หลังจากรัฐบาลมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่2019 หรือ "โควิด-19" ออกมาหลายมาตรการครอบคุลมประชาชนทุกกลุ่มอย่างในกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าก็มีมาตรการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าที่เปิดให้ลงทะเยียนละเริ่มจ่ายเงินคืนแล้ว
ล่าสุดก็คลอด "มาตรการช่วยเหลือสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้า" ออกมาอีกก็คือ 1.มาตรการค่าไฟฟ้าฟรีกับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน5 แอมป์จากเดิม50 หน่วยเป็น90 หน่วย 2.ขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน5 แอมป์ เป็นระยะเวลาไม่เกิน6 เดือน มีสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้ไฟฟ้าหลายคนเกิดคำถามว่าบ้านของตัวเองติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าขนาดกี่แอมป์? สามารถตรวจสอบได้จากตรงไหนบ้าง"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์"
ได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเรื่องมิเตอร์ไฟฟ้าไว้ดังนี้ ขอเริ่มที่ประเด็น "การดูขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าว่ามีกี่แอมป์" ก่อนอื่นเราคงต้องรู้ก่อนว่ามิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านเราคืออันไหนบนเสาไฟฟ้าด้วยการหยิบบิลค่าไฟฟ้าที่ได้มาทุกๆเดือนจะมีช่องหนึ่งที่เขียนว่า "รหัสเครื่องวัด"(รูปด้านล่าง) เพื่อนำรหัสนี้ไปหามิเตอร์ของบ้านตนเองก่อน
หลังจากนั้นเมื่อเจอมิเตอร์แล้วให้สังเกตตัวเลขในในช่องบนมิเตอร์เช่น5(15) A หมายความว่าเป็นมิเตอร์ขนาด5 แอมป์สามารถใช้ไฟได้มากถึง15 แอมป์ซึ่งก็จะตรงกับมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีสำหรับประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน5 แอมป์นั่นเอง
158634397210
แต่ความจริงแล้วมิเตอร์มีหลายขนาด(ตามตารางด้านล่าง) และผู้ใช้ไฟฟ้าต้องเลือกให้เหมาะกับบ้านและการใช้งาน
โดย ขนาดมิเตอร์ที่เล็กที่สุดที่เมื่อเวลาไปขอใช้บริการไฟฟ้ากับผู้ให้บริการไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) หรือการไฟฟ้านครหลวง(กปน.) นั้นมักจะได้ขนาด5(15) มาเบื้องต้น
แต่หากคำนวณถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะมีมากขึ้นในอนาคตก็สามารถติดต่อขอเปลี่ยนขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าได้แต่จะต้องเสียค่าเงินประกันและค่าบริการขอใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วยรวมถึงจะต้องยอมรับว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนนั้นจะแปรผันไปตามขนาดปริมาณไฟฟ้าที่ขอใช้เช่นกัน
ทั้งนี้หากเลือกมิเตอร์ที่มีขนาดเล็กเกินไปจะทำให้เครื่องไฟฟ้าไม่สามารถทำงานได้แต่หากเลือกขนาดใหญ่เกินความเหมาะสมก็จะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
ยกตัวอย่างเช่นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอโคกสำโรงจังหวัดลพบุรีได้อธิบายว่าทำไมมิเตอร์5 แอมป์ถึงเปิดแอร์2 เครื่องพร้อมกันไม่ได้ ไว้ว่า
เนื่องจากมิเตอร์มีขนาดเล็กเกินไปและอาจทำให้ไฟฟ้าดับทั้งบ้านหรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ปกติมิเตอร์ไฟที่การไฟฟ้ามาติดตั้งให้จะกำหนดขนาดการใช้กระแสไฟประมาณ5 แอมป์และจะเผื่อการใช้งานไว้อีก3 เท่าแต่เครื่องปรับอากาศที่ซื้อมาเพิ่มเติมภายหลังใช้กระแสไฟฟ้าเกิน15 แอมป์ที่เผื่อไว้
ดังนั้นถ้าจะเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศ2 เครื่องพร้อมกันให้ติดต่อที่การไฟฟ้าเพื่อขอเปลี่ยนมอเตอร์ไฟเป็นขนาด15 แอมป์จะปลอดภัยกว่าแต่เจ้าของบ้านต้องเสียค่าใช้จ่ายเองในส่วนนี้
- แล้วมิเตอร์ขนาด5 แอมป์จะสามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอะไรได้บ้าง?
เราสามารถคำนวณเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองเพื่อคำนวณกระแสไฟฟ้าโดยนำกำลังไฟฟ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนั้น(วัตต์) ซึ่งสามารถดูได้จากฉลากบนเครื่องใช้ไฟฟ้าหารด้วยความต่างศักย์(โวลต์) และคูณด้วยจำนวนอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนั้นและนำกระไฟฟ้าทั้งหมดมาบวกรวมกันและคูณด้วย1.25 เพื่อเผื่อปริมาณกระแสไฟฟ้าที่อาจจะใช้มากขึ้นในอนาคตด้วย
ยกตัวอย่างเช่นในบ้านมีพัดลมตั้งพื้น75 วัตต์จำนวน2 ตัวคิดเป็นกระแสไฟฟ้า75/220x2 เท่ากับ0.68 แอมป์รวมถึงมีหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์36 วัตต์จำนวน6 หลอดคิดเป็นกระแสไฟฟ้า36/220x6 เท่ากับ0.98 แอมป์, แอร์1,000 วัตต์คิดเป็นกระแสไฟฟ้า1,000/220 เท่ากับ4.54 แอมป์, หม้อหุงข้าว500 วัตต์คิดเป็นกระแสไฟฟ้า500/220 เท่ากับ2.27 แอมป์, เตารีด430 วัตต์คิดเป็นกระแสไฟฟ้า430/220 เท่ากับ1.95 แอมป์มีโทรทัศน์43 วัตต์คิดเป็นกระแสไฟฟ้า43/220 เท่ากับราว0.2 แอมป์และตู้เย็น70 วัตต์คิดเป็นกระแสไฟฟ้า70/220 เท่ากับ0.32
หากนำกระแสไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดมารวมกันจะได้เท่ากับ10.94 แอมป์แล้วนำมาคูณด้วย1.25 เผื่อปริมาณกระแสไฟฟ้าที่อาจจะใช้มากขึ้นในอนาคตจะได้ประมาณ13.68 แอมป์(ทั้งนี้เป็นการคำนวณเบื้องต้นอย่างคร่าวๆอาจมีการการเปลี่ยนแปลงตามขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า)
แน่นอนว่ายังไม่เกิน15 แอมป์แต่หากในอนาคตมีการเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาอาจต้องเปลี่ยนมิเตอร์ให้เป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วยเพื่อความปลอดภัย
ที่มา: pea, pea(2), tpa, facebook
สำหรับความแตกต่างของค่าไฟ 5แอมป์ และ 15 แอมป์ นั้น มีดังนี้ มิเตอร์ไฟฟ้าส่วนมากที่เห็นใช้กันอยู่ในปัจจุบัน และติดอยู่ตามเสาไฟฟ้าจะเป็น มิเตอร์ขนาด 5 แอมป์ ซึ่งเป็น ขนาดที่เล็กที่สุด
แต่ในอนาคตถ้าเกิดว่ามีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น อาจจะต้องปรับเปลี่ยนมิเตอร์และจ่ายค่าไฟ เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ส่วนมิเตอร์ไฟฟ้า ขนาด15 แอมป์ เท่าที่หลายบ้านใช้ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าประหยัดเงินกว่ามากๆ แถมยังสามารถเปิดเครื่องใช้ฟ้า พร้อมกัน โดยไม่เกิดไฟตก หรือไฟดับได้อีกด้วย แต่ถึงอย่างไรแล้วนั้น มิเตอร์ไฟฟ้าขนาด15 แอมป์ จะรับโหลดได้มากสุดไม่เกิน 45 แอมป์ เท่านั้น มาเข้าเรื่องค่าไฟกันเลย ถ้าเกิดใช้ไฟฟ้าเท่ากัน มิเตอร์ไฟฟ้า 5แอมป์ จานหมุนครบ1200 รอบ เลขจะเลื่อนไปเพียง1 หน่วยนั้น แต่
มิเตอร์ไฟฟ้า 15 แอมป์ จานหมุนครบ400 รอบ ถึงจะเลื่อนไป1 หน่วย เพราะฉะนั้นแม่ว่ามิเตอร์ไฟฟ้า15 แอมป์ จะหมุนช้ากว่า มิเตอร์ไฟฟ้า 5 แอมป์ แต่หมุนรอบเดียวก็เสียค่าไฟ 1 หน่วย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับค่าไฟ แยกออกเป็น3 ประเภท ด้วยกัน นั่นก็คือ บ้านที่ใช้ไฟไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน คิดค่าไฟเริ่มต้นหน่วยละ 2.3488, บ้านที่ใช้ไฟเกิน 150 หน่วยต่อเดือน คิดค่าไฟเริ่มต้นหน่วยละ 3.2484 บาท และ บ้านที่ติดมิเตอร์ไฟฟ้า เป็นแค่ช่วงระยะเวลาที่ต้องการใช้งานเท่านั้น คิดค่าไฟเริ่มต้นหน่วยละ2.6037 บาท
สำหรับค่าไฟทั้งหมด จะถูกเก็บจากการไฟฟ้านครหลวงกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นผู้ที่จ่ายไฟฟ้าให้แต่ละบ้าน รวมถึงผู้ใช้งานอื่นๆผู้เขียน : นาถชนก สารโภค
ช่างไฟดอทคอม
ช่างไฟที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