Bilberry extract กินตอนไหน

บิลเบอร์รี่ (Bilberry) เป็นผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ มีลักษณะคล้ายบลูเบอร์รี่แต่มีขนาดเล็กกว่า แม้ว่าเบอร์รี่ชนิดนี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักและคนไทยอาจยังไม่คุ้นเท่าไร แต่ประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ต่อสุขภาพก็โดดเด่นไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่นในตระกูลเดียวกัน

ประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ครอบคลุมสุขภาพหลายด้าน เช่น บำรุงหัวใจ บำรุงสายตา และต้านการอักเสบที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลายโรค แต่บิลเบอร์รี่สดอาจหาได้ยากในประเทศไทย เพราะเป็นผลไม้ท้องถิ่นของยุโรปตอนเหนือ บิลเบอร์รี่ที่พบในไทยจึงมักมาในรูปแบบของอาหารเสริมมากกว่า โดยบทความนี้จะให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประโยชน์ของบิลเบอร์รี่และวิธีการเลือกซื้ออาหารเสริมบิลเบอร์รี่อย่างปลอดภัย

คุณประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ต่อสุขภาพ

บิลเบอร์รี่มีสารอาหารที่จำเป็นหลายชนิดจึงอาจช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายในด้านต่อไปนี้

1. ต้านอนุมูลอิสระ

อนุมูลอิสระ หรือ Free Radicals เป็นสารชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกายตามธรรมชาติ เมื่อมีจำนวนมากขึ้นอาจทำให้ร่างกายขาดสมดุลจนนำไปสู่การอักเสบและการเสื่อมของร่างกาย ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคบางอย่าง 

บิลเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) สูง คุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ คือ การเข้าไปจัดการและควบคุมอนุมูลอิสระให้อยู่สภาวะที่สมดุลและไม่สร้างความเสียหายต่อเซลล์ภายในร่างกาย ดังนั้นการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอก็อาจช่วยยับยั้งกระบวนการเสื่อมและอักเสบของเซลล์ภายในร่างกายได้

บิลเบอร์รี่ไม่เพียงมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง แต่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น

  • วิตามินซีหรือกรดแอสเคอร์บิก (Ascorbic Acid)
  • กรดฟีโนลิก (Phenolic Acid)
  • สารแอนโทไซยานิน (Antocyanin) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดสีในผักผลไม้

รายงานทางวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยชี้ว่าการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเหมาะสมเป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลายโรค เช่น โรคหัวใจ โรคตับ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการมีสุขภาพดีและลดความเสี่ยงของโรคเท่านั้น

2. บำรุงหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรง

โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นโรคเรื้อรัง โรคนี้เกิดได้จากหลายปัจจัย ซึ่งการอักเสบของหลอดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจก็อาจทำให้ความเสี่ยงของโรคเพิ่มขึ้น ส่วนสาเหตุของการอักเสบอาจมาจากอนุมูลอิสระที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่เฉพาะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ และโรคประจำตัวอื่น ๆ อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

ประโยชน์ของบิลเบอร์รี่อาจครอบคลุมถึงการปกป้องหัวใจให้ห่างไกลจากโรคหัวใจได้ด้วย เนื่องจากปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระที่ค่อนข้างสูงและหลากหลายจึงอาจลดความเสียหายจากการอักเสบได้

การศึกษาชิ้นหนึ่งศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวิตามินซีกับสรรพคุณลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยให้ผู้เข้ารับการทดลองส่วนหนึ่งรับประทานวิตามินซีอย่างน้อย 700 มิลลิกรัมต่อวันและคนอีกส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวิตามินซี

ภายหลังพบว่ากลุ่มที่ได้รับวิตามินซีมีความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจน้อยกว่ากลุ่มคนที่ไม่ได้รับ อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ไม่ได้พูดถึงผลข้างเคียงจากการใช้วิตามินซีในปริมาณดังกล่าวติดต่อกันนาน อีกทั้งการศึกษายังใช้เวลานานหลายปีจึงอาจมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการศึกษาได้

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งชี้ว่าการได้รับแอนโทไซยานินที่พบได้ในบิลเบอร์รี่และผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ติดต่อกันหลายสัปดาห์อาจช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL: Low-Density Lipoproteins) และเพิ่มปริมาณของคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL: High-Density Lipoproteins) 

คอเลสเตอรอลเป็นคำที่ใช้เรียกไขมันในเลือดชนิดหนึ่ง คอเลสเตอรอลส่งผลต่อสุขภาพได้ไม่น้อย โดยเฉพาะสุขภาพหัวใจ หากปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีสูงติดต่อกันอาจเพิ่มความเสี่ยงของการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือดทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงและทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบตันได้ ดังนั้นการได้รับแอนโทไซยานินจากบิลเบอร์รี่จึงอาจช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจในข้อนี้ได้ แต่การศึกษาในสัตว์บางส่วนไม่พบความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับและไม่ได้รับแอนโทไซยานิน

บิลเบอร์รี่ยังมีวิตามินเคที่มีส่วนรักษาการทำงานของระบบไหลเวียนของเลือดและการควบคุมการแข็งตัวของเลือดจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมองที่เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือด

3. บำรุงสายตาและลดความเสี่ยงของโรคต้อหิน

ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตอย่างขาดไม่ได้ แต่อายุที่เพิ่มขึ้นและปัจจัยอื่น ๆ อาจส่งผลให้ดวงตาเสื่อมลงและเสี่ยงต่อโรคตาบางชนิดมากขึ้นได้ การทดลองทางวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งพบประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ต่อสุขภาพดวงตา เช่น

  • ลดอาการตาล้า ตาแห้ง ปวดศีรษะ และตาพร่า
  • ลดความเสี่ยงของโรคต้อหิน ซึ่งเป็นโรคที่อาจส่งผลต่อการมองเห็นได้ หากไม่ได้รับการรักษา

แต่ประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ในรูปแบบอาหารเสริมกับการบำรุงสายตายังจำเป็นต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติมอีกมากเพื่อยืนยันถึงประโยชน์ดังกล่าว

นอกจากสรรพคุณเหล่านี้ บิลเบอร์รี่และอาหารเสริมบิลเบอร์รี่ยังได้รับการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพอื่น ๆ อีกมาก แต่ก็ล้วนอยู่ในช่วงของการทดลองและยังไม่ได้รับการยืนยันถึงประโยชน์ที่แน่ชัด ดังนั้นหากต้องการใช้อาหารเสริมบิลเบอร์รี่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้และไม่ควรใช้เพื่อหวังผลในการรักษาหรือป้องกันโรค หากเจ็บป่วย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษาที่เหมาะสม

ความเสี่ยงจากการได้รับบิลเบอร์รี่

บิลเบอร์รี่สดสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย แต่อย่างที่ได้บอกไปว่าในประเทศไทยพบบิลเบอร์รี่ในรูปแบบอาหารเสริมมากกว่า โดยอาหารเสริมบิลเบอร์รี่ส่วนใหญ่มักอ้างสรรพคุณในการบำรุงสายตา ซึ่งจากข้อมูลข้างต้นก็ชี้ว่าประโยชน์ของบิลเบอร์รี่ต่อการบำรุงสายตายังไม่มีข้อมูลยืนยันที่แน่ชัด แต่หากสนใจหรือต้องการใช้อาหารเสริมชนิดนี้ วิธีต่อไปนี้อาจช่วยให้เลือกและใช้อาหารเสริมบิลเบอร์รี่ได้ปลอดภัยขึ้น

  • ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้อาหารเสริมทุกชนิดถึงประโยชน์ ความเสี่ยง และความจำเป็นในการใช้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก คนท้อง คุณแม่ที่กำลังให้นม ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่กำลังใช้ยาโรคเบาหวานและยาต้านการแข็งตัวของเลือด
  • เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและจัดจำหน่ายโดยบริษัทที่น่าเชื่อถือ
  • ใช้อาหารเสริมตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ หากมีคำถามเกี่ยวกับการใช้ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้จัดจำหน่าย

แม้ว่าประโยชน์ของบิลเบอร์รี่จะน่าสนใจ แต่ก็ยังต้องการการศึกษาในแง่มุมอื่นอีกมาก รวมทั้งการได้รับอาหารเสริมในปริมาณที่มากกว่าปกติหรือได้รับติดต่อกันเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงของผิดปกติได้ สำหรับคนท้อง ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงการใช้บิลเบอร์รี่สกัดหรืออาหารเสริมบิลเบอร์รี่เพราะอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงอันตรายมากกว่ากลุ่มอื่น และหากพบความผิดปกติหลังใช้อาหารเสริม ควรหยุดใช้และไปพบแพทย์

Vistra Bilberry กินตอนไหน

วิธีรับประทาน: รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล พร้อมมื้ออาหาร

วิตามินบํารุงสายตาควรกินตอนไหน

ลูทีน (Lutein) อาหารเสริมลูทีนช่วยบำรุงดวงตาและป้องกันโรคตาบางประเภท อาทิ โรคต้อกระจก โรคต้อหิน และโรคจอประสาทตาเสื่อม รวมถึงบำรุงผิวพรรณ บำรุงหัวใจ อีกทั้งช่วยด้านความจำป้องกันโรคอัลไซเมอร์ โดยแนะนำให้รับประทานลูทีนในช่วงเวลาก่อนนอนจะดีที่สุด

Bilberry Extract ช่วยเรื่องอะไร

สารแอนโทไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) จากบิลเบอร์รี (Bilberry) เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อดวงตาอย่างมาก ช่วยป้องกันต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม และโรคทางตาอื่นๆ จึงมักพบเห็นบิลเบอร์รีในอาหารเสริมช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก ช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และต่อต้านการอักเสบ

Bilberry Extractคืออะไร

มีสารแอนโทไซยาโนไซต์ ช่วยบํารุงสายตา จอตา ช่วยในการมองเห็นในที่มืดได้ดีที่นป้องการการถูกทําลาย ของจอประสาทตา ลดความเสี่ยงการเกิดต้อกระดูก ป้องกันโรคทางสายตา อาการตาแห้ง ปวดตา ฯลฯ เพิ่มความแข็งแรงให้หลอดเลือด ลดโอกาสเกิดสภาวะหลอดเลือดเปราะที่เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือด

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง