ออกกําลังกายกี่ชม.ต่อสัปดาห์

�������Ǫҭ��ҹ�آ�Ҿ�͡���кصç�ѹ��� ����Ф��駤����������͡���ѧ����Թ���� 60 �ҷ� (���� 75 �ҷ� ����Ѻ����ջ��ʺ��ó�) ��� "��ͧ" �ѡ���ҧ���� 1 �ѹ/�ѻ���� ���зء���駷���͡���ѧ��µ�ͧ����� � ����ਹ� �������ਹ���ŧ ��ҧ��¡������¡�����������繾�ѧ�ҹ����� ��觨��Դ�������ҡ���ҼŴ�

�����ɮ����� ������仨�������ਹ��§�͵�͡Ԩ������ҧ � �ѧ���

  1. �Ԩ�������������ѧ�ҹẺ Aerobic ����դ���������дѺ�ҹ��ҧ�֧��͹��ҧ�٧ ������ 90-180 �ҷ�
  2. �Ԩ�������������ѧ�ҹẺ Anaerobic �� ���¡�Ƿ ������ 30-45 �ҷ�
  3. �Ԩ���������� Interval ������ѧ�ҹẺ Aerobic ���Ѻ Anaerobic ������ 45-90 �ҷ�

    ��������������ҹ�� �繵���Ţ�ҧ��ɮ�����Ѻ ������Ԕ ���ҹ��������ҧ��§�͵�ͤ�����ͧ��âͧ��ҧ��� ���¤��������ҧ���������������ਹ������ҧ������������ ��ǹ����� "���ѧŴ������ǹ" ��觻��Ե�ͧ�Ǻ����������੾�Ф�������õ ��������ҳ����ਹŴŧ �����������ö�����Ţ�ѧ�������

    �ѧ���������͡���ѧ��µ������ҧ� �ҡ�س����㹪�ǧŴ���˹ѡ����Ŵ������ǹ �������繤�����͡���ѧ��¡ѹ�ҹ � ���Ҿ������ӵ���дա���

    ����Ѻ�˵ؼŷ��������Ǫҭ�͡�Һ͡��� ����ҳ���������㹡���͡���ѧ��·ء������ ��ͤ����л���ҳ 1 ������� ��Ф�þѡ���ҧ���� 1 �ѹ/�ѻ���� �մѧ���

    1. ���س���վ�ѧ�ҹ��§�͵�͡���͡���ѧ������Ф��� �軯ԡ����ҷҧ������ҧ��¨�����¹� ������Դ�������´������� �����ҧ��¨���������������´�͡�� ���¡�ѹ��� � ������Ŕ (cortisol) ������ռ����µ�����ҡ��� ���˹��㹹�鹡��͡�������ͺҴ�� ��þѡ���ҧ���� 1 �ѹ/�ѻ���� �Ъ��»�ѺŴ��������ѧ��������ŧ��������дѺ��������
    2. �����ش���ҧ���� 1 �ѹ�繡�þѡ��ҧ�������鹵�� ������зӡԨ�����������ҧ��������
    3. �ҡ�س�͡���ѧ��¹ҹ� ��������ѹ�ѡ ��ҧ��¨Ф���¡Ѻ����͡���ѧ��´ѧ��������ǡ��ҷ���è��� ����Ҽ�ҭ��ѧ�ҹ㹡Ԩ�������� ����¡��ҷ���è��繵��仴���

    ������������ͧ���� �����ѡ�����觤�������§�������� ������ö��Ѻ����ͧ����������ҧ��

    ���觷���� : //women.sanook.com

    เทรนด์ในยุคปัจจุบัน การออกกำลังเป็นสิ่งที่กำลังมาแรง เพราะคนรักสุขภาพมากขึ้น แต่ระวังการออกกำลังกายมากเกินไป แล้วจะต้องออกกำลังกายอย่างไรถึงจะดี

    เทรนด์ในยุคปัจจุบัน การออกกำลังเป็นสิ่งที่กำลังมาแรง เพราะคนรักสุขภาพมากขึ้น แต่ระวังการออกกำลังกายที่มากเกินไป อาจจะสร้างโทษให้กับร่างกาย มากกว่าให้มากกว่าประโยชน์ แล้วจะเราควร ออกกำลังกายอย่างไรถึงจะดี?

    ออกกำลังกายอย่างไรถึงจะดี

    เพื่อป้องกันการสร้างผลกระทบในด้านที่ไม่ดี จากการออกกำลังกาย เราเลยมีผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยเยล และออกซ์ฟอร์ด ที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายมาฝากกัน โดยผลการศึกษานี้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร The Lancet ซึ่งงานวิจัยนี้ดำเนินการหาคำตอบ ด้วยวิธีการเก็บข้อมูลพฤติกรรมทางร่างกาย และสภาพจิตใจ จากคนอเมริกันกว่า 1 ล้าน 2 แสนคน ผู้ที่เข้าร่วมทำการศึกษาตอบคำถามว่า ‘ในตลอด 30 วันที่ผ่านมา คุณรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีความสุข เครียด หรือโศกเศร้าบ้างหรือไม่’

    ออกกำลังกาย เพิ่มความสุขในการใช้ชีวิต

    ผลวิจัยบอกเอาไว้ว่าจากใน 1 ปี คนที่ออกกำลังกายมีแนวโน้มว่าจะรู้สึกหดหู่ หรือเครียดจากปัญหาในชีวิตประจำวันประมาณ 35 วัน ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยกว่าคนไม่ออกกำลังกายถึง 18 วัน และยังพบอีกว่า คนที่ไม่ออกกำลังกายจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกประมาณ 25,000 เหรียญต่อปี (ราว 802,000 บาท) ถึงจะรู้สึกพึงพอใจในชีวิต ได้ใกล้เคียงกับคนที่ออกกำลังกาย

    ควรออกกำลังกายวันละกี่ชั่วโมง?

    และจากผลการการวิจัยก็พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างระยะเวลาในการเล่นกีฬา และสภาพจิตใจนั้นมีลักษณะเหมือนตัว U การออกกำลังกายจะช่วยให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก็ต่อเมื่ออยู่ภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น โดยระยะเวลาทีเวลาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละประมาณ 30-60 นาที และนอกจากนี้ก็ยังพบว่า คนที่ออกกำลังกายเกินวันละ 3 ชั่วโมงนั้นไม่มีความสุขกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายเสียอีก

    อีกทั้งประเภทกีฬาที่เล่นก็มีผล ถ้าเป็นกีฬาที่ได้มีการพูดคุย หรือเล่นกับคนอื่นเป็นทีม จะดีต่อสุขภาพจิตมากกว่ากีฬาชนิดอื่นๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายการออกกำลังกายก็ยังเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬาประเภทเดี่ยว หรือทีม ลองหาเวลาว่าง แค่เพียง 30 นาทีต่อวัน ก็ทำให้มีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีได้

    ที่มา : thestandard

    บทความแนะนำ

    • วิธีกินอาหารแบบ plant-based diet – เคล็ด(ไม่)ลับ ในการดูแลสุขภาพ
    • เวลาไหน? ร่างกายจะเผาผลาญแคลอรี่ได้มากที่สุด – เคล็ดลับช่วยควบคุมน้ำหนัก
    • 5 วิธีในการเลือกทานอาหาร – เคล็ดลับสุขภาพดีได้ง่ายๆ แค่ปรับวิธีการกิน
    • อันตรายจากการเสพติด Social Network ภัยเงียบที่ควรระวัง !!

    จะไปออกกำลังกาย ต้องทำบ่อยแค่ไหน คำถามนี้เป็นคำถามนึงที่มีคนถามกันมามาก บ้างถามว่าต้องออกกำลังกายซักกี่วัน ต้องออกแค่ไหนถึงจะได้ผล และ ต้องทำกิจกรรมอะไรบ้าง ไม่ว่าการออกกำลังกายของคุณๆ ที่ทำอยู่ จะทำเพื่อการลดน้ำหนัก ควบคุมน้ำหนัก หรือ ออกกำลังเพื่อให้มีสุขภาพดีขึ้น การกำหนดเวลาในการออกกำลังกายนั้น จำเป็นจะต้องเริ่มที่การกำหนดเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจนเสียก่อน

    ออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งเรง

    การออกกำลังกายเป็นประจำ และสม่ำเสมอ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายต่างๆได้ ซึ่งการออกกำลังกายของคนในกลุ่มนี้ สามารถเลือกกิจกรรมที่มีความเข้มข้นน้อย ถึงปานกลาง โดยอาจเลือกเป็นการเดิน การวิ่งเหยาะๆ การเล่นโยคะ หรือ กิจกรรมใดก็ได้ที่ชื่นชอบ เป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ (150 นาทีต่อสัปดาห์) หรือหากเลือกกิจกรรมการออกกำลังกายที่หนักขึ้นมาหน่อย เช่น การวิ่ง กระโดดเชือก ให้ใช้เวลาในการออกกำลังกายประมาณ 20 – 30 นาทีต่อวัน ทำ 3 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งผลลัพธ์ที่จะได้มาก็คือ สุขภาพที่ดีขึ้น ระบบต่างๆ ในร่างกายดีขึ้น ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ โรคความดัน และ โรคมะเร็งได้

    ออกกำลังกายเพื่อรักษารูปร่างและ น้ำหนักที่ลดได้

    คนกลุ่มนี้เป็นอีกกลุ่มที่เลือกกิจกรรมการออกกำลังกาย เพื่อเป็นตัวช่วยในการรักษารูปร่าง คงสภาพไม่ให้อ้วนขึ้น และไม่ได้อยากจะผอมลงกว่าเดิม อาจเป็นกลุ่มที่ลดน้ำหนักได้สำเร็จแล้วอยากจะรักษาน้ำหนักให้คงที่ หรือเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่าการ Maintenance ซึ่งการออกกำลังกายของคนในกลุ่มนี้ที่แนะนำ คือให้ออกกำลังกายที่ความหนักปานกลาง ประมาณ 1 ชม.ต่อวัน 6 วันต่อสัปดาห์ หรือ ประมาณ 90 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ก็ได้

    สำหรับกิจกรรมการออกกำลังกายนั้น อาจเลือกเป็นการเล่นเวท 3 วันต่อสัปดาห์ กระจายไปทุกๆ ส่วนของกล้ามเนื้อ ทำท่าละ 3 เซท เซทละ 8 – 10 ครั้ง และคาร์ดิโอ 30 – 40 นาที  2 วันต่อสัปดาห์ โดยใช้การคาร์ดิโอที่มีคุณภาพ มากกว่าที่จะคาร์ดิโอเป็นเวลานานๆ เช่น การทำ Curcit Training, Interval taining หรือ HIIT เป็นครั้งคราวก็ได้

    สิ่งสำคัญอีกอย่างของกลุ่มรักษาน้ำหนัก คือยังคงต้องระมัดระวังการรับประทานอาหารบ้าง พยายามหาสมดุลระหว่างการรับพลังงานเข้า และการใช้พลังงานออกไป เพราะถ้าหากสติแตก กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ก็อาจจะทำให้มีโอกาสกลับไปอ้วนได้

    ออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนักและ ไขมัน

    กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มใหญ่ คนส่วนมากเริ่มมีไอเดียที่จะไปออกกำลังกาย ก็เพื่อต้องการให้เป็นกิจกรรมที่ช่วยในการลดน้ำหนัก และลดปริมาณไขมันในร่างกาย ซึ่งก่อนอื่นต้องเข้าใจเสียก่อนว่า การออกกำลังกายนั้น เป็นเพียงตัวช่วยที่ให้การลดน้ำหนักง่ายขึ้น เรียกว่าเป็นตัวกระตุ้นมากกว่าเป็นเสาหลักในการลดน้ำหนัก

    ปริมาณน้ำหนัก และไขมันจะลดได้มาก หรือน้อยนั้น ปัจจัยหลักอยู่ที่การเลือกรับประทานอาหาร และโภชนาการ การออกกำลังกายมีส่วนช่วยเพิ่มปริมาณการเผาผลาญพลังงานทั้งจากกิจกรรมที่ทำในขณะออกกำลังกาย และเพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อ ที่เป็นตัวเผาผลาญพลังงาน เมื่อมีกล้ามเนื้อที่มากขึ้นแข็งแรงขึ้น ก็จะทำให้การเผาผลาญพลังงานระหว่างวันมากขึ้น มีส่วนทำให้น้ำหนักลด และสามารถคงน้ำหนักที่ลดได้ดี

    กิจกรรมสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือ ลดไขมัน ควรเลือกทำทั้งการเวทเทรนนิ่ง และการคาร์ดิโอ ควบคู่กันไป พยายามหาเวลาไปออกกำลังกายให้ได้  5-6 วันต่อสัปดาห์ โดยเลือการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้น ปานกลางถึงหนัก แบ่งเป็นการเวทเทรนนิ่ง 3-4 วัน วันละ 45-60 นาที หรือหากไม่มีเวลาสามารถลดเวลาลง แต่เน้นที่คุณภาพในการออกกำลังกายให้มากขึ้น และ ทำกิจกรรมคาร์ดิโอ 2-3 วันต่อสัปดาห์ วันละ 30-60 นาทีขึ้นอยู่กับความหนักของกิจกรรม

    โปรแกรมการเล่นเวทเทรนนิ่ง จะเล่นแบบแบ่งกลุ่มมัดกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อทุกๆ ส่วนได้ออกแรง ในขณะที่เป็นการบริหารวันพักของกล้ามในเนื้อส่วนที่ใช้ไปแล้วอีกด้วย

    ตัวอย่างตารางการออกกำลังกายแบบ 6 วันต่อสัปดาห์

    • วันที่ 1 : เล่น อก-ไหล่-หลังแขน มัดกล้ามเนื้อละ 2 ท่า ท่าละ 10-12 ครั้ง 3 เซทต่อท่า
    • วันที่ 2 : เล่น ขา และ หน้าท้อง มัดกล้ามเนื้อละ 2 ท่า ท่าละ 10-12 ครั้ง 3 เซทต่อท่า
    • วันที่ 3 : พัก โดยการคาร์ดิโอ 40-60 นาที
    • วันที่ 4 : เล่นหลัง และ หน้าแขน มัดกล้ามเนื้อละ 2 ท่า ท่าละ 10-12 ครั้ง 3 เซทต่อท่า
    • วันที่ 5 : เล่นกล้ามเนื้อในส่วนที่ตัวเองคิดว่าขาดซ้ำอีกครั้ง อยากจะเน้นส่วนไหนก็เลือกเล่นเวทในส่วนนั้น โดยทำท่าละ 10-12 ครั้ง 3 เซทต่อท่า และต่อด้วย คาร์ดิโอ 45-60 นาที
    • วันที่ 6 : พัก โดยการคาร์ดิโอ 40-60 นาที
    • วันที่ 7 : พักผ่อน

    สำหรับการคาร์ดิโอของคนที่ต้องการลดน้ำหนัก และไขมัน จะมี option ให้เลือกทำคือ ถ้าเลือกกิจกรรมคาร์ดิโอที่มีความเข้มข้นสูง ให้ใช้เวลาน้อย เช่น HIIT โดยทำ 30 นาที วันเว้นวัน หรือ 2 วัน หรือ หากเลือกกิจกรรมการคาร์ดิโอ ที่ความเข้มข้นปานกลาง โดยการ วิ่งเหยาะๆ วิ่งช้าสลับเร็ว หรือ การปั่นจักรยาน ให้ทำ 40-60 นาทีต่อเนื่อง

    ออกกำลังกายให้ได้ผลต้องมีวันพัก

    การพัก การหยุดการออกกำลังกาย และการนอนหลับ ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ร่างกาย ระบบต่างๆ เนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อได้ฟื้นคืนพละกำลัง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไป ซึ่งระยะเวลาในการพักนั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย แต่ละคน อย่าคิดว่าจะออกเยอะๆ พักน้อยๆ แล้วจะทำให้ลดเร็ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจตรงกันข้าม อาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ และ เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ดีไม่ได้น้ำหนักไม่ลงและทำให้ท้อ และยอมแพ้ไปในที่สุด

    พักเท่าไหร่ถึงเพียงพอ

    การหยุดการออกกำลังกาย หรือการกำหนดวันพักนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หลักๆ คือ ความเข้มข้นของการออกกำลังกาย ความแข็งแรงของแต่ละคน การพักผ่อนนอนหลับเพียงพอหรือไม่ และความหนักของกิจกรรมที่ทำในวันนั้นๆ ซึ่งถ้าเอาเข้าจริงๆ ร่างกายเราจะมีระบบเตือนภัยอยู่ ฟังเสียงร่างกายที่ส่งสัญญาณมา ว่าหากเหนื่อย เมื่อยล้ามากๆ ให้หยุดพัก 1-2 วัน หากมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ให้พักราวๆ 4-5 วัน แล้วกลับมาเช็คความฟิตอีกครั้ง หรือถ้าแข็งแรงดี ก็หาวันพัก ทุกๆ 2 วันของการออกกำลังกาย สำหรับคนที่มีเป้าหมายเข้มข้น อาจวางตารางการคาร์ดิโอเบาๆในวันพักก็ได้

    นอกจากนี้อย่าฝืนไปออกกำลังกายในขณะที่ร่างกายไม่พร้อม เช่น ในวันที่ทำงานมาหนักๆ เหนื่อยๆ นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ป่วย ไม่สบาย หรือมีอาการบาดเจ็บ เพราะนอกจากอาจก่อให้เกิดอันตรายแล้ว ยังเป็นการทำร้ายร่างกายทางอ้อมอีกด้วย

    ออกกำลังกายยังไงก็ได้ประโยชน์

    การออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ เพียงเลือกเป้าหมายที่ตรงกับตัวคุณ แล้วลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับใคร ให้เราคิดว่าเราคือคู่แข่งของเราเอง เอาชนะใจเรา เอาชนะความขี้เกียจแล้วไปออกกำลังกาย ค่อยๆ เพิ่มปริมาณกิจกรรม ความเข้มข้น ระยะเวลา และ จำนวนวันที่ไปออกกำลัง ขึ้นทีละน้อย ตามความแข็งแรงของร่างกาย หากไม่มีเวลาไปออกกำลังกายลองเจียดเวลาให้ได้อย่างน้อย 1 วันก็ยังดีกว่าไม่ทำเลย  หรือ พยายามใช้ชีวิตประจำวันให้กระฉับกระเฉงขึ้น ไม่หักโหม ไม่จำเป็นต้องทำอย่างบ้าคลั่งเกินกำลังตน เอาที่พอดีกับตัว และ เข้ากับ liftstyle ของเราดีที่สุด

    กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

    Toplist

    โพสต์ล่าสุด

    แท็ก

    แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง