โปรแกรมฐานข้อมูลนามสกุลอะไร

ไฟล์ที่มีนามสกุล .sqlite เป็นไฟล์ฐานข้อมูล SQL ขนาดเล็กที่สร้างด้วยซอฟต์แวร์ SQLite เป็นฐานข้อมูลในไฟล์เองและใช้งานเอ็นจิ้นฐานข้อมูล SQL ที่มีอยู่ในตัวเอง มีคุณสมบัติครบถ้วน และมีความน่าเชื่อถือสูง ไฟล์ฐานข้อมูล SQLite สามารถใช้เพื่อแบ่งปันเนื้อหาที่หลากหลายระหว่างระบบโดยการแลกเปลี่ยนไฟล์เหล่านี้ผ่านเครือข่าย โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์เกือบทั้งหมดใช้ SQLite เพื่อจัดเก็บและแบ่งปันข้อมูล และเป็นทางเลือกของรูปแบบไฟล์สำหรับแอปพลิเคชันข้ามแพลตฟอร์ม ด้วยการใช้งานที่กะทัดรัดและใช้งานง่าย จึงมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ การเชื่อมโยง SQLite มีอยู่สำหรับภาษาการเขียนโปรแกรม เช่น C, C#, C++, Java, PHP, และอื่น ๆ อีกมากมาย.

รูปแบบไฟล์ SQLite

SQLite ในความเป็นจริงคือไลบรารีภาษา C ที่ใช้ SQLite RDBMS โดยใช้รูปแบบไฟล์ SQLite ด้วยวิวัฒนาการของอุปกรณ์ใหม่ๆ ทุกวัน รูปแบบไฟล์ของมันจึงคงความเข้ากันได้แบบย้อนกลับเพื่อรองรับอุปกรณ์รุ่นเก่า รูปแบบไฟล์ SQLite ถูกมองว่าเป็นรูปแบบการเก็บถาวรระยะยาวสำหรับข้อมูล

ไฟล์ฐานข้อมูล

ฐานข้อมูล SQLite ได้รับการดูแลอย่างสมบูรณ์ผ่านไฟล์สองไฟล์

  • ไฟล์ฐานข้อมูลหลัก - มีสถานะที่สมบูรณ์ของฐานข้อมูล SQLite
  • Rollback Journal - เก็บข้อมูลเพิ่มเติมในไฟล์ที่สองและใช้ในระหว่างการทำธุรกรรม ในกรณีที่ SQLite อยู่ในโหมด WAL ไฟล์บันทึกหัวเขียนจะถูกรักษาไว้

ไฟล์วารสาร

ไฟล์นี้มีจุดประสงค์เพื่อเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในกรณีที่การทำธุรกรรมครั้งล่าสุดไม่สามารถทำได้ เช่น คอมพิวเตอร์ขัดข้อง ไฟล์นี้ใช้เพื่อกู้คืนไฟล์ฐานข้อมูลให้อยู่ในสถานะที่สอดคล้องกัน

หน้า

ไฟล์ฐานข้อมูล SQLite หลักประกอบด้วยหนึ่งเพจขึ้นไป ณ เวลาใดๆ ทุกหน้าในฐานข้อมูลหลักมีการใช้งานเพียงครั้งเดียว ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งต่อไปนี้:

  • หน้าล็อคไบต์
  • หน้ารายการฟรี
  • หน้าลำต้นของรายการอิสระ
  • หน้าใบรายการฟรี
  • หน้า b-tree
  • หน้าตาราง b-tree ภายใน
  • ตารางข-ต้นไม้ใบหน้า
  • หน้าภายใน b-tree ดัชนี
  • หน้าใบดัชนี b-tree
  • หน้าล้นเพย์โหลด
  • หน้าแผนที่ตัวชี้

ขนาดของไฟล์ฐานข้อมูล SQLite มีตั้งแต่ไม่กี่กิโลไบต์ไปจนถึงไม่กี่กิกะไบต์

ส่วนหัวของ SQLite

ส่วนหัวของฐานข้อมูล SQLite อยู่ใน 100 ไบต์แรกของไฟล์ฐานข้อมูล ไฟล์ฐานข้อมูล SQLite ที่ถูกต้องทุกไฟล์เริ่มต้นด้วย 16 ไบต์ (ในฐานสิบหก):53 51 4c 69 74 65 20 66 6f 72 6d 61 74 20 33 00 รายละเอียดของฟิลด์ส่วนหัวมีดังในตารางต่อไปนี้

ไฟล์ที่มีนามสกุล .sql คือไฟล์ Structured Query Language (SQL) ที่มีโค้ดสำหรับทำงานกับฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ใช้เพื่อเขียนคำสั่ง SQL สำหรับการดำเนินการ CRUD (สร้าง อ่าน อัปเดต และลบ) บนฐานข้อมูล ไฟล์ SQL เป็นเรื่องปกติในขณะที่ทำงานกับเดสก์ท็อปและฐานข้อมูลบนเว็บ มีทางเลือกมากมายสำหรับ SQL เช่น Java Persistence Query Language (JPQL), LINQ, HTSQL, 4D QL และอื่นๆ อีกมากมาย ไฟล์ SQL สามารถเปิดได้โดยตัวแก้ไขแบบสอบถามของ Microsoft SQL Server, MySQL และตัวแก้ไขข้อความธรรมดาอื่นๆ เช่น Notepad บน Windows OS

ประวัติย่อ

  • พัฒนาและแนะนำโดย Donal D. Chamberlin และ Raymond F. Boyce ที่ IBM เมื่อต้นปี 1970
  • ใช้เพื่อจัดเก็บและดึงข้อมูลจากระบบจัดการฐานข้อมูลกึ่งสัมพันธ์ดั้งเดิมของ IBM, System R
  • เริ่มใช้ในฐานผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์โดยใช้ต้นแบบ System R ซึ่งรวมถึง System/38, SQL/DS และ DB2 ซึ่งวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ในปี 1979, 1981 และ 1983 ตามลำดับ
  • นำมาใช้อย่างเป็นทางการโดยกลุ่มมาตรฐาน ANSI และ ISO เป็นมาตรฐาน “Database Language SQL” สำหรับระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (RDBMS) ภายในปี 1986

รูปแบบไฟล์ SQL

ไฟล์ SQL อยู่ในรูปแบบข้อความล้วนและสามารถประกอบด้วยองค์ประกอบหลายภาษา สามารถเพิ่มคำสั่งหลายคำสั่งลงในไฟล์ SQL เดียวได้หากดำเนินการได้โดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับคำสั่งอื่น คำสั่ง SQL เหล่านี้สามารถดำเนินการโดยตัวแก้ไขแบบสอบถามสำหรับการดำเนินการ CRUD

บทความนี้จะแสดงภาพรวมของฐานข้อมูลโดยสังเขป ไม่ว่าจะเป็นความหมาย สาเหตุที่คุณอาจต้องใช้งาน และส่วนประกอบต่างๆ ของฐานข้อมูลมีหน้าที่อะไรบ้าง เราได้ปรับใช้ศัพท์เฉพาะกับฐานข้อมูล Microsoft Access แต่นำแนวคิดมาใช้กับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของฐานข้อมูล

ในบทความนี้

ฐานข้อมูลคืออะไร

ฐานข้อมูลคือเครื่องมือที่ใช้รวมรวมและจัดระเบียบข้อมูล ฐานข้อมูลสามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ผลิตภัณฑ์ คำสั่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม ฐานข้อมูลจำนวนมากเริ่มต้นโดยเป็นรายการในโปรแกรมประมวลผลคำหรือสเปรดชีต เมื่อรายการมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะเริ่มมีคำซ้ำหรือข้อมูลที่ไม่สม่ำเสมอเกิดขึ้น เมื่อข้อมูลอยู่ในรูปแบบรายการ จะทำให้เข้าใจได้ยากขึ้น และมีวิธีการค้นหาหรือดึงเซตย่อยของข้อมูลเพื่อนำมาตรวจสอบน้อย เมื่อเริ่มเกิดปัญหาเหล่านี้ การโอนข้อมูลไปยังฐานข้อมูลที่สร้างขึ้นโดยระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) เช่น Access ถือเป็นความคิดที่ดี

ฐานข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์คือภาชนะจัดเก็บวัตถุต่างๆ ฐานข้อมูล 1 รายการอาจมีตารางได้มากกว่า 1 ตาราง ตัวอย่างเช่น ระบบติดตามสินค้าคงคลังที่ใช้ตาราง 3 ตารางไม่ใช่ฐานข้อมูล 3 แห่ง แต่เป็นฐานข้อมูล 1 แห่งที่มีตาราง 3 ตาราง นอกจากว่าฐานข้อมูลถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้ใช้ข้อมูลหรือโค้ดจากแหล่งข้อมูลอื่น ฐานข้อมูล Access จะเก็บตารางในฐานข้อมูลเป็นไฟล์เดี่ยว พร้อมด้วยวัตถุอื่นๆ เช่น ฟอร์ม รายงาน แมโคร และมอดูล ฐานข้อมูลที่สร้างขึ้นโดยใช้รูปแบบ Access 2007 (ซึ่งใช้โดย Access 2016, Access 2013 และ Access 2010) จะมีนามสกุลไฟล์ .accdb ส่วนฐานข้อมูลที่สร้างโดยใช้รูปแบบ Access เวอร์ชันก่อนหน้าจะมีนามสกุลไฟล์ .mdb คุณสามารถใช้ Access 2016 , Access 2013, Access 2010 หรือ Access 2007 เพื่อสร้างไฟล์โดยใช้รูปแบบก่อนหน้าได้ (เช่น Access 2000 และ Access 2002-2003)

