รีวิว HUAWEI nova 9 SE มือถือรุ่นกลางน้องใหม่ ที่นอกจากจะให้สเปคครบเครื่องสมราคาแล้วก็ยังเป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่นำกล้อง 108 ล้านพิกเซลมาใช้งาน
สารบัญ
สเปค HUAWEI nova 9 SE
- ขนาด 164.64 X 75.55 X 7.94มม. หนัก 191กรัม
- หน้าจอ LCD 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2388 x 1080) รีเฟรชเรท 90Hz Touch Sampling Rate 270Hz
- ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 680 4G (6nm) ประมวลผล Octa-core ([email protected] + [email protected]) มี GPU Adreno 610
- หน่วยความจำ RAM 8GB+ROM 128GB
- กล้องหลัง
- High-Res Camera 108MP (f/1.9)
- Ultra Wide 8MP (f/2.2)
- Depth 2MP (f/2.4)
- Macro 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า 16MP (f/2.0)
- รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K (3840 x 2160)
- ระบบเซ็นเซอร์ Gravity Sensor / Fingerprint Sensor / Compass / Ambient Light Sensor / Proximity Sensor
- รองรับการทำงาน 2 ซิม (Nano SIM) สนับสนุนเครือข่าย
- 4G TDD LTE：Bands 34 / 38 / 39 / 40 / 41
- 4G FDD LTE：Bands 1 / 3 / 5 / 7 / 8 / 20 / 28
- 3G WCDMA：Bands 1 / 2 / 5 / 8
- 2G GSM：Bands 2 / 3 / 5 / 8
- ระบบเชื่อมต่อ WLAN 802.11a/b/g/n/ac, 2.4GHz และ 5GHz
- มี Bluetooth 5.0
- ระบบระบุตำแหน่ง GPS / AGPS / GLONASS / BeiDou / GALILEO / QZSS
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 12.0
- แบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับ HUAWEI SuperCharge 66W
- สีที่วางจำหน่าย Midnight Black / Crystal Blue
แกะกล่อง
แพ็คเกจ HUAWEI nova 9 SE เครื่องรีวิวที่เราได้มาไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ตัวกล่องเป็นสีขาวไซส์มาตรฐาน หน้ากล่องมีตัวหนังสือชื่อรุ่นสีทอง
ส่วนอุปกรณ์ภายในนอกจากสมาร์ทโฟนแล้วก็ยังมี อะแดปเตอร์ชาร์จ 66W, สาย USB-C, คู่มือการใช้งาน+ใบรับประกัน, เข็มจิ้มถาดซิม, เคสพลาสติก และฟิลม์กันรอยหน้าจอ TP
ดีไซน์
HUAWEI nova 9 SE ยังคงเอกลักษณ์ของงานดีไซน์ตามแบบฉบับ nova 9 Series ตั้งแต่กล้องหลังที่จัดวางอย่างสมมาตร และไฮไลท์ที่ตัวกล้องหลักด้วยวงแหวน “Star Orbit Ring”
สัดส่วนเครื่องถือว่าบางพกพาง่ายและจับถนัดมือโดยมีขนาด 164.64 X 75.55 X 7.94มม. หนักแค่ 191กรัม ฝาหลังเครื่องเป็นกระจกขอบโค้ง 3D Glass พร้อมเคลือบสารนาโนให้ฝาหลังมีความมันวาวเป็นลูกเล่นของสีเครื่องเมื่อมีแสงตกกระทบ โดยสีที่เราได้มาเป็น ฟ้าอมม่วง Crystal Blue ขณะที่อีกสีที่ขายเป็น ดำ Midnight Black
หน้าจอใช้วัสดุ LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2388 x 1080 พิกเซล ค่าความหนาแน่นพิกเซล 387ppi สามารถแสดงผลช่วงของสีได้ตามเกณฑ์ P3 ตัวจอแสดงผลลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรชเรท 90Hz สามารถปรับระดับได้แบบไดนามิก และมี Touch Sampling Rate 270Hz
ส่วนขอบจอด้านบนบางเฉียบเพียง 1.05มม. ดีไซน์จอแบบ Full-view Display เจาะรูหน้าจอใส่กล้องหน้าตรงกลาง และวางช่องลำโพงสนทนาเลยขึ้นไปกินพื้นที่ขอบเครื่องด้านบนเล็กน้อย ส่วนขอบจอด้านล่างหนากว่าด้านบนเล็กน้อย และมีการตั้งค่าการสั่งงานพื้นฐานเป็นแบบท่าทาง Gestures ถ้าใครไม่ชินก็สามารถตั้งค่าให้เป็นปุ่ม Navigation Bar แบบปกติได้
ทางด้านองค์ประกอบเครื่องตรงขอบฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power ที่เป็นสแกนลายนิ้วมือในตัว ขอบด้านบนเป็นช่องใส่ซิมแบบ Dual-SIM Slot และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และสุดท้ายขอบด้านล่างมีลำโพงหลัก, ไมโครโฟน กับ พอร์ต USB-C ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5มม. มาให้
ประสิทธิภาพ
ระบบปฏิบัติการของรุ่นนี้เป็น EMUI 12 บนพื้นฐาน Android 11 หน้าตา UI เรียบๆ ใช้งานง่าย แต่บริการหลักจะเป็น HUAWEI Mobile Services พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่น่าสนใจ อาทิเช่น Super Device เพื่อเชื่อมต่อการทำงานกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ HUAWEI แบบไร้สายได้อย่างรวดเร็ว, มีหน้า Control Panel เพื่อเข้าถึงการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมี One Hop Connection เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ผ่าน NFC
ชิปเซตรุ่นนี้ใช้ Qualcomm Snapdragon 680 4G สถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 6nm มีประมวลผล Octa-core กำลังสูงสุด 2.4GHz มี GPU Adreno 610 สำหรับหน่วยความจำเป็น RAM 8GB กับ ROM 128GB นอกจากนี้ HUAWEI ยังได้ใส่ระบบระบายความร้อนเพื่อการทำงานที่ลื่นไหลต่อเนื่อง
เมื่อนำมาใช้เล่นเกมจากการทดสอบด้วย FreeFire ที่มีให้โหลดบน APPGallery ก็พบว่าสามารถเล่นกราฟฟิกและเฟรมเรทระดับสูงได้อย่างไม่มีปัญหา ขณะที่การทดสอบประสิทธิภาพด้วย AnTuTu V9.3.3 ทำได้ 257761 คะแนน
แบตเตอรี่ของ nova 9 SE ให้มา 4,000mAh รองรับชาร์จไว HUAWEI SuperCharge 66W โดยใช้เวลาประมาณ 36 นาทีต่อการชาร์จจาก 0-100%
การถ่ายภาพ
nova 9 SE เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ HUAWEI ที่มีกล้องหลังตัวหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล f/1.9 ขนาดเซ็นเซอร์รับภาพใหญ่ 1/1.52 นิ้ว เพิ่มขนาดพิกเซล 0.7um ได้ถึง 2.1um ผ่านเทคโนโลยี Pixel 9-in-1 Technology และมี Multi Frame Fusion ระบบอัลกอริทึมรวมภาพซึ่งเมื่อถ่ายด้วยโหมด Hi-Res ก็จะได้ภาพถ่ายที่คมชัด รวมถึงการถ่ายภาพในที่แสงน้อยผ่าน Night Mode ก็ทำได้ดี
นอกจากนี้ยังมีการเสริมด้วยเลนส์ Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล f/2.2 มุมมองรับภาพ 112 องศา, เลนส์ Depth 2 ล้านพิกเซล (f/2.4) และเลนส์ Macro ระยะโฟกัส 4 ซม. 2 ล้านพิกเซล (f/2.4) พร้อมด้วยกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล (f/2.0)
จากที่ทดสอบมาการถ่ายในสภาพแสงปกติถือว่าทำได้ดีไม่มีปัญหาอะไรตัวมือถือมีระบบ AI ช่วยปรับแต่งโทนและรายละเอียดของภาพตามฉากที่ถ่ายให้ออกมาสวยงาม แต่เมื่อเจอกับแสงน้อยกล้องจะจับโฟกัสแบบได้ไม่ดีมากนักและกล้องรุ่นนี้ก็ยังไม่มีระบบกันสั่นทำให้ต้องใช้ความตั้งใจกับมือที่นิ่งในการถ่ายอยู่เหมือนกัน
นอกจากโหมดถ่ายภาพที่มีให้เล่นหลากหลายแล้ว HUAWEI nova 9 SE ก็ยังตอบโจทย์คนที่ชอบถ่ายคลิป VLOG ด้วยโหมดการถ่ายวีดีโอแบบต่อเนื่องแม้จะมีการสลับกล้องหน้า-กล้องหลัง และยังมีโหมด Dual-View ที่เป็นการบันทึกวีดีโอด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน หรือจะเป็นการถ่ายกล้องหลังจากเลนส์ 2 ระยะพร้อมกัน โดยที่ตัวกล้องหลังยังสามารถปรับซูมได้ 8 เท่า
นอกจากฟังค์ชั่นกล้องแล้วระบบ Gallery ของรุ่นนี้ก็ยังมีการใช้ AI เพื่อช่วยผู้ใช้ในการใช้ Keyword ค้นหาภาพถ่ายที่ต้องการโดยไม่ต้องไถหน้าจอหา
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
สรุปการใช้งาน
จากที่ได้ทำ รีวิว HUAWEI nova 9 SE มานับว่าเป็นรุ่นระดับกลางที่น่าจะโดนใจคนที่อยากได้มือถือที่ถ่ายภาพสวย หรือทำคอนเทนท์แนว VLOG ได้ง่ายๆ ไม่ต้องผ่านขั้นตอนอะไรที่ซับซ้อนยุ่งยาก เรื่องงานดีไซน์เครื่องทำได้ดีติดที่ฝาหลังเป็นแบบเงาแม้ว่าจะสวยเมื่อกระทบแสงแต่ก็แลกกับการเห็นรอยนิ้วมือหรือคราบสกปรกได้ง่าย นอกจากนี้มือถือรุ่นนี้เองก็ไม่ได้รองรับ 5G ที่เป็นมาตรฐานเครือข่ายใหม่ แต่ก็ได้ข้อดีของการเป็นมือถือ 4G คือไม่กินแบต และเครื่องไม่ร้อนง่าย
ใครที่รับได้กับ จุดเด่น-จุดด้อย ที่บอกมา ก็เตรียมรอฟังราคาที่จะประกาศกันในวันที่ 18 มีนาคมนี้ได้เลย โดยที่เราแอบบอกใบ้ได้ว่าราคาบวกลบอยู่หลักหมื่นต้นๆ