การบริหารจัดการที่ล้มเหลวนั้นมักนำไปสู่ความวุ่นวายหรือเพิ่มความเครียดในองค์กรเสมอ ดังนั้นความต้องการในทักษะด้านการบริหารจัดการองค์กรจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้นำทุกคน
แต่คุณจะพัฒนาทักษาเหล่านี้ได้อย่างไร? ลองเริ่มจากทำความรู้จักกับ 11 ทักษะเกี่ยวกับการบริหารจัดการสิ่งต่างๆ ที่ผู้นำทุกคนต้องมีกันดีกว่า
1. ทักษะการบริหารเวลา
การขาดแคลนทักษะด้านนี้เป็นต้นเหตุของปัญหามากมายภายในองค์กร ในฐานะผู้นำคุณต้องมั่นใจว่างานต่างๆ ดำเนินไปตามเวลาที่กำหนดไว้ ระมัดระวังเรื่องของเดดไลน์ให้ดีเพราะงานบางอย่างไม่สามารถล่าช้าได้เนื่องจากอาจทำให้องค์กรสูญเสียรายได้หรือเป็นการเพิ่มต้นทุนอย่างมหาศาล ลองเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันและจัดการสิ่งเหล่านั้นอย่างเป็นระบบ
2. ความสามารถในการวางแผน
การวางแผนทำให้การจัดระเบียบองค์กรเป็นไปได้ง่ายขึ้น ขณะที่การทำงานที่ปราศจากการวางแผนอาจนำมาสู่ความล้มเหลวและเพิ่มความกดดันให้กับบุคลากรรวมถึงตัวคุณเอง ดังนั้นตระหนักอยู่เสมอว่างานแต่ละอย่างต้องใช้การวางแผนและเวลาในการจัดการต่างกัน และควรปรับแผนให้เหมาะสมกับปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ด้วย
3. เข้าใจเรื่องกำหนดการ
ทักษะนี้อาจคล้ายคลึงกับการวางแผน แต่การทำความเข้าใจเรื่องกำหนดการจะเจาะลึกไปยังกำหนดของตารางเวลาต่างๆ มากกว่า การจัดตารางเวลาอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณควบคุมโครงการต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพขึ้น ตลอดจนจัดการกับปัญหาที่ไม่คาดคิดได้ดีขึ้นอีกด้วย
4. ทักษะการจัดระเบียบทรัพยากร
การจัดระเบียบทรัพยากรคือการบริหารทรัพยากรหรือทุนที่มีเพื่อประโยชน์สูงสุด อาจเริ่มจากการกำหนดต้นทุนหรือสิ่งที่ต้องใช้สำหรับโครงการก่อนเริ่มทำงาน เป็นต้น
5. ความสามารถในการมอบหมายงาน
การมอบหมายงานคือศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะผู้นำต้องรู้จักจุดอ่อนและจุดแข็งของทีมเป็นอย่างดี รวมถึงรู้ว่าบุคคลไหนเหมาะสมกับงานชิ้นนั้น
6. เข้าใจเรื่องลำดับความสำคัญ
การจัดลำดับความสำคัญของงานนำไปสู่การวางแผนที่ดีขึ้นและช่วยลดความเครียดของคุณได้ และมันจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจว่างานชิ้นไหนคืองานสำคัญที่สุดที่คุณต้องจัดการเป็นอันดับแรก
7. ความสามารถในการทำงานร่วมกัน
ทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่นจะช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น หากเรารู้ว่าต้องทำงานร่วมกับใคร การเข้าใจแนวคิด พฤติกรรม และแนวทางการทำงานของเขาจะช่วยให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
8. เป้าหมายและการกำหนดเป้าหมาย
บุคคลที่มีทักษะการจัดการอยู่ในตัวมักค้นพบเป้าหมายของตนเองได้ดีกว่าและทำให้การพิชิตเป้าหมายนั้นเป็นเรื่องง่ายขึ้น ดังนั้นสิ่งแรกที่คุณควรทำเพื่อองค์กรคือ การกำหนดเป้าหมาย แล้วแนวทางการดำเนินการต่างๆ ให้เป้าหมายสำเร็จจะตามมา
9. ความมีประสิทธิภาพ
การจัดระเบียบมาคู่กับความมีประสิทธิภาพเสมอ เช่น ในขั้นตอนการวางแผนโครงการ เราต้องจัดการแบ่งมันออกเป็นส่วนๆ เพื่อมองหาว่าใครเหมาะสมจะทำงานส่วนไหน จะมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร มีปัญหาและวิธีแก้ไขหรือไม่ สิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างของการวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ
10. การสื่อสารที่ชัดเจน
ผู้นำที่แข็งแกร่งจะมาพร้อมกับทักษะการสื่อสารที่ชัดเจนเสมอ เพื่อให้คุณสามารถสื่อสารกับทีมหรือพนักงานได้ว่า ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นและสามารถชี้แจงปัญหาต่างๆได้ ลองเริ่มจากการอธิบายที่ง่ายและกระชับเพื่อพัฒนาทักษะทางด้านนี้
11. ความสามารถในการดูแลตัวเอง
การจัดระเบียบชีวิตส่วนตัวก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และดูแลตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะความเครียดหรือสุขภาพที่อ่อนแอจะสงผลต่อการทำงานของเราในฐานะผู้นำ
ทักษะทั้ง 11 ข้อนี้คือสิ่งที่ผู้นำทุกคนควรมี เพราะนอกจากมันจะทำให้คุณทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจและแรงบันดาลใจให้คุณอีกด้วย
ก้าวสู่ความเป็นผู้นำพร้อมทักษะที่จำเป็น ด้วยการอบรมจาก ADGES สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ e-mail: marketing@adges.net หรือ 6688-028-1111 หรือเว็บไซต์ //www.adges.net/
อาชีพบริหาร เป็นหนึ่งในอาชีพที่มีความรับผิดชอบที่ค่อนข้างสูง เพราะจะรับบทเป็นผู้นำ สร้างความสัมพันธ์ในที่ทำงาน และอีกทั้งยังต้องมีความสามารถที่จะสอนผู้อื่นในที่ทำงานอีกด้วย การบริหารนั้นมีหลากหลายรูปแบบ และหลากหลายสายอาชีพ เช่น ผู้บริหารโปรเจค ผู้บริหารโซเชียลมิเดีย ผู้บริหารทีม ฯลฯ
แล้วคุณเคยสงสัยมั้ยว่าสายงานบริหารนั้นจำเป็นที่จะต้องมีทักษะด้านไหนบ้าง?
วันนี้ Adaptivity เลยอยากจะมาแนะนำ 10 ทักษะมนุษย์ที่จะเป็นหากคุณสนใจที่จะงานสายบริหาร
1. มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี (Interpersonal Skills)
ไม่ว่าจะเป็นงานสายไหน ผู้บริหารไม่ใช่ผู้ที่จะสามารถทำงานได้ด้วยตัวคนเดียว เพราะยังมีทีมงานคนอื่นๆ ที่ต้องแบ่งงานให้และทำงานด้วยกัน รวมถึงเจ้านาย และในบางครั้งยังมีลูกค้าเข้ามาอีกด้วย
จึงทำให้ทักษะด้านการสร้างความสัมพันธ์นี้เป็นหนึ่งในทักษะที่จะมองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว เพราะการสร้างความสัมพันธ์นอกจากจะทำให้ที่ทำงานนั้นวุ่นวายน้อยลง แต่ยังสร้าง Connection ดีๆ ให้ตัวคุณอีกด้วย
2. รู้วิธีการสื่อสารข้อมูล (Communication Skills)
ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารแบบทั้งแบบพูดคุย หรือพิมพ์หาก็ล้วนสำคัญทั้งนั้น เพราะหากว่าคุณมีความรู้ที่อยากจะแชร์ให้ผู้อื่น หรือมีไอเดียอยากจะนำเสนอ แต่ไม่สามารถสื่อสารออกไปได้ดี ข้อมูลเหล่านั้นอาจจะไรค่าไปเลย เพราะฉะนั้นการสื่อสารจึงสำคัญเป็นอย่างมากในการทำงานทุกอย่าง
นอกเหนือจากนี้ การสื่อสารที่ไม่ดีของผู้บริหาร อาจจะส่งผลต่อการสื่อสารที่ไม่ดีของผู้ตาม อีกทั้งยังอาจจะเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ ให้แก่ลูกค้าได้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลที่ไม่ดีต่อบริษัทแน่นอน
3. สามารถเป็นเมนเทอร์ให้ผู้อื่นได้ (Mentoring)
ทุกคนล้วนมีแต่เมนเทอร์กันทั้งนั้น เพียงแค่บางครั้งคุณอาจจะไม่ได้เรียกคนเหล่าว่าเมนเทอร์เฉยๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าผู้บริหารก็ถือว่าเป็นเมนเทอร์ของคุณคนหนึ่งเหมือนกัน ที่คอยแนะนำนำให้คำปรึกษาในการทำงาน
สำหรับคนที่อยากจะเป็นผู้นำผู้อื่นจะต้องมีความรู้ และประสบการณ์ระดับนึง เพื่อมาสอน และปรับเปลี่ยนทิศทางของทีมให้ไปในแนวทางเดียวกัน เพราะฉะนั้นอะไรที่ผู้นำสามารถนำมาสอนผู้อื่นได้ ก็จะถือเป็นทักษะในด้านเมนเทอร์ชิพ
4. มีความเป็นผู้นำ (Leadership Skills)
การเป็นบริหารจำเป็นที่จะต้องมีสปิริตการเป็นผู้นำที่สูง เพราะต้องนำพาทีมไปถึงจุดหมาย อีกทั้งยังต้องรับฟังถึงคำแนะนำของผู้ร่วมงาน ผู้บริหารนั้นจะต้องสร้างความมั่นใจ และลดปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทีม และนำทุกคนมาร่วมมือกันให้ได้งานที่เสร็จสมบูรณ์
หากไม่มีผู้นำในทีม ไม่ว่าจะเป็นงานที่เล็ก หรือใหญ่ก็สามารถที่จะสร้างปัญหาได้ เพราะฉะนั้นการเป็นผู้นำที่ดีจึงจำเป็นที่จะต้องรับฟัง และมองหาแนวทางทำงานที่เหมาะที่สุดกับทีมที่มี ด้วยการแบ่งงานให้เหมาะสม
5. มีความฉลาดทางอารมณ์สูง (Emotional Intelligence)
นอกจากจะมี IQ ยังมี EQ อีกด้วย EQ หรือที่เรียกกันว่า ‘ความฉลาดทางอารมณ์’ นั้นเป็นหนึ่งในทักษะที่หลายๆ คนมี แต่แน่นอนว่าแต่ละคนนั้นจะมี EQ ที่สูงไม่เท่ากัน คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ที่สูงนั้น จะเป็นกลุ่มคนที่เข้าใจตัวเองได้ดี ควบคุมตัวเองได้ มีทักษะการเข้าสังคมที่ดี มีมนุษย์สัมพันธ์ที่สูง ฯลฯ
นอกเหนือจากเข้าใจตัวเองแล้วยังต้องสามารถเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นด้วยเช่นกัน ผู้นำที่มี EQ ที่สูงมักจะสามารถเข้าใจความรู้สึก และเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานได้ดีกว่าคนปกติ อีกทั้งยังสามารถสร้างการสื่อสารที่แข็งแกร่งกว่า สามารถแชร์ไอเดีย หรือผู้คุยได้แบบเปิดใจมากกว่าอีกด้วย
6. แก้ปัญหาเฉพาะหน้า (Problem Solving)
ไม่ว่าจะทำงานสายไหนก็ตาม การมีทักษะการแก้ปัญหาเป็นทักษะที่จำเป็น เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอด ถึงแม้จะวางแผนและคิดคำนวนมาอย่างดีก็ตาม การแก้ปัญหานั้นต้องใช้การรวิเคราะห์หาสาเหตุ ต้นตอของปัญหา และหาวิธีแก้ที่ดีที่สุด
ผู้บริหารที่ดีมักจะมีความมั่นใจในการตัดสินเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สามารถหาทางออกได้อย่างรวดเร็วจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าผู้บริหารที่มีความมั่นใจ คนในทีมก็ย่อมจะเชื่อมั่นในการตัดสินใจครั้งนั้นและปฏิบัติตาม รวมถึงยังเป็นตัวอย่างดีๆ ให้แก่คนในทีมอีกด้วย
7. ทักษะในการตัดสินใจ (Decision Making)
ในหลายๆ เหตุการณ์การตัดสินใจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะยาก แต่การตัดสินใจทุกอย่างนั้นมีความสำคัญมากเพราะ หากตัดสินใจไม่ดีหรือผิดพลาด ก็อาจจะทำให้มีผลกระทบแก่ทั้งทีมและภาพลักษณ์ของบริษัทได้
ผู้บริหารจะรับหน้าที่หลักๆ ทั้งหมดในบริษัท ซึ่งทำให้ต้องมีความรับผิดชอบสูง อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงผู้อื่นในทีมว่าจะสามารถทำตามคำสั่งได้หรือไม่ การตัดสินใจให้เด็ดขาดนั้นจะต้องเป็นการตัดสินใจที่ไม่ลังเลและมีเหตุ เพื่อที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือของตนให้เกิดขึ้นในที่ทำงาน
8. กลยุทธ์ การวางแผน (Strategic Thinking)
การวางแผนเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้เห็นแนวทาง หรือการเติบโตที่คาดเดา และวิเคราห์สำรับอนาคตได้ การวางแผนจะต้องคำนึงถึงคุณค่า และจุดมุ่งหมายของบริษัท รวมถึงความเหมาะสมของแรงงานที่มีในทีม ไม่ควรจะทำให้ยากจนเกินไป หรือง่ายจนไม่ได้อะไรกลับมา อีกทั้งนึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่สามารถนำมาปรับใช้ในที่ทำงานเพื่อให้ทีมนั้นได้ไปถึงจุดมั่งหมายที่ตั้งเอาไว้
9. การจัดการ เรียบเรียง ให้เป็นระเบียบ (Organizational Skills)
ผู้บริหารมีหน้าที่มากมายในที่ทำงาน ทั้งงานส่วนตัว ทั้งเป็นเมนเทอร์ ทั้งดูแลผู้ร่วมงาน ฯลฯ การจัดการเวลาของทั้งตัวเอง และของผู้อื่นจึงเป็นหนึ่งในหน้าที่จำเป็นของผู้บริหาร เพราะ หากจัดการงานได้อย่างไม่มีระเบียบ ไม่มีระบบหรือไม่มีการจัดการใดๆ ที่เป็นขั้นเป็นตอน ก็จะสามารถส่งผลให้งานนั้นออกมาไม่มีคุณภาพ
ผู้บริหารก็เปรียบเสมือนหัวหน้า หากหัวหน้ายังไม่เข้าใจว่าต้องทำอะไรต่อ ลูกน้องก็ไม่มีทางที่จะทำได้ตามที่ต้องการ !
10. สร้างแรงบันดาลใจ (Motivational Skills)
การเป็นผู้บริหารต้องสามารถสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้คนอื่นได้ อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะสร้างแรงบรรดาลใจขึ้นมาไม่ว่าจะกับตัวเองหรือว่าคนอื่น แต่สามารถเรียนรู้ที่จะพัฒนาได้โดยการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และรู้ว่าคนๆ นั้นมีเป้าหมายอะไรในการทำงาน
หากตัวคุณเองไม่มีกำลังใจที่จะทำงานแล้วคนอื่นจะมีได้ยังไงกัน? เพราะฉะนั้นการสร้างแรงผลักดัน และกำลังใจนั้นสามารถทำได้หลายๆ วิธีการ เช่น การพูดคุย ชวนมาแชร์ไอเดีย ความคิด หรือ ไม่กระทั่งจัดงานอีเว้นต์ต่างๆ ให้พนักงานได้พูดคุยกัน เพราะการที่ทีมจะทำงานร่วมกันได้ดีนั้น คนในทีมต้องมีแรงผลักดัน หรือ Positive Influence ที่จะงานร่วมกันให้ประสบผลสำเร็จ
โดยรวมแล้วการที่จะเป็นผู้บริหารนั้นจะต้องมีทักษะหลากหลายด้านที่สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ ทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์, เทคนิคด้านการจัดการ และการปรับแนวคิดของทีม ซึ่งหากคุณมีทักษะ 10 ข้อดังที่กล่าวมาแล้วนั้น ก็จะทำให้คุณเป็นผู้บริหารที่ดี สามารถสร้างทีมที่แข็งแกร่ง และสามารถทำให้บริษัทประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
Written by
Angely Schaffter
Technology never ceases to amaze me. My knowledge and thoughts are what I want to share - the digital era is everything.