วิธีการเลือกซื้อมัลติมิเตอร์

มัลติมิเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับช่างเทคนิคและวิศวกร แม้กระทั่งหากคุณทำงาน DIY ต่างๆ เมื่อคุณเลือกซื้อ มัลติมิเตอร์ คุณจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ คุณลักษณะ คุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

ไม่ว่าคุณจะตั้งใจจะซื้อ มัลติมิเตอร์ สำหรับการใช้งานพื้นฐานหรือระดับมืออาชีพ ผมจะครอบคลุมแง่มุมต่างๆ ที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อ มัลติมิเตอร์

7 ข้อสำคัญ ก่อนเลือก มัลติมิเตอร์

คุณต้องการ มัลติมิเตอร์ เพื่ออะไร?

ก่อนที่จะซื้อมัลติมิเตอร์ คำถามแรกที่คุณต้องถามตัวเองคือ ทำไมคุณถึงต้องการสิ่งนี้? ข้อควรพิจารณาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าเป็นโครงการอดิเรก การทดสอบที่บ้าน หรือการใช้งานระดับมืออาชีพ การไม่รู้ความต้องการของคุณอย่างถูกต้องอาจส่งผลให้คุณซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณสมบัติที่จำเป็นหรือใช้จ่ายเงินเพิ่มสำหรับคุณสมบัติที่คุณไม่ต้องการด้วยซ้ำ

การกำหนดความต้องการของคุณจะช่วยให้คุณจำกัดตัวเลือกให้แคบลงและป้องกันการใช้จ่ายเงินเพิ่มกับอุปกรณ์ราคาแพง หลังจากตัดสินใจเกี่ยวกับความต้องการของคุณแล้ว คุณต้องเลือกระหว่าง มัลติมิเตอร์อนาล็อก และ มัลติมิเตอร์ดิจิตอล ซึ่งเป็นมัลติมิเตอร์ที่ใช้กันทั่วไปมากที่สุดสองประเภท

มัลติมิเตอร์ อนาล็อกหรือดิจิตอล?

มัลติมิเตอร์ ทั้ง 2 ประเภทแตกต่างกันในการแสดงผลลัพธ์เป็นหลัก มัลติมิเตอร์อนาล็อก วัดค่าโดยใช้เข็ม ในส่วนของ มัลติมิเตอร์ดิจิตอล แสดงค่าที่แน่นอนในรูปแบบดิจิตอลบนจอแสดงผล

มัลติมิเตอร์แบบแอนะล็อกมีราคาถูกกว่า ในขณะที่มัลติมิเตอร์แบบดิจิตอลมีราคาค่อนข้างแพง แต่มีความแม่นยำมากกว่า ในแง่ของการใช้งาน มัลติมิเตอร์ดิจิตอลนั้นใช้งานง่ายกว่า ในขณะที่มัลติมิเตอร์อนาล็อกสามารถทำให้ยากขึ้นเล็กน้อยสำหรับผู้ใช้ใหม่

ถึงแม้ว่า มัลติมิเตอร์ดิจิตอล จะเข้ามาแทนที่อนาล็อกเมื่อเวลาผ่านไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของคุณในการเลือกว่าจะเลือกใช้แบบไหน ขั้นตอนต่อไปคือการประเมินคุณสมบัติและการวัดของ ตัวมัลติมิเตอร์

มัลติมิเตอร์ สามารถวัดอะไรได้บ้าง?

ฟังก์ชั่นที่จำเป็นของมัลติมิเตอร์ ได้แก่ การวัดแรงดัน กระแส ความต้านทาน และการตรวจสอบความต่อเนื่อง มันหายากมากที่จะหามัลติมิเตอร์ที่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ แม้ว่าความแม่นยำและความน่าเชื่อถืออาจแตกต่างกันไป ตรวจสอบให้แน่ใจว่า มัลติมิเตอร์ ที่คุณเลือกมีช่วงการวัดที่ดีสำหรับทั้งแรงดันและกระแส

มัลติมิเตอร์ดิจิตอล ส่วนใหญ่สามารถวัดอุณหภูมิ ความถี่ ความจุ และความเหนี่ยวนำได้ การทดสอบไดโอดเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่มีประโยชน์ในการพิจารณา ในการใช้คุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้คุณทำงานขั้นสูงขึ้นได้ เช่น การตรวจสอบเครื่องใช้ในบ้าน การทดสอบ HVAC และครอสโอเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งเหล่านี้ควรค่าแก่การพิจารณาว่าความต้องการของคุณมีมากขนาดนี้หรือไม่

มันจะดีมากหาก มัลติมิเตอร์ ที่มีจอ LCD เรืองแสง ซึ่งปกติแล้วจะมีดิจิตอลมัลติมิเตอร์ ทำให้ง่ายต่อการใช้งานในที่มืด นอกเหนือจากจอแสดงผลแบบย้อนแสง ให้ตรวจสอบความละเอียดของมัลติมิเตอร์แบบดิจิตอลที่คุณจะซื้ออย่างละเอียด ความละเอียดหมายถึงจำนวนหลักบนจอแสดงผลดิจิตอลที่แสดงความแรงของสัญญาณทั้งหมด ยิ่งความละเอียดมากเท่าไหร่ การวัดก็จะยิ่งแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น

มัลติมิเตอร์แบบแมนนวลเทียบกับแบบอัตโนมัติ 

มัลติมิเตอร์ที่ปรับระยะอัตโนมัติเป็นสิ่งที่ฟังดูเหมือน การใช้งานทำได้ง่ายเพียงแค่คุณเปิดมัลติมิเตอร์ เชื่อมต่อสายทดสอบกับอุปกรณ์ และปล่อยให้มัลติมิเตอร์จัดการกับช่วงนั่นเอง

แต่ในทางกลับกัน การกำหนดช่วงแบบแมนนวลจะทำให้คุณต้องตั้งค่าช่วงด้วยตัวคุณเองผ่านแม้ว่าผลลัพธ์เหล่านี้จะเชื่อถือได้มากกว่า แต่สิ่งเหล่านี้ต้องการประสบการณ์พอสมควร มันจึงเหมาะกับผู้เชี่ยวชาญ เพราะฉะนั้นคุณควรเลือกใช้มัลติมิเตอร์ปรับระยะอัตโนมัติ เว้นแต่คุณจะเป็นมืออาชีพที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งต้องการความแม่นยำสูง

งบประมาณของคุณ

คุณควรกำหนดอย่างระมัดระวังด้วยว่าคุณควรใช้จ่ายให้ มัลติมิเตอร์ มากน้อยแค่ไหน โดยการพิจารณาจากคุณสมบัติและระดับการใช้งานที่คุณคาดหวัง ยกตัวอย่างเช่น ที่บ้านหรือในที่ทำงาน ยิ่งมัลติมิเตอร์แบบมืออาชีพหรือล้ำหน้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแพงขึ้นเท่านั้น

ช่วงราคาสำหรับมัลติมิเตอร์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ วิเคราะห์ข้อมูลจำเพาะของอุปกรณ์ต่างๆ และเลือกอุปกรณ์ที่ตรงกับความต้องการของคุณโดยไม่ต้องใช้เงินมากเกินไป

ตรวจสอบความทนทานของ มัลติมิเตอร์

ความทนทานของ มัลติมิเตอร์ มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ให้เลือกอุปกรณ์ที่ทนต่อแรงกระแทก และการตกหล่นโดยไม่ได้ตั้งใจได้ และเพื่อให้แน่ใจว่า มัลติมิเตอร์ ของคุณใช้งานได้ยาวนาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเครื่องด้านนอกนั้นแข็งพอที่จะทนต่อการสึกหรอในสถานที่ทำงาน

หากอุปกรณ์มีความทนทาน วงจรจะไม่สัมผัสกับการแตกหักของตัวเครื่องภายนอกหลังจากตกหล่นทำให้อุปกรณ์ไม่ปลอดภัยในการใช้งาน ดังนั้นเราไม่สามารถเน้นความสำคัญของความทนทานมากพอ และนอกจากนี้คุณต้องสร้างสมดุลที่เหมาะสมระหว่างราคาและความทนทาน มัลติมิเตอร์ คุณภาพสูงมีความทนทานมากกว่า นิยมใช้ในอุตสาหกรรมหรือในระดับมืออาชีพ แต่มักจะมีราคาแพงมาก แม้ว่ามัลติมิเตอร์ราคาถูกจะอยู่ได้ไม่นานในสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรม แต่ก็อาจเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ทดสอบที่บ้านและผู้ที่ทำ DIY นั่นเอง

รักษาความปลอดภัยที่จำเป็น

ก่อนอื่น คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า มัลติมิเตอร์ ที่คุณกำลังซื้อมีเคสหุ้มฉนวนหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานโดยไม่เสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าช็อต สำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพ เช่น การทดสอบไฟฟ้าของระบบในครัวเรือน การซื้อเครื่องที่มีการทดสอบคุณภาพจะช่วยลดความเสี่ยงของไฟฟ้าช็อต

นอกจากนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามัลติมิเตอร์ที่คุณกำลังซื้อได้รับการอนุมัติจากองค์กรความปลอดภัยอิสระ เช่น UL และ CSA หมวดหมู่ CAT ของมัลติมิเตอร์ก็เป็นสิ่งจำเป็นในการตรวจสอบเช่นกัน ซึ่งพิจารณาจากแรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่สามารถวัดได้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการทำงานกับอุปกรณ์ที่มีแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 400V. หรือ 500V. การเลือกใช้อุปกรณ์ CAT III ซึ่งปกติจะวัดจาก 600V ถึง 1000V นั้นเหมาะสมที่สุด

เมื่อเลือกมัลติมิเตอร์ คุณควรเลือกใช้ มัลติมิเตอร์ ที่มีฟิวส์พลังงานสูงเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับประสบการณ์การทำงานที่ปราศจากความเสี่ยง หากฟิวส์เปลี่ยนได้ จะต้องเปลี่ยนด้วยกระแสไฟกระชากเท่านั้น โดยไม่ทำให้มัลติมิเตอร์เสียหายนั่นเอง

สรุป

ในการเลือก มัลติมิเตอร์ คุณต้องกำหนดความต้องการของคุณให้ชัดเจนก่อน ว่าจะต้องพิจารณาอะไรก่อนซื้อมัลติมิเตอร์ และจำกัดตัวเลือกของคุณให้แคบลง คุณวางแผนที่จะซื้อมัลติมิเตอร์เป็นครั้งแรกหรือไม่? ถ้าใช่ ให้รู้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับวิธีการทำงาน การใช้งานคืออะไร และต้องใช้มาตรการป้องกันความปลอดภัยอะไรบ้างขณะใช้งานเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บนั่นเอง