เมื่อวันคืนล่วงเลยผ่านไป อายุของเราก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนี้ก็ชั่งสวนทางกับสุขภาพร่างกายที่ค่อย ๆ ถดถอยและเสื่อมโทรมลงทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ดีเหมือนเช่นเมื่อก่อนหรือจะเป็นเรื่องของผิวพรรณที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ร่องตื่น หรือผิวหนังไม่กระชับเต่งตึง นอกจากอายุจะเป็นปัจจัยทำให้เกิดริ้วรอยได้แล้วนั้น ก็อย่าลืมนะคะว่าปัจจัยภายนอกอย่างเช่น แสงแดด, ฝุ่น, ควัน, มลภาวะ, รูปแบบการใช้ชีวิตเอง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวการของริ้วรอยบนใบหน้าด้วยเช่นกัน
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยากนะคะที่เราจะหลีกเลี่ยงได้ เพราะคนเราไม่มีใครสามารถโกงอายุได้ทั้งนั้น เอาเป็นว่าแทนที่จะต้องมานั่งเครียดกับเรื่องพวกนี้เราลองมาหาวิธีรับมือกับเรื่องริ้วรอยบนใบหน้ากันดีกว่านะคะ สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ก็ไม่ยากเลยค่ะ นอกจากคุณจะปรับเปลี่ยนให้ตัวเองเป็นคนคิดบวก ไม่เครียด และพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว คุณก็ต้องมีตัวช่วยดี ๆ อย่างผลิตภัณฑ์ช่วยลดเลือนริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็น อายครีม, เซรั่มคอลลาเจน, เซรั่มเรตินอล หรือเซรั่มเปปไทด์ที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มเต่งตึงค่ะ
ในวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งตัวช่วยที่เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมมาก ๆ ในเรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย ที่ทั้งยังอ่อนโยนและทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ได้อย่างเห็นผล ซึ่งตัวช่วยที่จะมาทำหน้าที่เป็นฮีโร่สยบปัญหาผิวที่มากวนใจคุณสาว ๆ นั่นก็คือ ‘ครีมรกแกะ’ นั่นเองค่ะ โดยในวันนี้เราจะมาดูกันค่ะว่าครีมรกแกะนั้นแท้จริงแล้วคือครีมอะไรกันแน่? แล้วมันทำมาจากรกแกะจริงหรือไม่? มีประโยชน์อะไรบ้าง? แล้วมีครีมรกแกะจากแบรนด์ไหนบ้างที่น่าสนใจ? วันนี้เราก็ได้ทำการรวบรวมมาให้คุณสาว ๆ แล้วค่ะ มาค่ะมาเริ่มดูกันเลย
ครีมรกแกะ คืออะไร ? ()
ครีมรกแกะนั้นเป็นครีมที่สกัดจากรก ซึ่งที่ว่านี้ก็คือรกที่ทำหน้าที่เป็นอวัยวะชั่วคราวสำหรับการพัฒนาขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ในสัตว์เลี้ยงลูกเพศเมีย โดยรกจะทำหน้าที่ในการส่งสารอาหารและออกซิเจนไปให้กับตัวอ่อนในครรภ์ ดังนั้นแล้วรกจึงอุดมไปด้วยสารสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกโปรตีนชนิดพิเศษที่มีประโยชน์กับผิว มีผลทำให้ผิวสวยใสดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
ในรกแกะยังมีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอย ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ลดความหย่อนคล้อยของผิว ลดการเกิดกระและรอยต่าง ๆ บนใบหน้า นอกจากนี้รกแกะก็ยังสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยในการรักษาบาดแผลบางประเภท และยังอาจใช้เพื่อทำให้ผิวหนังเรียบขึ้น ซึ่งจะช่วยลดรอยแผลเป็นได้อีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลค่ะว่าทำไมรกถึงเป็นที่นิยมในการนำมาสกัดเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าอย่างเช่น มาร์สหน้า, ครีมบำรุงผิว, เซรั่ม รวมถึงยังมีการสกัดเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและบางส่วนก็มีการนำไปผสมกับผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมด้วยเช่นเดียวกันค่ะ
แน่นอนค่ะว่านอกจากรกแกะแล้วนั้นก็ยังมีการใช้สกัดมาจากรกของหมูหรือรกวัว อีกด้วย นอกจากนี้ก็มีรกจากพืชด้วยเช่นกัน สำหรับรกพืชหรือที่เรียกว่ารกทางพฤกษศาสตร์เป็นรกที่ได้จากพืช แต่เนื่องจากพืชไม่ได้มีการให้กำเนิดเหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม รกพืชจึงมีลักษณะที่แตกต่างออกไปเล็กน้อยแต่ก็มีจุดประสงค์ที่คล้าย ๆ กัน คือช่วยในเรื่องของการปรนนิบัติผิวนั่นเอง
ครีมรกแกะ แบบไหนตอบโจทย์ของคุณมากที่สุด
- ครีมรกแกะที่มาพร้อมกับวิตามินผิว 7 ชนิด ช่วยบำรุงผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกและครอบคลุมทุกปัญหาผิว ทพร้อมกับช่วยให้ผิวชุ่มชื่น อิ่มฟู :
- ครีมรกแกะผสมคอลลาเจน ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยและช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า มีความอ่อนโยน สามารถทาใต้ตาและส่วนต่าง ๆ ได้ครบในกระปุกเดียว:
- ครีมรกแกะสำหรับผู้มีผิวแห้งกร้านด้วยส่วนผสมสำคัญของวิตามินอี ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย:
- ครีมรกแกะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยเหี่ยวย่น และมีส่วนช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใส:
วิธีเลือก ครีมรกแกะ อย่างไรให้เหมาะกับผิวของเรามากที่สุด
1. ประเภทของผิวหน้า
ผิวบอบบาง แพ้ง่าย
คือคนที่ผิวมีแนวโน้มที่จะเกิดความผิดปกติหรือมีอาการระคายเคืองผิวได้ง่าย โดยอาการส่วนใหญ่มักจะปรากฎในรูปแบบของอาการคัน แสบร้อน ลอกเป็นขุย มีรอยแดง ครีมสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรที่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นเพียงเล็กน้อยหรือไม่ควรมีเลยก็ดีเหมือนกันค่ะ นอกจากนี้ก็มีส่วนผสมอื่น ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงอีกเช่นกันนั่นก็คือ แอลกอฮอล์, น้ำหอม, พราราเบน ค่ะ
ผิวมัน
คือคนที่มีผิวหน้าที่มันดูวาว มีรูขุมขนกว้างมองเห็นได้ชัดเจน โดยคนที่มีผิวหน้ามันควรจะต้องเลือกครีมที่ไม่ทำให้หน้าดูมันเยิ้ม ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน และควรที่จะเป็นครีมที่สามารถซึบซาบได้ดี สามารถดูดซับความมันส่วนเกินและเติมน้ำให้กับผิวคุณได้
ผิวแห้ง
คือผู้ที่ดูแห้ง หยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ผิวมักจะตกสะเก็ดหรือเป็นขุยนั่นก็คือสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาผิวแห้งนั่นเองค่ะ สำหรับครีมที่ควรเลือกใช้นั้นควรจะเป็นครีมที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการล็อกและคืนความชุ่มชื้นให้ผิวในเวลาเดียวกัน
ผิวผสม / T-Zone
คือคนที่มีผิวแห้งและมัน โดยในบริเวณ T-Zone (หน้าผาก, คาง และจมูก) จะค่อนข้างมันและส่วนของแก้มจะเป็นผิวปกติถึงขั้นผิวแห้ง สกินแคร์สำหรับผิวหน้าประเภทนี้ก็คือควรเลือกที่มีเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย และควรให้ความชุ่มชื้นได้ดี
2. ตรวจสอบ สารระคายเคืองและอาการแพ้
อย่าลืมนะคะว่านอกจากส่วนผสมของรกแกะแล้วนั้น ในครีมพวกนี้ก็ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ อีกหลายตัว ซึ่งถ้าหากเป็นไปได้ก็ควรตรวจสอบให้รอบคอบเสียก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของส่วนผสมมากเป็นพิเศษ
สำหรับคำแนะนำของเราก็คือให้คุณเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานที่มีผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะก็จะดีที่สุดค่ะ นอกจากจะเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่ายแล้วก็อย่าลืมตรวจสอบดูให้แน่ใจอีกครั้งด้วยว่าไม่มีส่วนผสมของพาราเบน, สารกันบูด หรือน้ำหอมค่ะ
แต่อย่างไรก็ดีก่อนที่จะทาลงบนผิวหน้าของคุณนั้น เราอยากให้ลองทดสอบเรื่องของการแพ้ให้ดีเสียก่อน โดยให้คุณลองนำทาครีมใต้ท้องแขนหรือข้อพับ จากนั้นก็ทาครีมตามปกติแล้วให้สังเกตดูว่าผิวมีผิดปกติหรือมีอาการแพ้ คัน ระคายเคือง หรือมีผื่นแดงหรือไม่ โดยอาการแพ้ครีมมักจะไม่ได้เห็นผลทันทีทันใดนะคะ แนะนำว่าให้คุณทาครีมตามปกติและรอประมาณ 12 ชม.ถึง 3 วันค่ะ ซึ่งถ้าหากว่าไม่มีความผิดปกติ ๆ นั่นหมายว่าคุณสามารถใช้ได้ค่ะ แต่ถ้าหากว่ามีการเปลี่ยงแปลงที่ผิดปกติควรหยุดใช้ครีมนั้น ๆ ทันที
3. ส่วนผสมสำคัญอื่น ๆ
เดี๋ยวนี้ครีมรกแกะเองก็ไม่ได้จะมีส่วนผสมของรกแกะอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีส่วนผสมสำคัญอื่น ๆ ที่ผสานคุณค่าในการช่วยบำรุงผิวให้ล้ำลึกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วิตามินอี, น้ำแตงกวา, เมล็ดองุ่น และอื่น ๆ ซึ่งแต่ละส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามานั้นต่างก็มีสรรพคุณที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็มีส่วนสำคัญในการปกป้องและแก้ปัญหาบางอย่างด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งถ้าหากใครที่ต้องการการดูแลที่มากยิ่งขึ้นก็เลือกครีมรกแกะที่มีส่วนผสมอื่น ๆ ได้ ซึ่งนี่ก็ถือเป็นข้อดีมาก ๆ เลยนะคะเพราะนอกจากประสิทธิภาพการทำงานของตัวรกแกะเองแล้ว ก็ยังมีส่วนผสมตัวอื่น ๆ ด้วยซึ่งนี่ก็เรียกว่าเป็นการจับมัดรวมไว้ในหนึ่งเลยค่ะ
4. การใช้งาน
ครีมกันแดดหลาย ๆ แบรนด์ที่เราเลือกมาวันนี้นั้นสามารถใช้ได้ทั้งเป็นครีมทากลางวันและไนท์ครีมสำหรับกลางคืน แถมบางตัวยังแอดวานซ์ถึงขั้นใช้เป็นครีมทาตาใต้ตาได้เลยด้วย ซึ่งแน่นอนค่ะว่าข้อดีในส่วนนี้คือคุณจะได้ไม่ต้องยุ่งยากในการใช้งาน เพราะไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในช่วงไหนก็สามารถใช้งานได้ทันทีสะดวกมาก ๆ เรียกได้ว่าครบจบในกระปุกเดียวเลยละค่ะ และที่สำคัญอีกอย่างนั่นก็คือช่วยประหยัดเงินของคุณด้วยค่ะ
Careline ครีมรกแกะ สูตรผสมสารสกัดจากเมล็ดองุ่นและวิตามินอี
ราคา 229 บาท*
ครีมรกแกะ Careline ฝาสีม่วงเป็นตัวที่โดดเด่นในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ พร้อมกับช่วยคืนความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าทำให้ผิวแลดูสดใสและกระจ่างใสกว่าที่เคย นอกจากนี้ก็ยังช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสด้วยเช่นเดียวกันค่ะ ส่วนผสมของครีมนั้นก็ประกอบด้วยลาโนลินบริสุทธิ์ที่คัดสรรพิเศษจากประเทศออสเตรเลีย, สควาลีน และวิตามินอีจากธรรมชาติเข้มข้น เนื้อครีมจะค่อนข้างที่จะบางเบามากและค่อนข้างที่จะเบากว่าตัว Careline ฝาสีส้มด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งก็แน่นอนว่าเนื้อครีมในลักษณะนี้นั้นเกลี่ยง่ายและซึมไว ซึ่งเรื่องของความเยิ้มนั่นก็ตัดไปได้เลย ส่วนกลิ่นก็จะค่อนข้างหอมราวกับครีมทั่ว ๆ คือไม่มีกลิ่นแปลก ๆ จากรกแกะเลยละค่ะ
ข้อดี
- โดดเด่นในเรื่องการต้านริ้วรอย ให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวนุ่ม
- เนื้อครีมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
- บางเบา ซึมค่อนข้างเร็ว
- สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ครีมรกแกะ Plarry Placenta Anti Wrinkle Cream
ราคา 237 บาท*
ครีมรกแกะ Plarry จากประเทศออสเตรเลียเป็นครีมที่มีส่วนผสมสำคัญ ๆ จากคอลลาเจน, สควาลีน,วิตามินอี และอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อผิวหน้าอีกมากมาย โดยคุณสมบัติหลัก ๆ ของครีมรกแกะตัวนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยในเรื่องของริ้วรอยอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีส่วนที่ช่วยบำรุงเพิ่มความกระจ่างใส, ช่วยปรับสีผิวให้แลดูสม่ำเสมอ , ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ แล้วอีกอย่างตัวนี้ก็ยังเป็นเกราะที่ช่วยทำให้ผิวสวย แข็งแรงและแลดูอ่อนกว่าวัยด้วยเช่นกันค่ะ นอกจากนี้ใครที่มีผิวที่แห้งก็สัมผัสได้ว่าหลังทาผิวจะชุ่มชื่นมากขึ้น ตัวเนื้อครีมถึงแม้อาจจะค่อนข้างหนาอยู่บ้างแต่ในขณะเดียวกันก็ค่อนข้างที่จะซึมเข้าผิวหน้าได้ดี ไม่เหนอะหนะมากจนเกินไปค่ะ
ข้อดี
- ช่วยเรื่องของริ้วรอยและความหมองคล้ำได้ดี
- เนื้อครีมค่อนข้างที่จะเนียนนุ่ม ไม่ทิ้งคราบขาว
- เนื้อครีมหอมละมุน
ข้อควรพิจารณา
- ใช้สำหรับทาตอนกลางวันเท่านั้น
- เนื้อครีมค่อนข้างข้น
- ไม่มีส่วนผสมของสารกันแดด
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
Careline ครีมรกแกะ สูตรผสมคอลลาเจนและวิตามินอี
ราคา 260 บาท*
ต่อมาก็จะเป็นครีมรกแกะจาก Careline อีกเช่นกันค่ะ แต่สำหรับตัวนี้ก็เป็นตัวฝาส้มและถือเป็นอีกหนึ่งตัวที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับคุณสาว ๆ หรือคุณหนุ่ม ๆ ที่ประสบกับปัญหาริ้วรอยแห่งวัยที่ยากที่จะแก้ไข เนื่องจากในตัวครีมนอกจากจะมีส่วนผสมของรกแกะคุณภาพเยี่ยมแล้วนั้น ก็ยังจะมีส่วนผสมของวิตามินอีธรรมชาติ, ลาโนลินบริสุทธิ์จากออสเตรเลีย, สควาลีน และพระเอกของเราในงานนี้ก็คือคอลลาเจนนั่นเองค่ะ เนื้อครีมจะมีความหนาแต่ก็ไม่ต้องกังวลเพราะเนื้อครีมค่อนข้างที่จะซึมไว้ เนียนนุ่ม และก็ไม่ได้เหนียวมากด้วยค่ะ ซึ่งถ้าหากใช้ไปอย่างต่อเนื่องทางแบรนด์ก็เคลมเลยว่าครีมตัวนี้สามารถลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยได้อย่างเห็นผล ทั้งผิวยังดูอิ่มฟูเพอร์เฟกต์มากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
ข้อดี
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก
- เนื้อครีมไม่เหนียว เกลี่ยง่าย
- มีกลิ่นที่หอมอ่อน ๆ
- แห้งไว้ ไม่ทำให้หน้าเยิ้ม
- สามารถทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ข้อควรพิจารณา
- เนื้อครีมหนากว่าตัว Careline ฝาสีม่วงเล็กน้อย
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
Rebirth ครีมรกแกะสกัดบริสุทธิ์ผสมวิตามินอี
ราคา 285 บาท*
ถ้าหากว่าใครที่มีปัญหาผิวแห้งมาก ๆ ทั้งผิวหน้าและผิวกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของข้อศอกหรือหัวเข่า ครีมกระปุกนี้คือตัวช่วยที่ดีที่สุดสำหรับคุณเลยค่ะ นอกจากเรื่องราคาที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับปริมาณที่ได้รับแล้วนั้น คุณสมบัติในการช่วยแก้ปัญหาผิวก็ดูจะตรงโจทย์ของคุณเอามาก ๆ เนื่องจากมีส่วนผสมของวิตามินอีที่ช่วยสมานเซลล์ผิวที่แห้ง ช่วยบรรเทาอาการปวดตามรอยแตก และช่วยดูแลเรื่องของรอยแตกลายโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ก็แน่นอนว่ารกแกะนั้นมีส่วนช่วยในเรื่องริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น และช่วยให้ผิวแลดูกระชับมากยิ่งขึ้น โดยกระบวนการในการเข้าไปฟื้นฟูจะค่อนข้างที่จะอ่อนโยนและเป็นไปตามธรรมชาติค่อยเป็นค่อยไป แต่รับรองว่าใช้ต่อเนื่องก็จะเห็นผลแน่นอนค่ะ สำหรับเนื้อครีมในตัวนี้ทางแบรนด์ก็ได้ผลิตออกมาให้มีขนาดโมเลกุลที่ลดลงทำให้สามารถซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้เร็วและเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ
ข้อดี
- ช่วยลดริ้วรอยและช่วยแก้ปัญหาเรื่องของผิวแห้ง
- สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
- เนื้อครีมซึมไว
- กลิ่นค่อนข้างอ่อนมาก ๆ
ข้อควรพิจารณา
- เป็นครีมสำหรับทากลางวันแต่ไม่มีส่วนผสมของสารกันแดด
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ครีมรกแกะ Lavender Placenta
ราคา 530 บาท*
นี่ก็เป็นครีมรกแกะอีกหนึ่งตัวค่ะที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟู แก้ปัญหา รวมถึงให้การบำรุงผิวที่ครอบคลุมทุกปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องของริ้วรอย ความหมองคล้ำ ความไม่สม่ำเสมอของสีผิวบนใบหน้า ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับฝ้า กระ และจุดด่างดำ รวมไปถึงเรื่องของผิวแห้งกร้านด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งต้องบอกเลยว่าตัวเดียวถือว่าตอบโจทย์ได้หลายประการมาก ๆ เพราะไม่ใช่แค่เพียงส่วนผสมของรกแกะเท่านั้น แต่ตัวนี้ยังมีส่วนผสมของคอลลาเจน, วิตามินอี และลาโนลินบริสุทธิ์จากออสเตรเลียซึ่งเป็นการแท็กทีมรวมพลังสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้นค่ะ กลิ่นของตัวครีมก็ค่อนข้างที่จะเป็นเอกลักษณ์ ด้วยกลิ่นที่หอมอ่อน ๆ ไม่ฉุน ส่วนตัวของครีมก็ถือว่าเป็นเนื้อกลาง ๆ ไม่เบาหรือไม่หนักเกินไป แต่ทาไปแล้วไม่ได้ทำให้รู้เหนอะผิวแล้วก็ไม่ดูเยิ้ม ซึ่งนอกจากจะใช้กับผิวหน้าได้แล้วตัวนี้ก็ยังสามารถทำไปใช้งานกับผิวกายได้ด้วยค่ะ
ข้อดี
- ช่วยเรื่องริ้วรอย ผ้า กระ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ และอื่น ๆ
- สามารถทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
- สามารถทารอบดวงตาได้
- สามารถนำไปทาแก้ท้องหรือน่องลายได้
ดูได้ที่ Shopee
ครีมรกแกะ Catherine สูตรผสมคอลลาเจนและวิตามินอี
ราคา 650 บาท*
ครีมรกแกะ Catherine ก็เป็นอีกหนึ่งตัวค่ะที่น่าจะเป็นตัวช่วยของคุณสาว ๆ ได้ดีโดยเฉพาะคนที่มีปัญหาริ้วรอยแห่งวัย เนื่องจากโครงสร้างของผิวหน้าของคนเรานั้นก็เริ่มอ่อนแอลง ส่วนทางกับอายุที่เพิ่มมากขึ้นนั้นเองค่ะ ซึ่งในครีมตัวนี้มีส่วนผสมของคอลลาเจนที่ช่วยในเรื่องการสร้างความยืดหยุ่นใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวกลับมาดูเต่งตึง และทำให้ริ้วรอยก็แลดูจางลงได้ค่ะ นอกจากส่วนผสมของคอลลาเจนแล้วก็ยังจะมีลาโนลินบริสุทธิ์จากออสเตรเลีย รกแกะ น้ำมันสกัดบริสุทธิ์จากตับปลาฉลามในทะเลลึก และวิตามินอีจากธรรมชาติ โดยความพิเศษนั้นก็คือตัวเนื้อครีมที่มีความบางเบา ไม่หนักหน้าทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันกลางคืน และด้วยส่วนผสมที่เข้มข้นแต่อ่อนโยนนี้เองค่ะทำให้ครีมตัวนี้ยังสามารถใช้เป็นครีมทาใต้ตาได้ด้วยเช่นกัน
ข้อดี
- สามารถทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
- นำมาทาเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวใต้ตาได้
- มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้า
- กลิ่นหอมมีเอกลักษณ์
ข้อควรพิจารณา
- เนื้อครีมอาจจะหนาเล็กน้อย
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ครีมรกแกะ AN Nice’Placenta Collagen
ราคา 679 บาท*
ครีมรกแกะ AN Nice’Placenta Collagen เรียกได้ว่าเป็นครีมที่มีคุณสมบัติแบบออลอินวันเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะมากกว่าการช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยแล้วนั้น ตัวนี้ก็ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ แลชุ่มชื้นมีชีวิตชีวา และที่พิเศษไปกว่าตัวอื่น ๆ นั่นก็คือการปรับสีผิวให้แลดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังช่วยเรื่องของรอยดำและรอบแดงด้วยเช่นเดียวกันค่ะ โดยส่วนผสมสำคัญอย่างคอลลาเจนั้นมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งถือว่าเป็นคีย์สำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยแห่งวัยเลยค่ะ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้หากว่าใช้งานอย่างต่อเนื่องนั่นก็คือผิวที่ดูอ่อนเยาว์และเฟิร์มมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
ข้อดี
- สามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
- ช่วยแก้ปัญหาผิวและช่วยเรื่องของความขาว
- ส่วนผสมอ่อนโยน ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายก็สามารถเลือกใช้ได้
ข้อควรพิจารณา
- เนื้อครีมค่อนข้างหนักและหนืดเล็กน้อย
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
Joliena Plus ครีมรกแกะผสมน้ำแตงกวา
ราคา 819 บาท*
ตัวสุดท้ายก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวที่ถึงแม้จะมีราคาที่สูงก็จริง แต่ก็มีคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่จัดเต็ม ๆ เอามาก ๆ Joliena Plus เป็นครีมรกแกะที่มีส่วนผสมจากน้ำแตงกวา, ผงไข่มุก, Q10, เมล็ดองุ่น, วิตามินอี และอื่น ๆ ซึ่งนอกจากโดดเด่นในเรื่องของการช่วยบำรุงทำให้ผิวหน้าดูเปล่งปลั่งเต่งตึงอ่อนกว่าวัยแล้ว ตัวนี้ก็ยังมีส่วนช่วยทำหน้าที่เป็นเหมือนมอยส์เจอไรเซอร์มอบความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งในส่วนนี้คุณจะสัมผัสได้ทันทีหลังทาว่าผิวหน้านั้นเด่ง นุ่มฟู และดูชุ่มชื่น ผิวไม่แห้งกร้าน ทำให้ผิวกลับมาดูสดใสแลดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดเลือดจุดด่างดำหรือรอยแดงจากสิวให้ดูจากลงด้วยเช่นกัน และส่วนที่ทำออกมาได้น่าประทับใจอีกอย่างนั่นก็คือเนื้อครีมที่ทางแบรนด์เคลมมาว่ามีโมเลกุลขนาดเล็กทำให้ซึมไว ไม่เยิ้ม ซึ่งในเรื่องนี้จากหลายเสียงก็พิสูจน์แล้วว่าทำได้ดีจริงค่ะ เกลี่ยง่าย บางเบา และหลังจากทาก็ไม่รู้สึกเหนอะหนะผิวหน้าเลยแม้แต่น้อย
ข้อดี
- มีส่วนผสมสำคัญอื่น ๆ นอกจากรกแกะที่หลากหลายและมีประโยชน์ต่อผิว
- ให้การบำรุงที่ค่อนข้างครอบคลุมทุกปัญหาผิว
- เนื้อครีมบางเบา ซึมไว
- มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยผ่อนคลาย
- สามารถทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
- ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ครีมรกแกะ ยี่ห้อไหนใช้ดี ช่วยลดเลือนริ้วรอย ผิวสวยใสดูอ่อนเยาว์ ปี 2022
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้าคุณสมบัติดูเพิ่มเติม- ปริมาณ : 100 ml.
- สูตร : สารสกัดจากเมล็ดองุ่นและวิตามินอี
- เหมาะสำหรับ : ทุกสภาพผิว
- แหล่งที่มา : ออสเตรเลีย
- ปริมาณ : 100 ml.
- สูตร : ผสมคอลลาเจน, สควาลีน และวิตามินอี
- เหมาะสำหรับ : ทุกสภาพผิว
- แหล่งที่มา : ออสเตรเลีย
- ปริมาณ : 100 ml.
- สูตร : ผสมคอลลาเจนและวิตามินอี
- เหมาะสำหรับ : ผิวที่มีริ้วรอยร่องลึก
- แหล่งที่มา : ออสเตรเลีย
- ปริมาณ : 100 ml.
- สูตร : ผสมวิตามินอีและลาโนลิน
- เหมาะสำหรับ : ผิวแห้งและผิวผสม
- แหล่งที่มา : ออสเตรเลีย
- ปริมาณ: 100 ml.
- สูตร: ผสมคอลลาเจนและวิตามินอี
- เหมาะสำหรับ : ทุกสภาพผิว
- แหล่งที่มา : ออสเตรเลีย
- ปริมาณ : 100 ml
- สูตร : ผสมคอลลาเจนและวิตามินอี
- เหมาะสำหรับ: ทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวที่มีริ้วรอยแห่งวัยและผิวแพ้ง่าย
- แหล่งที่มา : ออสเตรเลีย
- ปริมาณ : 100 ml.
- สูตร : ผสมคอลลาเจน
- เหมาะสำหรับ : ทุกสภาพผิวแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย
- แหล่งที่มา : ออสเตรเลีย
- ปริมาณ : 50 ml.
- สูตร : ผสมน้ำแตงกวา
- เหมาะสำหรับ : ทุกสภาพผิว
- แหล่งที่มา : ออสเตรเลีย
7 วิธีช่วยลดริ้วรอย หากไม่อยากแก่ก่อนวัย
1. ปกป้องผิวจากแสงแดด
ไม่ว่าคุณจะใช้เวลาทั้งวันที่ชายหาดหรือทำธุระนอกบ้าน การปกป้องผิวจากแสงแดดถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ค่ะ แนะนำว่าคุณควรจะต้องพกพาร่มติดตัวอยู่เสมอ, รู้จักปกป้องผิวด้วยเสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด เช่น เสื้อเชิ้ตแขนยาว, กางเกงขายาว, หมวกปีกกว้างหรือหมวกปีกรอบ และอย่าลืมแว่นกันแดดด้วยนะคะ และอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 (หรือสูงกว่า) และถ้าหากสามารถกันน้ำได้ก็จะดีมากเลยค่ะ
2. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่าบุหรี่คืออีกหนึ่งสาเหตุของริ้วรอย โดยสารพิษจากบุหรี่จะเข้าไปทำลายการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ส่งผลทำให้เกิดริ้วรอยและตามมาด้วยปัญหาผิวหมองคล้ำด้วยค่ะ
3. หลีกเลี่ยงการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ
การเคลื่อนไหวหรือการแสดงสีหน้า เช่น การหยีตาหรือยิ้มอาจนำไปสู่ริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นได้ค่ะ เนื่องจากทุกครั้งที่คุณใช้กล้ามเนื้อใบหน้าก็จะเกิดร่องใต้ผิวหนัง และเมื่ออายุมากขึ้นผิวก็จะสูญเสียความยืดหยุ่นและไม่สามารถเด้งกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมได้อีกต่อไป
4. กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
จากผลการศึกษาบางชิ้นนั้นได้ชี้ให้เห็นว่าการรับประทานผักและผลไม้สดในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยป้องกันปัญหาเรื่องของริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ค่ะ นอกจากนี้ก็ผลวิจัยยังชี้ให้เห็นอีกว่าอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงหรือคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีนั้นก็เป็นสาเหตุอีกหนึ่งอย่างเช่นกันค่ะ
5. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์เป็นตัวที่ดึงน้ำออกจากร่างกาย ส่งผลให้ระดับน้ำในร่างกายลดลงอย่างมาก จึงทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ รวมไปถึงชั้นผิวด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งจากสาเหตุดังกล่าวก็จะส่งผลทำให้เกิดเป็นริ้วรอย ความแห้งกร้านและผิวหย่อนคล้อยได้ค่ะ
6. ออกกำลังกายเป็นประจำ
ผลการศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าการออกกำลังกายในระดับปานกลางสามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันได้ ซึ่งในทำนองเดียวกันเพื่อร่างกายและระบบภายในดีขึ้นก็มีส่วนทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วยค่ะ
7. ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
การขัดถูผิวหน้าแรง ๆ เพื่อหวังให้ผิวสะอาดหมดจดนั้นถือเป็นความคิดที่ผิดค่ะเพราะจริง ๆ แล้วการขัดหรือล้างหน้าแรง ๆ สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ค่ะ ซึ่งการระคายเคืองผิวนี้เองจะไปเป็นตัวเร่งให้เกิดริ้วรอย แนะนำว่าให้คุณล้างหน้าด้วยความอ่อนโยน ค่อย ๆ ถูอย่าเบามือก็จะสามารถช่วยขจัดสิ่งสกปรกมลภาวะและคราบเครื่องสำอางได้โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวเช่นกันค่ะ
บทสรุป
อย่างไรก็ดีครีมรกแกะที่เราได้นำเสนอไปในวันนี้ถือว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการช่วยจัดการกับปัญหาของริ้วรอยแห่งวัย และปัญหาผิวอื่น ๆ เท่านั้นนะคะ จริง ๆ แล้วนอกจากการทาครีมรกแกะแล้วนั้นคุณก็ต้องนำ 7 วิธีที่เราได้นำเสนอไปมาปรับใช้ด้วยเช่นกัน ส่วนผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าจะเห็นผลช้าหรือเร็ว หรือมีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหนในส่วนก็ต้องขึ้นอยู่กับผิวหน้าของแต่ละคนด้วยค่ะ แล้วอีกอย่างที่คุณสาว ๆ หรือคุณหนุ่ม ๆ เองจะต้องทราบนั่นก็คือการแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอยแห่งวัยนั้นอาจจะต้องใช้เวลาที่นานพอสมควร ดังนั้นเพื่อให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นก็จำเป็นต้องทาครีมต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันด้วยนะคะ