มีคำถามที่น่าสนใจของ ผู้ที่อยากใช้งาน ฟิล์มกันรอยรถยนต์ ซึ่งได้สอบถามเข้ามา ดังนั้นเราจึงอยากเอามานำเสนอต่อท่านอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้งาน ฟิล์มกันรอยรถ ต่อไป ซึ่งคำถามที่ว่า เป็นเรื่องขอความสงสัย เนื่องมาจากท่านผู้สนใจท่านนั้นได้ไปพบโฆษณาการ ติดฟิล์มกันรอยรถ แต่ไม่ใช่แค่การติดภายนอก หากแต่ยังมีการเอาไปติดชิ้นส่วนภายใน ดังนั้นจึงทำให้บางท่านเกิดความสงสัย ว่ามันเหมาะกับการใช้งานภายในหรือภายนอกกันแน่…
ทำไมต้องติดฟิล์มกันรอยภายในรถยนต์
ก่อนที่เราจะไปค้นหาว่า ติดฟิล์มกันรอยภายใน ได้หรือไม่ เรามาร่วมกันพิจารณาประเด็นว่า มันมีประโยชน์ หรือมีความจำเป็นอะไรที่ทำให้เราต้องเอาเจ้า ฟิล์มกันรอย ไปใช้กับภายในกันเสียก่อน ซึ่งเรื่องนี้เราแยกออกมาเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
- ป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนให้กับชิ้นส่วนภายในห้องโดยสาร ซึ่งหากพิจารณาดูจะพบว่าภายในห้องโดยสารของรถมีอยู่หลายจุดที่ต้องรองรับการสัมผัสอยู่บ่อยครั้งในเวลาใช้งาน และเมื่อใช้งานนานไปจุดนั้นจะเกิดรอยขีดข่วน เป็นรอยสีถลอก สึก แลดูไม่สวยงาม ฟิล์มกันรอยรถยนต์ ที่ใช้ภายในสามารถป้องกันปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการเอาชั้นฟิล์มไปปิดทับป้องกันผิวแท้ของชิ้นส่วนเหล่านั้นเอาไว้
- ป้องกันการเกิดคราบสกปรกฝังที่ชิ้นส่วนภายในรถ แน่นอนว่าในการใช้งานรถ นอกเหนือจากปัญหาเรื่องการขีดข่วนแล้ว ปัญหาเรื่องสิ่งสกปรก หรือการเกิดคราบเปื้อนจากการใช้งานก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น คราบน้ำ หรือ คราบเครื่องดื่มที่เรานำขึ้นไปในรถ คราบมันจากผิวหนัง อาหาร หรือผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันหรือไขมันเป็นส่วนประกอบ รวมไปถึงฝุ่นผง คราบเขม่า ที่เกิดขึ้นได้เสมอเมื่อเราใช้งานรถ คราบเหล่านี้สามารถสร้างรอยที่ฝังแน่นได้ หากเราใช้ ฟิล์มกันรอย สามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
- รักษาสภาพภายในห้องโดยสาร การที่ห้องโดยสารมีคราบหรือรอยขีดข่วนน้อย นอกจากจะดีต่อความรู้สึกที่สบายตาสบายใจของเจ้าของรถแล้ว ยังมีผลในเรื่องของสุขภาพไม่มีสิ่งสกปรกฝังแน่นสะสมในรถ ตลอดจนถึงประเด็นเรื่องของราคาในการขายต่อ รถที่มีสภาพเอี่ยมทั้งภายนอกภายใน ย่อมมีราคามากกว่าแน่นอน
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้การ ติดฟิล์มกันรอยภายใน เป็นเรื่องที่น่าสนใจ อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีข้อดีอยู่หลายข้อ แต่เราก็ต้องกลับมาพิจารณาความเหมาะสมในการใช้งานด้วย เพราะต่อให้น่าสนใจแค่ไหน แต่หากใช้งานไปแล้วไม่เหมาะสมก็ก่อให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
ติดฟิล์มกันรอยรถยนต์ภายในได้ไหม
มาถึงการตอลคำถามของข้อสงสัย เรื่องนี้เป็นการถามเกี่ยวกับความเหมาะสมในการใช้งานเป็นหลัก ซึ่งหากจะให้ตอบคำถามนี้เราต้องไปดูกันที่คุณสมบัติของ ฟิล์มกันรอยรถยนต์ ที่เราจะนำมาใช้ภายใน ว่ามันจะไม่ก่อให้เกิดปัญหา และมีความเหมาะสมกับการใช้ภายในหรือไม่ ซึ่งคุณสมบัติที่จำเป็นจำต้องมีก็คือ
- มีความใส ไม่บดบังหรือเปลี่ยนสีชิ้นส่วนภายในรถ การออกแบบรถแต่ละคันเป็นงานดีไซน์ที่ใช้เวลาแรมปีในการคิดค้นเพื่อให้ได้ความสวยงามที่ลงตัวและเป็นเอกลักษณ์ การ ติดฟิล์มกันรอย ต้องไม่ไปลดทอนให้ความสวยงามเหล่านี้เสียไป ดังนั้นฟิล์มต้องมีความใสมากจนมองแล้วแทบไม่รู้สึกว่ามีแผ่นฟิล์มมาแบะทับ
- มีขนาดและรูปทรงลงตัวพอดีกับชิ้นส่วน เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ การติดแผ่นฟิล์มที่ไม่พอดีกับชิ้นส่วนลงไปจะสร้างปัญหาเรื่องขอบของฟิล์ม ซึ่งนอกจากมองขัดตาแล้ว การสัมผัสก็รู้สึกขัดๆ อีกทั้งยังก่อให้เกิดการหลุดร่อนก่อนเวลาอันควรด้วย ซึ่งการตัดฟิล์มให้พอดีกับชิ้นส่วนภายในรถเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทั้งทักษะและเทคโนโลยี ซึ่งเรื่องนี้ต้องพิจารณาจากผู้ให้บริการว่ามีฝีมือและทำงานได้คุณภาพมากน้อยแค่ไหน
- ไม่ทิ้งคราบกาวภายในรถ เรื่องนี้ก็เป็นประเด็นที่สำคัญ หากว่าในการลอกเพื่อเปลี่ยน หรือต้องการลอกออกแล้วฟิล์มยังทิ้งรอยกาวเอาไว้ มันจะเป็นปัญหาในการจัดการคราบเหนียวภายในห้องโดยสารที่ทั้งจับไม่สบายมือสัมผัสไม่สบายตัว และยังเป็นที่สะสมสิ่งสกปรกที่น่าเกลียดอีกด้วย
- ไม่เหลือง หรือเสื่อมสภาพเร็ว แม้ว่าฟิล์มชุดนี้จะถูกติดตั้งภายในของรถ แต่เราต้องทราบว่ารถนั้นต้องเผชิญกับแสงแดด และความร้อนจากการใช้งานบนท้องถนน หรือ การจอดกลางแจ้งเป็นประจำ ซึ่งเป็นปัจจัยให้มันเสื่อมสภาพ ฟิล์มกันรอรถยนต์ ที่ดีต้องไม่เสื่อมสภาพ ไม่เหลืองจากการใช้งาน ควรมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เพื่อไม่ต้องเป็นภาระในการเปลี่ยนบ่อยๆ ของผู้เป็นเจ้าของ
ทั้งหมดนี่เป็นข้อมูลที่เราเชื่อว่าน่าจะใช้ตอบคำถามของท่านที่ยังสงสัยการนำเอา ฟิล์มกันรอยรถยนต์ มาใช้งานภายในได้ในระดับหนึ่ง หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ทุกช่องทาง เรายินให้ข้อมูลและคำปรึกษาเพื่อให้ท่านเข้าใจมากยิ่งขึ้น และเรายังมีความพร้อมในการให้บริการ ด้วย ฟิล์มกันรอยรถ ทั้งภายใน และ ภายนอก คุณภาพสูง การติดตั้งที่ได้มาตรฐาน ดำเนินงานโดยทีมงานที่มีประสบการณ์และผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี
ปัจจุบันฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ Paint Protection Film มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นกันรอยรถยนต์ทั้งคัน ฟิล์มกันรอยสะเก็ดหินหน้ารถยนต์ ฟิล์มกันรอยเบ้ามือเปิดประตู ฟิล์มใสป้องกันกระจกเป็นรอย หรือฟิล์มกันรอยที่คอนโซล ซึ่งก็เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปมากขึ้น รวมถึงคนกลุ่มคนที่ชอบดูแลรักษารถยนต์ของตัวเองให้ดูใหม่อยู่เสมอ เวลาขายรถต่อราคาไม่ตก สนใจติดตั้ง โทรเลย 0922689689เรายังมีบริการติดฟิล์มทุกชนิด
สำหรับใครที่สงสัยว่าฟิล์มกันรอยรถยนต์ที่ Topfilm มีกี่แบบ มีบริการรับติดฟิล์มรถยนต์ชนิดใดบ้าง ต้องบอกว่าเรามีบริการ ฟิล์มทุกชนิดครับ ไม่ว่าจะเป็น
- รับติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์
- รับติดฟิล์มกรองแสงอาคาร
- สอนติดฟิล์มกรองแสงด้วยตนเอง
- ติดฟิล์มกันรอยนาฬิกา
พื้นที่สำหรับติดฟิล์มกันรอยภายในรถยนต์
สำหรับการติดฟิล์มกันรอยภายในรถยนต์ เราสามารถติดฟิล์มกันรอยได้ที่บริเวณคอนโซลเกียร์ ที่วางแก้ว ที่วางแขน ที่ปรับแอร์ กาบข้างหน้า กาบข้างประตู ซึ่งราคาติดตั้งฟิล์มกันรอยภายในของรถแต่ละรุ่นจะไม่เท่ากัน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้กับทางร้าน
คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลฟิล์มกันรอยภายในเพิ่มเติม หรือโทรเลย 0922689689
ฟิล์มกันรอย(PPF) มีลักษณะเป็นฟิล์มใสที่สามารถยืดหดตัวได้ ทนทานต่อรอยขีดข่วนและสารกัดกร่อนต่างๆ มีหลากหลายชนิดวัสดุ แต่เราจะเลือกฟิล์มใสกันรอยกันอย่างไรดี? วันนี้ Topfilm Thailand นำความรู้เกี่ยวกับฟิล์มกันรอยหลากหลายชนิด หลากยี่ห้อนำมาฝากครับ
พื้นที่สำหรับติดฟิล์มกันรอยภายนอกรถยนต์
เราสามารถเลือกติดฟิล์มกันรอยรถภายนอกได้หลากหลายส่วน เนื่องจากส่วนหน้ารถจะมีความเสี่ยงในการโดนหินหรือการกระแทกมากที่สุด จึงทำให้เราสามารถเลือกติดเฉพาะฝากระโปรงหรือกันชนหน้ารถได้ ทั้งยังเป็นฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับ และช่วยกันรอยประตูรถยนต์อีกด้วย หรือใครกำลังมองหาฟิล์มใสป้องกันกระจกเป็นรอยก็สามารถเลือกติดรอบกันก็ได้เช่นเดียวกัน
สนใจติดฟิล์มกันรอยรถยนต์ ราคาถูก สอบถามเราได้เลย
ฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับ คิดราคาอย่างไร?
ปัจจุบันมีฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับเปิดประตูออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมากในตลาด มีระดับราคาและคุณภาพแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ และประเภทของฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับเปิดประตู
โดยปกติแล้วฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับเปิดประตู จะคิดราคาเป็นต่อรถยนต์ 1 คัน นั้นหมายถึงราคาติดฟิล์มกันรอยประตูรถยนต์ จะขึ้นอยู่กับประเภทของรถยนต์ ว่ามี 2 ประตู 4 ประตู หรือ 5 ประตู เป็นต้น
อีกทั้งยังมีการคิดราคาเป็นจำนวณพื้นที่ และขนาดของฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับที่ใช้ในแต่ละคัน เนื่องจากขนาดของเบ้ามือจับเปิดประตูของรถแต่ละคันนั้น มีขนาดไม่เท่ากัน จึงมีการคิดราคาในแต่ละรุ่นของรถยนต์แตกต่างกัน และจะต้องมีการใช้เครื่องจัดฟิล์มกันรอยสำหรับรถแต่ละรุ่นโดยเฉพาะ
ราคาติดตั้งฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับเปิดประตู ตามขนาดรถยนต์
- ฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับ รถยนต์2ประตู ราคาปกติ 1,200 บาท ลดพิเศษ เหลือเพียง 900 บาท
- ฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับ รถยนต์4ประตู ราคาปกติ 1,500 บาท ลดพิเศษ เหลือเพียง 1,300 บาท
- ฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับ รถยนต์5ประตู ราคาปกติ 1,800 บาท ลดพิเศษ เหลือเพียง 1,500 บาท
ราคาฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับ แบบติดตั้งเอง
- ฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับ รถยนต์ 2 ประตู ราคา 700 บาท
- ฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับ รถยนต์ 4 ประตู ราคา 800 บาท
- ฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับ รถยนต์ 5 ประตู ราคา 950 บาท
เรากล้ารับประกันฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับ ตลอดอายุการใช้งาน ไม่เหลือง ไม่ขุ่นมัว
หากบางท่านต้องการฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับที่ราคาถูกกว่านี้ คุณอาจจะต้องรับความเสี่ยงในเรื่องการรับประกันที่ไม่ยาวนาน อีกทั้งกาวที่ลอกยาก ซึ่งจะส่งผลเสียต่อรถที่รักของคุณในระยะยาว
หากใครที่ยังสงสัยเกี่ยวกับราคาฟิล์มรถยนต์ประเภทอื่น ๆ คลิกดูข้อมูลได้ทันที: ฟิล์มติดรถยนต์คิดราคาอย่างไร? , ฟิล์มกรองแสงอาคาร คิดราคาอย่างไร?
ติดฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับดีไหม ทำไมต้องติด?
บริเวณที่เปิดประตูรถยนต์ เป็นบริเวณสำคัญของตัวรถยนต์ที่มักเกิดรอยขีดข่วน และรอยด่างต่าง ๆ จากการใช้งานมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรอยเล็บข่วน รอยที่เกิดจากสิ่งของกระแทก เป็นต้น แต่ฟิล์มกันรอยประตูรถยนต์นั้น ดูเผิน ๆ ก็เหมือนจะเป็นแค่ฟิล์มแผ่นใส ๆ แต่จริง ๆ แล้วมีหลากหลายประเภทด้วยกัน มีราคาตั้งแต่หลักไม่กี่ร้อยจนไปถึงราคาหลักพัน
ซึ่งฟิล์มกันรอยประตูรถยนต์บริเวณมือจับประตูนั้น มีอยู่หลายขนาดด้วยกัน โดยฟิล์มกันรอยในแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้ผลิต รวมถึงความทนทานต่อรอยขีดข่วน ความทนทานต่อสารกัดกร่อน ความทนทานต่อสภาพอากาศที่แตกต่างกัน หรือบางคนสงสัยว่าฟิล์มกันรอยประตูรถยนต์สามารถรักษาตัวเองได้หรือไม่? หรือฟิล์มกันรอยประตูรถยนต์จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือไม่ ไม่สวยงามหรือไม่ มีความเงางามหรือไม่ ซึ่งอาจตอบได้ว่าจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและราคาฟิล์มในแต่ละชนิด ทำให้ราคาในแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างมากด้วย
อีกทั้งการติดฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับนั้น เราควรจะต้องซื้อฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับที่ตัดโดยเครื่องตัดคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ห้ามนำมาตัดเองด้วยมือ เนื่องจากขนาดฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับของประตูแต่ละบาน ของรถยนต์แต่ละรุ่นจะมีขนาดคลาดเคลื่อน จึงควรลดความเสี่ยงในการกรีดด้วยคัตเตอร์ลงบนตัวรถยนต์ซึ่งอาจจะทำให้ตัวรถยนต์เป็นรอยได้
ฟิล์มกันรอยรถยนต์ มีกี่แบบ? ใช้แบบไหนดี?
ก่อนจะรู้ว่าใช้ฟิล์มใสกันรอยยี่ห้อไหนดีนั้น ก่อนอื่นเราควรจะต้องรู้ก่อนว่าที่จริงแล้ว ฟิล์มกันรอยรถยนต์ มีกี่แบบ? มีกี่ประเภท และผลิตจากวัสดุอะไรบ้าง?
1. ฟิล์มกันรอยรถยนต์ PVC
ฟิล์มกันรอยรถยนต์ PVC เป็นฟิล์มกันรอยรถยนต์ประเภทพลาสติก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ฟิล์มพอลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride) หรือฟิล์ม PVC เป็นฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับประตูแบบเริ่มต้น ราคาถูก มีคุณสมบัติในการกันรอยในระดับปานกลาง ความยืดหยุ่นเข้ากับตัวรถยนต์น้อย และทนต่อสภาพอากาศได้ไม่ดีมากเท่าที่ควร อายุการใช้งานอยู่ในระดับปานกลาง
ฟิล์มกันรอยรถยนต์ PVC ดีไหม?
ฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับประเภทพลาสติกนั้น ถึงแม้มีราคาถูก แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม เนื่องการคุณสมบัติการกันรอยและความทนทานไม่เหมาะสมต่อสภาพอากาศในเมืองไทย ซึ่งมีความร้อนสะสมที่พื้นผิวของสีรถยนต์ค่อนข้างมาก ติดตั้งยาก อีกทั้งตอนลอกออกนั้น ยังทิ้งคราบกาวเป็นจำนวนมาก ฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับบางยี่ห้อเวลาลอกถึงขั้นสีรถยนต์ลอกตามออกมาด้วยเลยทีเดียว อายุการใช้งานสั้น ประมาณ 1-2 ปี ซึ่งก็สมเหตุสมผลกับราคา
2. ฟิล์มกันรอยรถยนต์ Hybrid
ฟิล์มกันรอยรถยนต์ประเภท Hybrid คือฟิล์มกันรอยรถยนต์ที่ผสมระหว่าง พลาสติก PVC กับ PU หรือ Polyurethane
ฟิล์มกันรอยรถยนต์ประเภทนี้ จะมีคุณสมบัติในการทนความร้อนดีขึ้น มากกว่าฟิล์มกันรอยรถยนต์ประเภทพลาสติก PVC อย่างเดียว และมีความยืดหยุ่นเข้ากับตัวรถยนต์ได้มากกว่า ส่วนคุณสมบัติการกันรอยรถยนต์นั้น ยังคงกันรอยรถยนต์ได้ในระดับปานกลาง และทนการกันกร่อนได้ในระดับปานกลางเท่านั้น
3. ฟิล์มกันรอยรถยนต์ PU
ฟิล์มกันรอยประเภทสุดท้าย คือ ฟิล์มกันรอยรถยนต์ PU เป็นฟิล์มกันรอยที่มีคุณภาพและคุณสมบัติที่ดีที่สุด เราเรียกฟิล์มกันรอยรถยนต์ประเภทนี้ว่า PU หรือ ฟิล์ม Polyurethane ฟิล์มกันรอยประเภทนี้ นั้นมีความเหมาะสมต่อสภาพอากาศของเมืองไทยมากที่สุด เนื่องการทนทานต่อความร้อนได้สูงมาก มีความทนทารต่อสารกัดกร่อนต่าง ๆ เช่น ยางไม้ หรือมูลนก เป็นต้น
ฟิล์มกันรอยรถยนต์ PU ยังมีความหนากว่าฟิล์มกันรอยรถยนต์ 2 ประเภทแรก ทำให้สามารถทนต่อรอยขีดข่วน และการกระแทกที่จะสร้างความเสียหายสู่ตัวรถยนต์ได้เป็นอย่างดี และฟิล์มกันรอยรถยนต์ PU นั้นยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ยังสามารถคงความเคลียร์ใสตลอดอายุกระใช้งานของรถยนต์
ฟิล์มกันรอยรถยนต์ประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะมีการรับประกันอยู่ที่ 10 ปีขึ้นไป หรือรับประกันให้ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งก็มากับราคาที่สูงสุดเช่นกัน
หลายคนยังสนใจบทความนี้เพิ่มเติม: ฟิล์มกรองแสงคืออะไร ผลิตมาจากอะไร?
