ในชีวิตการทำงานนอกจากจะต้องมีความสามารถในด้านทักษะการปฏิบัติงานแล้ว พนักงานยังจะต้องมีคุณสมบัติอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อเติมเต็มให้คุณเป็นพนักงานที่เปี่ยมด้วยศักยภาพ และเป็นที่น่าพึงพอใจของทั้งเพื่อนร่วมงาน และนายจ้าง
วันนี้เราจึงมีสาระดีๆ มาฝากกัน นั่นก็คือ “คุณสมบัติพนักงานในฝันที่หัวหน้าต้องการ” ลองมาเช็กกันว่าคุณมี หรือขาดคุณสมบัติข้อไหนไปบ้าง!?
ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็กหรือใหญ่ล้วนอยากได้ พนักงานที่ดี ทั้งนั้น แม้จะมีการศึกษาดี สติปัญญาดี แต่ก็กลายเป็นลูกน้องที่ไม่เอาไหนในสายตาของหัวหน้าได้ด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น ทำงานดีแต่การเข้าสังคมไม่ดี ทำงานดีแต่ไม่ตรงต่อเวลา ทำงานดีแต่มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานบ่อย ฯลฯสาเหตุยิบย่อยเหล่านี้จะเป็นตัวที่ฉุดรั้งความเจริญก้าวหน้าให้ย่ำอยู่กับที่ ไม่ได้รับการโปรโมต ปรับตำแหน่ง หรือเลื่อนตำแหน่งแม้จะทำงานมาหลายปีแล้วก็ตาม
ลองมาดูลักษณะของ พนักงานที่ดี ที่หลายบริษัทต้องการมีอะไรบ้าง
คิดริเริ่มด้วยตนเอง
เจ้านายมักปลื้มที่พนักงานลงมือคิดไอเดียใหม่ๆ ด้วยตัวเองและลงมือทำทันที จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เช่น สนุก ทันกระแส ไม่มีใครเคยทำมาก่อน ฯลฯ แล้วผลตอบรับออกมาเป็นที่น่าพอใจ
หลักการทำงานแบบนี้ ให้ยึดกฎเหล็กสำคัญว่า “งานที่สนุกต้องไม่ใช่งานที่ได้รับมอบหมายจากเบื้องบน และงานที่สนุกคืองานที่ลงมือทำก่อนและเป็นผู้ชนะ” แต่ไม่ใช่ว่าเอาแต่ทำงานที่ชอบเพียงอย่างเดียว งานที่ไม่ชอบก็ต้องทำออกมาสมบูรณ์แบบเรียบร้อยเช่นเดียวกัน
การมีความสามารถคิดเองเป็นเพื่อทำงานที่สนใจด้วยตัวเองเป็นสิ่งชี้วัดผลแพ้ชนะในการทำงาน เพราะคนที่ชิงลงมือทำงานที่น่าสนใจก่อนย่อมเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน
ใส่ใจคุณภาพของงาน
“จงใส่ใจในเนื้องาน อย่าทำงานที่ขาดความเอาใจใส่” นี่เป็นคำพูดที่ควรปลูกฝังไว้ตั้งแต่เริ่มทำงานใหม่ๆ แม้กระทั่งของที่ระลึกที่แจกผู้ที่มาร่วมงานสำคัญในบริษัทก็ยิ่งต้องใส่ใจ
รู้ไหมว่าบริษัทที่ญี่ปุ่นใช้เวลาหลายวันถกเถียงกับคณะกรรมการกว่า 20 ท่านในที่ประชุมว่า จะเลือกอะไรเป็นของที่ระลึก เลือกกระดาษห่อแบบไหน จะใช้ริบบิ้นสีอะไรห่อ
หลายคนคงสงสัยว่าแค่ของแจกเอง ทำไมต้องมาเสียเวลากับมันด้วย ลองคิดเมื่อตัวเองได้รับของแจกดูสิ พวงกุญแจราคาถูก พัดกระดาษที่ใช้งานไม่ได้ กระเป๋าเล็กๆ ที่ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงเท่านั้น ถ้าเราได้รับของแบบนี้เรายังยินดีที่จะเก็บมันไว้ไหม
คำตอบของหลายคนก็คือ “ไม่” และเราก็คงไม่อยากให้ของที่ระลึกจากบริษัทเราลงไปนอนอยู่ก้นถังขยะเช่นเดียวกัน
การส่งมอบของที่ระลึกที่ใส่ใจทุกรายละเอียดให้กับแขกในงานเป็นสิ่งที่ช่วยอธิบายตัวตนของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น เพราะเต็มไปด้วยความใส่ใจ ใช้งานได้จริง และใช้ของที่มีคุณภาพ นอกเหนือจากงานที่สำเร็จแล้ว เรายังเห็นหลักคิดที่ให้ความสำคัญแก่การใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จากพนักงานที่ดี ที่บริษัทเลือกเข้ามาทำงานด้วย
ตื่นตัวเรื่องการแข่งขัน
ลีคุนฮี ประธานกรรมการบริษัทซัมซุง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันของตลาดโทรศัพท์มือถือโลกเอาไว้ว่า
“สินค้าที่ฮิตอยู่ตอนนี้ อีกสิบปีก็อาจขายไม่ออก นอกจากเมียและลูกแล้ว จงเปลี่ยนให้หมด!”
เมื่อมองบนโลกแห่งความเป็นจริงแล้วการตื่นตัวเรื่องการแข่งขันนี้เอง ที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เอาชนะให้ได้
“ในโลกของธรรมชาติ ผู้ที่อยู่รอดคือผู้ที่ปรับตัวได้ ไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด” อย่างน้อยเราก็เข้าใจแล้วนะว่า ทำไมไดโนเสาร์ผู้แข็งแกร่งถึงตายเรียบ แต่แมลงสาบตัวกระจ้อยถึงมีชีวิตรอดมาถึงยุคนี้ได้แม้จะผ่านเวลาเป็นสิบๆ ล้านปี
ย้ำเตือนอยู่เสมอว่า งานที่กำลังทำอยู่นี้ มีคนทำได้ดีกว่า เร็วกว่า และค่าแรงถูกกว่า เมื่อถึงวันที่บริษัทค้นพบคนคนนั้นแล้ว เรายังจำเป็นสำหรับบริษัทอยู่ไหม ทางรอดของเราก็คือการแข่งขันกับคนอื่น พัฒนาตัวเอง และปรับตัวให้ได้
ทำงานที่ใครก็ทำแทนไม่ได้
การทำงานเกินหน้าที่และเงินเดือนในปัจจุบันเป็นสิ่งแน่นอนอยู่แล้วสำหรับการก้าวสู่การเลื่อนตำแหน่ง การทำงานก็เหมือนเครื่องจักรที่ประกอบด้วยน็อตหลายชิ้นคือพนักงาน หากลองไขน็อตออกมาดูทีละชิ้น คุณคิดว่าเจ้านายจำเป็นต้องมีน็อตที่มีชื่อคุณอยู่ไหม ขาดน็อตตัวนี้ไปงานจะขับเคลื่อนได้หรือเปล่า
ลองพิจารณาดูว่าถ้าคุณลาออกไป จะมีใครในบริษัทที่มาทำงานแทนคุณได้หรือเปล่า หรือการออกไปของคุณไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลย แค่ต้องปรับการทำงานใหม่เล็กน้อยเครื่องจักรนั้นก็สามารถทำงานได้เป็นปกติ ถ้างานที่คุณกำลังทำสามารถมีคนทำแทนได้อย่างง่ายได้ก็ได้เวลาที่ต้องปรับตัวครั้งใหญ่กันแล้ว
หาจุดที่คนอื่นไม่สามารถทำได้แสดงศักยภาพออกมาให้ชัดเจนที่สุด สร้างผลงานออกมาให้เจ้านายอึ้ง แล้วหนทางสู่ความสำเร็จ การเลื่อนตำแหน่ง หรือได้รับการโปรโมตจะไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
เชื่อว่าหลายคนหลายองค์กร ไม่ว่าบริษัทขนาดใหญ่ หรือเอสเอ็มอี คงเคยประสบกับการสูญเสียพนักงานที่ทำให้รู้สึกเสียดาย หรืออย่างที่ฝรั่งเขาเรียกพนักงานที่เป็นกำลังสำคัญขององค์กรว่าเป็น “Valuable Asset”
และนี่คือพนักงาน 7 ประเภทที่ทุกองค์กร ควรรักษาเอาไว้
1.มีแรงจูงใจ- ตั้งใจทำงาน
พนักงานกลุ่มนี้รู้จักหน้าที่ของพวกเขาดี นอกจากจะไม่ต้องมานั่งจ้ำจี้จ้ำไชให้ทำงานที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่ให้ดีแล้ว พวกเขายังมีแรงขับเคลื่อนภายในที่พร้อมจะทำงานเกินหน้าที่ความรับผิดชอบอีกด้วย หากว่ามันจะช่วยพาทั้งทีมสู่ความสำเร็จและบรรลุเป้าหมาย นายจ้างอย่างเราแสนจะสบายใจที่มีพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
2.ขยันขันแข็ง
พนักงานขยันขันแข็งจะไม่หวงแหนเวลาของตนเอง เขาไม่ใช่พนักงานประเภทตอกบัตรเข้า 8 โมงเช้า และตอกบัตรออก 5 โมงเย็นเป๊ะ นั่นเพราะพวกเขาเข้าใจดีว่า การจะบรรลุเป้าหมายหรือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เขาจึงพร้อมที่จะสละเวลา แรงกาย และแรงใจเพิ่มเติมให้กับองค์กร เพื่อผลลัพธ์ของงานที่ดียิ่งขึ้น คุณโชคดีมากที่มีพวกเขาเป็นกำลังขับเคลื่อนองค์กร
3.มีความสามารถ
พนักงานฉลาดมีแนวโน้มที่จะเรียนรู้งานต่าง ๆ ได้รวดเร็ว จัดการงานที่ได้รับมอบหมายได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว โดยไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากหัวหน้างานหรือเพื่อนรอบข้างมากนัก รวมทั้งตอบสนองต่อปัญหาและจัดการแก้ไขได้ดี พวกเขาจึงถือเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยทุ่นแรงทุ่นเวลาให้กับนายจ้างได้เป็นอย่างดี
4.สื่อสารเก่ง
ในโลกธุรกิจทุกวันนี้ การสื่อสารมีความสำคัญยิ่ง เพราะการสื่อสารภายในองค์กรที่ดีจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้รุดหน้า รวมทั้งผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤติไปได้ พนักงานที่มีความสามารถในการสื่อสาร สามารถถ่ายทอดประเด็นต่างๆได้อย่างครบถ้วน เหมาะสม และชัดเจน เป็นทั้งผู้รับสารและส่งสารต่อที่ดี จึงเป็นเหมือนข้อต่อประสานที่เชื่อมองค์กรให้แข็งแกร่งมั่นคง
5.มีวินัย-ประพฤติตัวดี
พนักงานประเภทนี้ทำให้นายจ้างไว้วางใจได้ว่าพวกเขาจะไม่แอบแวบลามาสาย ประวิง อ้อยอิ่งเวลาทำงาน และแอบออกงานก่อนเวลาเลิก ซึ่งแท้ที่จริงแล้วก็ถือเป็นการทุจริตอย่างหนึ่งในด้านเวลา
6.มากน้ำใจ
พนักงานที่ควรรักษาไว้ คือพนักงานที่มีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนรอบข้าง ไม่เกี่ยง ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก เป็นเรี่ยวแรงสำคัญที่จะช่วยสร้างให้องค์กรมีบรรยากาศน่าอยู่ ส่งเสริมวัฒนธรรมที่ดีในการช่วยเหลือสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันองค์กรสู่ความสำเร็จ
7.ซื่อสัตย์
ท้ายที่สุดแล้ว แม้จะมีคุณสมบัติดีครบทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นด้านสติปัญญา ความเฉลียวฉลาด ขยัน ทุ่มเท แต่หากขาดความซื่อสัตย์แล้ว คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมดังกล่าวมีแต่จะย้อนกลับมาทำร้ายบริษัทอย่างใหญ่หลวง ดังนั้นจงให้ความสำคัญเรื่อง “ความซื่อสัตย์” เป็นอันดับแรก