www.เยียวยาเกษตรกร.com จ่ายเงินงวดที่ 2 เริ่มตั้งแต่ 15 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป วันละ 1 ล้านราย โดยบางคนได้รับเงินแล้ว แม้สถานะยังไม่เปลี่ยน
หลังจากโครงการ www.เยียวยาเกษตรกร.com เริ่มจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรงวดแรกตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา จนบัดนี้เกษตรกรกว่า 7 ล้านราย ได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว
ล่าสุด วันที่ 15 มิถุนายน 2563 ในวันนี้นั้นเป็นวันที่ครบรอบ 1 เดือนของการจ่ายเงินงวดแรกพอดี ดังนั้นทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จึงได้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร งวดที่ 2 ต่อ ตั้งแต่วันที่ 15-21 มิถุนายน นี้ ทยอยโอนวันละ 1 ล้านรายด้วยกัน
ขณะเดียวกัน ผู้ที่ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาบางคนก็ได้รับเงินงวดที่ 2 เรียบร้อยแล้ว แม้สถานะไฟเขียวยังไม่ขึ้นที่การจ่ายเงินงวดที่ 2 ก็ตาม
เช็คสถานะรับสิทธิ์เยียวยาเกษตรกร ตรวจสอบสิทธิ์ “เยียวยาเกษตรกร” เปิดอุทธรณ์ถึง 5 มิ.ย. ไม่เว้นวันหยุดราชการ กลุ่มที่ 1 เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้วกับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง ปศุสัตว์ กรมหม่อนไหม การยางแห่งประเทศไทย กรมสรรพสามิต และสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล และได้รับการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรปี 2562/63 (ตัดยอด ณ วันที่ 30 เม.ย.63) จำนวน 8.33 ล้านราย
ซึ่งผ่านการตรวจสอบความซ้ำซ้อน เหลือประมาณ 6.3 ล้านราย โดย ก.เกษตรฯ ได้ส่งข้อมูลที่ผ่านการคัดกรองแล้ว ไปที่ ธ.ก.ส. เพื่อโอนเงินให้เกษตรกรได้ในวันที่ 15-25 พ.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้โอนไปแล้ว 14,812 ล้านบาท กลุ่มที่ 2 เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร ก่อนปี 2562 แต่ยังทำการเกษตรอยู่ และเกษตรกรรายใหม่ ที่มีการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรภายในวันที่ 15 พ.ค.63 จำนวน 1.57 ล้านราย คาดว่าจะทำการจ่ายเงินได้ 30-31 พ.ค.นี้ กลุ่มที่ 3 คือ เกษตรกรที่ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้
แต่มีการขอขึ้นทะเบียนเกษตร ภายในวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะได้ให้มีการเพราะปลูกจริงก่อน ภายในวันที่ 30 มิ.ย.63 หลังการปลูกพืช 15 วัน ให้มาแจ้งยืนยันการเพาะปลูกกับเจ้าหน้าที่ เพื่อบันทึก และตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ คาดว่า จะทำการจ่ายเงินได้ ประมาณวันที่ 27-31 ก.ค.63 ส่วนการตรวจสอบสิทธิ์ สามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์ www.สิทธิเยียวยาเกษตรกร .com ขณะเดียวกัน หากสงสัยว่า เงินเข้าบัญชีหรือยัง สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร .com ของ ธ.ก.ส.
โดยเปิดให้เกษตรกรยื่นอุทธรณ์ ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.2563 ถึง 5 มิ.ย.2563 ในเวลาราชการ โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งเกษตรกรในกลุ่มที่ 3 ซึ่งยังไม่ได้ทำการเพาะปลูกนั้น การยื่นเรื่องอุทธรณ์ ก็จะทำได้หลังจากที่มีการตรวจสอบความถูกต้องแล้ว เบื้องต้น สามารถตรวจสอบสถานะอุทธรณ์เงินเยียวยาเกษตรกร ได้ผ่านเว็บไซต์ www.อุทธรณ์เงินเยียวยาเกษตรกร .com
ไร่เทพแจ้งเตือนเกษตรกรทุกท่าน ให้ทุกท่านตรวจสอบสิทธิ์ระบบเยียวยา รวมทั้งระบบต่างๆ ผ่าน www.moac.go.th เท่านั้น เนื่องจากกระทรวงเกษตรฯ ได้ปรับปรุงระบบให้เกษตรกรทุกท่านเพื่อความสะดวกแล้ว
ทั้งนี้ หากสงสัยเกี่ยวกับสิทธิ์ของตนเอง สามารถโทรสอบถามได้ที่ สายด่วน 1170 โดยยืนยันว่าจะให้การเยียวยาทุกคน โดยไม่ทิ้งใครไว้
ตรวจสอบมาตรการเยียวยาเกษตรกรจากสถานการณ์ COVID-19 ได้ที่ เว็[บไซต์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ //www.moac.go.th/
ตรวจสอบ “สิทธิ” การรับเงินเยียวยาเกษตรกร ได้ที่ www.สิทธิ์เยียวยาเกษตรกร .com
ตรวจสอบการ “โอนเงิน” เยียวยาเกษตรกร ได้ที่ www.เยียวยาเกษตรกร .com หรือ //agri.baac.or.th/
ตรวจสอบสถานะการ “อุทธรณ์” เงินเยียวยาเกษตรกรได้ที่ www.อุทธรณ์เงินเยียวยาเกษตรกร .com
ทั่วไป
ตรวจสอบเงินประกันเกษตรกร เช็คสถานะโอนเงินเยียวยา เงินช่วยเหลือชาวนา แนะยังไม่ได้ทำไง
15 พ.ย. 2564 เวลา 10:32 น.423.3k
ติดตาม ตรวจสอบเงินประกันเกษตรกร
เช็คสถานะโอนเงินเยียวยาเกษตรกร เงินช่วยเหลือชาวนา ยังไม่ได้ทำไง แนะวิธีจาก ธ.ก.ส.
กระแสความสนใจวันนี้ ประชาชนต่างจังหวัดยังคงติดตาม
ตรวจสอบเงินประกันเกษตรกรเช็คสถานะโอนเงินเยียวยาเกษตรกร เงินช่วยเหลือชาวนา ความคืบหน้าจาก ธ.ก.ส.
หลังจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ดำเนินการจ่ายเงินตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19และอุทกภัย
โดยที่กลไกตลาดยังคงทำงานเป็นปกติ โดยประกันรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน , ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน , ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน , ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียวตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตันโดยเริ่มโอนเงินส่วนต่างการประกันรายได้ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 เป็นวันแรก
ช่วงนี้ เกษตรกรเข้ามาปรับสมุดที่ ธ.ก.ส. เป็นจำนวนมาก นอกจากตรวจสอบยอดเงินด้วยการปรับสมุดบัญชีธนาคารแล้ว ยังมีแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ด้วย ลูกค้าสามารถไปดำเนินการได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา โดยนำสมุดบัญชีเงินฝาก บัตรประชาชน และสมาร์ทโฟน ไปที่ธนาคาร ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถตรวจสอบยอดเงินเข้าบัญชีได้โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสาขาธนาคาร เนื่องจากโควิด-19 ยังมีการระบาดอยู่ เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
กรณียังไม่ได้เงิน โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65
ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ที่พบในเรื่องของลูกค้าปิดบัญชีธนาคารไปแล้ว จึงไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้ จึงได้แจ้งให้ลูกค้ามาเปิดบัญชีใหม่ และรอโอนเงินรอบใหม่
นอกจากนี้ขอยืนยันว่าทางธนาคารจะไม่หักเงินใช้หนี้ธนาคารอย่างแน่นอน ยกเว้นแต่เจ้าของบัญชียินยอมนำเงินนั้นใช้หนี้ธนาคารเองเท่านั้น
สำหรับ หลักเกณฑ์การจ่ายเงินประกันรายได้ เกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และต้องแจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยว เพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วงเวลาที่เกษตรกรจะได้รับสิทธิชดเชย
โดยกรมส่งเสริมการเกษตร จัดส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำแนกตามช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยวและคำนวณปริมาณผลผลิต โดยใช้พื้นที่ทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวแต่ละชนิด คูณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เป็นปริมาณผลผลิตที่ต้องชดเชย แต่ต้องไม่เกินปริมาณที่กำหนดไว้ข้างต้น ส่งให้ ธ.ก.ส. เพื่อเป็นข้อมูลในการจ่ายเงิน
จากนั้น ธ.ก.ส. จะดำเนินการจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วัน นับจากวันที่ได้รับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในแต่ละรอบจากคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนด
ตรวจสอบเช็คเงินประกันรายได้เกษตรกร คลิกที่นี่
ตรวจสอบจำนวนเงินที่โอนเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile
ระบบ ios
ระบบ android
ธ.ก.ส. ย้ำใช้ BAAC Connect แจ้งเงินเข้า-ออกรู้เร็วทันใจ
วิธีสมัครใช้บริการง่ายๆ มาทำตามกันทีละสเต็ป
1. เพิ่มเพื่อนใน Line : @BAACFamily
2. กดลงทะเบียน BAAC Connect จากแถบเมนูด้านล่าง
3. เลือกสมัครใช้บริการ และกด “ยืนยัน“
4. กรอกข้อมูลเลขบัตรประชาชน
วันเดือน/ปี/เกิด และ หมายเลขโทรศัพท์
5. ออกจาก Line ไปที่การโทร เพื่อขอเลขอ้างอิง 7 หลักโดยกด *179*เลขบัตรประชาชน 13 หลัก# แล้วกดโทรออก
6. กรอกรหัส OTP และยืนยันตัวตน
7. กดเลือกบัญชีที่ต้องการให้แจ้งเตือน ตรวจสอบข้อมูลและกด “ยืนยัน”
8. ลงทะเบียนสำเร็จ