กระโปรงสีกรม ใส่กับเสื้อสีอะไร

การเลือกว่าจะใส่เสื้อผ้าสีอะไรให้เข้ากับเสื้อสีเขียวหรือกระโปรงสีน้ำเงินบางครั้งก็กลายเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ อย่างไรก็ตาม มีกฎเกณฑ์บางอย่างที่จะกำหนดว่าสีไหนเข้ากับสีไหน แน่นอนว่า เมื่อคุณรู้กฎเหล่านี้แล้ว คุณจะแหกกฎก็ได้ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีที่คุณจะเรียนรู้สิ่งที่เป็นพื้นฐานไว้ก่อน ไปที่ขั้นตอนที่ 1 เพื่อเริ่มต้นเลือกสีเสื้อผ้าของคุณให้เข้ากัน

  1. 1

    ใช้วงล้อสี. วงล้อสีทุกรูปแบบจะบอกคุณวิธีที่จะเลือกสีต่างๆ เข้าด้วยกันได้ดีที่สุด มีสีบางกลุ่มในวงล้อสีที่ผสานกันแล้วจะดูดีเป็นพิเศษ ซึ่งเรียกว่าความเข้ากันของสี (Color Harmonies) แม่สีหลักนั้นได้แก่สีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน ซึ่งนำมาผสมสร้างเป็นสีขั้นที่สอง ถ้าผสมแม่สีกับสีขั้นที่สองเข้าด้วยกันจะเป็นการสร้างสีขั้นที่สามขึ้น[1]

    • มีการแบ่งสีเป็นสีโทนร้อนและสีโทนเย็น สีโทนร้อนจะเป็นสีประมาณสีส้ม สีแดง สีเหลือง เป็นต้น สีโทนเย็นจะเป็นสีเขียว สีน้ำเงิน และสีม่วง จับคู่สีโทนร้อนเข้ากับสีโทนร้อน หรือจับคู่สีโทนเย็นเข้ากับสีโทนเย็น ก็เป็นการเลือกสีแบบเริ่มต้นที่ดีวิธีหนึ่งเพื่อให้ได้สีที่เข้ากัน
    • สีขาว สีดำ และสีเทาเป็นสีโทนกลาง (และเป็นสิ่งที่สำคัญมากอย่างยิ่งในการเลือกสีเสื้อผ้าให้เหมาะสม)
    • เมื่อสีต่างๆ ผสมเข้ากับสีขาว มันจะสว่างขึ้น ซึ่งจะเรียกว่าทินท์ (Tints) และเมื่อมันผสมเข้ากับสีดำ มันจะเข้มลง จะเรียกว่าเฉด (Shades) โทนสีระดับต่างๆ (Tones) ถูกสร้างขึ้นโดยการผสมสีเทา เมื่อคุณเลือกสีเสื้อผ้า คุณจำเป็นต้องเห็นว่าทินท์ โทน และเฉดของสีที่แตกต่างกันเข้ากันกับอีกสีหนึ่งอย่างไรบ้าง

  2. 2

    หลีกเลี่ยงสีคู่ตรงข้าม (Complementary Colors) เท่าที่เป็นไปได้. มีสีที่เน้นย้ำอีกสีหนึ่งหรือตรงข้ามกับอีกสีหนึ่งในวงล้อสี (ตัวอย่างเช่น สีส้มและสีน้ำเงิน) สีเหล่านี้เป็นสีตรงข้ามกันและอาจจะดูสวย แต่มันไม่ได้หมายความว่ามันจะทำให้การแต่งกายของคุณดูสวยขึ้น![2]

    • อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการใส่สีคู่ตรงข้ามเสมอไปถ้าคุณสามารถแต่งตัวด้วยความมั่นใจ วิธีที่ดีที่จะใช้สีคู่ตรงข้ามคือให้จับคู่สีคู่ตรงข้ามโดยให้อีกสีหนึ่งอ่อนกว่าอีกสีหนึ่ง ตัวอย่างเช่น จับคู่เดรสสีน้ำเงินสดเข้ากับผ้าคลุมไหล่และรองเท้าสีทองซีดๆ

  3. 3

    ใช้สีข้างเคียง (Analogous Colors). สีข้างเคียงจะเป็นสีที่อยู่ข้างๆ กันในวงล้อสี เช่น สีเขียวและสีเหลือง หรือ สีแดงและสีส้ม เพราะว่ามันเป็นสีที่อยู่ใกล้กัน ดังนั้น เมื่อจับคู่กันแล้วมันจะออกมาดูดีได้อย่างง่ายๆ