สอบถามเรื่องฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับรถยนต์เพิ่มเติม รับประกันตลอดชีพ โทร. 09-2268-9689
ติดฟิลม์กันรอยรอบคันกับเคลือบแก้ว อะไรดีกว่ากัน?
ถ้าต้องการเน้นความเงางามของรถ เน้นผิวสัมผัส มีความลื่น ความสมจริงของพื้นผิวรถยนต์ เราขอแนะนำให้เคลือบแก้วจะดีกว่า แต่การเคลือบแก้วนั้น คุณจะต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ ต้องมีการเคลือบซ้ำทุกๆ 6 เดือน และไม่สามารถป้องกันรอยสะเก็ดหินได้
แต่ถ้าลูกค้าเน้นการปกป้องรถยนต์ ให้รถยนต์มีสภาพดี ยาวนาน ใช้ได้ไม่ต้องกลัวเป็นรอย การติดฟิล์มกันรอยรอบคัน จะตอบโจทย์มากกว่า เนื่องจากฟิล์มมีความหนามากกว่า และสามารถลอกเปลี่ยนได้ครับ การดูแลก็น้อยกว่า เนื่องจากไม่ต้องไปเคลือบกันบ่อย ๆ อาจจะลอกเปลี่ยนทีเดียวทุก ๆ 3-5 ปี ได้เลย
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่ ฟิล์มกันรอย VS เคลือบแก้ว อะไรดีกว่ากัน?
ที่มา: //pantip.com/topic/35374283
สรุป ติดฟิล์มใสกันรอยดีอย่างไร?
ติดฟิล์มกันรอยเบ้ามือจับ PPF ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับผู้ใช้รถยนต์ทุกท่าน เหมาะสำหรับคนรักรถยนต์ตัวจริง เนื่องด้วยคุณภาพฟิล์มใสกันรอยขีดข่วนที่พัฒนาให้มีการป้องกันที่ดีขึ้น ทำให้พื้นผิวของรถยนต์ดูใหม่อยู่เสมอ แม้ว่าจะใช้งานเป็นเวลานานแล้ว ก็ยังสามารถลอกเปลี่ยนใหม่ให้ดูเหมือนใหม่ได้ในทันที อีกทั้งยังสามารถติดได้บนพื้นผิวหลากหลายประเภท เช่น ติดเบ้ามือจับ ติดกันชนหน้า ติดรอบคัน เป็นต้น ถึงแม้ต้องการจะขายรถยนต์ต่อ ราคารถยนต์แสนรักของคุณก็ไม่ตกง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม การเลือกฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ที่ดีนั้น ควรจะต้องเน้นเรื่องวัสดุในการผลิต และแบรนด์ที่ดีด้วย ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ถึงจะมีประสิทธิภาพการใช้งานอย่างสูงสุด ไม่เป็นสีเหลือง กาวไม่ติดกับรถยนต์ของคุณ และสามารถป้องกันรอยต่าง ๆ ได้จริง