พวงมาลัยพาวเวอร์ใช้น้ำมันอะไร

ทำง่าย ๆ ลงมือได้ด้วยตัวเอง กับวิธีตรวจสอบและเติมน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์

รถยนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันยกเว้นรถไฮบริดและไฟฟ้า จะมีระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฮดรอลิกที่ช่วยให้ผู้ขับสามารถหมุนพวงมาลัยได้โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก ถือว่าเป็นอีกส่วนสำคัญที่ควรใส่ใจและให้การดูแลรักษาที่ถูกต้อง วันนี้ Chobrod จึงพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับพวงมาลัยพาวเวอร์และวิธีเติมน้ำมันพาวเวอร์ง่าย ๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเองในไม่กี่ขั้นตอนมาฝาก

พวงมาลัยพาวเวอร์ทำงานอย่างไร?

วิดีโอแสดงวิธีการตรวจเช็คระดับน้ำมันพาเวอร์

ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ประกอบไปด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เฟืองขับและสะพาน ที่เชื่อมต่อเข้ากับล้อหน้า ลูกสูบภายในเฟืองขับและเฟืองสะพานซึ่งเคลื่อนที่ตามแรงดันน้ำมันจากปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์ที่ทำหน้าที่ช่วยหมุนพวงมาลัย และกระบอกสูบซึ่งมีน้ำมันอยู่ภายในที่ติดตั้งอยู่กับตัวปั๊มหรืออาจจะตั้งห่างออกไปเพื่อให้เข้าถึงง่ายขึ้น

ถ้าน้ำมันไม่เพียงพอ จะเกิดอะไรขึ้น?

ถ้าน้ำมันเหลือน้อยการบังคับพวงมาลัยจะหนักขึ้น

การบังคับเลี้ยวจะทำได้ยากขึ้น อีกทั้งปั๊มหรือชุดเฟืองขับและเฟืองสะพานอาจได้รับความเสียหาย เพราะไม่มีน้ำมันช่วยลดแรงกระแทก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการตรวจสอบระดับน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์และการเติมน้ำมันอยู่บ่อย ๆ

วิธีการตรวจสอบและเติมน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์

สามารถทำด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยการสังเกตและปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้

อุปกรณ์ที่ใช้

  • น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
  • ถุงมือ (ป้องกันน้ำมันเลอะมือ)
  • ผ้าขี้ริ้วหรือกระดาษเช็ดมือ
  • กรวยเติมน้ำมัน

เปลี่ยนน้ำมันพาวเวอร์ ทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

1. มองหากระปุกน้ำมันเมื่อพบความผิดปกติจากพวงมาลัย

กระปุกน้ำมันพาวเวอร์ในรถแต่ละคันอาจติดตั้งในไว้ในบริเวณที่แตกต่างกัน ให้ดูตำแหน่งที่คู่มือ

เมื่อรู้สึกได้ว่าพวงมาลัยหมุนลำบาก หรือได้ยินเสียงแหลมสูงดังในขณะที่พวงมาลัยกำลังหมุน นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าน้ำมันพาวเวอร์เหลือน้อย ให้สวมถุงมือเปิดกระโปรงรถตรวจสอบกระปุกน้ำมันที่อยู่ใกล้กับปั๊มพวงมาลัยพาวเวอร์หรือห่างออกไปโดยใช้ท่ออ่อนเชื่อมต่อจากปั๊ม อาจมีทั้งรูปแบบพลาสติกที่ทำมาจากโลหะ กระปุกน้ำมันที่ดีควรมีป้ายติดเอาไว้ให้ชัดเจน ถ้าหาไม่เจอสามารถดูตำแหน่งที่ติดตั้งจากคู่มือเจ้าของรถ ในรถยนต์ส่วนใหญ่กระปุกน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์มักจะติดตั้งอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน แต่ในรถรุ่นใหม่ๆ อาจจะติดตั้งไว้บริเวณอื่นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายหรือพื้นที่

2. ตรวจสอบระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์

ถ้ากระปุกสีใสจะมองเห็นระดับน้ำมันได้ชัด

ถ้าเป็นกระปุกที่ทำมาจากพลาสติกสีใส ๆ จะสามารถมองเห็นระดับน้ำมันภายในกระปุกได้ แต่ถ้ากระปุกเป็นโลหะหรือพลาสติกสีขุ่น สามารถใช้ก้านวัดน้ำมันตรวจสอบระดับน้ำมันที่เหลืออยู่ โดยก้านวัดมักจะติดอยู่กับฝาปิด ในรถบางรุ่น สามารถตรวจเช็คระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ได้อย่างแม่นยำหลังจากเครื่องยนต์ทำงานเป็นระยะเวลาสั้นๆ แล้วเท่านั้น และบางครั้งอาจต้องหมุนพวงมาลัยไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งหลายๆ ครั้งในขณะที่เครื่องยนต์เดินเบาด้วยเช่นกันบนก้านวัดน้ำมันหรือกระปุกน้ำมันจะมีแถบแสดงระดับเอาไว้ดังนี้

  • “ร้อน” หลังจากเครื่องยนต์ทำงานเป็นระยะหนึ่งๆ แล้ว
  • “เย็น” หลังจากดับเครื่องยนต์เป็นระยะเวลาหนึ่งๆ

ในขณะที่รถบางรุ่นอาจมีเส้นแสดงระดับน้ำมัน “ต่ำสุด” และ “สูงสุด” ที่เครื่องยนต์รับได้ อย่าลืมเปรียบเทียบระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์กับเครื่องหมายที่ถูกต้องเหล่านี้ด้วยเช่นกัน

3. ตรวจสอบระดับที่ก้านวัดจุ่มลึกลงไปในน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์

ก้านวัดน้ำมันจะติดมากับฝาปิด

ถ้ากำลังใช้ก้านวัดน้ำมันเพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ขั้นแรก ให้เช็ดน้ำมันที่ติดค้างอยู่บนก้านวัดเมื่อดึงออกมาจากกระปุกออก จากนั้นจึงจุ่มลงไปใหม่จนสุดและดึงกลับขึ้นมาอีกครั้ง

ดูเพิ่มเติม
>> "น้ำมันเครื่อง"ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ 4 วิธีเช็คให้เหมาะกับรถยนต์
>> วัดน้ำมันเครื่อง เรื่องง่ายๆ ที่มือใหม่หัดขับมักละเลย

4. ตรวจสอบสีของน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์

น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์สภาพดีควรมีสีเหลืองอำพันหรือชมพูใส ถ้ามีสีน้ำตาลหรือดำ แสดงว่ามีเศษยางจากท่อต่อ ซีล หรือโอริงปนเปื้อนอยู่ ในกรณีนี้ควรนำรถไปให้ช่างตรวจสอบว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนระบบพวงมาลัยเพาเวอร์และน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์หรือไม่ น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์อาจดูเข้มกว่าสีจริง ถ้าไม่แน่ใจให้ดูสีของคราบน้ำมันบนผ้าขี้ริ้วหรือกระดาษเช็ดมือที่ใช้เช็ดน้ำมันออกจากก้านวัด ถ้าคราบเป็นสีตามที่มันควรจะเป็น แสดงว่าน้ำมันไม่มีการปนเปื้อน

5. เติมน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ตามที่จำเป็นจนได้ระดับที่ถูกต้อง

ค่อย ๆ เติมน้ำมันลงไปไม่ให้ล้นกระปุก

ถ้ารถมีแถบวัดอยู่บนกระปุกน้ำมัน สามารถเติมน้ำมันลงไปเรื่อยๆ จนถึงระดับ “ร้อน” หรือ “เย็น” ที่ถูกต้อง แต่ในกรณีที่ใช้ก้านวัดในการตรวจสอบระดับน้ำมัน ให้ค่อยๆ เติมลงไปเพื่อป้องกันไม่ให้เติมมากไปจนล้นกระปุก ใช้น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ที่แนะนำให้ใช้กับรถของคุณเท่านั้น เพราะน้ำมันที่แนะนำจะมีความหนืด (ความข้น) อยู่ในระดับที่เหมาะกับระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ของรถนั่นเอง ผู้ผลิตรถยนต์ไม่แนะนำให้ใช้น้ำมันเกียร์แทนน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำมันสำหรับรถยนต์นั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด และถ้าใช้ผิด อาจทำให้พวงมาลัยเพาเวอร์และซีลของพวงมาลัยทำงานผิดปกติได้

ระวังอย่าเติมน้ำมันให้กับพวงมาลัยเพาเวอร์ “มากเกินไป” การเติมน้อยกว่าระดับที่ถูกต้องจะดีกว่าการเติมมากเกินไป เพราะน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์จะขยายตัวเพิ่มเมื่อร้อนขึ้นและปลดปล่อยความมหัศจรรย์ของมันออกมา ด้วยเหตุนี้ ถ้าเติมน้ำมันจนถึงระดับสูงสุดแล้วพยายามขับรถ แรงดันที่เพิ่มขึ้นอาจเริ่มสร้างปัญหา และอาจทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการซ่อมแซม

6. ปิดฝากระปุกน้ำมัน

ขั้นตอนสุดท้ายคือปิดฝากระปุกให้แน่น

ขั้นตอนสุดท้ายให้กดหรือหมุนฝาให้เข้าที่และให้แน่ใจว่าหนาแน่นดีแล้วก่อนที่จะปิดฝากระโปรงหน้า

ดูวิธีการแล้ว ทุกขั้นตอนดูง่ายดาย ลองไปทำตามด้วยตัวเองดู ทั้งนี้ควรหมั่นตรวจเช็คน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์เป็นประจำตามระยะที่กำหนดหรือเมื่อน้ำมันมีการปนเปื้อน ถ้าสังเกตว่าระดับน้ำมันในกระปุกลดลงอย่างเห็นได้ชัด หรือจำเป็นต้องเติมน้ำมันบ่อยๆ อาจเป็นไปได้ว่าเกิดรอยรั่วตรงไหนสักแห่งในระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ ให้รีบทำการซ่อมแซมโดยด่วน

อีกข้อที่สำคัญคือควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ตามระยะที่กำหนดในคู่มือเจ้าของรถด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ความร้อนจากเครื่องยนต์และสภาพโดยรอบจะทำให้ความสามารถในการทำงานของน้ำมันลดลง ทำให้ชิ้นส่วนภายในระบบพวงมาลัยเพาเวอร์สึกหรอและผุกร่อน ที่สำคัญ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการเปลี่ยนปั๊มพวงมาลัยเพาเวอร์หรือชุดเฟืองขับและเฟืองสะพาน

ดูเพิ่มเติม
>> 
ดูแลรถมือสอง อย่างไรให้ใช้งานได้นาน ทำตามง่ายๆ ใช้ได้ทนทาน รถจะพังยากแน่นอน
>> ถึงเวลาก็ต้องเปลี่ยน ถึงระยะก็เช็ค มาตรวจสอบกันกับรายการบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะเวลาใช้งาน

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้

ในการส่งกำลังของระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ (Power Steering) จะใช้น้ำมันชนิดใดเป็นตัวส่งกำลัง

ในระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฮดรอลิก การบังคับเลี้ยวต้องอาศัยน้ำมันไฮดรอลิกที่มีแรงดันซึ่งปกติจะทำหน้าที่โดยปั๊มเชิงกลที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ของรถยนต์

น้ำมันไฮดรอลิคแทนน้ำมันพาวเวอร์ได้ไหม

ถาม: น้ำมันไฮดรอลิกสามารถนำมาใช้แทนน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก หรือน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ได้หรือไม่ ตอบ: ไม่ ผลิตภัณฑ์นี้ไม่สามารถนำมาใช้แทนน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก หรือน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ที่ถูกต้องได้ น้ำมันไฮดรอลิกนี้ควรนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในคู่มือสำหรับเจ้าของรถเท่านั้น

พวงมาลัยกําลังประกอบด้วยส่วนที่สําคัญคือส่วนใดบ้าง

ระบบพวงมาลัยมีส่วนประกอบที่สำคัญ ได้แก่ พวงมาลัย ขายึดแกนพวงมาลัย แกนพวงมาลัย หน้าแปลนพวงมาลัย ยางข้อต่อ กระปุกพวงมาลัย แขนเกียร์พวงมาลัย คันชักคันส่งกลาง คันชักคันส่งข้าง แขนดึงกลับ และกระปุกพวงมาลัย

น้ํามันพวงมาลัยเพาเวอร์ เติมได้ไหม

เมื่อเช็คสีน้ำมันแล้วปกติดี เราสามารถเติมน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ได้ด้วยตัวเอง โดยค่อยๆ เติมให้ได้ระดับพอดีตามขีดที่กำหนดไว้ โดยไม่ให้ต่ำกว่าระดับต่ำสุด และไม่ให้มากเกินระดับสูงสุด อย่าเติมมากจนล้นเพราะเมื่อน้ำมันเจอความร้อนจะขยายตัวมากขึ้น เติมเสร็จปิดฝากระปุกน้ำมัน เท่านี้ก็เรียบร้อย

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง