วรรณคดีและวรรณกรรม ม.6 เฉลย

ชื่อหนังสือ : คู่มือครู หนังสือเรียนวรรณคดีและวรรณกรรม ม.6

ชื่อผู้แต่ง :

สำนักพิมพ์ : บริษัท พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำกัด

ขนาดรูปเล่ม :

จำนวนหน้า :           200               หน้า

ราคา/ชุด :       –     บาท

รหัสสินค้า : 978-616-05-3850-8

จุดเด่น/เนื้อหา

1. ระบุวิธีสอนในเนื้อหาให้ครูสอนง่าย

2. เสริมความรู้สำหรับครูในเรื่องที่สำคัญและความหมายคำศัพท์ สำหรับอธิบายเสริมให้นักเรียน

3. ระบุตัวชี้วัดในกิจกรรมการเรียนรู้

4. เสริมกิจกรรมประเมินสมรรถนะสำคัญและคำแนะนำเพื่อปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์

5. บูรณาการสาระอาเซียนกับเนื้อหา

6. เพิ่มผลสัมฤทธิ์ฯด้วยแนวข้อสอบ NT และ O-NET

7. เฉลยคำตอบในเล่มอย่างละเอียดทุกข้อ

คาแนะนาในการใช้ PowerPoint - กดป่ มุ Slide Show ทแ่ี ถบด้านบนหรือ ด้านล่าง - กดป่ มุ Esc ยกเลกิ คาส่ังหรือออกจาก Slide Show - กดป่ ุมลกู ศรหรือคลกิ ส่วนใดในหน้า Slide เพื่อเล่ือนไปหน้าถดั ไป

คาแนะนาในการใช้ PowerPoint กดป่ มุ นี้ กลบั ไปหน้าสารบัญ (Contents) กดป่ ุมนี้ ดูคาตอบ (Answer Key) กดป่ มุ นี้ ฟังคลปิ เสียง (Audio Clip) [การกดป่ มุ ต้องกดให้โดนรูปลาโพง เพราะถ้าคลกิ ไปโดนแถบเล่ือนช่วงการฟัง อาจทาให้เสียงไม่ได้ เริ่มต้นทจ่ี ุดเร่ิมต้น] PowerPoint นี้ เหมาะสาหรับคอมพวิ เตอร์ทใี่ ช้โปรแกรม Microsoft Office 2010 การใช้เวอร์ชั่นอ่ืนๆ หรือ เวอร์ช่ันทตี่ า่ กว่า คุณสมบตั ิบางอย่างอาจทางานไม่สมบูรณ์

สารบญั บทนา การอ่านวรรณคดี ๑หน่วยการเรียนรู้ที่ เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ๒หน่วยการเรียนรู้ที่ ตอน ขุนช้างถวายฎกี า ๓หน่วยการเรียนรู้ท่ี สามก๊ก ตอน กวนอูไปรับราชการกบั โจโฉ กาพย์เห่เรือ ๔หน่วยการเรียนรู้ท่ี สามคั คเี ภทคาฉันท์ ๕หน่วยการเรียนรู้ท่ี ไตรภูมพิ ระร่วง ตอน มนุสสภูมิ

บทนา การอ่านวรรณคดี การอ่านวรรณคดี เป็นการทาความเขา้ ใจบทประพนั ธใ์ หป้ รุโปร่งและใชจ้ ินตภาพ สร้างอารมณ์ เพ่ือจะไดเ้ ขา้ ถึงสารท่ีกวตี อ้ งการส่ือ • ผอู้ ่านตอ้ งใชว้ จิ ารณญาณในการอ่านแลว้ นาไปคิด ใชส้ ติปัญญากลนั่ กรองสกดั คุณค่าทางอารมณ์และคุณค่าทางความคิด • การวจิ กั ษว์ รรณคดี o เกิดความเขา้ ใจแจ่มแจง้ ตระหนกั ในคุณค่าดา้ นวรรณศิลป์ และคุณค่าดา้ นสงั คม o เกิดความหวงแหนและตอ้ งการธารงรักษาใหเ้ ป็นสมบตั ิของชาติต่อไป • การอ่านท่ีไดค้ ิดคน้ หาเหตุผลมาอธิบายความรู้สึกของตนเองเป็นการแสดงความ คิดเห็นข้นั วจิ ารณ์ ซ่ึงอาจต่อยอดไปถึงการอ่านวรรณคดีในระดบั สูงได้

๑ ความสาคญั ของวรรณคดี • เป็นมรดกที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ เป็นมรดกทางปัญญาของคนในชาติ • เป็นเสมือนกระจกเงาสะทอ้ นภาพของสงั คมในอดีต ดว้ ยการนาเสนอสภาพสังคม ในสมยั ท่ีตนมีชีวติ อยดู่ ว้ ยการสอดแทรกไวใ้ นงานเขียน • มีคติธรรม อนั เป็นแนวทางในการพฒั นาความคิด จิตใจ และโลกทศั นข์ องผอู้ ่าน ดว้ ยการนาขอ้ คิดจากวรรณคดีมาใชใ้ นชีวติ จริง • มีท้งั คุณค่าดา้ นเน้ือหา คุณค่าดา้ นวรรณศิลป์ และคุณค่าดา้ นสงั คม • เป็นการส่งเสริมใหผ้ อู้ ่านมีสุนทรียะทางอารมณ์ เขา้ ใจความจริงของชีวติ มาก ยง่ิ ข้ึน และช่วยจรรโลงสงั คมอีกดว้ ย

๒ แนวทางในการอ่านวรรณคดี เลือกอ่านวรรณคดี • บทร้อยกรอง หรือคาประพนั ธ์ หรือกวนี ิพนธ์มีหลายช้นั • เลือกอ่านวรรณคดีเรื่องที่ไดร้ ับยกยอ่ งวา่ เป็นวรรณคดีช้นั เยยี่ ม ทาใหส้ ามารถยดึ เป็นแนวทางในการอ่านวรรณคดีเร่ืองอ่ืนๆ ได้ • วรรณคดีที่ไดร้ ับการยกยอ่ งจะมีความเป็นอมตะ • มีคุณค่าทางวรรณศิลป์ และมีขอ้ คิดที่สามารถนามาประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชีวติ ได้ ควรอ่านวรรณคดใี ห้ตลอดท้งั เรื่อง • ทาความเขา้ ใจกบั เน้ือเร่ืองท่ีอ่าน • ใหร้ ู้องคป์ ระกอบของเร่ืองและเขา้ ใจสารท่ีกวตี อ้ งการส่ือมายงั ผอู้ ่าน

๒ แนวทางในการอ่านวรรณคดี (ต่อ) รู้หลกั การพจิ ารณาคุณค่าของวรรณคดี • นาหลกั น้นั มาพิจารณาวรรณคดีท่ีอ่าน เพ่อื ใหส้ ามารถเขา้ ถึงความหมายและคุณค่า ของวรรณคดีเร่ืองน้นั แสดงความคดิ เห็น วจิ ารณ์หรือประเมนิ คุณค่าวรรณคดี • เม่ืออ่านวรรณคดีจบ ผอู้ ่านควรวจิ กั ษว์ รรณคดีเร่ืองน้นั ได้ เพื่อใหเ้ ห็นขอ้ ดีและ ขอ้ บกพร่องของวรรณคดี จึงจะไดป้ ระโยชน์จากการอ่านวรรณคดีอยา่ งแทจ้ ริง

๓ การวจิ กั ษ์วรรณคดี วรรณคดี • หนงั สือที่ไดร้ ับการยกยอ่ งวา่ แต่งดี มีคุณค่า เป็นบทประพนั ธ์ที่ปลุกมโนคติ • ทาใหเ้ กิดความเพลิดเพลิน และเกิดอารมณ์สะเทือนใจคลอ้ ยตามไปกบั บทประพนั ธ์ วจิ กั ษ์วรรณคดี • การพจิ ารณาวา่ หนงั สือน้นั ๆ แต่งดีอยา่ งไร • ใชถ้ อ้ ยคาไพเราะลึกซ้ึงกินใจหรือมีความงามอยา่ งไร • มีคุณค่า ใหค้ วามรู้ ขอ้ คิด คติสอนใจ • ช้ีใหเ้ ห็นสภาพชีวติ ความคิด ความเชื่อของคนในสงั คมอยา่ งไร

๔ หลกั การวจิ ักษ์วรรณคดี ๑. อ่านอย่างพนิ ิจพจิ ารณา • วเิ คราะห์ต้งั แต่ช่ือเร่ือง ประวตั ิผแู้ ต่ง คานา คานิยม สารบญั ไปจนถึงเน้ือ เรื่องยอ่ และบรรณานุกรม • ทาใหเ้ ราเขา้ ใจเน้ือหามูลเหตุของการแต่ง แรงบนั ดาลใจในการแต่ง ๒. ค้นหาความหมายพืน้ ฐานของบทประพนั ธ์ • ความหมายพ้ืนฐานหรือความหมายตามตวั อกั ษร ผอู้ ่านสามารถคน้ หาได้ จากขอ้ ความท่ีกวไี ดน้ าเสนอไว้ วา่ ใคร ทาอะไร ที่ไหนผลเป็นอยา่ งไร

