Rurouni kenshin ฮ ม ระ เคนช น ซาม ไรพเนจร

<path d="M18.6514224,10.4604595 C17.3924224,11.9688254 13.9774224,15.4790227 9.46342244,15.5 L9.42442244,15.5 C6.26242244,15.5 3.20842244,13.7938483 0.345422443,10.4264963 C-0.115140814,9.88163847 -0.115140814,9.08439833 0.345422443,8.5395405 C1.60442244,7.03117456 5.01942244,3.52097727 9.53342244,3.5 L9.57342244,3.5 C12.7354224,3.5 15.7894224,5.20615167 18.6524224,8.5735037 C19.1122856,9.11875503 19.1118633,9.91569484 18.6514224,10.4604595 Z M17.8674224,9.2228003 C15.2084224,6.09518855 12.4194224,4.50990594 9.57442244,4.50990594 L9.54042244,4.50990594 C5.46142244,4.52888537 2.30642244,7.78335969 1.14042244,9.18084575 C0.991393136,9.3517953 0.988008897,9.60533857 1.13242244,9.78019645 C3.79142244,12.9078082 6.58142244,14.4920919 9.42542244,14.4920919 L9.46042244,14.4920919 C13.5394224,14.4741114 16.6934224,11.2196371 17.8604224,9.822151 C18.0095734,9.6511131 18.0125381,9.39726759 17.8674224,9.2228003 L17.8674224,9.2228003 Z M9.49942244,13.3932823 C7.35251405,13.3646853 5.63255349,11.6080263 5.65157552,9.46333471 C5.67059754,7.31864313 7.42144652,5.59270141 9.56852513,5.6021069 C11.7156037,5.61151239 13.4512316,7.35272696 13.4514224,9.49750271 C13.4349115,11.6625186 11.6668124,13.4054651 9.49942244,13.3932823 L9.49942244,13.3932823 Z M9.49942244,6.61762258 C7.91092198,6.63961751 6.63891624,7.93990193 6.65354481,9.52676854 C6.66817338,11.1136351 7.96393479,12.3902997 9.55257137,12.3830695 C11.1412079,12.3758393 12.4252698,11.0874333 12.4254224,9.50049946 C12.4127657,7.89797688 11.1037033,6.60820738 9.49942244,6.61762258 L9.49942244,6.61762258 Z" /><path d="M9.5,13 L15,13 C15.5522847,13 16,12.5522847 16,12 L16,12 L16,5 C16,4.44771525 15.5522847,4 15,4 L15,4 L4,4 L4,4 C3.44771525,4 3,4.44771525 3,5 L3,12 C3,12.5522847 3.44771525,13 4,13 L7,13 L7,15.5 L9.5,13 Z M15.0081158,13.973325 L10,13.973325 L7.42191625,16.5445317 C6.63661359,17.3277395 6,17.0667904 6,15.9700713 L6,13.973325 L3.99188419,13.973325 C2.89179693,13.973325 2,13.0706688 2,11.979044 L2,4.994281 C2,3.89287002 2.89339733,3 3.99188419,3 L15.0081158,3 C16.1082031,3 17,3.90265618 17,4.994281 L17,11.979044 C17,13.0804549 16.1066027,13.973325 15.0081158,13.973325 Z" />

เพิ่งรู้ข่าวว่าเอา อ.กาลิเลโอมาเป็น อ.ฮิโกะเเฮะ.... เผยโฉม “มาซาฮารุ ฟุคุยามะ” ในบทอาจารย์ของ “เคนชิน-ซามูไรพเนจร”

ผู้สร้างเผยภาพของนักร้องนักแสดงหนุ่มคนดัง “มาซาฮารุ ฟุคุยามะ” ที่จะรับบทรับเชิญในหนัง Rurouni Kenshin โดยลือกันว่าเขาจะได้สวมบทอาจารย์ผู้สอนเพลงดาบอันร้ายกาจให้กับตัวละครเอก “ฮิมูระ เคนชิน”

เป็นข่าวมาพักใหญ่ว่า มาซาฮารุ ฟุคุยามะ จะร่วมแสดงในหนังซามูไรฟอร์มใหญ่ Rurouni Kenshin ด้วย ซึ่งล่าสุดผู้สร้างได้เผยภาพของนักแสดงหนุ่มคนดังในหนังเรื่องนี้แล้ว และแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยว่าเขารับบทใดกันแน่ แต่ก็มีข่าวว่าดารานักร้องคนดังวัย 45 ปี จะรับบทเป็น “ฮิโกะ เซจูโร” ยอดนักดาบอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาดาบล่องนภาให้กับ เคนชิน ตัวเอกของเรื่องที่รับบทโดย ซาโตะ ทาเครุ

มาซาฮารุ ฟุคุยามะ เข้าวงการบันเทิงด้วยงานด้านเพลง ก่อนจะประสบความสำเร็จด้านการแสดงด้วย จนนับว่าเป็นนักแสดงแถวหน้าของวงการบันเทิงญี่ปุ่นในยุคนี้อีกคนไปแล้ว โดยเขามีผลงานเด่นคือ ซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน Galileo และซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ Ryōmaden ที่ว่าด้วยชีวประวัติของ “ซากาโมโต้ เรียวมะ” ซึ่งในซีรีส์เรื่องนี้ ฟุคุยามะ ยังได้ร่วมงานกับ ซาโตะ ทาเครุ ที่รับบทเป็นนักดาบ อิโซ โอคาดะ ด้วย ก่อนที่ทั้งคู่จะได้กลับมาร่วมงานในหนังที่เล่าเรื่องยุคสมัยสมัยใกล้เคียงกันอย่าง Rurouni Kenshin อีกครั้ง

ซามูไรพเนจร หรือ Rurouni Kenshin หนังแอ็กชันซามูไรอิงประวัติศาสตร์ที่ดัดแปลงจากการ์ตูนของ “วัตสึกิ โนบุฮิโระ”ฮิมูระ เคนชิน ซามูไรหนุ่มยอดมือสังหารผู้พยายามหันหลังในอดีตอันเต็มไปด้วยคาวเลือดจากยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่สุดท้ายเขากลับไม่สามารถหนีพ้นอดีตของตัวเอง และเรื่องราวแห่งการต่อสู้ฆ่าฟันที่วนเวียนกลับเข้ามาในชีวิตเสมอ

ซึ่งในปี 2014 นี้จะมี ซามูไรพเนจร เข้าฉายอีกถึง 2 ภาค ที่จะมีเนื้อหาต่อเนื่องกันภายใต้ชื่อ “ภาคเกียวโต” Rurouni Kenshin: Kyoto Inferno มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 1 ส.ค. ที่จะถึงนี้ ส่วนหนังภาค 3 ที่ชื่อว่า Rurouni Kenshin: The Legend Ends จะตามมาในช่วงปลายปี

//www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000085096

-เพิ่งรู้ว่าเเกมารับบทนี้ ลุคต่างจากในต้นฉบับคนละเรื่องเลยเเฮะ ดูโทรมๆ(อารมณ์ประมาณลี้คิมฮวง) เเต่ก็ดีเเล้วล่ะ ต้นฉบับ อ.ฮิโกะมันการ์ตูนมากไป เทพมากไปด้วยนะ

กลายเป็นกระแส Talk of the Town ไปแล้ว สำหรับการ์ตูนเรื่องดังจากอดีตอย่าง “ซามูไรพเนจร” ที่มีโอกาสได้ทำเป็นหนังแอคชั่นฟอร์มยักษ์เมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา และจะมีภาคสอง รอฉายในวันที่ 2 ตุลาคม 2014 แล้ว แอดมินเลยขอพาชาวเวป Metalbridges.com ไปย้อนความหลังกับอนิเมยุค 90 ที่ได้ชื่อว่าสนุกครบรส ทั้งตลก บู๊ รัก และ ดราม่าสุดขั้ว กับการ์ตูนเรื่องนี้กันครับ!!..

เนื้อเรื่อง

“เคนชิน” และ “คาโอรุ” จากเล่ม 1 ที่ลายเส้นทำเอาคนเข้าใจผิดว่าเป็นการ์ตูนตาหวาน มาลงจั๊มป์

เนื้อเรื่องของการ์ตูนชุดนี้มีทั้งหมด 28เล่ม โดยเนื้อเรื่องหลักๆจะแบ่งออกเป็นสามช่วงครับได้แก่ ช่วงปฐมบท / ช่วงภาคชิชิโอ และ ช่วงภาคเอนิชิ แต่ขออนุญาติเพิ่มเติมเนื้อหาของ OVA เข้ามาอีก 2 ชุด เพื่อความสมบูรณ์ครับ

OVA : กำเนิดเคนชิน

ในส่วนของอนิเมชั่นทั้ง 90 กว่าตอนของการ์ตูนเรื่องนี้นั้น จะเดินเรื่องตามหนังสือการ์ตูนเป๊ะๆ แต่ว่าในช่วงอดีตของเคนชินนั้น จะเอามาเล่าแยกเป็น OVA สุดดราม่าคุณภาพสูงที่มีชื่อภาคว่า “กำเนิดเคนชิน” ซึ่งเป็นภาคที่สมควรหามาดูเป็นอย่างยิ่ง เพื่อทำความเข้าใจโลกทัศน์ของซามูไรพเนจรครับ โดยOVAชุดนี้ จะเล่าเรื่องราวจากหนังสือการ์ตูนเล่มที่ 19 ตั้งแต่ตอนที่165 – ตอนที่179 ครับ

ดังนั้น จึงขอใช้ภาพจากหนังสือการ์ตูนมาประกอบบทความแทนที่ไฟล์วิดิโอที่คุณภาพต่ำเกินกว่าจะมาลงครับ

ชินตะ เด็กน้อยที่ถูกขายเป็นทาส และ ฮิโกะ เซจูโร่ นักดาบพเนจร ที่จะกลายเป้นศิษย์อาจารย์กันในเวลาต่อมา

ในอนิเมชุดนี้ จะเล่าถึงเด็กน้อยที่มีชื่อว่า “ชินตะ” ที่ถูกขายมาเป็นทาส ได้ถูกพวกโจรข้างทางสังหารเรียบทั้งขบวน จนกระทั่ง “ฮิโกะ เซจูโร่” ได้เข้าช่วยเหลือด้วยการสังหารโจรเหล่านั้น และด้วยความที่เขาเห็นความอ่อนโยนของชินตะที่ฝังศพของทุกคน และพวกโจรที่ถูกเซจูโร่ฆ่าตาย จึงรับเขาเป็นศิษย์ผู้สืบทอดวิชา “เพลงดาบล่องนภา” (飛天御剣流 ฮิเท็น มิสุรุงิริว) เพลงดาบที่มีอาณุภาพร้ายกาจที่สุด ที่มีไว้ใช้ปกป้องผู้คน และเปลี่ยนชื่อของชินตะ เป็น “ฮิมุระ เคนชิน” (เคน=ดาบ / ชิน=วิญญาณ รวมกันก็คือ จิตวิญญาณแห่งดาบ นั่นเอง) เพื่อใช้วิชาดาบ ออกปกป้องผู้คน…

แต่แล้ว ศิษย์อาจารย์ที่มีความคิดที่ต่างกัน ก็ทำให้เคนชิน ในวัย 16 ปี ที่เชื่อว่า เพลงดาบล่องนภา จะช่วยให้ยุคสมัยเปลี่ยนไปได้ ด้วยการเข้ากับกลุ่มปฏิวัติอำนาจโชกุน จนต้องแตกคอกับอาจารย์ และลาจากเซจูโร่ เข้าสู่โลกของมือสังหาร และรับใช้ “คาซึระ โคโกโร” (หรือ คิโดะ ทะกะโยะชิ ผู้นำคณะปฎิวัติกลุ่มโจชู)

“คาซึระ โคโกโร” หรือ “คิโดะ ทะกะโยะชิ” ผู้นำกลุ่มปฏิวัติโจชู ที่ต้องการปฏิรูปการปกครองจากโชกุน เป็นบุคคลจริงๆในประวัติศาสตร์

แผลแรกของเคนชิน มาจากนักดาบหนุ่มอนาคตไกล แห่งกองกำลังรัฐบาลเกียวโต และเป็นแผลที่มีความอาฆาตฝังลึก จนไม่มีวันหาย…

เคนชินที่เข้าสู่โลกของมือสังหารของยุคสมัย ที่ทำให้เขาต้องลงมือสังหารผู้คนมากมาย จนกระทั่งมีเหยื่อรายหนึ่งที่เป็นคนของรัฐบาลเกียวโต “คิโยซาโตะ อากิระ” ที่ต่อสู้กับเขาจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต และได้ฝากรอยแผลเป็นบนใบหน้า ที่ไม่มีวันหายไป…

การพบกันครั้งแรกของเคนชิน และโทโมเอะ หญิงสาวที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตนักฆ่าของเขาไปตลอดกาล

และหลังจากนั้นไม่นานในคืนที่เขาต้องรับมือกับนินจามือสังหารของรัฐบาลโตกุกาว่า เคนชินก็พบกับ “ยูกิชิโร่ โทโมเอะ” หญิงสาวที่มีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา และเป็นรักแรกของเคนชินอีกด้วย

ด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ไม่แน่นอน คาซึระ จึงให้เคนชินห่างๆจากโลกมือสังหารซักพัก บวกกับความสับสนในจิตใจของตัวเคนชินเอง ทำให้เคนชินกับโทโมเอะได้ได้ปลีกตัวไปใช้ชีวิตในสถานที่ที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย เขาได้รับรู้ถึงความสุขในการใช้ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง และเริ่มเข้าใจความหมายของการใช้ชีวิต

แต่ที่จริงแล้ว โทโมเอะ เป็นสปายให้พวก “กลุ่มนักรบดำ” ใช้ให้เข้ามาใกล้ชิดเคนชินและสืบหาจุดอ่อนของเคนชิน และ เธอก็เต็มใจทำเพราะต้องการฆ่าเคนชินล้างแค้นแทนคู่หมั้นของเธอที่ถูกเคนชินฆ่าตาย (เป็นซามูไรหนุ่มที่สร้างแผลเป็นบนหน้าของเคนชินในตอนนั้นนั่นเอง…) แต่ในที่สุดแล้ว โทโมเอะก็รักเคนชินจากใจจริงจนได้ และใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขที่กระท่อมน้อยปลายนา ในฐานะหมอสมุนไพร

ด้วยความรัก ทำให้เธอละทิ้งทุกความโกรธแค้นที่เคนชินสังหารคู่หมั้นเก่า และตั้งใจจะช่วยเคนชิน กำจัดศัตตรูที่อยู่ตรงหน้า…แต่ทว่า เคนชินพลั้งมือฆ่าโทโมเอะอันเป็นที่รัก โดยไม่ได้ตั้งใจ…

โทโมเอะ และเคนชิน ก็ถูกไล่ล่าโดยพวกนักรบดำจนได้ ด้วยจำนวนคน และฝีมือที่ต่างกัน ทำให้เคนชินสุญเสียประสาทสัมผัสไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนในที่สุด ด้วยความรักของโทโมเอะ ที่ตั้งใจจะเข้าไปจัดการกับศัตรูของเคนชินก็ถูกเคนชินสังหารโดยไม่ได้ตั้งใจ

แผลเป็นรูปกากบาทที่หน้าของเคนชิน ก็เกิดขึ้นในตอนนี้เอง…

ในขณะนั้นมีดที่โทโมเอะถืออยู่ก็ตวัดไปที่ปลายแก้มของเคนชิน ทำให้เกิดรอยแผลไว้บนใบหน้าแผลรูปกากบาทที่แก้มซ้าย และนี่เอง คือสาเหตุที่สร้างความแค้นอย่างใหญ่หลวงให้กับเอนิชิ น้องชายของโทโมเอะ และกลายเป็นศัตรูคนสุดท้ายของเรื่องนี้…

“ชิชิโอ มาโคโตะ” มือสังหารคนใหม่ ที่ทำงานแทนเคนชินในช่วงที่เคนชินอยู่ในฐานะแนวหน้ารับมือกลุ่มชินเซน

เคนชินนำโทโมเอะกลับมาที่บ้าน เคนชินได้เห็นบันทึกของโทโมเอะ และแล้วเคนชินก็รู้ความจริง ว่าเขาคือคนที่พรากคู่หมั้นของโทโมเอะไป และ คาซึระ โคโกโร ก็กลับมารับเขาในฐานะ “ลูกน้องคนสนิท” โดยเขามอบหน้าที่มือสังหารให้ “ชิชิโอ มาโคโตะ” ไปแล้ว และมอบตำแหน่งใหม่ให้เคนชิน…

“ถ้าหากข้าทิ้งดาบตอนนี้ ที่ทำไปก็สูญเปล่า ความสุข เล็กๆ น้อยๆ ของผู้คนที่โทโมเอะบอกจนกว่าจะถึงวันที่สร้างยุคใหม่…ข้าจะจับดาบต่อไป”

จากนั้น เคนชินได้เผาบ้านพร้อมกับศพของโทโมเอะ และออกจากเงามืดมาเป็น “แนวหน้าของขบวนพยุหะสังหารของโจชู” ทำหน้าที่ปกป้องพวกพ้องซามูไรคณะปฎิวัติด้วยกัน และ เข้ารับมือกับกลุ่มชินเซนโดยเฉพาะ

“มือพิฆาติ บัตโตไซ” และ หมาป่าแห่งมิบุ “ไซโต้ ฮาจิเมะ” หัวหน้ากลุ่มชินเซนหน่วยที่สาม คู่มือฟ้าประทานให้ตัดสินกันในยุคแห่งความวุ่นวายนี้…

ในปีเคโอที่ 4 (เมจิที่ 1) (ค.ศ. 1869) ไซโต ฮาจิเมะ แยกจากฐานตนเองที่ไอสึ ไปรวมตะลุยในสงคราม หลังจากปฏิวัติ กลับไปที่ไอสึ เมื่อสมัยสงครามเซฟัน เข้าร่วมทัพรัฐบาลในฐานะกองทะลวง หลังจากนั้น ก็เข้าเป็นสันติบาลใช้ชื่อ ฟุจิตะ โกโร ส่วนกลุ่มซินเซ็นได้ย้ายการต่อสู้ไปทางเหนือ กระจัดกระจายไป และถูกกำจัดในที่สุด

องค์สมเด็จพระมหาจักรพรรดิคืนสู่พระราชอำนาจ…เริ่มสงครามโบชิน…และที่ศึกใหญ่ โทบะฟุชิมิ “กองทัพปฏิวัติ” ที่เคนชินสังกัดอยู่ ก็มีชัยเหนือรัฐบาลบากุฟุสำเร็จ จบสิ้นระบบศักดินาโชกุนที่ครองประเทศญี่ปุ่นมานานหลายศตวรรษลงใน และนั่นคือ “จุดจบหน้าที่ของมือพิฆาตบัตโตไซ”

“เมื่อสงครามจบแล้ว…ข้าน้อยจะไม่ฆ่าใครอีก ไม่อีกแล้ว…”

เมื่อจบสงครามสมัยปฏิวัติเมจิ เคนชินก็ออกเดินทาง ในฐานะคนพเนจร ที่พก “ดาบสลับคม”เร่ร่อนช่วยคนไปเรื่อย ในยุคสมัยของการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่แสนยุ่งเหยิงนี้…

ช่วงปฐมบท : ฮิมุระ เคนชิน

เนื้อเรื่องจะเล่าถึง “ฮิมุระ เคนชิน” ซามูไรเร่ร่อน (อายุ 30 กว่าๆ) ที่มีอดีตเป็นถึง “สุดยอดมือสังหารของคณะปฏิวัติ” เจ้าของฉายา “มือพิฆาตบัตโตไซ” ที่วางมือหลังจากสงครามสมัยปฏิวัติเมจิจบลง เขาได้สำนึกผิดต่อทุกชีวิตที่ตัวเองได้สังหารไป รวมไปถึง “ประเด็นของโทโมเอะ”ด้วย

“ฮิมุระ เคนชิน” ในวัย28 ที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ก็มาเจอกับ “คามิยะ คาโอรุ” สาวน้อยอายุ 16 ปี ที่ต้องรับภาระดูแลโรงฝึกดาบ คามิยะ คัตชินริว

ทำให้ เคนชิน ได้วางมือจากการฆ่าคน มาใช้ชีวิตอย่างคนจรจัด จนกระทั่งได้มาพบกับครูฝึกดาบสาว “คามิยะ คาโอรุ” เจ้าของสำนักคามิยะคัตชินริว (จากการเข้าใจผิด คิดว่าเป็นบัตโตไซ ที่เป้นผู้ก่อกวนสำนักดาบต่างๆในขณะนั้น)

ชื่อเสียงของเคนชินในฐานะ “มือสังหาร” ก็ยังเลื่องลือไปถึงผู้คนในรัฐบาล แม้แต่ผู้นำกองกำลัง “อิชินชิชิ” ทหารแห่งองคพระจักพรรดิ์ที่แกร่งที่สุดในตอนนั้น นำโดย “พลเอก ยามากาตะ อาริโมโตะ” ยังอยากให้เคนชินกลับไปร่วมงาน แต่เคนชินก็เลือกที่จะอยู่กับคาโอรุ ในฐานะ “พ่อบ้าน” มากกว่า…

และตัวของคาโอรุก็ทำให้เขารู้สึกสบายใจ จนต้องหยุดการเดินทางเร่ร่อนไร้จุดหมายลงด้วยการมาขออยู่กับคาโอรุและคอยช่วยงานจิปาถะในโรงฝึกดาบเล็กๆนี้ ถึงแม้จะมีผู้คนจากที่ต่างๆ มาคอยประมือกับเคนชิน แต่เขาก็ไม่เคยฆ่าใครเลย…

และชีวิตเรื่อยเปื่อยของเคนชิน ก็ได้พบกับผู้คนมากมายเช่น “ซางาระ ซาโนสุเกะ” นักบู๊ข้างถนน ผู้มีอดีตอันแสนเศร้า , “เมียวยิน ยาฮิโกะ” ศิษย์คนแรกของคาโอรุ , “ทากานิ เมกุมิ” หมอเถื่อนผู้มีอดีตอันลึกลับ รวมถึง “ชิโนโมริ อาโอชิ” และ “ไซโต้ ฮาจิเมะ” ที่เปลี่ยนชื่อเป้น “ฟุจิตะ โกโร่”

ช่วงภาคชิชิโอ: เกียวโตทะเลเพลิง

เหตุการณ์ต่างๆ ก็ถูกเล่าไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง “ไฟแค้น”จากอดีต ได้หวนกลับมาพบกับเคนชินอีกครั้ง ถือเป็นภาคที่อ่านสนุกที่สุดแล้ว ในบรรดาสามบทหลักเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน

“ชิชิโอ มาโคโตะ” อดีตมือสังหารรุ่นน้องเคนชิน ที่ถูกลอบฆ่าและเผาศพไป แต่ทว่ารอดมาได้ และตอนนี้เขากลับมาเพื่อล้างแค้นคนที่ทำให้เขาเป้นแบบนี้ และยังมีแผนครองแผ่นดินญี่ปุ่นด้วย!

เมื่อ “ไซโต ฮาจิเมะ” อดีตหัวหน้ากลุ่มชินเซ็น กอง 3 (ฉายา หมาป่าแห่งมิบุ) ที่ปัจจุบันได้ทำหน้าที่เป็นสายสืบให้ตำรวจสันติบาล กำลังสืบสวนเรื่องของ “อดีตมือสังหารของคณะปฏิวัติ”อีกคนหนึ่ง ที่มีชื่อว่า “ชิชิโอ มาโคโตะ” มือสังหารรุ่นน้องของเคนชิน ที่คาดว่ากำลังเตรียมแผนก่อการปฏิวัติอยู่

การตายของบุคคลสำคัญ “โอคุโบ โทชิมิจิ” เสนาบดีฝ่ายมหาดไทย ที่จะนำไปสู่ความวุ่นวายของยุคสมัย มีเพียงเคนชิน และพรรคพวกเท่านั้นที่หยุดได้!!

จากเหตุการณ์ลอบสังหาร “โอคุโบ โทชิมิจิ” เสนาบดีฝ่ายมหาดไทยโดยฝีมือของ “ดาบสวรรค์” เซตะ โซจิโร่ สมุนมือดีระดับเทพของชิชิโอ ทำให้เคนชินไม่อาจอยู่เฉยได้ เขาจึงเดินทางยังเกียวโตเพื่อยับยั้งแผนการปฏิวัติของชิชิโอให้ได้ (เพราะเคนชินถือว่า ที่ชิชิโอเป็นแบบนี้ ก็เพราะเขาด้วยส่วนหนึ่ง)ขณะเดียวกันชิชิโอก็เรียกกองกำลัง “จุปปงคาตานะ” (สิบดาบมรณะ) ซึ่งเป็นหน่วยยอดฝีมือพิเศษ 10 คนของตัวเองออกมารับมือกับเคนชินด้วย

จุปปงคาตานะ (สิบดาบมรณะ) สุดยอดมือสังหาร 10 คน ที่ทำงานให้ชิชิโอ แต่ละคน ร้ายกาจด้วยท่วงท่าเฉพาะตัวที่ยากรับมือ

ทางด้านซาโนสุเกะก็ได้ออกติดตามเคนชินมาที่เกียวโตเพื่อช่วยเหลือเคนชินอีกแรง ขณะที่ยาฮิโกะกับคาโอรุก็เดินทางมาหาเคนชินเช่นกัน(แต่มาคนละเส้นทาง) ระหว่างการเดินทางเคนชินพบกับ “มากิมาจิ มิซาโอะ” สาวน้อยแห่ง “กลุ่มโอนิวาบัง” และด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มโอนิวาบัง ทำให้พวกของเคนชินสามารถป้องกันแผนเผากรุงเกียวโตเพื่อก่อความวุ่นวายได้สำเร็จ

ในขณะที่ตัวชิชิโอและผู้ใกล้ชิดเตรียมนำเรือดำ “เรนโกกุ” เข้าอ่าวโตเกียวเตรียมยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ เพื่อสร้างความวุ่นวาย แต่ในที่สุดเรือเรนโกกุ ก็ถูกระเบิดมือของซาโนสุเกะทำลายเสียหายจนต้องเลิกล้มแผนการบุกยึดอ่าวโตเกียวไป (จริงๆกะวิ่งบนผิวน้ำ ไปต่อยเรือด้วยซ้ำ แต่จังหวะถูกยิงปืนกลสวนมาก่อน เลยทำได้แค่ปาระเบิดใส่)

ชิชิโอจึงพาจุปปงคาตานะที่เหลือกลับไป และท้าทายให้เคนชินมาสู้ถึงฐานทัพของตน เพื่อตัดสินขั้นแตกหักในเวลาต่อมา…แต่ทว่าในศึกสุดท้าย ยูมิ คนรักของชิชิโอ ได้สละชีพเพื่อให้ชิชิโอแทงทะลุร่าง เพื่อโจมตีเคนชิน แต่ชิชิโอใช้ร่างกายมากเกินรับไหว ทำให้ความร้อนในตัวพุ่งสูงขึ้น จนถูกเผาตายไปเองในเวลาต่อมา…

หลังจากเสร็จศึก เหล่าจุปปงคาตานะบางส่วนก็หายสาปสูญไป เช่น “ดาบสวรรค์ โซจิโร่” กับ “อิวังโบ” เองก็ไม่สามารถหาพบ

ส่วน “โจ นักล่าดาบ” ก็เป็นสายลับให้สันติบาล ทำงานร่วมกับ “ไซโต้ ฮาจิเมะ” / “ปีกเวหา เฮนยะ” ก็ทำหน้าที่เป็นหน่วยลาดตระเวณทางอากาศ / “คนยักษ์ ฟุจิ” กลับไปทำไร่นาที่บ้านเกิด / “เคียวยักษ์ คามาทาริ” เลือกที่จะมีชีวิต เพื่อเล่าวีรกรรมของ ชิชิโอต่อไป / “นักบวชเถื่อน อันจิ” ก็ได้รับโทษจำคุกที่ฮอกไกโด 25 ปี และ “เสนาธิการ โฮจิ” ผู้เป็นเพื่อนคู่คิดของชิชิโอ ก็ฆ่าตัวตายในคุก

ทุกคนในกลุ่มของเคนชิน ได้พากันกลับโตเกียว และไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในเวลาต่อมา…

ช่วงภาคเอนิชิ: ทัณฑ์มนุษย์

หลังจากการต่อสู้กับชิชิโอราวๆครึ่งปี เคนชินกับพรรคพวกก็ใช้ชีวิตอย่างสงบ จนกระทั่ง “กลุ่มคนที่เคยมีความแค้นต่อเคนชิน 6 คน” รวมตัวกันเพื่อล้างแค้นเคนชิน และ 1 ในจำนวนคนเหล่านั้นก็คือ “ยูกิชิโร่ เอนิชิ”

“ยูกิชิโร่ เอนิชิ” ผู้เป็นน้องชายของ “ยูกิชิโร่ โทโมเอะ” ภรรยาเก่าที่ล่วงลับไปแล้วของเคนชิน ที่ยังมีความฝังใจว่า “เคนชินเป็นผู้แย่งความสุขไปจากพี่สาวของตน” อีกทั้งยังพรากชีวิตของพี่สาวของเขาด้วย ซึ่งเรื่องราวจุดนี้ แอดมินอธิบายไปแล้วใน “ภาคกำเนิดเคนชิน”

เอนิชิ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เคนชินเจ็บปวดเหมือนตายทั้งเป็น โดยเริ่มจากการไล่ทำร้ายคนรอบข้างของเคนชิน จนถึงการเข้าโจมตีโรงฝึกคามิยะของคาโอรุ

เคนชินและพวกสามารถจัดการกับพวกของเอนิชิได้จนหมด แต่หลังจากนั้น ทุกคนก็พบว่า “คาโอรุถูกฆ่าตายไปแล้ว” และเรื่องนี้ทำให้เคนชินถึงกับหมดอาลัยตายอยากในชีวิต เขาทอดทิ้งทุกสิ่งไปอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านคนไร้ราก(ราคุนินมุระ) อยู่เหมือนตายทั้งเป็น ในสภาพที่ใครๆเห็น ก็เวทนายิ่งนัก เคนชินไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ต่อคนที่มาขอร้องให้ไปล้างแค้นให้คาโอรุ ทั้ง ซาโนสุเกะหรือยาฮิโกะก็ตาม…

เคนชินที่เจ็บปวดทรมานจากการตายของคาโอรุ ได้หลบหนีมายังหมู่บ้านคนจรจัด และหมดสิ้นซึ่งกำลังใจในการมีชีวิต อยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น…

แต่เหตุการณ์ที่คาโอรุเสียชีวิตนี้ มีเพียงอาโอชิเท่านั้น ที่เชื่อว่า “คาโอรุยังไม่ตาย” จึงได้ทำการขุดศพของคาโอรุออกมา แล้วความจริงก็กระจ่างว่าศพนั้นเป็นเพียงแค่หุ่นกระบอกที่ทำเลียนแบบคาโอรุเท่านั้น อาโอชิและไซโต้จึงเริ่มออกสืบเพื่อหาแหล่งกบดานของเอนิชิต่อไป

สมมติฐานที่อาโอชิตั้งข้อสงสัย ก็เป็นจริง เมื่อศพของคาโอรุ เป็นเพียง “หุ่นกระบอก”เท่านั้น…แปลว่า คาโอรุ ยังไม่ตายนั่นเอง…

อีกด้านหนึ่ง “คุจิรานามิ เฮียวโก” ผู้ที่มีความแค้นต่อเคนชินที่ตัดแขนขวาของเขาไปเมื่อครั้งสงครามปฏิวัติ ก็ได้แหกคุกออกมาอาละวาดไปทั่ว ยาฮิโกะพยายามออกรับหน้าเพื่อไม่ให้มีผู้คนต้องได้รับบาดเจ็บ “คุจิรานามิ เฮียวโก” นักโทษแหกคุกที่ใช้ปืนกลเป็นอาวุธ คู่ปรับคนสำคัญของยาฮิโกะ ที่เป็นบททดสอบฝีมือครั้งสำคัญของเขา…

สึบาเมะได้ไปอ้อนวอนขอให้เคนชินช่วยเหลือก่อนที่ยาฮิโกะจะเป็นอะไรไป เสียงร่ำร้องของความช่วยเหลือสะท้อนไปถึงก้นบึ้งให้จิตใจของเคนชิน ปลุกให้เขาลุกขึ้นมาสู้กับความจริงอีกครั้ง

หลังเหตุการณ์นี้ ทำให้ทุกคนกลับมารวมตัวโดยพร้อมเพรียงกัน เคนชินที่รู้ความจริงเรื่องที่คาโอรุยังไม่ตาย และพรรคพวกจึงออกเดินทางสู่เกาะที่เป็นฐานทัพของเอนิชิ ซึ่งนับเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่ยากลำบากที่สุด เพราะพรรคพวกของเอนิชิเอง ก็จัดอยู่ในระดับไม่ธรรมดา

การปะทะกันครั้งสุดท้ายของเอนิชิ ที่ใช้ “เพลงดาบวาโต”ที่รีดเร้นโสตประสาททั้งหมดใส่ลงไปในการโจมตีเพียงดาบเดียว และ เคนชิน ที่สามารถใช้ “เพลงดาบล่องนภา” ได้อีกเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น…ไม่เช่นนั้น เคนชินจะจับดาบไม่ได้ไปตลอดกาล…

บทสุดท้ายของการ์ตูนเรื่องนี้ หลังจากเสร็จศึกเอนิชิ เคนชินซึ่งร่างกายบอบช้ำสะสมมานานทำให้ไม่สามารถใช้เพลงดาบล่องนภาได้อีก

เคนชินใช้ชีวิตคู่กับคาโอรุ ส่วนเพื่อนๆ ยอดฝีมือคนอื่นๆ แยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง

ไซโต้ ย้ายไปประจำการที่อื่นเพื่อกำจัดความชั่วร้ายในสังคมต่อไป / อาโอชิ กลับไปบ้านเกิดในภูเขาคอยดูแลหลุมศพของพรรคพวกที่ตายไป / ซาโนะสุเกะ ออกไปผจญโลกกว้าง ด้วยเรือแจวลำเล็กๆ??

เอนิชิ ได้ไปอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านคนจรจัด กับลุงแก่ๆคนหนึ่ง (ที่คาดว่าน่าจะเป้นพ่อของโทโมเอะ และเอนิชิ)

5ปีต่อมา ยาฮิโกะเติบโตขึ้นกลายเป็นนักดาบยอดฝีมือเต็มขั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเคนชินที่ไม่ได้จับดาบอีกเลยนับตั้งแต่เสร็จศึกเอนิชิ ก็เรียกยาฮิโกะไปพบเพื่อทดสอบฝีมือ เพื่อมอบดาบสลับคมให้ ไว้ใช้ปกป้องผู้คน แล้วออกสู่โลกกว้างต่อไป…และเคนชิน กับคาโอรุ ก็ดูแลลูกน้อยวัยซนที่ชื่อ เคนจิ อย่างมีความสุข

“เป็นคนพเนจรนั้นเหนื่อย ไม่อยากไปไหนอีกแล้วขอรับ”

จบภาคหนังสือการ์ตูนด้วยความประทับใจประการฉะนี้แล…

—-

OVA : samurai x reflection

samurai x reflection เป็นตอนพิเศษที่ อ.โนบุฮิโระ วาสึกิ ไม่ได้เขียนไว้ในหนังสือ แต่มีผู้กำกับอนิเมไปเสนอบท “ตอนจบที่แท้จริง” ของการ์ตูนชุดนี้ อ.วาสึกิยอมรับว่าไม่ค่อยพอใจกับฉากจบแบบนี้เท่าไหร่ แต่ก็ยังอุตส่าห์ให้ทำเป็นOVA ออกมาให้ได้ชมกัน (ที่หาดูได้ยากโคตรๆ)

“ฮิมุระ เคนชิน” กับอาชีพหมอสมุนไพร ในวัย40ปลายๆ ที่อุดมไปด้วยโรคภัยต่างๆ…

เรื่องราวจะเล่าถึง15ปีต่อมาหลังจากศึกเอนิชิ เคนชิน (ในวัย 40 ปลายๆ หน้าเหี่ยวลงเยอะเลย!) ออกเดินทางไปยังเมืองจีน เพื่อช่วยเหลือผู้คนจากโรคร้าย (ต้องไม่ลืมว่า สมัยที่อยู่กับโทโมเอะ เคนชินก็เป็นหมอสมุนไพรนะ!)โดยทิ้งคาโอรุกับลูกชายตัวเองไว้ที่ญี่ปุ่นโดยนานๆจะกลับมาซักหน ทำให้ “เคนจิ”โกรธเคนชิน พ่อของเขามาก จนทิ้งครอบครัว ไปอยู่กับ ฮิโกะ เซจูโร่ (ที่วัยเฉี่ยวๆ60 แต่หล่อเว่อร์) เพื่อฝึกเพลงดาบล่องนภา

“เคนจิ” ที่ทิ้งครอบครัว มาฝึกเพลงดาบล่องนภา กับฮิโกะ เซจูโร่…เพื่อให้ลืมเรื่องครอบครัว จนเติบโต

ในระหว่างเดินทาง เคนชินเองก็กลับติดโรคร้าย(คาดว่าเป็นงูสวัด) บวกกับร่างกายที่ใช้งานอย่างหนักในศึกต่างๆในวัยหนุ่ม ทำให้ร่างกายอ่อนแอผิดปกติจนติดโรคง่ายๆ และพลัดตกเรือไปในขณะที่เกิดพายุ ในขณะที่กำลังจะหมดสติ เคนชินก็ย้อนนึกถึงเรื่องราวตั่งแต่เจอกับคาโอรุจนถึงช่วงที่เคนชิน สามารถเอาชนะเอนิชิ

ในขณะนั้นตัวคาโอรุเองก็ติดโรคมาจากเคนชินเช่นกัน โดยมีเพื่อนๆอย่างหมอเมกุมิ และยาฮิโกะมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว แต่อาการของคาโอรุ เมกุมิวินิจฉัยแล้วว่า “รักษาไม่หายแน่นอน”

ยาฮิโกะที่ได้รู้อาการของคาโอรุจึงตัดสินใจที่จะออกเดินทางไปตามเคนจิ ที่ฝึกเพลงดาบล่องนภาอยู่บนเขา เพื่อให้มาดูแลแม่ของเคนจิในระยะสุดท้าย

แต่เคนจิกลับไม่ยอมกลับบ้านเพราะเค้ารู้สึกโกรธ และ เกลียดพ่อของเขา ที่ไม่สนใจใยดีครอบครัวตัวเองเลยแม้แต่น้อย ยาฮิโกะจึงยื่นขอเสนอว่าถ้าชนะเคนจิได้ จะต้องยอมลงจากเขากับยาฮิโกะไปเยี่ยมไข้คาโอรุ

เมื่อวันประลองมาถึงแม้ว่าเคนจิจะมีเพลงดาบล่องนภาแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะยาฮิโกะได้ เพราะยาฮิโกะมีทั้งฝีีมือและประสบการณ์ที่เหนือกว่า เมื่อการประลองจบลงยาฮิโกะก็มอบดาบสลับคมให้เคนจิเพื่อให้เคนจิสืบทอดเจตนารมณ์ของทั้งตัวเองและเคนชินต่อไป (เจตนาจริงๆของยาฮิโกะคือ ทดสอบว่าเคนจิว่าเหมาะสมที่จะสืบทอดดาบสลับคมมากกว่า) ส่วนตัวยาฮิโกะ ก็จะวางมือแล้วเพราะ “สึบาเมะ” ภรรยาของเขาขอร้องให้กลับไปดูแลลูกที่บ้าน)

ซาโนะ ในวัย30 ที่เป็นนักโทษหนีคดีในเมืองจีน บังเอิญไปช่วยเคนชินที่ตกจากทะเลมาได้

ทางด้านเคนชินที่ตกทะเลไปก็สูญเสียความทรงจำแต่ก็โชคดีที่ได้ “ซาโนะสุเกะ” ช่วยเหลือไว้เมื่อเคนชินเริ่มอาการดีขึ้น จึงส่งเคนชินกลับบ้านไปแต่ตัวซาโนะสุเกะ มีคดีติดตัวอยู่ จึงไม่สามารถหนีขึ้นเรือไปกับเคนชินได้ พอเคนชินมาถึงญี่ปุ่น ก็เริ่มจำเรื่องราวต่างๆได้บ้างแล้ว… แต่มีสิ่งหนึ่งที่เคนชินจำได้แม่นยำคือ”คาโอรุ”คนที่เขารักที่สุด เคนชินใช้ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายของตนเองเดินกลับไปที่สำนักคามิยะ เพื่อไปหาคาโอรุ

คาโอรุ ที่คิดถึงเคนชิน และรับรู้ได้ด้วยลางสังหรณ์บางอย่างว่า เคนชินจะกลับมาแน่ๆ จึงออกเดินทางไปนอกบ้าน…

เมื่อทั้งสองเจอกันก็โผเข้าหากัน เคนชินตอนนี้ แผลเป็นที่ใบหน้าไม่มีอีกแล้ว เพราะบาปที่เขาสร้างขึ้นสมัยเป้นนักฆ่า ได้รับการปลดปล่อยแล้ว เป็นใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ในวาระสุดท้ายของชีวิต จากนั้นเคนชินก็หลับอย่างสงบตลอดกาลบนตักของคาโอรุ…

เคนชิน ซามูไรพเนจร อายุเท่าไร

Beginningหากอ้างอิงจากประวัติของเวอร์ชั่นมังงะ ในช่วงเวลานี้ เคนชินจะมีอายุเพียงแค่15 ปีเท่านั้น ส่วนโทโมเอะจะมีอายุอยู่ที่ 18 ปี

รู โร นิ เคนชิน ดู ได้ ที่ไหน

ซามูไรพเนจร Rurouni Kenshin - หนังน่าดูที่ทรูไอดี (Movie of the....

ประเภท: แอคชั่น / แฟนตาซี / ผจญภัย.

นำแสดงโดย: ทาเครุ ซาโตะ, เอมิ ทาเคอิ, ยู อาโออิ, มุเนทากะ อาโอกิ.

กำกับโดย: เคอิชิ โอโตโมะ.

ความยาว: 134 นาที.

เข้าฉายครั้งแรก: 16 พฤษภาคม 2556 (กำหนดฉายในประเทศไทย).

หนังเคนชิน ซามูไรพเนจร มีกี่ภาค

และเมื่อนำรายได้ทั่วโลกของทั้ง 3 ภาคมารวมกัน การเดินทางของซามูไรพเนจรเรื่องนี้ สามารถทำรายได้ทั่วโลกสูงกว่า 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

ซามูไรพเนจร ดูยังไง

Rurouni Kenshin: The Beginning (2021).

Rurouni Kenshin Origins (2012).

Rurouni Kenshin: Kyoto Inferno (2014).

Rurouni Kenshin: The Legend Ends (2014).

Rurouni Kenshin: The Final (2021).

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง