ใน การ ช่วยเหลือ ผู้ป่วย ที่มีอาการ สำลักอาหาร ต้อง ใช้ ส่วน ใด ของ มือ ใน การ ปฏิบัติ

การปฐมพยาบาล

เมื่อพบเด็กหรือผู้ใหญ่มีอาการสำลักหรือสิ่งแปลกปลอมติดคอ. ถ้ายังไอ แรงๆ ได้ พูดได้ และหายใจเป็นปกติ ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น แต่ควรรีบนำ ผู้ป่วยไปหาหมอทันที อย่าพยายามให้ความช่วยเหลือใดๆ เช่น ใช้นิ้วล้วงคอ เพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมออก เพราะอาจดันสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดกั้นทางเดินหายใจจนเกิดอันตรายได้.

แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการหายใจไม่ได้ หน้าเขียว เล็บเขียว ไอไม่ออก พูดไม่ออก ควรรีบให้ความช่วยเหลือดังนี้

1. กรณีที่ผู้ป่วยยังรู้สึกตัวดี ให้ทำการช่วยเหลือดังนี้

ก. ผู้ใหญ่และเด็กโต ให้ใช้ "วิธีรัดท้องอัดยอดอก" หรือ "รัดอัดท้อง" โดย

  1. ผู้ช่วยเหลือยืนข้างหลังผู้ป่วย ใช้แขน 2 ข้างโอบรอบเอวผู้ป่วย.
  2. ผู้ช่วยเหลือกำหมัดข้างหนึ่งวางบริเวณเหนือสะดือผู้ป่วยเล็กน้อยใต้ต่อกระดูกอ่อน "ลิ้นปี่" (ดังรูป ก.).
  3. ผู้ช่วยเหลือใช้มืออีกข้างจับมือที่กำหมัดไว้แล้ว (ดังรูป ก.2) ทำการอัดเข้าท้องแรงๆ เร็วๆ ขึ้นไปข้างบน (ทำคล้ายกับจะพยายามยกผู้ป่วยขึ้น).
  4. อัดหมัดเข้าท้องซ้ำๆ กัน หลายๆ ครั้ง จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา หรือจนกว่าผู้ป่วยจะหมดสติ.

รูป ก. วิธีรัดท้องอัดยอดอก (อัดท้อง) (โดยใช้กำหมัดอัดแรงๆ เร็วๆ ใต้ลิ้นปี่ เพื่อให้ลม ในปอดเกิดแรงดันขึ้นไปดันให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมา)

หมายเหตุ: สำหรับคนอ้วนลงพุง (ท้องโต) หรือหญิงตั้งครรภ์ ให้ใช้วิธี “อัดอก” โดยกำหมัดวางไว้กลางอกบริเวณราวนม แล้วใช้มืออีกข้างจับมือที่กำหมัดไว้ แล้วอัดอกแรงๆ เพื่อกระแทกมือที่กำหมัดไว้ให้กดกระดูกกลางอก เข้าไปในทรวงอกตรงๆ ทำซ้ำหลายๆ ครั้ง จนสิ่งแปลกปลอมหลุดหรือผู้ป่วยหมดสติ (ดังรูป ข).

รูป ข. วิธีอัดอกในการช่วยเหลือคนท้องโต

กรณีอยู่ตามลำพัง ให้ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองดังนี้

  1. กำหมัดข้างหนึ่งวางตรงเหนือสะดือ (ดังรูป ค.).
  2. ใช้มืออีกข้างจับมือที่กำหมัดไว้แล้วก้มหัวให้มือพาดขอบแข็งๆ เช่น พนักเก้าอี้ ขอบโต๊ะ เป็นต้น
  3. ก้มตัวลงแรงๆ เพื่อกระแทกหมัดอัดเข้าท้องในลักษณะดันขึ้นข้างบน ทำซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง จนกว่าสิ่งแปลกปลอมหลุด.

รูป ค. วิธีการช่วยเหลือตัวเอง

ข. สำหรับทารกอายุต่ำกว่า 1 ปี ให้ทำการช่วยเหลือดังนี้

  1. จับทารกนอนควํ่าบนแขน ให้ศีรษะตํ่าลงเล็กน้อย.
  2. ใช้ฝ่ามือตบลงตรงกลางหลังของทารก (ระหว่างกลางของสะบัก 2 ข้าง) เร็วๆ 5 ครั้ง (ดังรูป ง.).
  3. ถ้าไม่ได้ผล จับทารกนอนหงายบนแขนให้ศีรษะตํ่า แล้วใช้นิ้วชี้กับ นิ้วกลางวางบนกระดูกหน้าอกเหนือกระดูกลิ้นปี่ แล้วกดอกลง (สักครึ่งถึง 1 นิ้ว) เร็วๆ 5 ครั้ง (ดังรูป จ.).
  4. ถ้าไม่ได้ผล ให้ทำการ "ตบหลัง" 5 ครั้ง สลับกับ "กดหน้าอก" 5 ครั้ง จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดหรือทารกหมดสติ.

รูป ง. วิธีการตบหลัง

รูป จ. วิธีการกดหน้าอก

รูป ฉ. วิธีเปิดทางหายใจและตรวจการหายใจ

  1. การโล่งทางหายใจด้วยการยกคางขึ้นและกดหน้าผากลง (เงยหน้า เชยคาง)
  2. การดูว่าผู้ป่วยหายใจหรือไม่ โดย
    1. หูฟังเลียงลมหายใจ
    2. แก้มสัมผัสลมหายใจ
    3. ตามองการยกขึ้นลงของหน้าอก

2. กรณีที่ผู้ป่วยหมดสติ ให้ทำการช่วยเหลือดังนี้

  1. จับผู้ป่วยนอนหงายบนพื้น.
  2. เปิดทางหายใจให้โล่ง โดยใช้มือยกปลายคางขึ้น (นิ้วแตะที่กระดูกปลายคางไม่ใช่ที่เนื้อที่นุ่มๆ ใต้คาง) และกดศีรษะลง (ดังรูป ฉ.) นี่คือวิธี "เงยหน้า เชยคาง" (head tilt-chin lift).
  3. ตรวจในช่องปาก ถ้ามองเห็นสิ่งแปลกปลอมชัดเจน ให้ใช้นิ้วชี้ค่อยๆเขี่ยและเกี่ยวออกมา (ดังรูป ช.) แต่ต้องระวังอย่าทำแรง หรือลึกเกินไป อาจทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดลึกเข้าไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักเกิดกับเด็กเล็ก (ถ้าสิ่งแปลกปลอมอยู่ลึกเกินไป หรือมองไม่เห็นสิ่งแปลกปลอม ห้ามใช้นิ้วล้วง เพราะจะเกิดอันตรายได้).
  4. ลองช่วยหายใจโดยการเป่าปาก 2 ครั้ง ครั้งละ 1-1.5 วินาที (ดัง รูป ซ.) ถ้าเป่าแล้ว หน้าอกผู้ป่วยยกขึ้น ให้เป่าลมหายใจให้ ผู้ป่วย 10-12 ครั้ง/นาทีในผู้ใหญ่ 12-20 ครั้ง/นาทีในเด็กโต หรือ 20-24 ครั้ง/นาทีในเด็กเล็ก) ถ้าหน้าอกไม่ยกขึ้นให้ทำข้อ 5.
  5. ทำการอัดท้อง 6-10 ครั้ง ในท่านอนหงาย สำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุ มากกว่า 1 ปี (ดังรูป ฌ.) หรือทำการตบหลัง 5 ครั้ง สลับกับกดหน้าอก 5 ครั้ง สำหรับทารกอายุตํ่ากว่า 1 ปี (13) ทำจนสิ่งแปลกปลอมหลุด หรือผู้ป่วยหายใจเองได้.
  6. ตรวจดูช่องปาก ทำการเขี่ยและเกี่ยวสิ่งแปลกปลอมออก ตามข้อ 3.
  7. ถ้าสิ่งแปลกปลอมยังไม่หลุดออกมาหรือผู้ป่วยยังหายใจด้วยตัวเองไม่ได้ ให้ทำตามข้อ 4.-6. ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล.
  8. ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่หายใจและไม่กระดุกกระดิกเลยให้เป่าปากและนวดหัวใจแทน จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล (การนวดหัวใจโดยการ กดหน้าอก อาจช่วยให้สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมาได้ อย่าลืมคอยตรวจเชค ช่องปากตามข้อ 3. เป็นระยะ.

รูป ช. วิธีใช้นิ้วเกี่ยวสิ่งแปลกปลอมในปาก ระวังอย่าดันให้สิ่งนั้นตกลึกเข้าไปในคอ โดยให้ปลายนิ้วเลียบกระพุ้งแก้ม
เข้าไปจนสุด แล้วงอปลายนิ้วเกี่ยวสิ่งที่อยู่ในปากออกมา (อย่าดันนิ้วเข้าไปในปากตรงๆ)

รูป ซ. วิธีเป่าปากช่วยหายใจ

รูป ฌ. วิธีการอัดท้องโดยกำหมัดเข้าใต้อัดยอดอกในท่านอนหงาย

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง