แรง บันดาล ใจ ในการเรียน รัฐประศาสนศาสตร์

บทความ

โพสเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 60 00:00 น. - ปริญญาตรี

หลายๆคนอาจจะใฝ่ฝันอยากทำงานเป็นข้าราชการ มีชีวิตนั่งแท่นบริหารในองค์กรของรัฐ หรือแม้แต่การบริหารองค์กรเอกชนต่างๆ ที่มีการจัดสรรงานอย่างเป็นระบบ พร้อมด้วยความมั่นคงต่อตนเองและครอบครัว ซึ่งสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ก็ถือเป็นอีกทางหนึ่ง ที่จะสามารถทำให้เราก้าวเดินไปถึงฝันได้

ที่ผ่านมา เรามักจะสับสนว่ารัฐศาสตร์กับรัฐประศาสนศาสตร์มันแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งจริงๆแล้ว รัฐศาสตร์จะเน้นเรียนเรื่องการเมืองการปกครอง ระบบการเลือกตั้ง พรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ การเข้าสู่อำนาจ และทฤษฎีการเมืองเป็นหลัก แต่รัฐประศาสนศาสตร์จะเน้นไปที่เรื่องการบริหารงานภาครัฐ ที่เมื่อนักการเมืองขึ้นมามีอำนาจบริหารงาน ก็ต้องใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการบังคับใช้ในระบบราชการ โดยที่จะแบ่งเป็นระบบราชการส่วนกลาง (กระทรวง 20 กระทรวง และกรมมากกว่า 300 กรม) ระบบราชการส่วนภูมิภาค(จังหวัด 76 จังหวัด) และระบบราชการส่วนท้องถิ่น (องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร พัทยา) ที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนเป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกัน ยังมีส่วนของอำนาจนิติบัญญัติในรัฐสภา ที่หากน้องๆ คนไหนที่สนใจเรื่องการเมืองเป็นพิเศษ ก็สามารถที่จะสมัครรับการเลือกตั้งได้  หรือจะเป็นการทำงานเกี่ยวกับธุรการ บริหารงานทั่วไปประจำสำนักของวุฒิสภา สำนักงานสภาผู้แทนราษฎร รวมไปถึงการสมัครเข้าทำงานในฝ่ายอำนาจตุลาการ อย่างศาลต่างๆ ในฐานะนักบริหารงานทั่วไป นักบริหารทรัพยากรมนุษย์ และนักประชาสัมพันธ์

ไม่เพียงเท่านี้ องค์กรอิสระ อย่างองค์การมหาชน รัฐวิสาหกิจ ก็สามารถสมัครงานได้ เพราะถือว่าอยู่ในขอบเขตของการบริหารงานทางภาครัฐทั้งหมด หรือพูดง่ายๆ ก็คือการบริหารประเทศนั่นเอง ซึ่งทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าตลาดงานของการเรียนสาขานี้มีการรองรับที่กว้างมากทีเดียว

“เมื่อเรียนแล้ว จะเข้าใจเลยว่าสิ่งที่เราทำอยู่นี้ ที่รัฐบาลมีนโยบายออกมา
แล้วต้องปฏิบัติตามเป็นกฎหมาย มันทำมาได้อย่างไร”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ
คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์

สำหรับการเรียนในชั้นปีที่ 1 จะเป็นการปูพื้นฐานด้วยระบบสังคมทั่วไปที่เป็นความรู้ การปรับตัวในการใช้ชีวิตกับสังคมรอบตัว ที่ปัจจุบันสภาพแวดล้อมค่อนข้างจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน ทุกอย่างจะเปลี่ยนตามหมด จึงไม่มีกรอบตายตัวว่าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้า ดังนั้น น้องๆ ที่เกิดมาในยุคของสังคมดิจิทัล ซึ่งมีความเก่งด้านเทคโนโลยีอยู่แล้ว  ก็จะเป็นการเรียนที่จะนำสิ่งเหล่านี้มาทำอย่างไรให้ สามารถประกอบอาชีพได้  นั่นคือ การเรียนระบบสังคมดิจิทัลที่จะเป็นการปูพื้นฐานสร้างแรงบันดาลใจเป็นหลัก

ส่วนชั้นปีที่ 2 ก็จะเริ่มเข้าเนื้อหาที่ลึกมากขึ้น เน้นไปที่การเรียนนโยบายสาธารณะที่มีเฉพาะในการบริหารงานภาครัฐเท่านั้น รวมถึงการเรียนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ การเงินการคลัง ที่เมื่อเรียนแล้ว น้องๆ จะเข้าใจเลยว่าสิ่งที่เราทำอยู่นี้ เป็นนโยบายของรัฐบาล แล้วต้องปฏิบัติตามเป็นกฎหมาย มันทำมาได้อย่างไร แล้ววันหนึ่งจะต้องเป็นหนึ่งของการขับเคลื่อนประเทศด้วย

ต่อเนื่องที่ชั้นปีที่ 3 ก็จะเป็นการเริ่มกำหนดโครงการ สามารถที่จะทำเป็นโปรเจคของตัวเองว่าจะทำอะไร ต้องสร้างความคิดของตัวเองขึ้นมาปฏิบัติจริงในชั้นปีที่ 4 ซึ่งการที่เป็นโปรเจคส่วนตัว ที่มีข้อดีตรงที่สิ่งที่ออกมาจะเป็นผลงานที่จะนำไปเสนอในการสมัครงาน เพื่อแสดงถึงความพร้อมที่จะทำงานต่อไป

เห็นอย่างนี้แล้ว การเรียนรัฐประศาสนศาสตร์กลายเป็นทางเลือกที่จะทำให้น้องๆ ก้าวสู่นักบริหารมือทองที่ประสบความสำเร็จอันมั่นคงในชีวิตได้อย่างแน่นอน ขอเพียงแค่เรากล้าที่จะเดิน มีใจที่มุ่งมั่นเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

 

ก่อนอื่นเราทำทำความรู้จัก สาขารัฐประศาสนศาสตร์เราเรียนเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน เป็นสาขาวิชาหนึ่งในสายรัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ การเรียนสาขารัฐประศาสนศาสตร์นั้น สิ่งที่ต้องคิดถึงเป็นอันดับแรกเลยก็คือ "ประชาชน โดยคนที่จะเรียนสาขานี้ได้ต้องเป็นผู้ที่มีความสนใจเรื่องการบ้านการเมือง และต้องติดตามข่าวสารและรู้ความเคลื่อนไหวโดยรวมของประเทศ

  น้อง ๆ ที่จะเรียนต่อในสาขา รัฐประศาสนศาสตร์ จะต้องมีภาวะผู้นำ มีคุณธรรม มีความรู้ความชำนาญการทางเทคนิคเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม มีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ เสียสละในการทำงาน กล้า ตัดสินใจแก้ปัญหาในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ออกไปทำงานในภาครัฐและเอกชน

    โอกาสทางวิชาชีพ

1.นักปกครอง (ปลัดอำเภอ ปลัด อบต. อบจ. เทศบาล สำนักงานเขต/อำเภอ)
2.เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปในกระทรวง กรม หน่วยงาน สำนักงาน และกองต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชนและรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น
3.รับราชการทหาร และตำรวจ
4.เจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชน
5.อาจารย์ นักวิชาการ ทางด้านการปกครอง
6.ประกอบธุรกิจส่วนตัว

มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ มอบทุนการศึกษา 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2561
(เงื่อนไขเป็นไปตามมหาวิทยาลัยกำหนด)

สนใจสมัครรับทุน คลิกที่นี่ 

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง