สำหรับคุณแม่บ้านหรือคุณพ่อบ้านที่ต้องพบปัญหาเชื้อราบนเสื้อผ้าแล้วซักยังไงก็ไม่ออก วันนี้เรามี 4 เคล็ดไม่ลับมาฝากกันค่ะ
1.นมเปรี้ยว
ที่เรานิยมดื่มแท้จริงแล้วสามารถนำมากำจัดราได้ค่ะ ง่ายๆ ด้วยการนำนมเปรี้ยวมาหยดลงบริเวณที่ราขึ้น แต่หากขึ้นในบริเวณกว้างให้นำเสื้อผ้าแช่ในนมเปรี้ยวทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นจึงค่อยนำมาตากแดดให้แห้งสนิท แล้วจึงค่อยนำไปซักได้ตามปกติค่ะ
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยขจัดคราบฝังแน่นและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับผ้า เช่น ผ้าสีควรเลือกผลิตภัณฑ์ขจัดคราบแบบผ้าสี แต่ถ้าเป็นผ้าขาวต้องเป็นผลิตภัณฑ์ขจัดคราบแบบผ้าขาว ซึ่งวิธีการคือนำผลิตภัณฑ์ขจัดคราบมาหยดเฉพาะจุดที่มีเชื้อรา แช่ทิ้งไว้ 1 คืนแล้วจึงค่อยนำมาซัก จะพบว่าจุดที่เป็นเชื้อรานั้นสามารถหายไปอย่างง่ายดายเลยค่ะ
3.มะนาวและเกลือ
เอาน้ำมะนาวมาผสมกับเกลือทาบริเวณผ้าที่ขึ้นรา หากพบว่าเชื้อราฝังแน่นมากๆ ให้นำเอามะนาวมาผ่าซีกแล้วถูลงลงบริเวณนั้น แล้วจึงค่อยทาเกลือป่นลงบริเวณเดิมอีกครั้ง จากนั้นนำไปตากแดด 1 วัน จึงค่อยนำไปซักมือเพื่อจะได้สามารถขยี้รอยของเชื้อรานั้นให้ออกไปได้ ต่อไปจึงเอาไปแช่ในผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าตามปกติได้เลยค่ะ
4.ปูนขาว
นำปูนขาวมาผสมกับน้ำ จากนั้นนำผ้าที่มีคราบเชื้อราไปแช่ในน้ำที่ผสมไว้ซักพัก แล้วจึงค่อยนำแปรงซักผ้าไปถูบริเวณคราบราให้ออกให้หมดเมื่อเสร็จแล้วค่อยนำไปซักกับผงซักฟอกตามปกติ
เมื่อคุณสามารถกำจัดคราบเชื้อราได้หมดแล้ว คุณควรหมั่นตรวจสอบห้องนอนและตู้เสื้อผ้าของคุณไม่ให้มีความชื้น อาจหาตัวดูดความชื้นมาไว้ในตู้เสื้อผ้าของคุณ ก็ถือว่าเป็นวิธีป้องกันไม่ให้เชื้อรากลับมาขึ้นซ้ำได้อีกค่ะ
เรื่องราวรอบตัวน่ารู้น่าอ่านกับหลากหลายสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ในคอลัมน์ Lifestyle โดย Hoot-Hoot ที่อ่านออนไลน์แล้วรับรองมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน เพราะเรื่องราวดีๆ ที่รายล้อมรอบตัว #มีให้อ่านที่อ่านเอา
…………………………………………..
ยี้ๆๆ… จุดๆ อะไรไม่รู้ขึ้นเต็มผ้าเช็ดตัว ไหนจะบนเสื้อชั้นใน เสื้อยืด กางเกงบ็อกเซอร์ คำตอบคือ ‘รา’ ค่ะ เชื้อราที่เกิดจากความอับชื้น หมักหมม หรืออะไรก็ตามแต่ เกิดขึ้นแล้วจะทิ้งเสื้อผ้าของใช้เลยก็ใช่ที่ เพราะยังดีๆ ทั้งนั้น งั้นเอาเป็นว่ามาใช้ของใกล้ตัวกำจัดคราบรากันดีกว่า
น้ำร้อน
เพียงนำผ้าที่มีคราบเชื้อราไปซักในน้ำร้อน เสร็จแล้วตากให้แห้งก็ช่วยให้คราบราออกได้ แต่อย่าลืมแยกซักเด็ดขาด เพราะเชื้อราจะกระจายตัวไปสู่เสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ ได้
ด่างทับทิม
นอกจากใช้ล้างผักกำจัดสารปนเปื้อนได้แล้ว ด่างทับทิมยังมีประโยชน์ในการซักคราบราบนผ้าได้ด้วย เพียงใช้ด่างทับทิมแค่ปลายช้อนชาละลายในน้ำสะอาดแล้วนำผ้าที่มีเชื้อราขึ้นมาแช่ทิ้งไว้ 5 นาที คราบเชื้อราจะจางลง จากนั้นนำไปซักแบบปกติก็เป็นอันเรียบร้อย
มะนาว
น้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด จึงสามารถกำจัดเชื้อราบนเนื้อผ้าได้ วิธีการคือ เทน้ำมะนาวลงบนคราบรา ทิ้งไว้สักพักแล้วนำไปตากให้แห้ง จากนั้นนำกลับมาซักด้วยผงซักฟอกอีกครั้ง หรือหากบางบ้านไม่อยากใช้มะนาวเพราะราคาแพง แต่มีนมเปรี้ยวติดตู้เย็นก็อาจใช้นมเปรี้ยวมากำจัดได้ นั่นคือเอานมเปรี้ยวถูบนคราบแล้วทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นตากให้แห้งสนิทแล้วค่อยนำกลับมาซัก
น้ำส้มสายชู
นอกจากกำจัดคราบเชื้อราได้แล้ว ยังช่วยให้กลิ่นเหม็นอับลดลงไปจนแทบจะไม่มีได้ด้วย วิธีการคือผสมน้ำส้มสายชู 1-2 ถ้วยตวง เข้ากับน้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอก จากนั้นก็นำไปซักแล้วตากให้แห้ง แต่ถ้ารู้สึกว่าคราบราฝังแน่นมานานและเป็นวงกว้าง อาจแช่ผ้าทิ้งไว้ก่อน 1 ชั่วโมงแล้วค่อยนำมาซัก หรือจะนำน้ำส้มสายชูใส่ลงในขวด ฉีดเป็นสเปรย์พ่นบริเวณที่มีราขึ้น แล้วทิ้งไว้ 15 นาทีค่อยนำไปซักก็ได้
เกลือ
ของติดครัวที่มีมาแต่ไหนแต่ไรตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษก็คือเกลือ วิธีใช้ที่เรียกว่าเวิร์กมากๆ คือ ใช้ร่วมกับน้ำมะนาว โดยเทเกลือผสมน้ำมะนาว จากนั้นป้ายลงบนคราบเชื้อราทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที นำมาขยี้เบาๆ ก่อนซักก็จะทำให้คราบเชื้อราได้ง่ายขึ้น
ปัญหากวนใจคุณแม่บ้านอย่าง ผ้าขึ้นราจะหายไปอย่างง่ายดาย เพียงคุณทำตามวิธีป้องกันและวิธีกำจัดราบนผ้าที่เราได้รวบรวมมาให้คุณ คลิกที่นี่
อัปเดตเมื่อ 11 เมษายน 2023
เวลาอ่าน: ๒ นาที
การซักผ้า
สิ่งที่คอยกวนใจคุณแม่บ้านโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนคือเชื้อราตามพื้น เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ และเสื้อผ้า ผ้าขึ้นรามักมีกลิ่นเหม็นอับ ดูสกปรก และอาจทำให้ระคายผิว แถมยังซักทำความสะอาดออกยาก เราจึงได้รวบรวม วิธีกำจัดราบนผ้าแบบง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวคุณ ติดตามทางด้านล่างนี้ สิ่งสำคัญที่สุดในการซักทำความสะอาดผ้า คือการตรวจเช็คป้ายสัญลักษณ์การดูแลผ้า เพื่อตรวจสอบว่าคุณสามารถซักผ้าของคุณอย่างไรเพื่อไม่ให้ทำลายเนื้อผ้าจนเสียหายได้
ขั้นตอนการกำจัดเชื้อราบนผ้า
หากคุณทิ้งเสื้อผ้าตัวโปรดให้เปียกชื้น หมักหมมอยู่บนพื้นหรือในตะกร้า จนเสื้อของคุณเริ่มมีจุดสีดำ หรือจุดสีขาวกระจายตามเสื้อผ้า และเริ่มมีกลิ่นเหม็นอับหรือกลิ่นเหม็นหืน นี่คือสัญญาณว่าผ้าขึ้นราแล้ว ดังนั้นถึงเวลาที่คุณควรซักผ้าขึ้นราได้แล้ว
หากเป็นเสื้อผ้าที่สามารถนำไปตากแดดได้ คุณควรตากผ้าขึ้นรากลางแดด เพื่อให้แสงแดดฆ่าเชื้อโรค หากเป็นเสื้อผ้าที่โดนแสงแดดแรงๆ ไม่ได้ คุณสามารถนำผ้าไปแช่น้ำผสมผงซักฟอกประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อน
หากคราบเชื้อรายังฝังแน่นอยู่ คุณสามารถลองใช้ผงซักฟอก เช่น ออล หรือ บรีส ผสมน้ำ จากนั้นนำมาถูบริเวณเสื้อผ้าที่มีเชื้อรา โดยคุณควรลองกับพื้นที่เล็กๆ ก่อนเพื่อดูให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดไม่ทำลายเนื้อผ้า
ซักผ้าตามปกติ โดยเลือกใช้น้ำอุ่นเพื่อกำจัดเชื้อโรค จากนั้นคุณควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เช่น คอมฟอร์ท เพื่อเพิ่มความหอมและความนุ่มให้กับเสื้อผ้า ที่สำคัญน้ำยาปรับผ้านุ่มจะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นอับได้ในเวลาเดียวกัน
เมื่อซักผ้าเสร็จ รีบนำเสื้อผ้าออกมาตากให้แห้ง คุณควรหลีกเลี่ยงการตากผ้าท่ามกลางแดดจัด และเมื่อผ้าแห้งแล้ว คุณควรรีบเก็บผ้าทันที เพื่อคงกลิ่นหอมไว้
รีดผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นพับเก็บหรือแขวนในตู้เสื้อผ้า นอกเหนือจากเชื้อราในเสื้อผ้าแล้ว คุณควรดูให้แน่ใจว่าตู้เสื้อผ้าของคุณไม่มีเชื้อรา เพราะจะทำให้ผ้าคุณกลับมาสกปรกได้เหมือนเดิม
วิธีป้องกันผ้าขึ้นรา
หากคุณไม่อยากเสียเวลาหาวิธีแก้เสื้อผ้าขึ้นรา สิ่งที่สำคัญคือการป้องกันไม่ให้ผ้า ขึ้น ราตั้งแต่แรก โดยคุณสามารถทำตามวิธีต่างๆ ได้ดังนี้
เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเมื่อถึงบ้าน โดยเฉพาะชุดที่เปื้อนเหงื่อ เช่น ชุดออกกำลังกาย จากนั้นคุณสามารถใส่ไว้ในตะกร้าซักผ้า แต่ไม่ควรทิ้งหมักหมมไว้นานจนเกินไป และควรรีบซักทำความสะอาดทันทีที่มีเวลาว่าง
ไม่เก็บผ้าที่ชื้นหรือยังไม่แห้งสนิทเข้าตู้เสื้อผ้า เพราะจะทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย ดังนั้นคุณต้องดูให้แน่ใจเสมอว่าเสื้อผ้าของคุณแห้งสนิทดีแล้วก่อนนำไปเก็บให้เรียบร้อย
หมั่นดูแลความสะอาดของตู้เสื้อผ้า คุณควรเช็ดตู้ทุกส่วนด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นผสมผงซักฟอกหรือน้ำยาล้างจานหมาดๆ จากนั้นเปิดประตูตู้เพื่อระบายอากาศให้ตู้แห้ง ก่อนนำเสื้อผ้าใส่กลับคืนอีกครั้ง
เสื้อผ้าเหม็นอับ ทำไงดี ? คำถามนี้จะไม่มากวนใจคุณอีกต่อไป หากคุณรู้วิธีซักผ้าขึ้นราที่ถูกต้อง มาลองทำตามวิธีกำจัดเชื้อราบนเสื้อผ้าง่ายๆ รวมไปถึงวิธีป้องกันไม่ให้ผ้าขึ้นรา ที่เรารวบรวมไว้ข้างต้น แค่นี้เสื้อผ้าตัวเก่งคุณก็จะหอมสะอาดเหมือนใหม่แล้ว
นอกเหนือจากนี้ เราได้รวบรวมวิธีการกำจัดเชื้อราในบ้านด้วยน้ำยาฟอกข้าวมาให้คุณด้วย
น้ำส้มสายชู: นำน้ำส้มสายชูไปผสมกับน้ำก่อนพรมลงไปเบาๆ ทิ้งไว้ 10-15 นาทีก่อนถูหรือขัดคราบออก
นมเปรี้ยว: ใช้วัตถุดิบที่มีความเป็นกรด เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต มะนาว ถูบนเชื้อรา ทิ้งไว้ข้ามคืนก่อนนำไปซัก