เรื่องเกิดจากความขี้เกียจของตัวผมเองที่ในวันว่างๆ นั่งดู YouTube เปิดคลิป เปิดเพลงดูไป แต่ด้วยความที่ห้องผมไม่มีทีวีก็เลยต้องเปิด YouTube กับคอมพ์นี่แหละ ปัญหามันก็คือขี้เกียจลุกขึ้นไปที่โต๊ะคอมพ์ลากเมาส์เปลี่ยนคลิปวิดีโอทุกครั้งที่มันเล่นจบ แล้วที่เล่นต่อมันไม่ถูกใจ เคยใช้ Chromecast แล้วก็ไม่ถูกใจ เปลี่ยนช้า มันไม่ชัดเท่าดูบนคอมพ์ และแล้ววันนึงก็คนพบว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เพราะเว็บ YouTube รองรับโหมด TV บนเว็บอยู่แล้ว ทำได้ทุกอย่างเหมือนการดู YouTube บน Chromecast เลย วิธีการทำดังนี้
1 ติดตั้งส่วนเสริมบน Google Chrome เพื่อหลอกว่าเราเป็นทีวี //chrome.google.com/webstore/detail/youtube-for-tv/gmmbpchnelmlmndfnckechknbohhjpge
2 เข้าไปที่ //www.youtube.com/tv กด Sign-in หรือ Skip ก็ได้ จะได้หน้าเว็บ Youtube ใหญ่ๆ แบบนี้ กดปุ่ม F11 เพื่อให้มันเต็มจอได้
3 กดไปที่เครื่องหมายฟันเฟืองที่มุมล่างซ้าย แล้วเลือก Link With TV จะขึ้นโค้ดให้เอาไปใส่ในแอพ YouTube บนมือถือแบบนี้
4 เปิดแอพ YouTube บนมือถือ ไปที่ Setting แล้วเลือก Watch on TV ดังนี้
5 กดไปที่ Link with TV code
6 ใส่โค้ดที่ได้จากบนคอมพ์แบบนี้
7 กดปุ่ม Cast จากด้านบน เวลาเข้ามาดูใหม่ที่หลัง ตรงนี้
8 เลือกเปิดหรือเพิ่มวิดีโอเอาไว้ในคิวได้จากแอพ YouTube บนมือถือเลย
เพียงเท่านี้ก็ดู YouTube แล้วนั่งเลือกเพลงเลือกวิดีโอได้จากโซฟาโดยใช้มือถือเป็นรีโมตได้ ไม่ต้องลุกมาเปลี่ยนบนคอมอีกต่อไปแล้ว สะดวกสบายมากๆ
อยากดูยูทูปผ่านจอทีวีค่ะ แต่ หอพัก ไม่มี wifi ตอนนี้มีแค่ทีวีจอแก้ว ขนาดจอน่าจะ 14" ได้มั้ง 555+
จะต้องซื้ออะไรบ้างคะ -andriod box -smart tv -android tv หรืออย่างอื่น แนะนำได้ค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ
เมื่อดู YouTube บนสมาร์ททีวี คุณจะได้เพลิดเพลินกับวิดีโอบนหน้าจอขนาดใหญ่ซึ่งภาพและเสียงมีคุณภาพดีกว่า
วิธีลงชื่อเข้าใช้ YouTube บนทีวี
บทความนี้จะอธิบายวิธีลิงก์อุปกรณ์ไปยังสมาร์ททีวีด้วยวิธีต่อไปนี้
- : ใช้โทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์เพื่อแคสต์วิดีโอ YouTube ไปยังทีวีเพื่อรับชมบนหน้าจอขนาดใหญ่
- : ขณะดู YouTube บนทีวี คุณสามารถจับคู่โทรศัพท์กับทีวีเพื่อควบคุมวิดีโอจากโทรศัพท์ได้
- : หากโทรศัพท์และทีวีเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi คนละเครือข่าย คุณสามารถลิงก์โทรศัพท์กับทีวีได้โดยใช้รหัสทีวีและแคสต์วิดีโอไปยังทีวี
หากไม่ได้ใช้รหัสทีวีหรือคอมพิวเตอร์ในการเชื่อมต่อ คุณต้องดาวน์โหลดแอป YouTube ไว้บนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต
หมายเหตุ
- หากคุณเป็นสมาชิก YouTube TV ที่ต้องการรับชม YouTube TV บนทีวี ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ช่วยเหลือของ YouTube TV
- ฟีเจอร์บางรายการอาจไม่พร้อมให้บริการในบัญชีที่มีการควบคุมดูแลบน YouTube
- หากลงชื่อเข้าใช้โปรไฟล์ YouTube Kids ผ่านแอป YouTube บนสมาร์ททีวี อุปกรณ์สตรีมมิง หรือคอนโซลเกม คุณอาจได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาดเมื่อพยายามแคสต์วิดีโอ หากพบข้อผิดพลาด ให้เปลี่ยนไปใช้โปรไฟล์อื่น
แคสต์ YouTube ไปยังสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง
ฟีเจอร์แคสต์
How to Cast YouTube to Your Smart TV or Streaming Device
เริ่มแคสต์
วิธีเชื่อมต่อกับสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง
- ตรวจสอบว่า iPhone หรือ iPad และสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิงใช้เครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน
- เปิดแอป YouTube บนสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง
- เปิดแอป YouTube ใน iPhone หรือ iPad
- ไปที่วิดีโอที่ต้องการดู แล้วแตะแคสต์ ในโปรแกรมเล่นวิดีโอ
- หมายเหตุ: หากอุปกรณ์ของคุณใช้ iOS 14 ขึ้นไป คุณต้อง เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สตรีมมิงบนเครือข่ายในพื้นที่เพื่อแคสต์ไปยังทีวีของคุณ
- เลือกอุปกรณ์ปลายทางที่ต้องการแคสต์ แล้วรอให้อุปกรณ์เชื่อมต่อ เมื่อเชื่อมต่อแล้ว วิดีโอจะเล่นบนทีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง
อนุญาตให้เข้าถึงเครือข่ายในพื้นที่
หาก iPhone หรือ iPad ของคุณใช้ iOS 14 ขึ้นไป คุณต้องอนุญาตให้ YouTube เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สตรีมมิงบนเครือข่ายในพื้นที่เพื่อแคสต์ไปยังทีวีของคุณ หากใช้แอป YouTube มากกว่า 1 แอป คุณต้องอนุญาตให้แต่ละแอป (เช่น YouTube, YouTube Music, YouTube TV, YouTube Kids) เข้าถึงเครือข่ายในพื้นที่ การแคสต์จะไม่ทำงานหากเครือข่ายในพื้นที่ปิดอยู่
ทำตามวิธีการต่อไปนี้ในการตั้งค่าของอุปกรณ์หรือในแอป YouTube
ใน iPhone หรือ iPad
- ไปที่การตั้งค่า
- เลื่อนดูรายการแอป แล้วเลือกแอป YouTube ที่จะใช้แคสต์ (เช่น YouTube, YouTube Music, YouTube TV, YouTube Kids)
- ตั้งค่าเครือข่ายในพื้นที่เป็นเปิด
ใน YouTube
- เปิดแอป YouTube (เช่น YouTube, YouTube Music, YouTube TV, YouTube Kids)
- แตะแคสต์
- ทำตามคำแนะนำเพื่ออนุญาตให้แอปเข้าถึงเครือข่ายในพื้นที่
- ในรายการอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งาน ให้แตะชื่อของอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ
เปลี่ยนอุปกรณ์ขณะที่กำลังแคสต์วิดีโอ
คุณใช้แอป YouTube และ YouTube Music เพื่อย้ายวิดีโอจากอุปกรณ์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งได้อย่างง่ายดาย โดยวิธีเปลี่ยนอุปกรณ์ขณะที่กำลังแคสต์จากทีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิงเครื่องอื่นมีดังนี้
- แตะแคสต์ ในโปรแกรมเล่นวิดีโอ
- แตะอุปกรณ์ที่ต้องการย้ายวิดีโอไป
- วิดีโอจะย้ายไปยังอุปกรณ์ที่เลือก
ยกเลิกการเชื่อมต่อกับสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง
- แตะแคสต์
- แตะโทรศัพท์เครื่องนี้เพื่อหยุดแคสต์วิดีโอจากสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง
จับคู่ YouTube กับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต
การจับคู่ช่วยให้คุณลิงก์ YouTube บนสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิงกับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตได้ หากต้องการจับคู่อุปกรณ์ คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google เดียวกันบนทีวีและโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต
วิธีจับคู่โทรศัพท์กับทีวีขณะดู YouTube
จับคู่
วิธีจับคู่อุปกรณ์เคลื่อนที่กับสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง
- เปิดสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง
- เปิดแอป YouTube บนมือถือหรือแท็บเล็ต
- หมายเหตุ: ตรวจสอบว่าได้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เดียวกันบนทีวีและอุปกรณ์เคลื่อนที่
- แตะเชื่อมต่อเพื่อจับคู่อุปกรณ์เคลื่อนที่กับทีวี เมื่อระบบขอให้ดำเนินการ
- หากไม่ได้รับป๊อปอัปหรือปิดป๊อปอัปไปโดยไม่ตั้งใจ ให้เชื่อมต่อโดยการแคสต์หรือใช้รหัสทีวี
- วิดีโอเพลเยอร์จะเปิดขึ้นในแอปบนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ซึ่งแสดงว่าคุณเชื่อมต่อกับทีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิงแล้ว
เลิกจับคู่
วิธีเลิกจับคู่อุปกรณ์เคลื่อนที่กับสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง
- แตะแคสต์
- จากนั้นแตะยกเลิกการเชื่อมต่อ
เชื่อมต่อ YouTube กับทีวีโดยใช้รหัสทีวี
เมื่อลิงก์โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตกับสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิงโดยใช้รหัสทีวี คุณจะดู YouTube บนทีวีได้แม้จะไม่ได้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi ใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตเพื่อเล่นเนื้อหาบนทีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง
รหัสทีวีไม่สามารถใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ หากใช้คอมพิวเตอร์ในการเชื่อมต่อกับทีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง คุณต้องแทน
How to Connect YouTube on your TV using a Code
ลิงก์อุปกรณ์ด้วยรหัสทีวี
ยกเลิกการเชื่อมต่ออุปกรณ์และเชื่อมต่ออีกครั้ง
ยกเลิกการลิงก์อุปกรณ์ที่ลิงก์ไว้ด้วยรหัสทีวี
หากไม่ต้องการใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตกับสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิงอีกต่อไป คุณยกเลิกการลิงก์ได้ เมื่อนำอุปกรณ์ออกแล้ว คุณจะต้องใช้รหัสใหม่เพื่อลิงก์อุปกรณ์อีกครั้ง
คุณนำอุปกรณ์ที่ลิงก์ออกได้โดยใช้อุปกรณ์ต่อไปนี้
- สมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิง หรือ
- โทรศัพท์หรือแท็บเล็ต
คุณจะยกเลิกการลิงก์อุปกรณ์ทีละเครื่องไม่ได้ การยกเลิกการลิงก์อุปกรณ์เครื่องเดียวจะเป็นการนำอุปกรณ์ทั้งหมดที่ลิงก์ออก