วันหยุดครั้งหน้า ใครกำลังมองหาที่เที่ยว วันนี้พวกเราชิลไปไหน จะชวนนั่งรถไฟไปเที่ยวกับ
‘10 ทริปใกล้กรุง ที่นั่งรถไฟไปเที่ยวได้’ พร้อมออกเดินทางแล้ว ตามเรามาได้เลย!
ก่อนอื่นนะคะ เพื่อนๆ สามารถเช็คตารางการเดินรถและราคาค่าโดยสารได้จากเว็บไซต์ของการรถไฟหรือโทรสอบถามที่เบอร์ 1690 ได้ค่ะ และตอนนี้มีแอปพลิเคชั่น ‘ตรวจสอบเวลาการเดินรถ’ สามารถโหลดเช็ครายละเอียดต่างๆ แบบชิลๆ ได้ด้วยจ้า …
โหลดตารางการเดินรถได้ที่นี่ด้วยค่ะ //bit.ly/2mqyr7Z
เริ่มต้นที่ทริปแรกค่ะ เราจะพานั่งรถไฟไปไหว้พระขอพร ทานของอร่อยและชิลริมแม่น้ำบางปะกงกันที่ ‘จ.ฉะเชิงเทรา’ ค่ะ จากกรุงเทพฯ นั่งรถไฟไปใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ ถ้าเป็นรถพัดลมธรรมดา ค่าโดยสารอยู่ที่ 13 บาท ปลายทางให้ลงที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทราจ้า หรือถ้าเดินทางช่วงเสาร์-อาทิตย์ จะจองเป็นรถไฟขบวนพิเศษก็ได้ค่ะ เป็นตั๋วเที่ยวเดียว ราคาอยู่ที่ 80 บาท/เที่ยว และสิ่งห้ามพลาดเมื่อมาถึงที่นี่ คือ การไหว้ขอพรหลวงพ่อโสธร ที่วัดโสธรวรารามวรวิหารค่ะ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่ว่ากันว่ามาขอพรที่นี่แล้วมักจะสมหวังดั่งใจ ไม่ว่าจะขอเรื่องงาน เรื่องสุขภาพ หรือแก้ชง หลังจากไหว้พระเสร็จ แนะนำให้แวะเที่ยวตลาดบ้านใหม่ ๑๐๐ ปี เดินหาของกินอร่อยๆ กัน
นอกจากนี้ยังมีวัดและที่เที่ยวน่าแวะอีกเพียบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวัดสมานรัตนาราม วัดที่เป็นที่ประดิษฐานของพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย, วัดปากน้ำ(โจ้โล้) ซึ่งมีพระอุโบสถทองคำอันสวยงาม
หรือถ้าใครเป็นสายชิล แนะนำให้แวะมาที่ River Breeze Cafe คาเฟ่ริมแม่น้ำบางปะกง ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน แถมยังมีโฮมสเตย์ให้เข้าพักได้ชิลๆ ด้วยจ้า
ไปกันต่อค่ะกับทริปเที่ยวพัทยา เมืองชายทะเลใกล้กรุงสุดฮิต ทริปนี้นั่งรถไฟสายตะวันออกไปได้เช่นกัน มีทั้งรถไฟธรรมดา ที่ค่าโดยสารจะตกเที่ยวละ 30 กว่าบาท และรถไฟขบวนพิเศษ ในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นสายตะวันออกเหมือนกับที่ไปฉะเชิงเทราค่ะ ซึ่งค่าโดยสารจะอยู่ที่ 170 บาท (ต้องจองก่อนนะคะ)
ในส่วนของที่เที่ยวบอกได้คำเดียวว่า จัดเต็มค่ะ เพื่อนๆ สามารถเลือกลงเที่ยวได้ตามใจชอบ ถ้าอยากหาของอร่อยๆ กิน และนั่งเรือเล่นเพลินๆ ก็นั่งขบวนพิเศษไปลงที่สถานีตลาดน้ำสี่ภาคได้เลย
หรือถ้าอยากเที่ยวชมธรรมชาติพร้อมเดินเล่นแชะภาพก็ลงที่สวนนงนุชและต่อรถรางเข้าไปได้เลยจ้า
ส่วนถ้าใครอยากเที่ยวทะเลพัทยาหรือเกาะล้านก็ลงสถานีพัทยาและต่อสองแถวไปเที่ยวกันได้ ที่สำคัญ ใครอยากไปเที่ยว อ.สัตหีบ ก็ลงที่สถานีพลูตาหลวง แล้วเหมารถสองแถวไปเที่ยวต่อได้หลายที่เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหาดเตยงาม หาดนางรำ หาดดงตาล หรือถ้าใครอยากไปเที่ยวเกาะแสมสารหรือเกาะขามก็ลงสถานีนี้และต่อรถสองแถวไปที่ท่าเรือได้สบายๆ จ้า
ไปได้ด้วยรถไฟขบวนพิเศษ สายตะวันออก ต้องจองก่อน แต่จองในเว็บไม่ได้ต้องโทรหรือไปที่สถานี และเปิดให้เดินทางแค่ช่วง เสาร์-อาทิตย์ ค่ะ *ข้อมูลจากการสอบถาม 1690 >> //www.railway.co.th/main/train/banputaluangT997.html
สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน
ยกเว้นผู้โดยสารที่ขึ้นลงระหว่างสถานีกรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา - กรุงเทพ จองตั๋วล่วงหน้าได้ไม่เกิน 2 วันก่อนวันเดินทาง และผู้โดยสารที่ขึ้นลงระหว่างสถานีศรีราชา - บ้านพลูตาหลวง - ศรีราชา ต้องซื้อตั๋วในวันเดินทางโดยเป็นตั๋วไม่มีที่นั่งชมรีวิวฉบับเต็มที่นี่>>//www.chillpainai.com/scoop/9732/
ไปเที่ยวอีกหนึ่งเมืองริมน้ำกันค่ะ กับ จ.สมุทรสงคราม เมืองริมน้ำแม่กลอง ที่ฮ็อตฮิตทั้งที่กิน-เที่ยว-พัก ซึ่งการเดินทางไปด้วยรถไฟต้องขึ้นรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ไปลงสุดทางที่สถานีมหาชัย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากไปท่าฉลอม และไปต่อรถไฟอีกสายที่สถานีรถไฟบ้านแหลมเพื่อจะไปลงสถานีแม่กลองกันค่ะ ซึ่งพิกัดนี้เป็นที่ตั้งของตลาดร่มหุบ ตลาดริมทางรถไฟที่มีความแปลกไม่เหมือนใคร เพราะเราจะได้เห็นพ่อค้าแม่ขาย คอยหุบร่มและเก็บของ หลบรถไฟที่วิ่งผ่ากลางตลาด เป็นความอะเมซซิ่งอันซีนไทยแลนด์สุดๆ จ้า
และจากสถานีนี้เราสามารถนั่งรถสองแถวไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาต่อกันได้เลยค่ะ ไปหาของกินอร่อยๆ ซื้อปลาทูมันๆ นั่งเรือชมวิว หรือจะหาที่พักริมน้ำ นอนเล่นซักคืนสองคืน ก็ทำได้ชิลๆ เลยค่า
ชมรีวิวเที่ยวอัมพวาที่นี่>>//www.chillpainai.com/scoop/10537/
อีกหนึ่งจังหวัดใกล้กรุงที่นั่งรถไฟไปเที่ยวได้ไม่ยาก เราขอยกให้กับ จ.นครปฐม เลยค่ะ โดยเราสามารถเลือกนั่งรถไฟสายกรุงเทพ-หัวหิน หรือจะเป็น สายธนบุรี - หลังสวนก็ได้ค่ะ ราคาค่าโดยสายเที่ยวละประมาณ 10-14 บาทเท่านั้น สำหรับเส้นทางในการเที่ยว เราขอแนะนำให้ลงที่สถานีนครปฐมแล้วเดินเล่นตลาด หาของอร่อยทาน และแวะไหว้พระที่องค์พระปฐมเจดีย์กันก่อนค่ะ
จากนั้นค่อยต่อรถสองแถวหรือนั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวต่อที่พระราชวังสนามจันทร์ จากนั้นช่วงเย็นๆ หาคาเฟ่บรรยากาศดีนั่งชิลแถวละแวกใกล้เคียง แล้วค่อยขึ้นรถกลับจ้า
ข้อมูล : สายกรุงเทพ- หัวหิน ขบวน 261 ค่าโดยสาร 14 บาท / สายธนบุรี - หลังสวน ค่าโดยสาร 10 บาท เป็นรถพัดลมธรรมดาทั้งคู่
ชมรีวิวเที่ยวนครปฐมที่นี่>>//www.chillpainai.com/scoop/10953/
ไปต่อกันกับทริปเที่ยวราชบุรีค่ะ พิกัดนี้อยู่ใกล้กับนครปฐม แถมนั่งรถไฟสายเดียวกันได้ด้วยค่ะ แต่ไปไกลกว่านิดนึง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ค่าโดยสารประมาณ 22-25 บาท ลงที่สถานีราชบุรีได้เลยค่ะ จากนั้นต่อโบกรถตุ๊กตุ๊กหรือพี่วินไปเที่ยวต่อกันที่ หอศิลป์ร่วมสมัย Tao Hong Tai d'kunst (ดีคุ้น) เสพย์นิทรรศการศิลปะและนั่งจิบกาแฟเพลินๆ และแวะมาเที่ยวย้อนราชบุรีวันวานกันที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี
ใครยังไม่จุใจ แนะนำให้ต่อรถสองแถวหรือนั่งวินมอเตอร์ไซด์ไปเที่ยวที่ ‘อุทยานหินเขางู’ กันค่ะ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเชิงธรรมชาติที่ได้ชื่อว่าเป็นอุทยานหินสวยที่สุดในเมืองไทย มีสะพานแขวนให้เดินเล่น ชมบรรยากาศอันสวยงาม โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน บอกเลยว่าประทับใจสุดๆ จ้า
ข้อมูล : รถไฟสายกรุงเทพ- หัวหิน ขบวน 261 ค่าโดยสาร 25 บาท (ออกเช้า 9.20 )
รถไฟสายธนบุรี - หลังสวน ขบวน 255 ค่าโดยสาร 22 บาท (ออกเช้า 7.30 )
รถไฟสายธนบุรี - ประจวบคีรีขันธ์ ขบวน 251 ค่าโดยสาร 22 บาท (ออกบ่าย 13.05 )
รถไฟเป็นรถพัดลมธรรมดาทุกขบวนที่บอกมาจ้า สามารถเช็คผ่านแอปของการรถไฟได้เลยค่า
ชมรีวิวเที่ยวราชบุรีที่นี่>>//www.chillpainai.com/scoop/10503/
เที่ยวต่ออย่ารอช้าค่ะ! คราวนี้จะพานั่งรถไฟไป ‘หัวหิน’ กันบ้าง ไปตกหลุมรักกับสถานีรถไฟหัวหิน พิกัดที่สวยคลาสสิค น่าถ่ายภาพที่ระลึก และตะลุยเที่ยวเมืองชายทะเลยอดฮิตที่ติดอันดับเมืองตากอากาศลำดับต้นๆ ของเมืองไทยกั๊นนน! สำหรับสายรถไฟที่จะมาที่นี่ จะเลือกขึ้น สายกรุงเทพ- หัวหิน, สายธนบุรี - หลังสวน หรือ สายธนบุรี - ประจวบคีรีขันธ์ ก็ได้ค่ะ ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 42-44 บาท เดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ ซึ่งพอมาถึงสถานีหัวหิน จะต่อสองแถวหรือวินมอเตอร์ไซต์ไปเที่ยวก็ได้ค่ะ
ซึ่งถ้าหากเที่ยวแถบตัวเมือง ใครที่ฟิตๆ สามารถเดินลัดเลาะ เที่ยว หาของกินแถวนั้นได้เลยค่ะ มีทั้งตลาดฉัตรไชย ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ชายหาดหัวหิน และร้านอาหารอร่อยเด็ด อย่างขนมหวานป้าปรางค์ ร้านขนมไทยที่แนะนำว่าต้องไปลอง หรือ The Chocolate Factory หัวหิน ร้านอาหารบรรยากาศที่มานั่งชิลได้เพลินๆ ค่ะ
ข้อมูล : รถไฟสายกรุงเทพ- หัวหิน ขบวน 261 ค่าโดยสาร 44 บาท (ออกเช้า 9.20 )
รถไฟสายธนบุรี - หลังสวน ขบวน 255 ค่าโดยสาร 42 บาท (ออกเช้า 7.30 )
รถไฟสายธนบุรี - ประจวบคีรีขันธ์ ขบวน 251 ค่าโดยสาร 42 บาท (ออกบ่าย 13.05 )
รถไฟเป็นรถพัดลมธรรมดาทุกขบวนที่บอกมาจ้า *เช็คผ่านแอปของการรถไฟ
ชมรีวิวเที่ยวหัวหินที่นี่>>//www.chillpainai.com/scoop/8512/
ถ้ามีเวลาว่างเสาร์-อาทิตย์แต่ไม่รู้จะไปไหน อยากชวนมานั่งรถไฟไปกาญจนบุรีกัน เส้นทางนี้จะพาเราไปรับลมเย็นๆ ชมธรรมชาติ และย้อนรอยประวัติศาสตร์ ซึ่งจุดไฮไลท์ของรถไฟสายนี้เราขอยกให้กับ ‘สะพานข้ามแม่น้ำแคว’ แลนมาร์คสำคัญที่รถไฟจะวิ่งผ่านและจอดให้ถ่ายรูปเป็นระยะ และ ‘ถ้ำกระแซ’ หรือบริเวณโค้งมรณะ ซึ่งเป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร ที่ด้านซ้ายติดแม่น้ำแควน้อย และด้านขวาขนาบด้วยหน้าผาสูงชันคดโค้งชวนหวาดเสียว แต่ขณะเดียวกันก็เป็นจุดที่สวยงามที่สุดด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบันเส้นทางนี้ไปสุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือสถานีน้ำตกไทรโยคน้อย ส่วนต้นทางของสายนี้อยู่ที่ ‘สถานีธนบุรี’ ค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 25-39 บาทค่ะ (ราคาและเวลาจะขึ้นอยู่กับสถานีที่เราเลือกลงนะคะ)
ข้อมูล : สายธนบุรี - น้ำตก ขบวน 257 (ออกเช้า 7.50)
สายธนบุรี - น้ำตก ขบวน 259 (ออกบ่าย 13.55)
ชมรีวิวเที่ยวกาญจนบุรีที่นี่>>//www.chillpainai.com/scoop/8512/
คราวนี้ไปเที่ยวใกล้ขึ้นอีกนิดค่ะ กับทริปเที่ยวอยุธยา ซึ่งเรานั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปได้ ใช้เวลาแค่ชั่วโมงกว่าๆ และค่าโดยสารเพียง 15 บาท เท่านั้นจ้า จากสถานีรถไฟก็สามารถต่อรถสองแถวเที่ยวต่อได้เลยค่า
ที่เที่ยวที่นี่ หลักๆ จะเป็นเมืองเก่า ให้เราได้ตามรอยประวัติศาสตร์ เต็มไปด้วยวัดเก่าแก่สวย ทรงคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นวัดไชยวัฒนาราม วัดใหญ่ไชยมงคล หรือวัดพระศรีสรรเพชญ์ ฯลฯ คาเฟ่และร้านอาหารอร่อยเด็ด วิวดีเหมาะกับการมานั่งชิล แถมยังมีที่พักริมน้ำให้เลือกเช็คอินเพียบจ้า
ชมรีวิวนั่งรถไฟเที่ยวอยุธยาที่นี่>>//www.chillpainai.com/scoop/11108/
ต่อกันกับทริปรถไฟลอยน้ำ ณ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ค่ะ เป็นทริปที่ทางการรถไฟฯ จัดขบวนรถไฟพิเศษให้ได้ไปเที่ยวกันในช่วงเดือน พฤศจิกายน – มกราคม โดยมีราคาตั๋วไป-กลับอยู่ที่ประมาณ 270 - 470 บาท
รถจะออกจากหัวลำโพงแต่เช้า และจอดรับผู้โดยสารตามสถานีต่างๆ ไปเรื่อยๆ และจะมีการหยุดให้ชมทุ่งทานตะวันเหลืองอร่าม ซึ่งไฮไลท์ของทริปนี้คือ การหยุดให้ชมทิวทัศน์เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะได้เห็นภาพรถไฟที่ทอดยาวท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามโดยรอบ
นอกจากนี้ยังจอดให้เราสามารถลงมาทำกิจกรรมต่างๆ อีกหลายอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น นั่งรถลากชมวิวบนเขื่อน ให้อาหารปลา หรือสักการะหลวงปู่ใหญ่ หากใครสนใจเที่ยวทริปรถไฟลอยน้ำแบบนี้ ก็รอติดตามข่าวสารจากทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทุกปีค่ะ
ชมรีวิวเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่นี่>>//www.chillpainai.com/scoop/10210/
ทริปสุดท้ายจ้า เอาใจคนมีเวลาน้อยอีกซักทริป เพราะเราจะพานั่งรถไฟจากหัวลำโพงมาที่ ‘สถานีหัวตะเข้’ กัน บอกเลยว่าใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แถมค่าโดยสารแค่ 7 บาท อะหื้ม! ดีงามอะไรขนาดนี้
พอมาถึงสถานีรถไฟ ก็ต่อสองแถวเลยค่ะ มุ่งมาที่ชุมชนตลาดไม้เก่าหัวตะเข้กัน มาที่นี่จะได้สัมผัสกับกลิ่นอายความคลาสสิค บ้านไม้ที่ตั้งอยู่ริมคลองมีหลังคาสังกะสี แต่มีสเน่ห์เฉพาะตัว มีคาเฟ่ให้นั่งเล่นชมบรรยากาศริมคลองและมีมุมถ่ายรูปเพียบ ใครที่ชอบอะไรที่มีความวินเทจต้องชอบที่นี่แน่นอนค่ะ
ชมรีวิวเที่ยวหัวตะเข้ที่นี่>>//www.chillpainai.com/scoop/7318/