๔ หลกั การวจิ ักษ์วรรณคดี (ต่อ) ๒. ค้นหาความหมายพืน้ ฐานของบทประพนั ธ์ ค้นหาความหมายตามตวั หนังสือ • คาใดที่ไม่เขา้ ใจไดท้ นั ที สามารถคน้ หาความหมายและคาอธิบายศพั ทจ์ าก พจนานุกรมหรืออภิธานศพั ท์

๔ หลกั การวจิ ักษ์วรรณคดี (ต่อ) ๒. ค้นหาความหมายพืน้ ฐานของบทประพนั ธ์ ค้นหาความหมายแฝง • ความหมายที่ตอ้ งตีความ ซ่ึงผแู้ ต่งอาจใชค้ าที่เป็นสญั ลกั ษณ์ เพ่อื เสนอ สารอนั เป็นความคิดหลกั ของผแู้ ต่ง

๔ หลกั การวจิ ักษ์วรรณคดี (ต่อ) ๒. ค้นหาความหมายพืน้ ฐานของบทประพนั ธ์ ค้นหาข้อคดิ อนั เป็ นประโยชน์ • เป็นการคน้ หาขอ้ คิดคติเตือนใจท่ีสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิด ประโยชน์ในชีวติ ประจาวนั ได้ • กวมี กั สอดแทรกทศั นะ ขอ้ คิด คติสอนใจเร่ืองต่างๆ ไวใ้ นของวรรณคดี

๔ หลกั การวจิ ักษ์วรรณคดี (ต่อ) ๓. รับรู้อารมณ์ของบทประพนั ธ์ • พยายามพิจารณาเม่ือรับรู้ความรู้สึกและอารมณท์ ่ีกวสี อดแทรกในบท ประพนั ธ์

๔ หลกั การวจิ ักษ์วรรณคดี (ต่อ) ๔. พจิ ารณาการใช้กลวธิ ีในการแต่งคาประพนั ธ์ • กลวธิ ีในการแต่งคาประพนั ธเ์ ป็นวธิ ีสร้างความรู้สึกนึกคิดของกวี • ช่วยใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจทศั นะและนยั สรุปของกวหี รือเน้ือเร่ืองไดช้ ดั เจน กวา่ การบอกเล่าดว้ ยถอ้ ยคาและวธิ ีการตรงไปตรงมา • ปมปัญหาของเสภาเร่ืองขนุ ชา้ งขนุ แผน o ปมความขดั แยง้ เรื่องความรักระหวา่ งชายสองหญิงหน่ึง o นาไปสู่การคลี่คลายปมปัญหาดว้ ยการประหารชีวติ นางวนั ทอง ซ่ึงเป็ นจุดจบที่น่าเศร้าสลดใจ o เป็นกลวธิ ีท่ีทาใหเ้ ร่ืองน้ีอยใู่ นใจผอู้ ่านมายาวนาน เพราะกวสี ร้าง ความรู้สึกคา้ งคาใจ ความไม่สมหวงั ของตวั ละคร

๔ หลกั การวจิ ักษ์วรรณคดี (ต่อ) ๕. ความงามความไพเราะของภาษา • พิจารณาการสรรคาและการเรียบเรียงคาใหเ้ ป็นตามลาดบั อยา่ งไพเราะ เหมาะสม และการใชโ้ วหารก่อใหเ้ กิดจินตภาพ อารมณ์ และความรู้สึก

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี ๑. คุณค่าด้านเนื้อหา (รูปแบบ) ร้อยแก้ว • คาประพนั ธ์ที่ไม่จากดั ถอ้ ยคาและประโยค ไม่มีกฎเกณฑท์ างฉนั ทลกั ษณ์ เป็นรูปแบบต่างๆ ตายตวั • การพจิ ารณาความหมายในคาประพนั ธ์ประเภทร้อยแกว้ ข้ึนอยกู่ บั จุดประสงคแ์ ละเน้ือหาของเร่ือง o มีจุดมุ่งหมายท่ีจะบนั ทึกเรื่องราวเหตุการณ์ใหค้ วามรู้ทวั่ ๆ ไป จะ มีการใชภ้ าษาตรงไปตรงมา เรียบง่าย และชดั เจน o มีเน้ือหาลุ่มลึก แสดงความลึกซ้ึงแยบคาย เรื่องที่เกิดจากจินตนาการ จะแต่งไดก้ ระชบั รัดกมุ สละสลวย ส่ือความหมายไดช้ ดั เจน

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๑. คุณค่าด้านเนื้อหา (รูปแบบ) ร้อยกรอง • คาประพนั ธ์ท่ีนาคามาประกอบกนั ข้ึน ใหม้ ีลกั ษณะรูปแบบตามที่กาหนด และมีกฎเกณฑข์ อ้ บงั คบั ต่างๆ • ร้อยกรอง เป็นคารวมเรียกโคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน และร่าย • เนน้ จงั หวะของเสียงซ่ึงเกิดจากการกาหนดจานวนพยางคห์ รือคาเป็น วรรค บาท และบท การผกู คาสมั ผสั คลอ้ งจองอยา่ งมีแบบแผน • ลกั ษณะการบงั คบั ตาแหน่งวรรณยกุ ต์ • การเพม่ิ สมั ผสั คลอ้ งจองในวรรคข้ึนอยกู่ บั ลีลาช้นั เชิงของกวแี ต่ละคน

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๑. คุณค่าด้านเนื้อหา (องค์ประกอบของเร่ือง) สาระ • พจิ ารณาวา่ สาระที่ผแู้ ต่งตอ้ งการส่ือมายงั ผอู้ ่านเป็นเร่ืองอะไร • ควรจบั สาระสาคญั หรือแก่นของเร่ืองใหไ้ ดว้ า่ ผแู้ ต่งตอ้ งการส่ืออะไร แก่นเรื่องมีลกั ษณะแปลกใหม่ น่าสนใจเพียงใด โครงเร่ือง • วธิ ีการเรียงลาดบั ความคิดหรือเหตุการณ์ในเร่ืองวา่ เปิ ดเร่ืองอยา่ งไร • กวมี ีวธิ ีวางโครงเร่ืองไดด้ ีหรือไม่ การลาดบั ความไปตามลาดบั ข้นั ตอน หรือไม่ มีวธิ ีการวางลาดบั เหตุการณ์น่าสนใจอยา่ งไร • มีการสร้างปมขดั แยง้ อะไรที่นาไปสู่จุดสูงสุดของเร่ือง

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๑. คุณค่าด้านเนื้อหา (องค์ประกอบของเร่ือง) ฉากและบรรยากาศ • กวตี อ้ งใหร้ ายละเอียดเก่ียวกบั สถานที่และสภาพแวดลอ้ ม เพือ่ ใหผ้ อู้ ่าน เกิดความรู้สึกคลอ้ ยตาม ตัวละคร • ลกั ษณะนิสยั ของตวั ละครเป็นส่วนสาคญั ของเร่ือง • ตอ้ งพจิ ารณาวา่ มีบุคลิกภาพอยา่ งไรและมีบทบาทอยา่ งไร พฤติกรรม ที่แสดงออกมาดีหรือไม่ กลวธิ ีการแต่ง • พิจารณาวธิ ีการเลือกใชถ้ อ้ ยคา การนาเสนอของกวี • พิจารณาวธิ ีการวา่ ชวนใหน้ ่าสนใจ ติดตาม และประทบั ใจไดอ้ ยา่ งไร

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (การสรรคา) • การเลือกใชค้ าไดถ้ ูกตอ้ งตรงตามความหมายท่ีตอ้ งการ • การเลือกใชค้ าที่เหมาะแก่เน้ือเร่ืองและฐานะของบุคคลในเร่ือง • การเลือกใชค้ าไดเ้ หมาะแก่ลกั ษณะของคาประพนั ธ์ • การเลือกคาโดยคานึงถึงเสียง o คาท่ีเล่นเสียงวรรณยกุ ต์ o คาท่ีเลียนเสียงธรรมชาติ o คาที่เล่นเสียงสมั ผสั o การเล่นคาพอ้ งเสียงและซ้าคา

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (การสรรคา)

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (การใช้โวหาร) บรรยายโวหาร • การใชค้ าอธิบายเล่าเรื่องราวรายละเอียดใหเ้ ขา้ ใจตามลาดบั เหตุการณ์ พรรณนาโวหาร • การอธิบายความโดยการสอดแทรกอารมณ์ ความรู้สึกหรือให้ รายละเอียดอยา่ งลึกซ้ึงของกวลี งไปในเรื่อง เทศนาโวหาร • กลวธิ ีที่ใชโ้ วหารในการกล่าวสงั่ สอนอยา่ งมีเหตุผลประกอบ

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (การใช้โวหาร) สาธกโวหาร • การยกตวั อยา่ งเร่ืองราวมาประกอบ เพ่อื เพม่ิ รายละเอียด หรือส่ิงที่น่ารู้ น่าสนใจลงไปในขอ้ ความ ทาใหเ้ ขา้ ใจชดั เจนยง่ิ ข้ึน อปุ มาโวหาร • โวหารท่ีกล่าวเปรียบเทียบส่ิงหน่ึงกบั อีกส่ิงหน่ึงเพื่อใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจ ชดั เจน o พระกณั หากบั พระชาลีเป็นดวงตา แสดงใหเ้ ห็นวา่ ลูกน้นั มีค่ากบั พอ่ แม่ราวกบั ดวงตา

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (การใช้โวหาร)

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (การใช้ภาพพจน์) การใช้ภาพพจน์อปุ มา • เป็นการเปรียบเทียบวา่ สิ่งหน่ึงเหมือนกบั อีกสิ่งหน่ึง • ใชค้ าวา่ เสมือน ดุจ ดงั่ ราว เพียง ประหน่ึง แสดงความหมายอยา่ ง เดียวกบั คาวา่ เหมือน การใช้ภาพพจน์อปุ ลกั ษณ์ • เป็นการเปรียบสิ่งหน่ึงเป็นอีกส่ิงหน่ึง • ไม่มีคาท่ีสื่อความหมายวา่ เหมือนปรากฏอยู่ แต่เป็นการเปรียบเทียบ โดยใชค้ าวา่ คือ เป็น การใช้ภาพพจน์บุคคลวตั • สมมติส่ิงไม่มีชีวติ หรือสตั วใ์ หม้ ีกิริยาอาการความรู้สึกเหมือนมนุษย์

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (การใช้ภาพพจน์)

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (ลลี าการประพนั ธ์) เสาวรจนี • เป็นลีลาท่ีใชแ้ ต่งความงามจะเป็นความงามของมนุษย์ สถานที่ หรือ ธรรมชาติกไ็ ด้ นารีปราโมทย์ • เป็นลีลาการประพนั ธท์ ี่มุ่งไปในทานองเก้ียว ประเลา้ ประโลมดว้ ย คาหวาน พโิ รธวาทัง • เป็นลีลาท่ีแสดงความโกรธแคน้ ประชดประชนั เกร้ียวกราด สัลลาปังคพสิ ัย • เป็นลีลาแห่งการคร่าครวญหวนไห้ ตดั พอ้ เศร้าโศก

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ (ลลี าการประพนั ธ์)

๕ การพจิ ารณาคุณค่าวรรณคดี (ต่อ) ๓. คุณค่าด้านสังคม • ผแู้ ต่งมีจุดประสงคใ์ นการจรรโลงสงั คมอยา่ งไร • พจิ ารณาจากแนวคิด การใหค้ ติเตือนใจ การสะทอ้ นใหเ้ ห็นชีวิตความ เป็นอยู่ ค่านิยม วฒั นธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และจริยธรรม ของคนในสงั คมท่ีวรรณคดีไดจ้ าลองภาพ • กวไี ดส้ อดแทรกไวใ้ นบทประพนั ธอ์ ยา่ งแนบเนียน

๑หน่วยการเรียนรู้ท่ี เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎกี า วรรณคดไี ทยเรื่องเอกทคี่ นไทยจานวนมากรู้จกั กนั และได้รับยกย่อง จากวรรณคดสี โมสรว่าเป็ นยอดของกลอนเสภาทม่ี คี วามไพเราะ

๑ ความเป็ นมา • ขนุ ชา้ งขนุ แผนเป็นเรื่องที่เกิดข้ึนในสมยั อยธุ ยา จากหนงั สือคาใหก้ ารชาวกรุง เก่าไดก้ ล่าวถึงเรื่องราวที่เก่ียวกบั เรื่องขนุ ชา้ งขนุ แผน • ขนุ แผนรับราชการอยใู่ นสมยั สมเดจ็ พระพนั วษา คือ สมเดจ็ พระรามาธิบดีที่ ๒ • เร่ืองขนุ ชา้ งขนุ แผนเกิดภายหลงั ที่มีเสภา • การนาเร่ืองขนุ ชา้ งขนุ แผนมาขบั เสภาน้นั มีข้ึนราวๆ รัชสมยั สมเดจ็ พระ นารายณ์มหาราช ซ่ึงเป็นเวลาหลงั จากเรื่องเกิดข้ึนเป็น ๑๐๐ ปี • เดิมเป็นนิทานเล่ากนั มาก่อน จนมีการขบั เป็นทานองลานาประกอบการเล่า นิทาน แต่งเป็นกลอนสดๆ ขบั โดยไม่มีป่ี พาทยป์ ระกอบ ต่อมาจึงมีผใู้ ชก้ รับ ประกอบทานองขบั

๑ ความเป็ นมา (ต่อ) • ในสมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ มีคนขบั เสภาคร้ังกรุงเก่าเหลือมาบา้ ง แต่กจ็ าบท หรือไดบ้ ทมาเพยี งไม่ก่ีตอน • รัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั มีการแต่งบทเสภาเรื่องขนุ ชา้ งขนุ แผนข้ึนใหม่เป็นอนั มาก ไม่ไดแ้ จง้ วา่ ผใู้ ดแต่ง • สนั นิษฐานตามลกั ษณะสานวนกลอน วา่ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั ซ่ึงโปรดฟังการขบั เสภาและทรงพระราชนิพนธ์ข้ึนเองกม็ ี • บทเสภาในสมยั รัชกาลที่ ๒ น้ีไดร้ ับยกยอ่ งวา่ แต่งดีเยย่ี ม ท้งั น้ีเพราะกวแี ต่ละ คนไดแ้ ต่งเฉพาะตอนท่ีตนพอใจ • การท่ีไม่ไดเ้ ปิ ดเผยชื่อผแู้ ต่ง ผแู้ ต่งจึงมีอิสระเตม็ ที่ ประชนั ฝีปากแสดงฝีมือกนั อยา่ งออกรส • ในสมยั น้ีไดใ้ ชป้ ่ี พาทยเ์ ป็นอุปกรณ์ในการขบั เสภา และมีการราประกอบตาม จงั หวะป่ี พาทยศ์ ิลปะการขบั เสภาแบบใหม่น้ีเรียกวา่ “เสภารา”

๑ ความเป็ นมา (ต่อ) • การขบั เสภาน้นั ถือกนั เป็นประเพณีวา่ จะมีเฉพาะในงานมงคล • บทเสภาเรื่องขนุ ชา้ งขนุ แผนในสมยั รัชกาลที่ ๒ แต่งเป็นตอนๆ ไม่ต่อเน่ืองกนั • มีแต่งในสมยั รัชกาลท่ี ๓ หลายตอน ภายหลงั ในสมยั รัชกาลท่ี ๔ มีผแู้ ต่ง เพม่ิ เติมบางตอนและรวบรวมข้ึนใหม่อีกคร้ัง • ไดร้ ับการยกยอ่ งจากวรรณคดีสโมสรวา่ เป็น “ยอดของกลอนเสภา” • การอ่านเสภาเร่ืองขนุ ชา้ งขนุ แผนจึงถือเป็นการศึกษาสงั คมไทย และศึกษา เกี่ยวกบั วถิ ีชีวติ ของบรรพบุรุษไทยในอดีตโดยทางออ้ ม เหตุการณ์เรื่องราว หรือพฤติกรรมของตวั ละครน้นั • สามารถนามาขบคิดใหเ้ ป็นคติสอนใจ นาไปเป็นแนวทางในการดาเนินชีวิต • ดา้ นสานวนกลอน กล่าวไดว้ า่ มีลกั ษณะกลอนเสภาท่ีมีชีวติ ชีวาอยา่ งยง่ิ โวหาร เขม้ ขน้ สมบูรณ์ ก่อใหเ้ กิดอารมณ์สะเทือนใจไดเ้ ป็นเยย่ี ม

๒ ประวตั ผิ ้แู ต่ง • วรรณคดีเรื่องขนุ ชา้ งขนุ แผนมีกวแี ต่งกนั หลายคน ในปลายสมยั อยธุ ยาและในสมยั รัตนโกสินทร์ตอนตน้ • ตอนที่ไพเราะส่วนมากแต่งในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั • การแต่งเสภาเร่ืองขนุ ชา้ งขนุ แผนไม่นิยมบอก นามผแู้ ต่ง มีเพียงการสนั นิษฐานผแู้ ต่งโดย พิจารณาจากสานวนการแต่งเท่าน้นั • เสภาขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอน ขนุ ชา้ งถวายฎีกา จึง ไม่ทราบนามผแู้ ต่งท่ีแน่ชดั

๓ ลกั ษณะคาประพนั ธ์ • เรื่องเสภาขนุ ชา้ งขนุ แผนเป็นคาประพนั ธป์ ระเภทกลอนเสภา ๔๓ ตอน • มีอยู่ ๘ ตอน ท่ีไดร้ ับยกยอ่ งวา่ แต่งดียอดเยย่ี มจากวรรณคดีสมาคม อนั มีสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพทรงเป็นประธาน • ตอน ขนุ ชา้ งถวายฎีกา เป็นหน่ึงในแปดตอนที่ไดร้ ับการยกยอ่ ง • ลกั ษณะคาประพนั ธ์กลอนเสภาเป็นกลอนสุภาพ • เสภาเป็นกลอนข้นั เล่าเรื่องอยา่ งเล่านิทาน จึงใชค้ ามากเพอื่ บรรจุขอ้ ความให้ ชดั เจนแก่ผฟู้ ังและมุ่งเอาการขบั ไดไ้ พเราะเป็นสาคญั • สมั ผสั ของคาประพนั ธ์ คือ คาสุดทา้ ยของวรรคตน้ ส่งสมั ผสั ไปคาใดคาหน่ึงใน ๕ คาแรกของวรรคหลงั สมั ผสั วรรคอ่ืนและสมั ผสั ระหวา่ งบทเหมือนกลอนสุภาพ

๔ เร่ืองย่อ

๔ เร่ืองย่อ (ต่อ)

๔ เร่ืองย่อ (ต่อ)

๔ เร่ืองย่อ (ต่อ) • คร้ังหน่ึงสมเดจ็ พระพนั วษาเสดจ็ ประพาสสุพรรณบุรีเพอื่ ทรงล่าควายป่ า ขนุ ไกรพอ่ ของพลายแกว้ มีหนา้ ที่ตอ้ นควายป่ า เผอิญควายป่ าแตกตื่นขวดิ ผคู้ น ขนุ ไกรจึงไดร้ ับโทษประหาร • นางทองประศรีไดพ้ าพลายแกว้ ไปบวชเรียนที่วดั ส้มใหญ่ เรียนรู้วชิ าอาคมจน จบ กไ็ ดไ้ ปบวชเรียนต่อท่ีวดั ป่ าเลไลยกเ์ มืองสุพรรณบุรี และไดแ้ ต่งงานกบั นางพมิ • พลายแกว้ ตอ้ งยกทพั ไปตีเมืองเชียงใหม่ เม่ือไดร้ ับชยั ชนะกไ็ ดน้ างลาวทอง เป็ นภรรยา • ขณะท่ีพลายแกว้ ไปทาศึก นางพมิ ลม้ ป่ วย ขรัวตาจูจึงแนะนาใหเ้ ปล่ียนช่ือเป็น วนั ทองเพือ่ รักษาอาการไข้ • ขนุ ชา้ งไดใ้ ชอ้ ุบายลวงบงั คบั ใหน้ างวนั ทองแต่งงานกบั ตน • พระพนั วษาไดพ้ ระราชทานบรรดาศกั ด์ิใหพ้ ลายแกว้ เป็นขนุ แผนแสนสะทา้ น

๔ เร่ืองย่อ (ต่อ) • ขนุ แผนรู้เร่ืองการแต่งงานของนางวนั ทองกบั ขนุ ชา้ งก็โกรธ จึงพานางลาวทอง ไปอยกู่ าญจนบุรี • นางวนั ทองถูกนางศรีประจนั เฆ่ียนตีและบงั คบั จนตอ้ งตกเป็นภรรยาขนุ ชา้ ง • ขนุ ชา้ งใชอ้ ุบาย เพื่อใหส้ มเดจ็ พระพนั วษากริ้ว แลว้ ลงโทษขนุ แผน • ขนุ แผนมีความอาฆาตขนุ ชา้ งมากจึงเดินทางไปสุพรรณบุรี สะเดาะดาลประตู ข้ึนเรือนขนุ ชา้ ง แต่เขา้ หอ้ งผดิ ไปเขา้ หอ้ งนางแกว้ กิริยา และไดน้ างเป็นภรรยา • จากน้นั พานางวนั ทองหนีออกจากเรือนขนุ ชา้ งเขา้ ไปอยใู่ นป่ า จนกระทงั่ นาง วนั ทองใกลค้ ลอด ขนุ แผนจึงเขา้ พ่ึงพระพจิ ิตรกบั นางบุษบา ทาใหพ้ ระพจิ ิตร เดือดร้อน จึงไปสูค้ ดีกบั ขนุ ชา้ ง ในท่ีสุดขนุ แผนกเ็ ป็นฝ่ายชนะความ • ขนุ แผนทาใหพ้ ระพนั วษากริ้ว จึงมีรับสง่ั ใหล้ งอาญาจาคุกขนุ แผน • ส่วนนางวนั ทองตอ้ งจาใจอยกู่ บั ขนุ ชา้ งและไดค้ ลอดบุตรท่ีบา้ นขนุ ชา้ ง ใหช้ ื่อ วา่ “พลายงาม” ขนุ ชา้ งรู้วา่ ไม่ใช่บุตรของตนจึงวางอุบายฆ่า

๔ เร่ืองย่อ (ต่อ) • นางวนั ทองทราบเรื่อง จึงไปช่วยพลายงามไดท้ นั แลว้ ใหพ้ ลายงามเดินทางไป อยกู่ บั ยา่ ทองประศรีที่กาญจนบุรี ไดเ้ รียนวชิ าอาคมต่างๆ • เม่ือเติบใหญข่ ้ึนจมื่นศรีพาเขา้ ไปถวายตวั เป็นมหาดเลก็ • พระพนั วษากริ้วเจา้ เมืองเชียงใหม่ เป็นเหตุใหพ้ ลายงามมีโอกาสกราบทูลอาสา และกราบทูลขอขนุ แผนใหไ้ ปทพั ดว้ ย ขนุ แผนจึงพน้ โทษ • ขณะรอฤกษเ์ คลื่อนทพั นางแกว้ กิริยากค็ ลอดบุตร นางทองประศรีจึงใหช้ ื่อ หลานวา่ “พลายชุมพล” • พลายงามไดช้ ยั ชนะ ไดร้ ับพระราชทานความดีความชอบเป็นจม่ืนไวยวรนาถ และแต่งงานกบั นางสร้อยฟ้าและนางศรีมาลา • ขนุ แผนไดร้ ับพระราชทานบรรดาศกั ด์ิเป็นพระสุรินทรฦาไชยมไหสุริยภกั ด์ิ

๔ เร่ืองย่อ (ต่อ) • จม่ืนไวยฯ ไดล้ อบข้ึนเรือนขนุ ชา้ งพานางวนั ทองมาอยทู่ ่ีบา้ น ขนุ ชา้ งจึงถวายฎีกา • พระพนั วษารับสง่ั ใหน้ างวนั ทองเลือกวา่ ตอ้ งการจะอยกู่ บั ใคร นางวนั ทอง กราบทูลเป็นกลางวา่ แลว้ แต่พระพนั วษาจะทรงตดั สิน • พระพนั วษากริ้วจึงรับสงั่ ใหป้ ระหารนางวนั ทอง • ขนุ แผนพานางแกว้ กิริยาและนางลาวทองไปอยเู่ มืองกาญจนบุรี นางทองประ ศรีกบั พลายชุมพลอยกู่ บั จมื่นไวยฯ • นางสร้อยฟ้าไดใ้ หเ้ ถรขวาดทาเสน่ห์ใหจ้ มื่นไวยฯ หลงรัก ขนุ แผนและพลาย ชุมพลช่วยแกเ้ สน่ห์ได้ • นางสร้อยฟ้าแพถ้ ูกเนรเทศไปเชียงใหม่และไดค้ ลอดบุตรต้งั ช่ือวา่ “พลายยง” • นางศรีมาลาคลอดบุตรเช่นกนั ต้งั ชื่อวา่ “พลายเพชร” • พลายชุมพลอาสาปราบจระเขเ้ ถรขวาดได้ พระพนั วษาจึงพระราชทาน บรรดาศกั ด์ิเป็นหลวงนายฤทธ์ิ

๕ บทวเิ คราะห์ ๑. คุณค่าด้านเนื้อหา รูปแบบ • ใชค้ าประพนั ธ์ประเภทกลอนเสภา ซ่ึงมีลกั ษณะเหมือนกลอนสุภาพ • กลอนเสภาอาจจะมีบางวรรคที่มีจานวนคาไม่เท่ากนั ข้ึนอยกู่ บั เน้ือความหรือกระบวนกลอนและจงั หวะในการขบั เสภา • กลอนเสภาน้ีเหมาะท่ีจะใชใ้ นการเล่าเร่ืองและขบั เป็นทานองลานา คือ การขบั เสภานนั่ เอง

๕ บทวเิ คราะห์ (ต่อ) ๑. คุณค่าด้านเนื้อหา องค์ประกอบของเรื่อง (ตัวละคร - ขุนช้าง) • มีรูปร่างและหนา้ ตาไม่น่าพงึ ใจแก่ผพู้ บเห็น จิตใจยงั โหดร้าย คบั แคบ • ส่ิงที่ทาใหข้ นุ ชา้ งมีดีอยบู่ า้ งคือ ความรักเดียวใจเดียวที่มีใหน้ างวนั ทอง แต่ความรักของขนุ ชา้ งเป็นความรักที่เห็นแก่ตวั คิดเอาแต่ได้

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง