ครั้งนี้ศูนย์ kawasaki Real MotoSports มีบทความสั้นๆ ที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการขี่เที่ยวคนเดียวกับขี่เป็นกลุ่ม อย่างไรดีกว่ากันมาให้ได้อ่านกัน
การขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวคันเดียว หรือไปเป็นกลุ่ม สำหรับบางคนแล้ว รู้สึกปลอดภัยมากกว่าหากขี่ไปเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ แต่หลายคนก็เลือกที่จะขี่คันเดียว หรือไปกันสองคน หรือไปกับเพื่อนๆ แค่กลุ่มเล็กๆ 3-4 คัน ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป ซึ่งไม่ว่าแบบไหนก็มีข้อดีข้อเสียของมัน
ขี่ท่องเที่ยวคันเดียว
ข้อดี
– มีอิสระเต็มที่ จะวางแผนท่องเที่ยวอย่างไรก็ได้ ไม่ต้องรอให้ทุกคนมีวันหยุดพร้อมๆ กัน ออกกี่โมง หยุดพักนานแค่ไหน พักโรงแรมที่ไหน เหนื่อยก็พัก สดชื่นก็ไปต่อ ไม่มีใครว่าอะไร
– คุมค่าใช้จ่ายได้ ไม่ต้องเกรงใจกันเรื่อง ที่พัก อาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
– ความกดดันน้อย จะปลอดภัยกว่าในแง่ที่ว่า ใช้ความเร็วน้อยกว่าไปเป็นกลุ่ม เพราะปริมาณคนยิ่งมาก ก็ยิ่งมีเรื่องให้รอกันนาน ทำให้ต้องเร่งรีบในการขี่ทำเวลา หากกลุ่มไปเร็วเราก็ต้องไวตามให้ทันคนอื่น ถึงเหนื่อยก็ไม่สามารถหยุดพักได้คันเดียว ต้องรอให้ถึงจังหวะพักตามจุดนัดหมายต่างๆ ก่อน
– ฝึกการเอาตัวรอด พึ่งพาตัวเอง ซึ่งเป็นทักษะสำคัญ ที่ทำให้คนที่ชอบท่องเที่ยวคนเดียวบ่อยๆ มีความเป็นผู้ใหญ่ รับผิดชอบตัวเองได้ดีขึ้น
ข้อเสีย
– มันก็จะเหงาๆหน่อย หรืออาจจะมากๆ โดยเฉพาะคนโสด ถ้าหาคนซ้อนประจำได้แล้ว ถึงจะค่อยเลิกเหงาในการขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวคันเดียว
– ต้องพึ่งพา GPS, แผนที่ หากไม่คุ้นเส้นทาง ก็อาจจะหลงได้ง่ายๆ
– กรณีเหตุฉุกเฉิน รถมีปัญหา ต้องช่วยตัวเอง หากขี่ไปเป็นกลุ่ม หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น เพื่อนในกลุ่มก็จะทราบทันที และหาทางช่วยเหลือ แต่ถ้าไปคันเดียว ต้องวางแผนให้ดีๆ พยายามอย่าขี่ในพื้นที่เปลี่ยว โดยเฉพาะเวลาที่ไม่มีชาวบ้านสัญจรแล้ว เพราะหากเกิดเหตุขึ้นมาเช่น รถเสียหลักลงข้างทาง จนบาดเจ็บ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จะไม่มีใครทราบเลย อาจจะใช้เวลาเป็นวันๆกว่าจะได้รับการช่วยเหลือ หรือหากขี่คนเดียวในเส้นทางเสี่ยง ก็จะมีความเสี่ยงกับการโดนจี้ปล้นมากกว่าขี่มากับเพื่อนเป็นขบวน
ขี่ท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม
ข้อดี
– ครึกครื้นสนุกสนาน ยิ่งถ้าเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทด้วยแล้ว จะมีเรื่องให้เฮฮาตลอดทาง เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ จนถึงขั้นเสพติดการท่องเที่ยวเป็นกลุ่มเลย แถมยังช่วยสร้างมิตรภาพ ได้เพื่อนใหม่ ที่มาเข้ากลุ่มด้วย
– สามารถแบ่งหน้าที่กัน คนนึงดูแลเรื่องที่พัก อีกคนเรื่องเส้นทาง เรื่องอาหาร เป็นต้น ซึ่งถ้าไปคนเดียว จะต้องวางแผนทั้งหมดเอง ยิ่งถ้าไม่คุ้นเส้นทาง ก็จะเกร็งกว่า การขี่ตามๆกันไปเป็นกลุ่ม
– ช่วยดูแลกัน เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน รถเสีย ในกลุ่มก็อาจมีคนที่เก่งด้านการดูแลซ่อมแซมรถ บางคนก็พกอุปกรณ์ซ่อม อะไหล่มาพร้อมให้หยิบยืม แถมการขี่เป็นกลุ่มก็ไม่ต้องกังวลเรื่องจี้
ข้อเสีย
– ยิ่งคนมาก ปัญหาก็ยิ่งมาก โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสาร และการรักษาเวลา แม้จะวางแผนกำหนดการมาอย่างดี จะพบว่าการขี่เป็นกลุ่ม เวลาล้อหมุนและเวลาถึงที่หมายมักจะช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เสมอ หากคุมคนในกลุ่มไม่ได้ ก็สามารถทำให้เกิดข้อผิดพลาด ทริปกร่อย หมดสนุก จนไม่อยากออกทริปด้วยกันอีก
– อันตรายจากการขับขี่ร่วมกัน หากต้องเร่งขี่ทำเวลา หรือบางคนในกลุ่มอาจจะขี่ไว กดดันให้คนที่ตามต้องเร่งจังหวะให้ทัน จนพลาดได้ และการขี่ตามๆ กันไป หากคันนึงเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา อาจทำให้คันที่ตามมาเสียจังหวะ ประสบอุบัติเหตุตาม นอกจากนี้ก็ต้องระวังพฤติกรรมการขับขี่ของคนในกลุ่ม ที่อาจมีคนชอบขับจี้ไม่เว้นระยะ ห้าวปาดในโค้ง ยกล้อ ฯลฯ ซึ่งหากมีแค่หนึ่งคันที่ทำพฤติกรรมไม่ดีออกมาบนท้องถนน ก็อาจทำให้คนทั้งกลุ่มเสียหายได้ โดยเฉพาะในยุคโซเชียลปัจจุบัน
แต่ละคนก็ชอบต่างกันไป
จากข้อดีข้อเสียที่ว่ามา หลายคนที่ท่องเที่ยวออกทริปด้วยมอเตอร์ไซค์มานาน ก็มักจะได้ข้อสรุปคล้ายๆ กันว่า ถ้าไม่ขี่คันเดียว ก็ไปเป็นกลุ่มเล็กๆ กับคนรู้ใจ 2-5 คันจะดีที่สุด เพราะไม่เหงาแบบไปคนเดียว และคนไม่มากจนวุ่นวาย ยังดูแลทั่วถึง สำหรับผู้เขียนเองแล้วก็ชอบที่จะขี่คันเดียวไปกับคนซ้อนมากกว่า และถ้าหากจะไปเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ก็เลือกทริปที่มีการบริหารจัดการดีๆ เช่น ศูนย์ Kawasaki Real MotoSports มีทีมงานวางแผนล่วงหน้า มีรถเซอร์วิสพร้อม ซึ่งถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าทริปที่จัดกันเอง แต่ก็จะตัดปัญหาหลายๆ อย่างออกไป ช่วยให้เราขับขี่แบบผ่อนคลาย มีความสุขตลอดการเดินทางครับ
บทความโดย DimsumRacer ปอ
ปอ เป็นผู้ที่หลงไหลรถ 2 ล้อติดเครื่อง โดยมักหาความรู้ต่างๆจากหนังสือและสื่อต่างประเทศ เริ่มขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกด้วยรถ 150cc ก่อนยุคบิ๊กไบค์บูมในไทย ก่อนจะมาใช้รถหลากหลายสไตล์และยี่ห้อ ตั้งแต่ 125-900cc ปัจจุบันเขาหลงไหลรถมอเตอร์ไซค์แนวคลาสสิคเป็นพิเศษ ที่เรียกตัวเองว่า ติ่มซัมเรซเซอร์ เพราะความชื่นชอบรถคาเฟ่เรซเซอร์ แต่ชงเอสเปรสโซ่เองที่บ้าน และขี่พาสก๊อยไปกินติ่มซัมมากกว่า