเดียวกับผิวก็ได้ จริง ๆ ใต้ตาก็ใช้สีเดียวกับผิวได้เช่นกันค่ะ อยู่ที่เราอยากให้ภาพรวมของหน้าเราเป็นยังไง ถ้าอยากให้ดูสีเท่ากันก็เลือกสีใกล้เคียงผิว แต่ถ้าอยากให้ใต้ตาดูสว่าง ไม่หมองก็เลือกสว่างกว่าผิวแค่นี้เลยค่า แต่ถ้าใครเน้นปิดสิวแอบแนะนำว่าแบบครีมเวิร์คกว่านะคะ ติดทน ปกปิดแน่นกว่าด้วย ส่วนงานใต้ตาแนะนำลิควิดดีที่สุดค่า
พูดถึงเรื่องแบรนด์ไหนเด็ดแบรนด์ไหนดังก็คือมีหลายแบรนด์มาก
ๆ เลยค่ะ สำหรับทั้งคอนซีลเลอร์และคอร์เรคเตอร์เลย จริง ๆ หลาย ๆ แบรนด์ก็มีทั้ง 2 แบบให้เลือกซื้อใช้เลยนะคะ แต่บางแบรนด์ก็ไม่ได้มีคอร์เรคเตอร์ ซึ่งก็อาจจะต้องหาซื้อแยกกัน แต่บางแบรนด์ก็มีครบทุกอย่างในตลับเดียวไปอี๊ก คือแบบคุ้มยิ่งกว่า ซึ่งราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนหลักพัน ใครไหวราคาไหนซื้อราคานั้นนะจ๊ะ ส่วนถ้าถามว่าต้องซื้อทั้งคู่ไหม อันนี้ก็แล้วแต่ความถนัดหรือการใช้งานเลยนะคะ เอาละ! เข้าประเด็นกันเลยดีกว่า
วันนี้เรามีแบรนด์ที่อยากจะแนะนำเลยว่าของเขาเด็ดเขาดี ซึ่งเรามีมาแนะนำประมาณ 6 แบรนด์ รับรองเลยว่าแต่ละตัวก็คือใช้ดีสุด ๆ เพราะว่าชาวโต๊ะเครื่องแป้งอวยกันไม่หวาดไม่ไหว ใช้กันเกิน 10 แท่ง การันตีความปัง ซึ่งจะตัวไหนบ้างก็มาส่องกันเลยจ้า ...
NARS Radiant Creamy Concealer ตัวนี้มีสีให้เลือกเยอะมาก แล้วก็เป็นอีกตัวที่ฮอตฮิตมาก ๆ เนื้อจะไม่เหลวไม่ข้นมาก ปิดสิว ปิดรอยคล้ำใต้ตาได้ดีงามสุด ๆ เกลี่ยง่ายไม่ตกร่อง มีขนาดทดลองให้เลือกซื้อด้วยนะเออ
Hourglass Vanish Airbrush Concealer ตัวนี้คือปกปิดดีทั้งรอยสิวและใต้ตาเลยค่ะ เนื้อจะเหลวหน่อย เบาสบายผิว ใครสายแต่งเบา ๆ หรือเน้น Everyday look แนะนำตัวนี้เลยค่า
Tarte Double Duty Beauty Shape Tape Contour Concealer หนึ่งในคอนซีลเลอร์ที่กปิดแน่นตึ๊บสุด ๆ รอยสิว ใต้ตาเอาอยู่ทั้งหมด แต่ถ้าใครใต้ตาแห้งต้องบำรุงให้ดีก่อนใช้นะคะ ตัวนี้แห้งค่อนข้างไวและแมตต์ด้วย
The Saem Cover Perfection Tip Concealer มาทางแบรนด์เกาหลีกันบ้างค่า ตัวนี้เป็นหนึ่งในคอนซีลเลอร์ถูกและดี ราคาหลักร้อยต้น ๆ เท่านั้นค่า ปกปิดดี ราคาถูก ใช้ได้ทุกวัน สีไม่เหลืองไม่ชมพูไป ชาวเอเชียถูกใจแน่นอน
Stila Correct & Perfect All-in-One Color Correcting Palette ตัวนี้บอกเลยว่าครบจบมากเวอร์ มีทุกสีให้เลือกใช้ เนื้อก็ดี ราคาก็คือคุ้มค่ากับการสอยสุด ใครอยากได้ครบจบแนะนำตัวนี้เลยค่า
NYX PROFESSIONAL MAKEUP Color Correcting Concealer Palette ตัวนี้ถึงจะมีสีน้อยกว่าตัวข้างบนแต่ก็มีครบในส่วนของการแก้ปัญหาเบสิคเน้อ แถมยังมีตัวที่เอามาคอนทัวร์ได้ด้วย คุ้มสุด ๆ
● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ● ●
ได้รู้กันไปแล้วว่าคอนซีลเลอร์คืออะไร คอร์เรคเตอร์คืออะไร คราวนี้เวลาไปช้อปปิงก็เลือกซื้อกันได้แบบถูกต้อง ไม่งงแล้วใช่ไหมล่า? จริง ๆ ถ้าใครไม่ได้เน้นความเป๊ะ ความปิดปิดแบบเนียนกริ๊บจะใช้แค่คอนซีลเลอร์ธรรมดาก็ได้นะคะ แต่พยายามเลือกตัวที่ปกปิดปัง ๆ สักหน่อย แล้วแนะนำวิธีใช้ว่าให้ใช้นิ้วของเราในการเกลี่ยจะช่วยให้ปกปิดได้แน่นมากขึ้น ถ้าใครกลัวว่าคอนซีลเลอร์จะหลุดระหว่างวันก็ใช้แป้งฝุ่นเซ็ตเบา ๆ ได้นะคะ หรือใครอยากได้ความเป๊ะขั้นสุดก็ทำการ Baking ( การใช้แป้งฝุ่นทาไปที่บริเวณใต้ตาเยอะ ๆ ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยปัดออก ) ก็ทำได้หมดเลยค่า ยังไงก็ลองเอาทริคดี ๆ พวกนี้ไปปรับใช้กันได้นะคะ ส่วนตอนนี้เราคงต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะชาวซิสต้าคาเฟ่ บ๊ายบายค่า > 3 <
✿
Designer : namoodong
Writer : saturnxjan_