รู้หรือไม่สำหรับ เมื่อท่านเกิดอุบัติเหตุรถชน พ.ร.บ. ที่ท่านมีนั้นสามารถเบิกค่าเสียหายได้ นะ โดยสามารถได้ ดังนั้นวันนี้เราเมื่อท่านมีเหตุให้ต้องเจออุบัติเหตุโดนรถชน ท่านสามารถค่ารักษาและค่าสินไหมทดแทนได้ โดยดู ขั้นตอน วิธีเบิกเงินจาก พ.ร.บ.รถยนต์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งรถทุกคันต้องมี โดยท่านสามารถเรียกค่าเสียหายได้มากสุดอยู่ที่ 5 แสนบาทเลยที่เดียว โดยค่ารักษาจะอะไรบ้าง เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปชมกันเลย
วิธีเบิกเงินจาก พ.ร.บ.รถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชน เบิกสูงสุดได้ 5แสนบาท
รู้หรือไม่สำหรับ สำหรับ พ.ร.บ.รถยนต์ ถือว่าเป็นประกันภัยภาคบังคับที่รถยนต์ทุกคันต้องมี เพราะหากไม่ทำ พ.ร.บ. รถยนต์ จะไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ รวมถึงยังผิดกฎหมายอีกด้วย ทำให้จำเป็นต้องทำ พ.ร.บ. แต่เรื่องที่หลายๆ ท่านยังไม่ทราบและเสียโอกาสไป หลายคนนั้นพลาดอะไรดีๆ และเงินก้อนโตที่เรามีสิทธิ์ได้รับ โดยสามารถเบิกสูงสุดได้ 5แสนบาทโดยตั้งแต่ 1 เมษายนปี 63 ที่ผ่านมาสมาคมประกันวินาศภัยไทย มีการปรับเพิ่มวงเงินความคุ้มครองของประกันภัย พ.ร.บ. ว่า ตามที่สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมกับ สำนักงาน คปภ. กำหนดหลักเกณฑ์การชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยได้ทำการปรับเพิ่มความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ พ.ร.บ. จากเดิม 300,000 บาท เป็น 504,000 บาท โดยไม่ขึ้นค่าเบี้ยประกันภัย
ดังนั้นผู้ประสบภัยจากรถได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย จะรับการชดใช้ความเสียหายที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถตามวงเงินความคุ้มครองที่ปรับเพิ่ม การปรับเพิ่มความคุ้มครองในครั้งนี้ เพื่อที่จะทำให้ผู้ประสบภัยจากรถทุกคนมีหลักประกันความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย อย่างเท่าเทียมกัน และเป็นการยกระดับมาตรฐานในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอีกด้วย
ค่าเสียหายเบื้องต้นที่ พ.ร.บ.รถยนต์ คุ้มครอง มีอะไรบ้าง ?
- กรณีบาดเจ็บ จะได้รับการชดใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง โดยจะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นไม่เกิน 30,000 บาทต่อหนึ่งคน
- กรณีทุพพลภาพถาวร สูญเสียอวัยวะ หากผู้ประสบภัยเกิดกรณีทุพพลภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยจะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น 35,000 บาทต่อหนึ่งคน
- กรณีเสียชีวิต หากผู้ประสบภัยเกิดกรณีทุพพลภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยจะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น 35,000 บาทต่อหนึ่งคน
เบิกค่าสินไหมทดแทน กรณีเป็นฝ่ายถูก หากพิสูจน์ความรับผิดแล้ว พ.ร.บ. รถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง ?
- กรณีบาดเจ็บ จะได้รับเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง หรือไม่เกิน 80,000 บาทต่อหนึ่งคน
- เงินชดเชยกรณีสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวร รับสูงสุดไม่เกิน 504,000 บาทต่อหนึ่งคน
- กรณีบาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะในร่างกายตั้งแต่ข้อมือหรือแขน หรือเท้าตั้งแต่ข้อเท้า ตั้งแต่ 2 กรณีขึ้นไป 500,000 บาท แต่หากอวัยวะในร่างกายตั้งแต่ข้อมือหรือแขน หรือเท้าตั้งแต่ข้อเท้ารวมไปจนถึงความสามารถในการพูด ฟัง หรือจิตพิการอย่างอื่นใด ได้รับ 250,000-500,000 บาท ส่วนกรณีสูญเสียชิ้นส่วนในร่างกายแบบเล็กน้อยตั้งแต่นิ้วเดียว หรือหลายนิ้ว รับ 200,000 บาท
- ค่าสินไหมทดแทนทั้งหมด ในกรณีที่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 504,000 บาท
- ค่าเงินชดเชยรายวัน กรณีสูญเสียรายได้ในฐานะคนไข้ใน วันละ 200 บาท แต่สูงสุดไม่เกิน 4,000 บาทหรือไม่เกิน 20 วัน
- วงเงินคุ้มครองความรับผิดสูงสุดต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง สำหรับกรณีรถยนต์ไม่เกิน 7 ที่นั่ง 5,000,000 ต่อครั้ง
- วงเงินคุ้มครองความรับผิดสูงสุดต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง สำหรับรถยนต์กรณีเกิน 7 ที่นั่ง 10,000,000 ต่อครั้ง
- หากมีผู้ประสบภัยเสียชีวิต โดยจะได้รับค่าชดใช้เป็นค่าปลงศพ เป็นจำนวน 35,000 บาทต่อหนึ่งคน
- กรณีบาดเจ็บและเสียชีวิตในภายหลัง หลังจากได้รับการรักษาพยาบาล จะได้รับเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลและค่าปลงศพเบื้องต้นรวมไม่เกิน 65,000 บาทต่อคน
เบิกค่าสินไหมทดแทนกรณีผู้ประสบภัยจากรถเสียชีวิต
- หากผู้ประสบภัยเสียชีวิตให้ท่างญาติ ติดต่อกับทางประกันรถยนต์เพื่อแจ้งความประสงค์ ให้บริษัทดำเนินการการโอนเงินค่าสินไหมฯ เข้าบัญชีธนาคาร ของผู้ประสบภัยหรือ ทายาท ของผู้ประสบภัยจากรถที่เสียชีวิต
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการเบิกเงินจาก พ.ร.บ.รถ
กรณีบาดเจ็บ
- 1.สำเนาบัตรประชาชนผู้ประสบอุบัติเหตุ
- 2.ใบเสร็จรับเงินต้นฉบับ
กรณีเบิกค่าชดเชยผู้ป่วยใน
- 1.สำเนาบัตรประชาชนผู้ประสบอุบัติเหตุ
- 2.ใบรับรองแพทย์ หนังสือรับรองการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน
กรณีทุพพลภาพ
- 1.สำเนาบัตรประชาชนผู้ประสบอุบัติเหตุ
- 2.ใบรับรองแพทย์และหนังสือรับรองความพิการ
- 3.สำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวน
กรณีเสียชีวิต
- 1.สำเนาบัตรประชาชนผู้ประสบอุบัติเหตุ
- 2.ใบมรณบัตร
- 3.สำเนาบัตรประชาชนทายาทสำเนาทะเบียนบ้าน
- 4.สำเนาบันทึกประจำวันในคดีของพนักงานสอบสวน หรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าผู้นั้นถึงแก่ความตาย
ระยะเวลาการรับเงิน ใช้เวลากี่วัน
สำหรับระยะเวลาการเบิกค่าสินไหมทดแทนหรือรับเงินสด จะอยู่ที่ประมาณ 7 วันหรือ 15 วันทำการ ขึ้นอยู่กับว่า ท่าน ส่งเอกสารครบถ้วน สมบูรณ์หรือไม่ เพราะบริษัทประกันภัยจะทำเรื่องอนุมัติค่าสินไหมทดแทนได้ก็ต่อเมื่อได้รับเอกสารประกอบครบถ้วนแล้วเท่านั้น