เมื่อใช้ Access คุณสามารถ:

  • เพิ่มข้อมูลใหม่ลงในฐานข้อมูล เช่น รายการใหม่ในสินค้าคงคลัง

  • แก้ไขข้อมูลที่มีอยู่ในฐานข้อมูล เช่น การเปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบันของรายการ

  • ลบข้อมูล ถ้ามีการขายหรือทิ้งรายการนั้น

  • จัดระเบียบและดูข้อมูลด้วยวิธีต่างๆ

  • แชร์ข้อมูลกับคนอื่นๆ ผ่านทางรายงาน ข้อความอีเมล อินทราเน็ต หรืออินเทอร์เน็ต

ส่วนประกอบของฐานข้อมูล Access

หัวข้อต่อไปนี้เป็นคำอธิบายโดยสังเขปเกี่ยวกับฐานข้อมูล Access ทั่วไป

ตาราง

ตารางฐานข้อมูลจะมีลักษณะคล้ายกับสเปรดชีต ซึ่งจะมีแถวและคอลัมน์อยู่ในข้อมูลนั้น ทำให้นำเข้าสเปรดชีตไปยังตารางฐานข้อมูลได้ง่าย ความแตกต่างหลักระหว่างการเก็บข้อมูลไว้ในสเปรดชีตกับการเก็บไว้ในฐานข้อมูลคือวิธีจัดระเบียบข้อมูล

เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นมากที่สุดในการใช้ฐานข้อมูล คุณต้องจัดเรียงข้อมูลลงในตารางเพื่อไม่ให้มีข้อมูลซ้ำกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพนักงาน ควรบันทึกชื่อพนักงานแต่ละรายลงในตารางที่สร้างขึ้นเพื่อเก็บข้อมูลพนักงานเพียงครั้งเดียว ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จะเก็บไว้ในตารางผลิตภัณฑ์ ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับสำนักงานสาขาจะเก็บไว้ในอีกตารางหนึ่ง ขั้นตอนนี้เรียกว่า การนอร์มัลไลซ์

แต่ละแถวในตารางจะเรียกว่า ระเบียน ระเบียนคือที่ที่เก็บชิ้นส่วนข้อมูลต่างๆ ระเบียนแต่ละรายการประกอบด้วยเขตข้อมูลอย่างน้อย 1 ช่อง เขตข้อมูลจะสอดคล้องกับคอลัมน์ในตาราง ตัวอย่างเช่น คุณอาจมีตารางชื่อ “พนักงาน” ซึ่งในแต่ละระเบียน (แถว) จะมีข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานแต่ละคน และแต่ละเขตข้อมูล (คอลัมน์) จะมีข้อมูลประเภทต่างๆ เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ฯลฯ เขตข้อมูลต้องกำหนดเป็นชนิดของข้อมูลที่เจาะจง ไม่ว่าจะเป็นข้อความ วันที่หรือเวลา ตัวเลข หรือข้อมูลชนิดอื่นๆ

อีกวิธีในการอธิบายระเบียนและเขตข้อมูลคือการแสดงภาพบัตรรายการแบบเก่าของไลบรารี บัตรแต่ละใบในตู้จะสัมพันธ์กับระเบียนในฐานข้อมูล ข้อมูลแต่ละชิ้นบนบัตรแต่ละใบ (เช่น ผู้เขียน ชื่อเรื่อง) จะสัมพันธ์กับเขตข้อมูลในฐานข้อมูล

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตาราง ดูบทความบทนำเกี่ยวกับตาราง

ฟอร์ม

ฟอร์มจะช่วยให้คุณสร้างส่วนติดต่อผู้ใช้ซึ่งคุณสามารป้อนและแก้ไขข้อมูลได้ ฟอร์มมักจะมีปุ่มคำสั่งและปุ่มควบคุมอื่นๆ ที่ใช้ดำเนินงานต่างๆ คุณสามารถสร้างฐานข้อมูลโดยไม่ต้องใช้ฟอร์ม เพียงแค่แก้ไขข้อมูลของคุณในแผ่นข้อมูลของตาราง อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ฐานข้อมูลส่วนใหญ่ชอบใช้ฟอร์มเพื่อดู ป้อน และแก้ไขข้อมูลในตาราง

คุณสามารถเขียนโปรแกรมปุ่มคำสั่งเพื่อกำหนดว่าข้อมูลใดบ้างที่จะปรากฏบนฟอร์ม เปิดฟอร์มอื่นๆ หรือรายงาน หรือดำเนินงานอื่นๆ ที่หลากหลาย เช่น คุณอาจมีฟอร์มชื่อ “ฟอร์มลูกค้า” ซึ่งคุณใช้จัดการข้อมูลของลูกค้า ฟอร์มลูกค้าอาจมีปุ่มที่ใช้เปิดฟอร์มคำสั่งซื้อ ซึ่งคุณสามารถเปิดคำสั่งซื้อใหม่ของลูกค้ารายนั้น

ฟอร์มยังช่วยให้คุณควบคุมวิธีที่ผู้ใช้รายอื่นๆ ตอบสนองต่อข้อมูลในฐานข้อมูล ตัวอย่างเช่น คุณสามารถสร้างฟอร์มที่แสดงเฉพาะเขตข้อมูลบางอย่างและอนุญาตให้ดำเนินงานได้เพียงบางอย่าง การดำเนินการนี้ช่วยปกป้องข้อมูลและรับประกันว่าใส่ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟอร์ม ดูบทความบทนำเกี่ยวกับฟอร์ม

รายงาน

รายงานคือสิ่งที่คุณใช้เพื่อจัดรูปแบบ สรุป และนำเสนอข้อมูล โดยปกติ รายงานจะตอบคำถามที่เจาะจง เช่น “เราได้รับเงินจำนวนเท่าไรจากลูกค้าแต่ละรายในปีนี้” หรือ “ลูกค้าของเราอยู่ในเมืองใดบ้าง” รายงานแต่ละชุดสามารถจัดรูปแบบให้นำเสนอข้อมูลด้วยวิธีที่อ่านได้ง่ายที่สุด

คุณสามารถเรียกใช้รายงานได้ทุกเมื่อและจะส่งผลต่อข้อมูลปัจจุบันในฐานข้อมูลทุกครั้ง โดยทั่วไปรายงานจะอยู่ในรูปแบบที่พิมพ์ได้ แต่สามารถอ่านบนหน้าจอได้ ส่งออกไปยังโปรแกรมอื่น หรือส่งเป็นสิ่งที่แนบไปกับข้อความอีเมล

For more information about reports, see the article Introduction to reports in Access.

คิวรี

คิวรีสามารถทำหน้าที่ต่างๆ ได้มากมายในฐานข้อมูล หน้าที่โดยทั่วไปคือการดึงข้อมูลที่เจาะจงจากตาราง โดยปกติ ข้อมูลที่คุณต้องการดูจะกระจายอยู่ในตารางหลายตาราง คิวรีจะช่วยให้คุณดูข้อมูลดังกล่าวได้ในแผ่นข้อมูลเดียว เนื่องจากคุณไม่ต้องการดูระเบียนทั้งหมดในคราวเดียว คิวรีจะช่วยให้คุณเพิ่มเกณฑ์เพื่อ “กรอง” ข้อมูลให้เป็นเพียงบันทึกที่ต้องการ

คิวรีบางรายการ “สามารถอัปเดตได้” หมายความว่าคุณสามารถแก้ไขข้อมูลในตารางถัดไปผ่านแผ่นข้อมูลคิวรี ถ้าคุณกำลังดำเนินการคิวรีที่อัปเดตได้ โปรดจำไว้ว่าโดยปกติระบบจะเปลี่ยนแปลงข้อมูลของคุณในตาราง ไม่ใช่ในแผ่นข้อมูลคิวรี

คิวรีมี 2 แบบคือ: คิวรีแบบใช้เลือกข้อมูลและคิวรีแอคชัน คิวรีแบบใช้เลือกข้อมูลจะดึงข้อมูลและเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับใช้งาน คุณสามารถดูผลลัพธ์ของคิวรีบนหน้าจอ พิมพ์ หรือทำสำเนาไปยังคลิปบอร์ด หรือคุณสามารถใช้การแสดงผลคิวรีเป็นแหล่งระเบียนสำหรับฟอร์มหรือรายงาน

คิวรีแอคชันดำเนินงานโดยใช้ข้อมูลตามชื่อที่ใช้ คุณสามารถใข้คิวรีแอคชันสร้างตารางใหม่ เพิ่มข้อมูลลงในตารางที่มีอยู่ อัปเดตข้อมูล หรือลบข้อมูล

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง