ในปัจจุบันคอนโดมากมายหลายโครงการได้มีการโปรโมทเรื่องของ Facility อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในพื้นที่ส่วนกลาง และส่วนใหญ่สิ่งที่ต้องมีมาให้คงหนีไม่พ้น ‘ห้องอบไปน้ำ’ กับ ‘ซาวน่า’ เป็นอย่างแน่นอน ในบทความนี้ PropertyScout จะพาทุกคนไปทำความรู้จัก และไขข้อสงสัยกันว่าทั้งสองสิ่งนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร รวมไปถึงข้อดี-ข้อเสีย และวิธีใช้งานที่ถูกต้อง บอกได้เลยว่ามีประโยชน์หลายอย่างกับร่างกาย ในแบบที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนอย่างแน่นอน จะเป็นอย่างไรบ้างตามมาดูกันเลย
ทำความรู้จักการอบไอน้ำและซาวน่า
อบไอน้ำและซาวน่านั้นจะเป็นการให้ความร้อนกับร่างกายเหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างกันอยู่ดังนี้
ห้องอบไอน้ำ
สำหรับห้องอบไอน้ำ หรือ Steam นั้นจะป็นการใช้ไอน้ำในการอบร่างกาย หรือที่เรียกกันว่า ‘อบเปียก’ โดยจะมีเครื่องผลิตไอน้ำด้วยการต้มน้ำให้เดือด เมื่อน้ำกลายเป็นไอแล้วก็จะปล่อยเข้ามาในห้องอย่างต่อเนื่อง และจะมีระบบควบอุณหภูมิให้อยู่ประมาณ 40-55 องศาเซลเซียส และด้วยความที่เป็นไอน้ำก็จะช่วยให้รู้สึกตัวไม่แห้งมากนัก อีกทั้งยังไม่ทำให้ร่างกายขาดน้ำด้วย
ส่วนใหญ่แล้ววัสดุที่นำมาใช้ภายในห้องอบไอน้ำ มักจะเป็นกระเบื้อง หิน แก้ว หรือพลาสติก เพราะว่ามีคุณสมบัติไม่ดูดซับความชื้น ทำให้เก็บความชื้นไว้ในอากาศได้ดี
ห้องซาวน่า
ในส่วนของการอบซาวน่า (Sauna) นั้นจะเป็นการอบแห้ง โดยใช้ความร้อนจากการเผาหิน ถ่าน ไม้ แก๊ส ไฟฟ้า หรือในรุ่นใหม่ ๆ มักจะเป็นเทคโนโลยีระบบอินฟราเรด ที่ตั้งไว้ภายในห้องสำหรับสร้างความร้อน ทำให้เปรียบเสมือนกับการเข้าไปนั่งในเตาอบ สำหรับอุณหภูมิของการอบซาวน่า จะสูงกว่าการอบไอน้ำ ค่อนข้างมาก โดยจะมีอุณหภูมิประมาณ 60-80 องศาเซลเซียส และด้วยการที่อุณหภูมิที่สูงขนาดนี้ หากอยู่ในห้อง Sauna นานเกินไปจะทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ ดังนั้นการอบซาวน่าก็จะต้องคอยออกมาอาบน้ำเย็นสลับกันไปด้วย ซึ่งจะช่วยให้รูขุมขนกระชับและร่างกายไม่ขาดน้ำนั่นเอง
สำหรับวัสดุที่ใช้ในห้องซาวน่านั้นจะเป็นไม้เกือบทั้งหมด โดยที่ได้รับความนิยมก็จะเป็นไม้สปรูซ ไม้ซีดาร์ และไม้สน เพราะว่าไม้สามารถดูดซับความชื้นส่วนเกินในอากาศ ทำให้ภายในห้องแห้ง และมีอุณภูมิสูงขึ้น
ต้องเข้ากี่นาที ถึงจะกำลังดี?
ระยะเวลาในการอบตัวที่ถูกต้องทั้งอบไอน้ำและซาวน่า ไม่ควรเกิน 15 นาที เพราะการอบตัวนานเกินไป จะทำให้ร่างกายเสียน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์ PropertyScout ขอแนะนำ 3 วิธีในการอบตัวที่น่าสนใจ ดังนี้ครับ
- อบร้อนอย่างเดียว 15 นาที วิธีการนี้จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว เหมาะสำหรับการไปนวดคลายเส้นต่อ
- อบร้อน 10-15 นาที แล้วสลับน้ำเย็น 3 นาที ทำประมาณ 3 รอบ วิธีนี้ได้ผลดีกับร่างกายมากกว่าการอบร้อนเพียงอย่างเดียว
- การอบร้อนสลับแช่น้ำเย็น โดยอบร้อน 3 นาที แล้วออกมาแช่ตัวในบ่อน้ำเย็นหรืออาบน้ำเย็น 2 นาที สลับกัน 3 รอบ เริ่มด้วยร้อนจบด้วยเย็น
ข้อดี
ถึงแม้มีหลักการไม่เหมือนกัน แต่คุณประโยชน์ของการอบตัวทั้งสองรูปแบบก็ไม่ได้แตกต่างกัน ซึ่งมีมากมายหลายอย่างดังนี้เลยครับ
- กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ความร้อนจากการอบทำให้ผิวหนังและโครงสร้างผิวหนังได้รับออกซิเจนและสารอาหารดีขึ้น
- กระตุ้นระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจสะดวกขึ้น
- ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หากออกกำลังกายมาอย่างหนักแล้วเส้นตึง หรือมีอาการเมื่อยล้าจากการทำงาน นั่งเก้าอี้นานๆ แล้วไหล่แข็ง หลังตึง การอบไอน้ำและซาวน่าสามารถช่วยได้
- ช่วยเปิดรูขุมขนให้ขับถ่ายสิ่งสกปรกและสารพิษที่อยู่ในร่างกายออกมา ซึ่งก็คือเหงื่อที่ไหลออกมานั่นเอง
- ช่วยรักษาสมดุล ความเป็นกรด-ด่างของผิวหนังจากแสงแดดและสารเคมี
- กระตุ้นระบบฮอร์โมน และระบบประสาท
- ปรับกระบวนการทางเคมีของเซลล์ทั่วร่างกาย ทำให้ระบบเสริมสร้างและระบบย่อยสลายอาหารเข้าสู่สมดุลใหม่
- ช่วยให้ผิวหนังอ่อนนุ่มและชุ่มชื้น
- ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่ประเทศฟินแลนด์ พบว่าผู้ที่ไปซาวน่าเป็นประจำจะมีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองลดลงเมื่อเทียบกับผู้ที่ไปซาวน่าเพียงชั่วครั้งชั่วคราว
- ช่วยคลายเครียด ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คนไปซาวน่าเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่ออุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น หลอดเลือดก็จะขยายตัวทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้มากขึ้น จึงทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายจากความเครียด
ข้อควรระวัง
ถึงจะมีข้อดีเยอะแต่ก็มีเรื่องที่ต้องระวังเช่นกัน การอบร่างกายแบบตามใจชอบสามารถส่งผลเสียกับร่างกาย และทำให้เกิดอันตรายได้ครับ
- ไม่ควรอบตัวนานกว่า 15 นาที เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียเหงื่อและน้ำมากเกินไป อาจทำให้มึนศีรษะ เป็นลม ชัก และหมดสติได้
- ผู้สูงอายุ หรือเด็กที่มีอายุน้อยเกินไป ไม่แนะนำให้อบไอน้ำและซาวน่า เพราะหากสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์พอ อาจส่งผลเสียกับระบบต่างๆ ในร่างกายได้
- คนที่มีปัญหาโรคหัวใจ โรคลมชัก หรือความดันโลหิตสูง ไม่แนะนำให้อบตัวเหมือนกัน เพราะจะทำให้หัวใจทำงานมากกว่าปกติ ในบางคนอาจจะส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้นจนหน้ามืด เป็นลม และหมดสติได้
- สตรีมีครรภ์ไม่ควรอบตัว เพราะการที่สตรีมีครรภ์ไปอบตัวสามารถทำให้เด็กที่เกิดใหม่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติได้
- ไม่ควรใส่ชุดว่ายน้ำในการอบตัว ด้วยการที่เส้นใยอีลาสตินในชุดว่ายน้ำ เมื่อโดนความร้อนจะยืดและหดตัว บางกรณีอาจแห้งกรอบและเกิดการไหม้ได้
- การอบตัว ไม่ใช่การลดน้ำหนัก เพียงแต่ช่วยกระตุ้นระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย และปรับสมดุลการทำงานของต่อมฮอร์โมนตามที่ได้กล่าวไปเท่านั้น การบตัวเสร็จออกมาแล้วน้ำหนักลดก็เพราะร่างกายของเราเสียน้ำไปจากเหงื่อที่ขับออกมา ดังนั้นเมื่อออกจากห้องอบตัวมาดื่มน้ำเรียบร้อย พอผ่านไปสักพักสักน้ำหนักก็กลับมาเท่าเดิม ดังนั้นการลดน้ำหนักที่ถูกต้องคือการควบคุมอาหารพร้อมกับออกกำลังกายอย่างถูกวิธีไปด้วยนะครับ
วิธีการเข้าห้องอบไอน้ำและซาวน่าที่ถูกต้อง
หลังจากที่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการอบร่างกายทั้งสองแบบ ระยะเวลาการอบตัวที่เหมาะสม ตลอดจนข้อดี-ข้อควรระวัง ที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว เชื่อว่าหลายคนที่ยังไม่เคยลองก็คงอยากจะเข้าไปเปิดประสบการณ์อบตัวบ้าง ซึ่ง PropertyScout ก็มีขั้นตอนง่าย ๆ มาแนะนำกับทุกคนครับ
- อาบน้ำชำระล้างร่างกายก่อนเข้าไปอบตัว เป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกที่ ห้ามลืม
- ถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะ เครื่องเงิน ทอง แล้วนำไปเก็บไว้ในล็อคเกอร์หรือในที่ปลอดภัย ห้ามนำเข้าไปในห้องอบเด็ดขาด เพราะเป็นตัวนำความร้อน ทำให้ผิวหนังไหม้ได้
- สำหรับคุณผู้หญิงให้ใส่กระโจมอก และคุณผู้ชายใส่ผ้าเช็ดตัว ถือว่าเป็นชุดพื้นฐานทั่วไปให้แน่ชัดก่อนครับนการเข้าห้องอบตัว ส่วนใครที่อยากจะถอดหมดก็ได้ แต่จะต้องศึกษากฎระเบียบของโครงการคอนโดก่อนครับ
- ไม่ต้องทาครีมก่อนเข้าห้องอบตัว เพราะเนื้อครีมหรือโลชั่นต่าง ๆ จะเคลือบผิวหนังและปิดรูขุมขน ทำให้ร่างกายขับสิ่งสกปรกออกมาไม่เต็มที่
- สำหรับห้องอบไอน้ำสามารถใช้ ใช้โคลนพอกตัว มาส์ก ครีมหมักผม ออยล์ หรือครีมบำรุงเส้นผมก่อนเข้าอบตัวได้ ถือว่าเป็นการอบตัวและอบไอน้ำให้ผมไปพร้อมกันครับ
- หากเข้าห้องอบแบบซาวน่าแนะนำให้เน้นใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมมากกว่า
- อาบน้ำและเช็ดตัวด้วยน้ำเย็นหลังจากอบตัวเสร็จ เพื่อปิดรูขุมขน ทำให้รูขุมขนกระชับ หากว่่าพอกตัวด้วยโคลน หรือ มาสก์ต่าง ๆ แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ขัดผิวตอนอาบน้ำ อย่างเช่น สบู่ สครับ หรือใยธรรมชาติ เพราะจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายออกไปครับ
- ดื่มน้ำเปล่าทุกครั้งหลังการอบตัว เพราะร่างกายขับเหงื่อออกมาเยอะ ต้องดื่มเพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายเสียไป
สรุปส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับความรู้เรื่อง ‘ห้องอบไอน้ำ’ และ ‘ซาวน่า’ PropertyScout หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยและให้ประโยชน์กับทุกคนนะครับ ไม่ว่าจะเป็น การอบไอน้ำหรือซาวน่าก็ตาม ก็ถือว่าเป็นอีกสิ่งอำนวยความสะดวกในคอนโดที่สามารถช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟูไปด้วยในตัวเลยทีเดียว ผ่อนคลายได้ทั้งทุกส่วนของร่างกาย เส้นผมจรดปลายเท้าสำหรับใครที่อยากลองเปิดประสบการณ์การพักผ่อนในแบบที่ไม่เคย ลองนำวิธีการต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปในบทความนี้ไปทำตามกันดูนะครับ
สำหรับใครที่มีความคิดเห็น ข้อเนอแนะ หรืออยากแชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตในคอนโด หรือในที่อยู่อาศัยของตัวเอง สามารถคอมเม้นต์กันมาได้ที่ด้านล่างเลยนะครับ บทความถัดไป PropertyScout จะนำอะไรดี ๆ มาแชร์กันอีกแน่นอน รอติดตามกันครับ
อ่านบทความ รีวิวโครงการ อัปเดตข่าวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ PropertyScout Blog
มีคำถาม ข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการ เช่า ซื้อ ขาย สามารถคลิกตามด้านล่าง ทีมงานของเราพร้อมให้บริการ!
ซาวน่า มีกี่ประเภท
เซาว์น่า มีสองประเภทหลักคือ "แบบแห้ง" และ "แบบเปียก" แต่, ประเภทที่ดีที่ใช้ประโยชน์จากแต่ละคุณสมบัติ มี. ต่อไป, ประเภทและลักษณะของห้องซาวน่าที่แบ่งย่อยมากขึ้น ลองมาดูที่สิ่งดังกล่าว
อบซาวน่าทุกวันได้ไหม
Pop Tip: Dr. Gbolahan Okubadejo ศัลยแพทย์ด้านกระดูกและข้อ แนะนำว่าการอบซาวน่า 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ มีส่วนช่วยเพิ่มการฟื้นฟูร่างกายดังนี้ ฟื้นฟูกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง ช่วยผ่อนคลาย
ห้องซาวน่า กี่องศา
ซาวน่า คือ การอบตัวด้วยอุณหภูมิประมาณ 65-90 องศาเซลเซียส โดยแหล่งกำเนิดความร้อนมีหลายรูปแบบ ทั้งการเผาท่อนไม้ ใช้เครื่องทำความร้อนด้วยไฟฟ้า รวมถึงการใช้รังสีอินฟราเรด โดยการอบซาวน่าจะทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาในปริมาณมาก ปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาทีต่อครั้งเท่านั้น เพราะหากนานเกินไปอาจเป็นอันตรายได้
อบซาวน่าอันตรายไหม
ข้อควรระวัง ถึงจะมีข้อดีเยอะแต่ก็มีเรื่องที่ต้องระวังเช่นกัน การอบร่างกายแบบตามใจชอบสามารถส่งผลเสียกับร่างกาย และทำให้เกิดอันตรายได้ครับ ไม่ควรอบตัวนานกว่า 15 นาที เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียเหงื่อและน้ำมากเกินไป อาจทำให้มึนศีรษะ เป็นลม ชัก และหมดสติได้