พัฒนาการทางด้านประวัติศาสตร์และอารยธรรมของทวีปยุโรปมีรากฐานมาจากแหล่งอารยธรรมสมัยโบราณในพื้นที่ทวีปยุโรป ๒ แหล่ง คือ อารยธรรมกรีกและโรมัน ซึ่งมีพัฒนาการต่อเนื่องมา และเป็นรากฐานของอารยธรรมตะวันตกในหลาย ด้าน เช่น ด้านการเมืองการปกครอง ด้านศิลปกรรม ด้านแนวคิดทางปรัชญา ด้านวิทยาการ เป็นต้น
ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้
เรียงลำดับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของยุโรปสมัยโบราณได้
ด้านทักษะกระบวนการ
สืบค้นแหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของยุโรปสมัยโบราณได้
ด้านคุณลักษณะ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมั่นในการทำงาน
คุณลักษณะเฉพาะ
1. เห็นความสำคัญของพัฒนาการยุโรปสมัยโบราณที่มีผลต่ออารยธรรมตะวันตก
การวัดผลและประเมินผล
วิธีการ
- ตั้งคำถามนำและให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย
เครื่องมือ
- คำถามนำ
- แบบประเมินการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6
ชาวกรีกได้สร้างอาณาจักรของตนขี้น ประกอบด้วย นครรัฐเล็กๆ หลายแห่งในคาบสมุทรบอลข่าน อาณาจักรของชาวกรีกเจริญรุ่งเรืองมาก ระหว่าง 200 ปีก่อนพุทธกาลจนถึงต้นพุทธกาล ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่นักเดินเรือและพ่อค้าชาวกรีกออกไปทำการค้า และสร้างอาณานิคมขึ้นอย่างกว้างขวางตามบริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของทวีปยุโรป เอเซีย และแอฟริกา
ชาวกรีกได้พัฒนาการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยราษฏรมีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกครองหรือสมาชิกสภาบริหาร โดยเฉพาะการปกครองของนครรัฐเอเธนส์ ซึ่งเป็นนครรัฐที่มีชื่อเสียงมากของกรีก ถือกันว่าเป็นแม่แบบของการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ชาวยุโรปได้รับการถ่ายทอดมาจากชาวกรีก
ชาวกรีกได้สร้างศิลปกรรม และสถาปัตยกรรม ที่มีความงดงาม นอกจากนี้ยังมีวรรณคดีที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ซึ่งเคารพบูชาเทพเจ้าต่างๆ มีพิธีกรรมบูชาเทพเจ้า โดยการแสดงละคร ซึ่งเป็นแบบฉบับการละครของชาวยุโรปในสมัยต่อมา รวมทั้งการแข่งขันกีฬาระหว่างนครรัฐ เพื่อบูชาเทพเจ้าที่ภูเขาโอลิมปัส ก็ได้กลายมาเป็นธรรมเนียมการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศที่เรียกว่า กีฬาโอลิมปิคในปัจจุบัน
ชาวกรีกเป็นนักคิด รักความมีเหตุผล จึงทำให้เกิดแนวความคิดทางปรัชญาแก่ชาวยุโรป นักปรัชญากรีกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ เพลโต และอริสโตเติล ซึ่งถือเป็นผู้วางรากฐานปรัชยาให้แก่ชาวยุโรป
ชาวโรมันได้สร้างอาณาจักรของตนขึ้นในคาบสมุทรอิตาลี และมีอำนาจขึ้นแทนที่กรีกในตอนต้นพุทธศตวรรษที่ 4 จนถึงตอนต้นพุทธศตวรรษที่ 11 จึงเสื่อมอำนาจลง ในขณะที่โรมันมีอำนาจอย่างเต็มที่ได้แผ่ขยายดินแดนออกไปอย่างกว้างขวางทั้งในยุโรป และตอนเหนือของแอฟริกา ปัจจุบันยังคงมีซากโบราณสถานปรากฏอยู่ในประเทศต่างๆ ที่แสดงถึงการแผ่อำนาจของโรมันโบราณ เช่น กำแพงเมือง ป้อมปราการ ถนน เป็นต้น