ระเบิดความมันส์เอาใจแฟนเพลงไปแล้ว สำหรับคอนเสิร์ต “RAPTOR EVOLUTION 25 ปี ไม่มีเกรงใจ” ณ IMPACT เมืองทองธานี ที่ COOL fahrenheit (คูลฟาเรนไฮต์) ในเครืออาร์เอส สถานีเพลงอันดับ 1 ขอปลุกตำนานคู่หูดูโอ้ “แร็พเตอร์” ซุป'ตาร์ยุค 90 ขึ้นมาอีกครั้งตามคำเรียกร้อง
เปิดเวทีด้วยการที่ 2 หนุ่ม จอนนี่ อันวา และ หลุยส์ สก๊อต โหนสลิงมาบนท้องฟ้าเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ พร้อมกับเพลง OVERTURE+SUPERHERO เป็นการเรียกน้ำย่อย พร้อมจะจัดชุดใหญ่กับเมดเล่ย์เพลง ลุยสิ, ช่วยด้วย และ ต้องยกให้ ตามติดด้วยเพลง อย่าพูดว่าเลิก
เสียงกรี๊ดดังขึ้นอีกครั้งเมื่อ 2 หนุ่มเปลี่ยนชุดบนเวทีเพื่อนำเข้าสู่เพลงช้าๆ ซึ้งๆ อย่าง รู้สึกอย่างไร, รู้ตัวบ้างไหม, คำเดียว และปิดท้ายด้วยเพลง ปลอบเพื่อน ที่มาพร้อมกระดาษดาวสีขาวสร้างบรรยากาศ
ก่อนที่หนุ่มจอนนี่จะขอโชว์เดี่ยวในเพลง TRESSURE, อยากให้รู้ว่ารักเธอ, อย่างน้อยก็เคยได้ชื่อว่ารักกัน และเซอร์ไพรส์แรกก็เกิดขึ้น เมื่อหนุ่มหลุยส์ควงหวานใจตัวจริง นุ่น รมิดา มาขับกล่อมเพลง บุพเพสันนิวาส พร้อมกระดาษสีแดงรูปกุหลาบ ก่อนที่เวทีจะลุกเป็นไฟกับ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ที่มาร่วมแจมในเพลง เสือสิ้นลาย และ โต้ง ทูพี กับเพลง ไหวอะเปล่า เบเบ้ ส่งท้ายด้วยเพลง เท้าไฟ ที่ทุกคนในฮอลล์ต่างลุกขึ้นมาเต้นแบบสุดมันส์ไม่มีใครยอมใคร
เซอร์ไพรส์ยังไม่จบเท่านั้น เมื่อหล่อขั้นเทพ โดม ปกรณ์ ลัม ปรากฏตัวมาในเพลง HEY! อันตราย (Intro) ก่อนที่ทั้ง 3 หนุ่มจะปะทะกันในเพลง ดีมากเลย, ปรากฏการณ์ (เหนือธรรมชาติ) และหนุ่มโดม จะอำลาด้วยเพลง ยิ่งรักเธอ สร้างความประทับใจให้ทุกๆ คน
และสิ้นสุดการรอคอย เมื่อ หลุยส์-จอนนี่ จัดเต็มเพลง เกรงใจ กับท่าเต้นสุดฮิต เรียกว่าทุกคนลุกขึ้นมาเต้นตามแบบไม่มีเกรงใจสมกับชื่อเพลง ต่อด้วยเพลง GO! GO! GO, Let's Live for Today, ไม่แคร์, ใช่เลย (Oh Yes!) ปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วย 2 เพลงซึ้งๆ แรงบันดาลใจ และ คำว่าเพื่อน สร้างความประทับให้กับแฟนคลับแร็พเตอร์ที่รอคอยมานาน
นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์เซอร์ไพรส์จากแฟนคลับในชื่อ "Raptor Fan Project 2019" ที่ร่วมเชิญชวนให้แฟนๆ ในคอนเสิร์ตรอบ 19.00 น. ร่วมติดสติกเกอร์สีชมพูลงบนแฟลชโทรศัพท์มือถือและเปิดแฟลชในเพลง "คิดถึงเธอ" และถือป้าย Love You Forever and Ever ในเพลง "คำว่าเพื่อน" เพื่อเป็นการแสดงความรักที่มีต่อ 2 หนุ่ม จอนนี่-หลุยส์ ด้วย.
ให้อัลบั้มออกมาในแบบเด็กลูกครึ่งสองคนมาแต่งตัวฮิปฮอป และเอาเพลงฮิตของรุ่นพี่มาเรียบเรียงใหม่ โดยการใส่ท่อนแร็ปเข้าไป ถ้าตอนนั้นอเมริกามีดูโอ้ "Kris Kross" ไทยเราก็มี “Raptor”
แถมเพลงนี้ยังได้ “พลอย เฌอมาลย์” มาเล่นเป็นนางเอก MV เป็นครั้งแรกด้วย กับเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ต้องการจะปกป้องสาวที่เค้ารักจากอันตรายทั้งปวง! ไม่ขออะไรมากแค่
“อยากเป็นแค่นี้ เป็นแค่บอดี้การ์ด
เหนื่อยเท่าไรยังทนได้
ทุ่มเทอย่างนี้ เธอก็คงเห็นใจ
อาจรักเราสักวัน!”
2. คิดถึงเธอ – ส่งยิ้มสื่อความหมาย หวังให้เธอรู้ความในใจ
ในอัลบั้มชุดแรกนี้ไม่ได้มีแต่เพลงเร็วที่ cover ของรุ่นพี่อย่างเดียวนะ แต่ยังมีเพลงช้าที่แต่งขึ้นใหม่อย่าง “คิดถึงเธอ”
กับเรื่องราวความรักเปี่ยมล้นที่ต้องแอบซ่อนไว้โดยที่เค้าไม่เคยรู้เลยว่ามีใครคนหนึ่งเฝ้ามองทุกวัน กับอาการแปลกๆ ที่ไม่รู้ว่าเป็นยังไง เลยบอกไว้ในท่อนแร็ปว่า
“คิดเอาไว้ ว่าใช่
ต้องใช่แน่ๆ
มันเป็นอะไรที่พูดยาก ต้องให้เธอแก้
รู้ก็รู้ ว่าชอบ แต่ใจมันพูดไม่ได้
แต่ถ้าเธอช่วยมันก็ง่าย
อะไรก็คงไม่แย่”
3. คำว่าเพื่อน – สั้นๆ แต่มีความหมาย
นอกจาก “คิดถึงเธอ” แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งบทเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่ในอัลบั้มแรกนี้คือ “คำว่าเพื่อน” ที่เล่าเรื่องราวมิตรภาพดีๆ ระหว่างเพื่อนที่แม้ไม่ได้ลึกซึ้งเหมือนคนรัก แต่เต็มไปด้วยความฝัน ความผูกพันธ์ และความทรงจำที่เคยร่วมทุกข์สุขมาด้วยกัน
“คำว่าเพื่อนนั้นมีความหมาย
ไม่ยิ่งใหญ่แต่จริงใจให้เธอ
เก็บรักษาเอาไว้ให้นาน
เพื่อสักวันกลับมาพบเจอ ขอให้เธอโชคดีเพื่อนเอย”
4. อย่าพูดเลย – ไม่รักก็ยิ่งช้ำ แต่อย่ามาตอกย้ำกันได้ไหม!?
สำหรับคนกำลังจะถูกทิ้ง การได้ฟังเค้าบอกหมดรักเราว่าเจ็บแล้ว แต่การต้องทนฟังเค้าพูดถึงคนอื่นมาเปรียบเทียบกับเรามันกลับเจ็บปวดบาดลึกยิ่งกว่านับสิบๆ เท่า และเพลงๆ นี้คือเสียงแทนใจของคนที่เจ็บจนไม่อยากรับรู้อะไรอีก
ซึ่งอยู่ในอัลบั้มชุดที่ 2 ที่ชื่อ “Waab Boys” ออกวางขายในปี 2539 โดยมีเสือ ธนพลทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้เหมือนเดิมจนถึงชุดที่ 3 และเพลงนี้ยังได้สองสาวคู่ดูโอ้ “โฟร์-มด” เอากลับมา cover จุดกระแสต่อ ในปี 2557 ในอัลบั้ม GO! GO!
ความฮิตของเพลงยังถูกทางค่ายเอากลับมารีรันลง Youtube ในปีเดียวกัน จนกวาดไปกว่า 10 ล้านวิว และในปี 2560 ก็ยังได้ “หน้ากากแอปเปิ้ล” (ที่เฉลยแล้วว่าเป็น “โอ๊ต ปราโมทย์”) เอามาร้องต่อได้แบบเพราะจับใจ ในรายการ The Mask Singer
5. แรงบันดาลใจ - If you look inside my eyes, you’ll find the feeling
คนเราถ้าได้ใช้ชีวิตแบบมี “แรงบันดาลใจ” เป็นตัวขับเคลื่อนให้ไปต่อ ก็ย่อมจะมีโอกาสไปถึงฝั่งฝันได้ในที่สุด “Raptor” เองก็ไม่ต่างกัน พวกเค้าในฐานะศิลปินที่ต้องต่อสู้อะไรมามากมาย และคงไม่สามารถมีวันนี้ได้เลยถ้าปราศจากกลุ่มแฟนคลับที่เป็นแรงบันดาลใจให้มุ่งมั่นพัฒนาผลงานแบบก้าวกระโดด
ซึ่งจากความสำเร็จของชุดที่ 2 ทำให้ RS ต้องปล่อยอัลบั้มชุดที่ 3 ที่ชื่อ “Day Shock” ออกมาในปีเดียวกัน โดยเป็นการนำเอาเพลงสากลสุดฮิตในอดีตมาเรียบเรียงใหม่ในสไตล์ Raptor ที่ผสมผสานความเป็น Pop Dance มีแค่เพลงแรงบันดาลใจเพลงเดียวที่แต่งขึ้นมาเป็นพิเศษ และอัลบั้มนี้ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจนยอดขายทะลุ “ล้านตลับ” ก่อนจะมีการเปลี่ยนปกและใส่เพลง “อย่าพูดเลย (Underground Version)” เข้าไป
“มองตาเธอจะเข้าใจว่ามันลึกซึ้งเพียงใด หลอกลวงไม่ได้
เก็บเอาความรักมาให้ เก็บความจริงใจให้เธอเท่านั้น
มองตาเธอจะเข้าใจ ว่าในทุกครั้งที่มองมีคำว่ารักเธอ
แค่อยากให้รู้ว่าเธอ มีความหมายและสำคัญสำหรับฉัน”
6. เกรงใจ – ไม่เอานะเกรงใจ ไม่ดีหรอกเกรงใจ!
นี่คือจุดพีคสุดของวง Raptor เลยก็ว่าได้! เมื่อพวกเค้าได้มาแท็กทีมเข้าร่วมโปรเจค “THE NEXT” กับเพื่อนๆ ในค่ายที่ล้วนฝากผลงานเพลงฮิตติดหูกันมาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น “ลิฟท์-ออย” , “เจมส์-เรืองศักดิ์” , “เจอาร์-วอย” และ “โดม ปกรณ์ ลัม”
ซึ่งงานนี้ทั้งจอนนี่และหลุยส์ได้ระเบิดพลังออกมาใน “เกรงใจ (Feat.โดม)” เพลงฮิตตลอดกาลที่มาพร้อมกับท่า “โหนรถเมล์” ในตำนานที่ยอดขายทะลุหลักล้าน (แม้ตอนนั้นเศรษฐกิจไทยจะวิกฤตจากต้มยำกุ้ง) ซึ่งนอกจากท่าเต้นที่เป็นจุดขายแล้ว เพลงยังมีจุดเด่นอยู่ที่บีทจังหวะมันส์ๆ ที่พอเปิดฟังทีไรก็กล้ามเนื้อกระตุกเต้นตามทุกที และเนื้อเพลงโดนๆ ที่เล่าแบบตรงไปตรงมาถึงแฟนเก่าที่มาขอคืนดี และเราเองก็ไม่แน่ใจจะยังไงดี แต่ไปๆ มาๆ อืมม…เอาแบบนี้ละกัน
“ไม่เอานะ เกรงใจ ไม่ดีหรอก เกรงใจ
ไม่เอานะ เกรงใจ ไม่ดีหรอก เกรงใจ
ไม่เอานะ เกรงใจ ไม่ดีหรอก เกรงใจ
ไม่เอานะ เกรงใจ ยังไงก็เกรงใจ”
7. Sayonara Goodbye – เหลือแค่ความเข้าใจ ถึงเวลาต้องลาไกล
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา! แม้ว่าทั้งคู่จะประสบความสำเร็จมากเพียงใด แต่ก็จำต้องแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตัวเองด้วยเหตุผลทางด้านการเรียน ทำให้ในปี 2541 เลยต้องอำลากันไปด้วยอัลบั้ม “Good Bye”
ซึ่งทั้งคู่มาในเพลง “Sayonara Goodbye" ที่เป็นเหมือนถ้อยคำอำลา และตัวอัลบั้มก็ทำยอดขายทะลุล้านชุดอีกเช่นเคยจนทางค่ายต้องเปลี่ยนปก ก่อนจะมีการปล่อยอัลบั้ม “The Memory” รวมเพลงฮิตของ Raptor ออกมาในปีเดียวกันเพื่อเป็นการส่งท้าย
“ไม่มีเราอย่างที่เคย ไม่ได้เจอเหมือนวันเก่า
เก็บเอาไว้วันของเรา ลึกสุดในหัวใจ
SAYONARA SAYONARA GOODBYE”
แม้ว่าจำต้องปิดฉากช่วงเวลาการเป็นดูโอ้เอาไว้แค่ 4 ปี แต่ทั้งคู่ก็ได้แยกย้ายออกไปสร้างผลงานเดี่ยวของตัวเองกันทั้งงานเพลง งานละคร ก่อนจะได้กลับมาเจอกันอีกตามคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- “RAPTOR 2011 The Concert” เมื่อวันที่ 1-2 ต.ค.2554 ที่รอยัล พารากอนฮอลล์
- “RS Meeting Concert Return 2013” เมื่อวันที่ 18-19 พ.ค.2556 ที่อิมแพ็คฯ โดยงานนี้ขนทัพศิลปิน RS มาเพียบ ทั้ง Boyscout, เต๋า สมชาย, ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, Bazoo, ลิฟท์-ออย, เจมส์ เรืองศักดิ์ ฯลฯ
- “The Next Venture Concert 2016” เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2559 ที่อิมแพ็คฯ ซึ่งเป็นการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของโปรเจค “THE NEXT”
และสำหรับคอนเสิร์ต “RAPTOR EVOLUTION 25 ปี ไม่มีเกรงใจ” ในปลายปีนี้ทั้งจอนนี่และหลุยส์ได้ให้สัมภาษณ์ว่ามันอาจจะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้ายของพวกเค้าแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ได้มีแค่ 7 เพลงฮิตนี้เท่านั้น แต่จะมีอีกเพียบ! สำหรับใครที่คิดถึงโมเมนต์ในวันวาน กับการซื้อตลับเทปมาเปิดฟังเพลินๆ วิ่งไปต่อคิวซื้อบัตรที่ตึกอาร์เอส เต้นท่าโหนรถเมล์ที่โยกกันจนเอวแทบเคล็ด หรือกรี๊ดกันจนคอแทบแตก! กดซื้อบัตรได้เลยที่ \>> //bit.ly/Raptorevolution2019
ถึงแม้ว่า “Raptor” จะไม่ใช่ศิลปินที่ทำวงอยู่ด้วยกันนานนัก แต่ด้วยตัวตน คาแรกเตอร์ ความกล้าคิดกล้าลองอะไรใหม่ๆ ความน่ารักมีเสน่ห์ของทั้งคู่นี่แหละที่จะยังคงตราตรึงอยู่ในใจแฟนเพลงตลอดไป