คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน
คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม
โอกาส "รวย" ของคนชอบลุ้นกลับมาครั้งไหน ความหวังเป็น "เศรษฐี" แบบฟ้าผ่าก็กลับมาอีกครั้ง เชื่อว่าเหล่านักเสี่ยงโชคทั้งหลายคงเคยจินตนาการว่าถ้า "ถูกรางวัลที่1" หรือ "ถูกหวย" รางวัลใหญ่ๆ จะเอาเงินไปทำอะไรบ้าง
แต่ก่อนจะคิดไปถึงขั้นแบ่งเงินไปใช้สไตล์เศรษฐีหน้าใหม่ "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" พาไปดูก่อนว่า ถ้าเรา "ถูกหวยรางวัลที่1" หรือ "ถูกลอตเตอรี่" รางวัลต่างๆ แล้ว เราจะได้เงินจริงๆ เท่าไร กันแน่ ?
- "ถูกหวย" ต้องเสียภาษีหรือไม่ ?
ขั้นแรกต้องรู้ก่อนว่าเราถูกหวยแบบไหน เพราะจริงๆ แล้ว ลอตเตอรี่ที่มีวางจำหน่ายมีอยู่ 2 แบบ โดยความแตกต่างของทั้ง 2 แบบสามารถสังเกตง่ายๆ จากมุมขวาบนของสลาก ที่มีการระบุว่าเป็น "สลากกินแบ่งรัฐบาล" หรือ "สลากการกุศล" ซึ่งแต่ละแบบมีเกณฑ์การถูกหักภาษี และอากรแสตมป์ต่างกันด้วย
แบบที่ 1 : สลากกินแบ่งรัฐบาล
หลายคนคงคุ้นเคยกับ สลากกินแบ่งรัฐบาล แบบธรรมดา สำหรับใครที่ถูกรางวัลจากสลากประเภทนี้ ไม่ต้องเสียภาษีจากเงินรางวัลเต็มจำนวนแต่ต้องเสียค่า "อากรแสตมป์" 1 บาท ของเงินรางวัลทุก 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท โดยเฉลี่ยออกมาแล้วเท่ากับจะต้องเสียค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของเงินรางวัล
แบบที่ 2 : สลากการกุศล
สลากการกุศล" คือสลากพิเศษที่จะออกมาคละกับสลากกินแบ่งรัฐบาลทั่วไป เป็นสลากที่มีเป้าหมายนำเงินไปทำบุญ บริจาคต่างๆ มีเงินรางวัลเหมือนกับสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบปกติทุกอย่าง แต่หากถูกสลากประเภทนี้ จะต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย 1% ของเงินรางวัล
- ถูกหวยรางวัลใหญ่ จะได้เงินจริงๆ เท่าไรบ้าง ?
หลังจากที่รู้แล้วว่าเราถูกสลากประเภทไหน ก็ลองมาคำนวณกันดูเล่นๆ ว่า ถ้าเราถูกรางวัลใหญ่แบบที่หวัง จะได้รับเงินจริงๆ เท่าไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น
รางวัลที่ 1 รางวัลเต็มจำนวน 6,000,000 บาท
- เงินที่จะได้รับจริง หากถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล หลังเสียค่าอากรแสตมป์ 0.5% คือ 5,970,000 (หักไป 30,000 บาท)
- เงินที่จะได้รับจริง หากถูกสลากการกุศล หลังหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% คือ 5,940,000 บาท (หักไป 60,000 บาท) เป็นต้น
โดยแต่ละรางวัลก็จะถูกเก็บภาษีหรืออากรแสตมป์ตามเงื่อนไขแบบเดียวกันทุกรางวัล ซึ่งเงินรางวัลที่ได้ก็จะแตกต่างกันออกไปตามจำนวนเงินรางวัลที่รับนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ใครที่ถูกหวยรางวัลต่างๆ อย่าลืมรีบไป "ขึ้นเงิน" หรือขอรับเงินรางวัลภายใน 2 ปี นับจากวันออกรางวัลสลาก หากเกินกำหนดจะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
รางวัลที่เราได้รับจะต้องมีการถูกเก็บภาษีด้วย โดยรูปแบบและอัตราของการเก็บภาษีนั้น จะแตกต่างกันไปตามประเภทรางวัลค่ะ
.
👉1.สลากกินแบ่งรัฐบาล
หากว่าเรานั้นถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล (แบบธรรมดา)
เรา (ผู้ถูกรางวัล) จะโดนภาษี หัก ณ ที่จ่ายทันที
เมื่อเราไปขึ้นเงินด้วยอัตรา 0.5% ของเงินรางวัล
.
👉2.สลากการกุศลชุดพิเศษ
แต่หากเราถูกสลากการกุศลชุดพิเศษ
เรา (ผู้ถูกรางวัล) จะโดนภาษี หัก ณ ที่จ่าย
ทันทีเมื่อเราไปขึ้นเงิน ด้วยอัตรา 1% ของเงินรางวัล
.
โดยสลากทั้งสองแบบนี้จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ทำให้เราไม่ต้องนำเงินรางวัลไปยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีอีก
📌 รายละเอียดเพิ่มเติม รับชมได้ในคลิปนี้เลยค่ะ
สำหรับบทความนี้ ขออนุญาตเล่าสู่กันฟังในส่วนของลอตเตอรี่ หรือ สลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ออกโดยรัฐบาลหรือ กองสลากที่เราคุ้นเคยกันเท่านั้นนะครับโดยผู้ที่ต้องการจะขายต้องขออนุญาตจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก่อนครับ
สำหรับรางวัลที่ออกทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือนนั้น มีรายละเอียดตามนี้ครับ
โดยรางวัลก็จะมีตั้งแต่สูงสุด 6 ล้านบาท สำหรับรางวัลที่ 1 ไปจนถึงเลขท้าย 2 ตัว จำนวน 2,000 บาทครับ และตอนนี้ไม่ได้มีแค่สลากกินแบ่งรัฐบาลที่เป็นกระดาษอย่างเดียวครับ แต่ยังมีสลากตัวใหม่ คือ สลากดิจิทัล ซึ่งเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลเหมือนกัน แต่ถูกสแกนและแปลงเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ซื้อ-ขายแบบออนไลน์ผ่านแอปฯ เป๋าตังได้สะดวกมากยิ่งขึ้นครับ (ว่ากันว่าขายดีมาก) ซึ่งข้อดีหลัก ๆ สำหรับคนที่ซื้อสลากดิจิทัลก็คือ ไม่ต้องลุ้น ซื้อสลากได้ในราคา 80 บาทอย่างแน่นอนครับ
แหม่… ลากมาซะยาวแบบนี้ จนใครหลายคนเกือบจะซื้อสลากไปแล้ว เรากลับมาว่ากันที่เรื่องของภาษีกันบ้างครับ สำหรับคนที่สงสัยว่า ถ้าหากถูกรางวัลแล้ว จะต้องเสียภาษีอะไรบ้าง ผมสรุปออกมาตามนี้ครับ โดยแยกเป็นสลากสองประเภทครับ ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล และ สลากการกุศล
กรณีถูกรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล เราไม่ต้องเสียภาษีจากเงินรางวัล แต่ต้องเสียค่า "อากรแสตมป์" ในอัตรา 0.5% ของเงินรางวัลที่ได้รับแทนครับ (หรือเสีย 1 บาท จากรางวัลของเงินรางวัลทุก 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท)
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเราถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 6 ล้านบาท เราต้องเสียอากรทั้งหมด 30,000 บาท โดยเราจะได้เงินสุทธิจำนวน 5,970,000 บาทครับ
อย่างไรก็ดี เร็ว ๆ นี้น่าจะได้เห็นการกลับมาของสลากอีกตัวหนึ่งครับ นั่นคือ สลากการกุศล ซึ่งจะแตกต่างจากสลากกินแบ่งตรงที่ เมื่อเราถูกรางวัล เราจะถูกหักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ในอัตรา 1% ของเงินรางวัลที่ได้รับครับ แต่ไม่ต้องเสียอากรสแตมป์ครับผม ซึ่งเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ครม.เห็นชอบให้มีการ "ออกสลากการกุศล" ไม่เกินงวดละ 11 ล้านฉบับ เพื่อสนับสนุนโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินจากโครงการ "สลากการกุศล" จำนวน 16 โครงการ วงเงินรวม 8,239.93 ล้านบาทครับ
ดังนั้น ในกรณีของสลากการกุศล ถ้าหากเราถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 6 ล้านบาท เราต้องภาษีหัก ณ ที่จ่ายจำนวน 60,000 บาท โดยเราจะได้เงินสุทธิจำนวน 5,940,000 บาทครับ
แต่ภาษีทั้งหมดที่ว่ามานี้ คือ จ่ายแล้วจบได้ทันทีครับ เพราะถ้าหากเราถูกรางวัลส่วนนี้ เงินรางวัลที่ได้นั้นไม่ต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกรอบหนึ่งแล้วครับ เนื่องจากกฎหมายเขียนไว้ชัดเจนตามนี้ครับ
- มาตรา 42 (11) รางวัลเพื่อการศึกษาหรือค้นคว้าในวิทยาการ รางวัลสลากกินแบ่งหรือสลากออมสินของรัฐบาล รางวัลที่ทางราชการจ่ายให้ในการประกวดหรือแข่งขัน ซึ่งผู้รับมิได้มีอาชีพในการประกวดหรือแข่งขัน หรือสินบนรางวัลที่ทางราชการจ่ายให้เพื่อประโยชน์ในการปราบปรามการกระทำความผิด
- ส่วนฝั่งของสลากการกุศลนั้น ถึงแม้จะเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายในอัตรา 1% แต่เงินได้ส่วนนี้ก็ได้รับสิทธิ์ไม่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีเช่นกันครับ ซึ่งระบุไว้ในมาตรา 5 จตุทศ กฤษฏีกา ฉบับที่ 10 ครับ
ทีนี้ประเด็นสำคัญที่ต้องรู้อีกเรื่องหนึ่งสำหรับคนที่ซื้อสลากในรูปแบบดิจิทัล นั่นคือ เรื่องของค่าธรรมเนียมในการขึ้นรางวัลครับ โดยเราจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 1% ในกรณีเลือกรับโดยการโอนเงิน (โอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผูกไว้กับแอปฯ เป๋าตัง) ดังนั้นถ้ารับโอนรางวัลผ่านระบบออนไลน์เข้าบัญชี รางวัลตรงนี้ก็จะลดลงไปอีก 1% เลยนะครับ
แต่เท่าที่ทราบ มีผู้ให้บริการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเจ้าหนึ่งรับผิดชอบทั้งค่าภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้กับลูกค้าทั้งหมดด้วยนะครับ อันนี้ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกันด้วยนะครับผม (ฺฮ่าๆ)
มาถึงตรงนี้เราได้เรียนรู้กับภาษีกันไปหมดแล้วครับว่า ถูกรางวัลที่ 1 งวดนี้ต้องเสียภาษีกันกี่บาท เสียค่าธรรมเนียมยังไง วางแผนแบบไหนดี แต่เชื่อว่าหลายท่านคงแอบคิดในใจเหมือนกับผมว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องภาษีที่ต้องเสียหรอก มันอยู่ที่การถูกรางวัลต่างหาก