ถ้าต้องนั่งทำงาน แสงที่ควรหลีกเลี่ยงคือแสง Warm White เพราะแสงชนิดนี้มักถูกนำไปใช้กับห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สำหรับออฟฟิศควรเลือกใช้แสง Daylight ที่มีความขาวสว่างมากกว่า
✨ โคมไฟตั้งโต๊ะช่วยได้
ถ้าต้องอ่านเอกสารเยอะ ๆ จนอาจปวดตา ก็สามารถเพิ่มโคมไฟตั้งโต๊ะที่เป็นแสง Warm White เพื่อที่จะได้เปิด-ปิดแยกเฉพาะกิจ ไม่ต้องไปรบกวนการทำงานของเพื่อนร่วมงาน
✨ รับแสงธรรมชาติก็ดีไปอีกแบบ
ใครที่ Work From Home อยู่ก็อาจจะเน้นการใช้แสงธรรมชาติ เลือกบริเวณในบ้านที่อยู่ใกล้หน้าต่างให้แสงสาดเข้ามาถึงก็ช่วยประหยัดไฟได้ด้วยเหมือนกัน
✨ หลอด LED คู่ใจผู้ใช้ไฟ
สำหรับการเลือกใช้หลอดไฟ แนะนำให้ใช้หลอด LED เพราะส่งความร้อนน้อยกว่าแล้วยังช่วยประหยัดไฟได้อีกด้วย
เหตุการณ์สมมติที่ 1
นาย เอ นั่งทำงานในช่วงเช้าพร้อมกาแฟเย็นคู่ใจ แต่ไม่ว่าจะดื่มกาแฟไปเยอะแค่ไหน นาย เอ กลับไม่รู้สึกถึงบรรยากาศที่กระปรี้กระเปร่า กลับกันนาย เอ รู้สึกเหมือนอยู่ในร้านกาแฟสบาย ๆ มากกว่าออฟฟิศที่ควรเต็มไปด้วยความเร่งรีบ
เหตุการณ์สมมติที่ 2
นางสาว บี นั่งทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น ลากยาวไปยันหัวค่ำเพราะวันนี้มีการทำโอที ถึงแม้ว่าพระอาทิตย์จะตกดินไปนานแล้ว แต่นางสาว บี กลับรู้สึกว่านั่งทำงานท่ามกลางความร้อน ยิ่งนั่งทำงานนานเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกร้อนมากขึ้นเท่านั้น
จากเหตุการณ์สมมติข้างต้น เพื่อน ๆ พอจะสังเกตอะไรได้ไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้แสงไฟที่เป็น warm light ที่นิยมใช้ในร้านกาแฟหรือคาเฟ่ต่าง ๆ มากกว่าในออฟฟิศ หรือการไม่ได้เลือกใช้หลอด LED ที่แผ่กระจายความร้อนน้อยกว่า เพียงแค่ปัจจัยเล็ก ๆ ก็สามารถส่งผลต่อการทำงานได้แล้ว
4 เทคนิค จัดแสงโต๊ะทำงาน
August 05, 20201. แสงธรรมชาติ คือ แสงที่สบายตาที่สุดในการทำงาน หากต้องทำงานในช่วงกลางวัน ควรวางโต๊ะทำงานให้อยู่ใกล้กับหน้าต่างหรือระเบียง บริเวณที่แสงส่องถึง เพื่อให้ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอ เพราะแสงธรรมชาติคือแสงที่สบายตาที่สุด หากแสงแดดจัดเกินไปก็สามารถนำผ้าม่านปรับระดับความเข้มของแสง ควรจัดทิศทางให้แสงธรรมชาติเข้ามาทางด้านหน้าของโต๊ะทำงาน เหนือระดับสายตาหรือจัดทิศทางให้แสงธรรมชาติเข้ามาด้านข้างก็ได้ แต่ให้ระวังเงาที่จะไปบังหน้าจอ
2. จัดแสงไฟให้มีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อสุขภาพดวงตาที่ดี หากบริเวณห้องทำงานมีแสงสว่างไม่เพียงพอ อาจจะทำให้สายตาเสียได้ ควรจะติดตั้งหลอดไฟ หรือโคมไฟตกแต่งโต๊ะทำงาน เพื่อเพิ่มให้แสงสว่างเพียงพอและไม่ทำร้ายสายตา
3. โคมไฟที่ใช้นำมาช่วยเพิ่มแสงสว่าง ควรใช้แสง Cool White เพื่อความสบายตาในการทำงาน และค่า CRI มากกว่า 80% จะช่วยให้สีจากการทำงานไม่ผิดเพี้ยน และควรใช้ความสว่างที่ 400 - 600 Lux จะให้แสงที่ไม่สว่างหรือมืดเกินไป
จากทั้ง 4 ข้อนี้จะเห็นได้ว่า "แสงสว่าง" มีผลต่อการทำงานเพราะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การเลือกทิศทางตั้งโต๊ะทำงาน ก็สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมได้ อ่านแล้วก็อย่าลืมนำไปปรับและจัดโต๊ะที่บ้านกันนะคะ
- Tags:
- desk lamp
- lekise
- Lighting
- tips
- จัดแสงห้องทำงาน
- ทริค
- เลคิเซ่
- แสงไฟ
- โต๊ะทำงาน
- Share:
สิ่งต่อมาที่ต้องทราบเพื่อเลือกโคมไฟตั้งโต๊ะให้เหมาะสมก็คือ ภายในห้องนั้นควรมีแสงสว่างที่เพียงพอ โดยในห้องที่เราจะต้องใช้ทำงานนั้นจะต้องมีแสงสว่างที่เหมาะสมกับสายตา ไม่สว่างมากหรือแสงน้อยจนเกินไป หลีกเลี่ยงการทำงานภายใต้แสงสะท้อนที่ส่งมาตรง ๆ ของไฟเหนือศีรษะ เปลี่ยนทิศทางของโคมไฟตั้งโต๊ะ ให้กระจายแสงรอบ ๆ ที่ช่วยส่องสว่างพื้นที่ของห้องทำงานได้แบบนุ่มนวล และที่สำคัญที่สุดคือต้องหลีกเลี่ยงทิศทางการกระจายแสงที่จะทำให้เกิดเงาทึบด้วย เพราะจะทำให้ไม่สบายตา และทำให้ปวดตา ปวดศีรษะได้ หรือในที่สุดอาจจะทำให้ค่าสายตาสั้นมากขึ้นหรือยาวกว่าปกติได้ด้วย
สำหรับเทคนิคการเลือกค่าความสว่างของโคมไฟตั้งโต๊ะให้ทำงานได้สะดวก ควรใช้ค่าแสงแบบ Cool White (แสงโทนสีขาว) เป็นค่าความสว่างที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากมีค่าแสงโทนกลาง สามารถเลือกปรับความสว่างได้ตามต้องการ นอกจากนั้นยังสามารถเลือกจัดไฟแบบ Accent Light (ไฟส่องเน้น) เพื่อให้แสงสว่างลองเฉพาะจุดบนโต๊ะทำงาน เป็นการกำหนดทิศทางของแสงเพื่อลดการกระจายออกโดยไม่จำเป็น อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของหลอดไฟ LED ด้วย โดยเฉพาะงานที่ต้องอยู่กับคอมพิวเตอร์ ถ้าทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ควรมีแสงภายนอกให้สมดุลกับแสงจากหน้าจอเพื่อป้องกันสายตา การจัดแสงสว่างที่สำคัญ คือการเพิ่มแสงสว่างเฉพาะจุดก็สามารถช่วยได้ เพื่อมุ่งเน้นจุดโฟกัสกับตัวงานได้ชัดเจน ควรเลือกโคมไฟตั้งโต๊ะที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับให้แสงสว่างตรงตำแหน่งที่ต้องการ และเปิดใช้งานเมื่อต้องทำงานที่ต้องใช้แสงเป็นพิเศษเท่านั้น
สำหรับการเช็กว่าโคมไฟตั้งโต๊ะของเรามืดหรือสว่างไปหรือไม่ แสงเหมาะกับสายตาเราหรือเปล่า ก็ต้องลองเปิดไฟไว้ก่อนแล้วถามตัวเองดูว่ามืดไปหรือไม่ หรือจะสังเกตตัวเองก็ได้ว่าเราเพ่งสายตาอยู่หรือเปล่า ถ้าเพ่งก็แปลว่ายังมืดเกินไป จะเปิดไฟเพิ่มก็ได้ หรือลองเปลี่ยนหลอดไฟรุ่นที่สว่างกว่าเดิมก็ได้ หรือถ้าสว่าง จ้า แสบตาเกินไป ก็ลดระดับแสงสว่างลงมาหรือถ้าเป็นโคมไฟแบบใช้หลอด LED ก็ลองเปลี่ยนหลอดไฟดูก็ได้ หลักสำคัญก็คือต้องเลือกให้แสงมันสบายตาต่อผู้ใช้งานมากที่สุดเท่านั้นเอง
เลือกมุมทำงานและตั้งโคมไฟตั้งโต๊ะให้สัมพันธ์กับความสว่างตำแหน่งพื้นที่ทำงานที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ ควรหลีกเลี่ยงมุมทำงานที่มีแสงสว่างสะท้อนมาจากด้านหลัง เพราะแสงจะไปปรากฏอยู่ในจอ จะทำให้แสบตามากขึ้นนั่นเอง เมื่อทำงานไปนาน ๆ จะทำให้รู้สึกเมื่อยล้าดวงตา ทำงานได้ไม่สะดวก ควรเลือกใช้โคมไฟแบบยิงเข้าผนังด้านหลังของจอ แสงสว่างจะสะท้อนออกมา ระดับของแสงสว่างมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการปรับองศาของโคมไฟและประเภทของหลอดไฟที่ใช้ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะตั้งโคมไฟตั้งโต๊ะจะต้องดูให้ละเอียดถึงที่มาของแสงว่ามาจากทิศทางใด ถ้าแสงมาจากด้านหลังจอคอมก็จะก่อให้เกิดความรำคาญในการเพ่งมอง ทำให้เมื่อยล้าดวงตา ในส่วนของเงาเองก็เช่นกัน เงาที่เกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจที่เกิดกับแกนโคมไฟตั้งโต๊ะ หรือการตั้งทิศทางแสงในตำแหน่งที่ใช้มือขวาในการเขียน แขนอาจจะไปกระทบแสงไฟ กลายเป็นเงามืดทาบทับบนพื้นที่ทำงานได้
ใช้โคมไฟตั้งโต๊ะแสงสีอะไรดีสำหรับแสงที่นิยมใช้สำหรับห้องทำงานโดยทั่วไปจะนิยมการใช้แสงแบบ Warm White และ Cool White สำหรับโคมไฟตั้งโต๊ะที่ใช้แสง Warm White มันจะให้แสงโทนสีแดงอมส้ม นิยมใช้สร้างบรรยากาศให้ดูผ่อนคลาย แต่มันก็ทำให้สีของวัตถุผิดเพี้ยนไปบ้าง ซึ่งแสงสีนี้เหมาะที่จะใช้ในห้องนั่งเล่น ห้องนอนให้ความรู้สึกนุ่มนวล อบอุ่น ชวนพักผ่อนมากกว่า ในขณะที่โคมไฟตั้งโต๊ะที่ให้แสงแบบ Cool White มันจะให้แสงโทนสีขาวอยู่ระหว่างแสง Daylight กับแสง Warm White ให้ความรู้สึกทันสมัย สว่าง สะอาด ซึ่งแสงสีนี้เหมาะที่จะใช้กับห้องที่ต้องการความสดใสอย่างห้องทำงานนั่นเอง
เรื่องของสีกระดาษเองก็มีผลต่อสายตาและการปรับแสงสว่างในห้องเช่นกัน เพราะเวลาอ่านหนังสือ แสงจากต้นกำเนิดแสงจะตกกระทบลงบนกระดาษ จากนั้นก็สะท้อนเข้าตาเรา เกิดการรับภาพส่งไปยังสมอง ซึ่งแสงมันจะสะท้อนรังสี UV เข้าตาด้วย ดังนั้นผู้อ่านหนังสือจึงควรลองพิจารณากระดาษ Green Read ซึ่งให้แสงนวล ๆ เป็นมิตรต่อสายตา ถ้าสามารถทำได้ เพราะมันมีคุณสมบัติช่วยดูดกลืนแสงในช่วงแสงสีน้ำเงินได้ดี จึงลดแสงสะท้อนเข้าตาได้ประมาณ 15% มันจึงลดความจ้าและลดปริมาณ UV ที่เข้าสู่ดวงตาได้