    • ตัวอย่างของการจับคู่สีข้างเคียงที่ดีอาจจะเป็นการใส่เดรสสีแดงเลือดหมูกับเครื่องประดับสีทองและรองเท้าสีชมพู
    • พยายามหลีกเลี่ยงการใช้สีข้างเคียงมากกว่า 3 ขึ้นไปในการแต่งกายครั้งหนึ่ง จากตัวอย่างด้านบน จะเห็นว่ามีสีข้างเคียง 3 สี (สีชมพู สีแดง และสีทอง) ดังนั้น คุณไม่ควรที่จะสุดโต่งจนไปนักถ้าจะเพิ่มสีส้มและสีม่วงเข้าไปอีก

  4. 4

    ใช้แม่สี. แม่สี (ที่เรารู้จักกันในสมัยเรียน) คือสีแดง สีน้ำเงิน และสีเหลือง การจับคู่สีเหล่านี้มาแต่งกายนั้นยากมากถ้าคุณไม่มั่นใจจริงๆ แม้ว่ามันจะออกมาดูดีทีเดียวเมื่ออยู่ด้วยกัน การใช้แม่สีนั้นเก๋ทีเดียวสำหรับลุคแบบคุมโทน ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้แม่สีได้แค่สีเดียว[3]

    • สำหรับตัวอย่างของลุคแบบคุมโทนอาจจะเป็นการใส่เสื้อตัวบนสีขาวเข้ากับกางเกงยีนส์สกินนี่สีน้ำเงินเข้ม รองเท้าบูทประมาณข้อเท้าสีน้ำเงินเข้ม และเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงินเข้ม ถ้าไม่อยากให้เป็นโทนสีน้ำเงินมากไป คุณอาจจะใส่ผ้าพันคอสีแดงหรือสีม่วงสดเพิ่มไปก็ได้
    • ตัวอย่างของการแต่งกายโดยใช้แม่สีด้วยกันอาจจะเป็นการใส่แม่สีเข้ากับสีโทนกลางต่างๆ ดังนั้น คุณอาจจะจับคู่รองเท้าส้นตึกสีแดงเข้ากับกางเกงยีนส์สกินนี่สีน้ำเงิน และเครื่องประดับสีเหลือง ขณะเดียวกันก็เบรกแม่สีไว้ด้วยเสื้อแจ็กเก็ตสีดำและเสื้อตัวบนสีเทา

  5. 5

    อย่าจับคู่บางสีเข้าด้วยกัน. สีบางสีนั้นไม่เหมาะที่จะจับคู่กันแต่ผู้คนก็ยังคงเข้าใจผิดและจับคู่มันเข้าด้วยกัน หลีกเลี่ยงแฟชั่นแบบพลาดๆ จะช่วยทำให้คุณเลือกสีเสื้อผ้าได้ดีขึ้น

    • สีดำนั้นเข้ากับแทบทุกสี แต่มีสองสีที่ดูเหมือนว่าจะไม่เข้ากับสีดำ อย่าจับคู่สีดำเข้ากับสีน้ำเงินเข้ม เพราะว่ามันเป็นสีที่ใกล้กันเกินไปและเมื่อจับคู่กันแล้วก็ไม่ดูดีอีกด้วย อีกสีหนึ่งคือสีน้ำตาล อย่าจับคู่สีดำเข้ากับสีน้ำตาล เว้นแต่ว่าคุณจะมั่นใจมากๆ
    • สีขาวและสีครีมก็ดูไม่ค่อยเข้ากันด้วย เพราะมันทำให้ดูเหมือนว่าคุณพยายามที่จะแมทช์สีเข้าด้วยกันแต่ดันล้มเหลว (อย่างไรก็ตาม สีครีมและสีน้ำตาลนั้นเข้ากันได้ดีมาก)
    • สีน้ำตาลและสีเทาก็ดูไม่เข้ากัน เพราะว่ามันเป็นสีโทนกลางทั้งคู่และค่อนข้างจะไม่มีสีสันที่จะเน้นอีกสีหนึ่ง

    โฆษณา

  1. 1

    ใช้สีโทนกลางในเครื่องแต่งกาย. นี่เป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งของคำแนะนำในการแต่งกายให้มีสีเข้ากัน สีโทนกลางจะช่วยเน้นสีอื่นๆ ที่คุณเลือก และทำให้มันดูเข้ากันยิ่งขึ้น อีกทั้งดูไม่เยอะเกินไป[4]

    • สีเทาเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเครื่องแต่งกายของคุณ ลองจับคู่กระโปรงสีเทาเข้ากับเสื้อตัวบนสีม่วงเข้ม และผ้าพันคอสีทองซีดๆ หรือจะลองจับคู่กางเกงสแล็คสีเทาเข้ากับเสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อเบลเซอร์สีน้ำเงิน และเนคไทสีแดง
    • จำไว้ว่าเสื้อเชิ้ตเข้ารูปสีขาวเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมมากสำหรับการแต่งกายส่วนใหญ่ สามารถใส่มันเข้ากับกางเกงสแล็คสีดำและเนคไท หรือจะสวมเสื้อสเวตเตอร์ เสื้อเบลเซอร์ หรือผ้าพันคอทับก็ได้
    • หลีกเลี่ยงกางเกงที่มีสีสันถ้าคุณไม่ใส่มันคู่กับเสื้อตัวบนสีโทนกลาง (เช่นใส่กางเกงยีนส์สกินนี่สีแดงเข้ากับเสื้อสเวตเตอร์สีเทา) อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว กางเกงที่มีสีสันจะเป็นจุดดึงดูดสายตา

  2. 2

    ใช้ค่าสเกลน้ำหนักสี (Value Scale of Colors). โดยพื้นฐานแล้ว สีแต่ละสีจะมีหลายน้ำหนัก เช่น เข้มขึ้น (Shades) อ่อนลง (Tints) หรือ ไม่สว่างมาก (Tones) เมื่อคุณจับคู่สี โดยปกติแล้วคุณควรที่จะจับคู่น้ำหนักสีที่ต่างกันของสีที่คุณเลือก

    • ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะจับคู่เนคไทสีเหลืองดอกสร้อยทองเข้ากับเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินอ่อน และกางเกงสแล็คสีดำหรือสีเทา สีเหลืองดอกสร้อยทองมีน้ำหนักมากกว่าเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินอ่อน (สีหนึ่งดูเป็นสีพาสเทล ส่วนอีกสีหนึ่งค่อนข้างสว่าง)
    • พยายามจินตนาการสีต่างๆที่คุณเลือกราวกับว่ามันเป็นภาพคล้ายภาพถ่ายขาวดำ. นี่จะเป็นการช่วยให้คุณกำหนดการไล่ระดับน้ำหนักของสี ดังนั้น คุณจะสามารถแมทช์สีที่มีน้ำหนักต่างๆ ได้ (เช่น คู่สีที่เข้มกับสีที่อ่อน)
    • ขณะที่การจับคู่สีพาสเทลเข้ากับสีพาสเทลด้วยกันจะดูค่อนข้างหวานนิดหน่อย คุณสามารถประกาศความมั่นใจของคุณด้วยการจับคู่เสื้อผ้าสีสดสีหนึ่งเข้ากับสีสดอีกสีหนึ่ง จากตัวอย่างด้านบนที่จับคู่เนคไทสีเหลืองดอกสร้อยทองและเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินอ่อน คุณอาจจะเปลี่ยนจากเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเป็นสีแดงเข้ม ซึ่งจะให้ลุคที่ดูแรงกว่าการใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินอ่อน

  3. 3

    ลงมือปฏิบัติ! คุณอาจจะต้องลองเล่นกับสีเพื่อจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ส่วนตัวว่าคุณอาจจะไม่อยากใส่กับผ้าพันคอสีเหลืองสดกับเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินสด แทนที่จะเป็นสีเหลืองสด คุณอาจจะลดระดับของโทนสีให้เป็นสีเหลืองเฉดคล้ายๆ เนย หรือจะให้มันเข้มขึ้นเป็นสีเหลืองดอกสร้อยทอง

    โฆษณา

  1. 1

    จับคู่สีสันเข้ากับสีโทนกลาง. เมื่อคุณเลือกสีของเครื่องแต่งกาย คุณอาจจะต้องแน่ใจว่าคุณใช้สีโทนกลางเข้ากับสีสัน เพื่อที่ว่าการแต่งกายของคุณจะมีสีสันสุดโต่งเกินไป ขอให้จำไว้ว่า สีโทนกลางนั้นจะช่วนเน้นสีของคุณ

    • ใช้สีสัน 1 สีและสีโทนกลาง 1 สี ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะจับคู่เสื้อสีแดงสดเข้ากับกระโปรงสีแดงและรองเท้าส้นเตี้ยสีแดง หรือคุณอาจจะจับคู่กางเกงยีนส์เข้ากับเสื้อตัวบนสีขาวและผ้าพันคอสีน้ำเงิน
    • คุณสามารถใช้สีสัน 1 สีและสีโทนกลาง 2 สี ตัวอย่างเช่น คุณสามารถจับคู่เดรสสีส้มเข้ากับเสื้อสเวตเตอร์สีขาวหรือสีดำ รองเท้าคอนเวิร์สสีดำ และต่างหูสีขาว หรือคุณอาจจะจับคู่กางเกงขายาวสีน้ำตาลกับเสื้อสเวตเตอร์สีครีม และผ้าพันคอสีทอง
    • ถ้าคุณรู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้น คุณอาจจะลองใช้สีสัน 2 สีและสีโทนกลาง 1 สี คุณอาจจะเลือกสีข้างเคียงสองสีถ้าคุณยังรู้สึกไม่มั่นใจกับทักษะการเลือกสีของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะจับคู่เสื้อเบลเซอร์สีแดงกับเดรสสีขาว รองเท้าและกระเป๋าสีส้ม หรือคุณอาจจะสวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อสเวตเตอร์สีน้ำเงินเข้ม และผ้าพันคอสีแดงเข้ม

  2. 2

    ใช้สีโทนกลางไปทางโทนร้อน. ถ้าคุณรู้สึกไม่มั่นใจ คุณอาจจะยึดการใส่สีโทนกลางไปทางร้อนเช่น สีน้ำตาลหรือสีครีมซึ่งเข้ากันได้ดีและจะทำให้คุณดูสวยสง่าขึ้น คุณอาจจะจับคู่เข้ากับสีแนวเอิร์ธโทน (สีที่ผสมกับสีเทา) เช่นสีเขียวมะกอก

  3. 3

    เลือกชุดที่มีลวดลายเข้ากับสีโทนกลางหรือสีเดี่ยวๆ. เสื้อผ้าที่มีลายนั้นค่อนข้างยากที่จะนำมาแมทช์ ดังนั้น คุณอาจจะต้องแน่ใจว่าคุณจะไม่ทำให้ลวดลายดูเยอะหรือน้อยเกินไปเมื่อแต่งเข้ากับเครื่องแต่งกายชิ้นอื่นๆ

    • ลองจับคู่สิ่งที่มีลวดลาย 1 ชิ้นเข้ากับสีโทนกลาง 1 หรือ 2 สี ตัวอย่างเช่นคุณอาจจะจับคู่เสื้อถักทูนิคลายแถบสีม่วงและดำ เข้ากับเลกกิ้งสีดำและรองเท้าบูทสีเทา คุณอาจจะจับคู่เสื้อเชิ้ตลายสักหลาดเข้ากับกางเกงเอี๊ยมสีน้ำตาล และสวมเสื้อยืดสีขาวใต้เสื้อเชิ้ต
    • คุณสามารถใส่สิ่งที่มีลวดลาย 1 ชิ้นเข้ากับสีเดี่ยวๆ 1 สี ซึ่งเป็นสีที่มีในลวดลาย ตัวอย่างเช่นถ้าคุณมีกระโปรงสีแดงที่มีลายพระอาทิตย์สีส้มและเหลือง คุณอาจจะจับคู่เข้ากับเสื้อเชิ้ตสีส้มที่เป็นสีในลายของกระโปรง (อย่างไรก็ตาม คุณควรจะต้องแน่ใจว่าคุณมีรองเท้าสีโทนกลางใส่เพราะคุณจะดูน่าตื่นตาตื่นใจมากไป!)

    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จำกัดการใช้สีประมาณ 3 สีต่อหนึ่งชุด รวมถึงสีคุมโทนด้วย นี่จะทำให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ใช้สีเยอะเกินไป
  • อย่าใช้สีพาสเทลเยอะเกินไป วิธีที่ดีคือจับคู่สีพาสเทล 1 สีเข้ากับสีโทนกลาง หรือจับคู่สีพาสเทลเข้ากับสีเดียวกันที่มีน้ำหนักเข้มกว่า
  • วิธีที่ดีที่จะเพิ่มสีนิดหน่อยไปในการแต่งกายของคุณก็คือให้เพิ่มเครื่องประดับเล็กๆ ที่มีสีที่มีน้ำหนักเข้ากับสีหลักของเครื่องแต่งกาย ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะจับคู่ต่างหูสีเหลืองเข้ากับเสื้อเชิ้ตสีเขียว หรือใส่เนคไทสีน้ำเงินกับเสื้อเชิ้ตสีแดง

โฆษณา

คำเตือน

  • ขอให้ระลึกไว้ว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะใส่อะไรก็ได้ที่คุณอยากใส่ ถ้าคนอื่นๆ บอกว่ามันไม่เข้ากัน แต่ตราบใดที่คุณแต่งตัวตามลุคที่คุณอยากแต่งแล้ว ใครจะสนในสิ่งที่พวกเขาคิด?
  • หลีกเลี่ยงการใช้สีสองสีที่ดูเหมือนกันมากแต่ไม่ใช่สีเดียวกัน คุณอาจจะจับคู่เข้ากับสีสันอื่นๆหรือใช้สีโทนกลาง มิฉะนั้นมันอาจจะไม่เหมือนกับที่คุณตั้งใจไว้
  • โดยปกติแล้ว หลีกเลี่ยงการแต่งสีน้ำตาลคู่กับสีดำถ้าคุณไม่มั่นใจจริงๆ ตัวอย่างเช่นการสวมรองเท้าสีน้ำตาลเข้ากับชุดสีดำจะทำให้ดูเหมือนว่าคุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสีเลย

โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 269,677 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง