คุณต้องปรับนิสัยการรับประทานอาหารในแต่ละวันของคุณ…เพราะหากคุณเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกายย่อมส่งผลต่อสุขภาพที่ดีของคุณเอง และถ้าหากว่าคุณต้องการควบคุมน้ำหนักก็จะยิ่งดีมากเพราะคุณจะได้เลือกรับประทานอาหาารเพื่อสุขภาพควบคู่ไปกับการควบคุมน้ำหนัก การรับประทานอาหารไม่ควรบริโภคเกินความจำเป็นของร่างกาย คุณลองมาปรับสุขภาพการกินให้เป็นนิสัย รับรองว่านอกจากจะมีสุขภาพดีแล้วยังมีรูปร่างที่สมส่วนอีกด้วย
คลิกที่รูปภาพเพื่อสั่งซื้อหนังสือ
เคล็ดลับสำคัญในการเลือกทานอาหาร คือ… การเลือกกินอาหารให้ได้แคลอรี่เท่าที่ร่างกายจำเป็นในการใช้งาน และกินอาหารที่หลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อที่ร่างกายจะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน โดยหลักในการเลือกทานอาหารมีดังนี้…
1.รู้จักทานอาหารเช้า เพราะมื้อเช้า คือ “มื้อสำคัญ”คนที่กินอาหารเช้าเป็นประจำจะสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีกว่าคนที่อดมื้อเช้า ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และน้ำตาลในเลือดสูง การทานอาหารเช้านั้นจะช่วยเพิ่มพลัง ทำให้คุณมีสมาธิในการทำสิ่งต่างๆ และอาหารเช้าที่ดีนั้นจะต้องประกอบไปด้วยคุณค่าที่ให้ทั้งวิตามิน เกลือแร่ และปิดท้ายด้วยผลไม้อีกเล็กน้อย
2.เลือกมื้ออาหารที่ประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต และแป้ง เพราะเป็นสารอาหารหลักชนิดหนึ่งซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของร่างกาย เสริมสร้างสุขภาพ และช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ตัวอย่างอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว,ขนมปัง,ซีเรียล เป็นต้น อีกทั้งยังควรเลือกกินธัญพืชที่หลากหลายเพราะร่างกายจะได้รับไฟเบอร์ซึ่งจะช่วยให้อิ่มได้นานขึ้น
3.ลดเค็มสักหน่อย เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เป็นพฤติกรรมสำคัญที่ควรปฏิบัติอย่างจริงจัง เพราะการกินอาหารเค็มจัดจะส่งผลเสียต่อร่างกาย ก่อให้เกิดโรคต่างๆตามมามากมายไม่ว่าจะเป็นโรคความดันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดในสมอง สำหรับพฤติกรรมการลดเค็มสามารถทำได้โดยลดการปรุงรสเค็มลงทีละน้อย เพื่อให้มีความสุขกับการบริโภคเหมือนเดิมและดีต่อสุขภาพ
4.รู้จักกินอาหารหลากหลาย จะได้รับสารอาหารครบถ้วน การกินอาหารหลากหลายจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารหลายประเภทตามไปด้วย นอกจากจะครบถ้วนแล้วยังไม่ขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และยังช่วยให้ร่างกายสามารถนำสารอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.กินปลาหรือน้ำมันปลาเพิ่มโอเมก้า 3 ให้กับร่างกายเพราะปลานั้นเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม คุณควรกินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2ชิ้น หรือไม่ก็กินน้ำมันปลาแทน ซึ่งในน้ำมันปลานั้นมีโอเมก้า 3 ซึ่งมีส่วนช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและลดไขมันในเลือดอีกด้วย
จะเห็นได้ว่า อาหารการกินเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวทุกคน คุณสามารถเลือกกินสิ่งที่ดีให้กับตัวเองได้ ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณสารอาหารครบถ้วน และห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆการกินอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้กระบวนการทำงานของร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมต้องทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และการทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่นั้น มีประโยชน์และมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร รวมทั้งหากขาดสารอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่งไป จะส่งผลเสียอย่างไรต่อร่างกาย ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาหาคำตอบพร้อมกับไขข้อสงสัย และเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนอย่างแน่นอน
อาหารหลักทั้ง 5 หมู่ คืออะไร ?
อาหารหลักทั้ง 5 หมู่ คือ สารอาหารที่ร่างกายของเราควรจะได้รับในแต่ละวัน และต้องได้รับในปริมาณที่เหมาะสมด้วย โดยจะเน้นที่สารอาหารจำพวก คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนเป็นหลัก ในส่วนสารอาหารจำพวก วิตามิน แร่ธาตุ ไขมัน รวมถึงสารอาหารชนิดอื่น ๆ อาจมีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ในลำดับที่รองลงมา ถึงแม้ร่างกายจะต้องการในปริมาณที่ไม่มาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความสำคัญเลย เพราะต่างก็มีส่วนช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อด้วย ดังนั้น ควรทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ในสัดส่วนที่พอดีหรือเหมาะสมต่อร่างกาย จะส่งผลให้เรามีสุขภาพที่ดี นั่นเอง
สารอาหารหลักทั้ง 5 หมู่ มีอะไรบ้าง และมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร
หมู่ที่ 1 : โปรตีน
โปรตีน ประกอบไปด้วยสารอาหารที่ได้รับจาก เนื้อสัตว์ นม ไข่ และถั่ว นอกจากนี้โปรตีนอยู่แฝงอยู่ในอาหารอื่นๆ อีกมากมาย โดยประโยชน์ของโปรตีน คือ สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้กับร่างกาย ช่วยให้เนื้อเยื่อ หรือแม้กระทั่งเซลล์ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ที่สำคัญโปรตีนยังช่วยในการรักษาสมดุลของความเป็นกรด-ด่าง รวมถึงช่วยรักษาปริมาณน้ำในเซลล์และหลอดเลือดให้อยู่ภาะวะที่เป็นปกติ หากร่างกายขาดโปรตีนอาจได้รบผลเสีย เช่น ผิวแห้ง กล้ามเนื้ออ่อนแรง รู้สึกอ่อนเพลียได้ง่าย เป็นต้น
หมู่ที่ 2 : คาร์โบไฮเดรต
คาร์โบไฮเดรต ประกอบไปด้วยสารอาหารที่ได้รับจากการรับประทาน แป้ง ข้าว น้ำตาล มัน และเผือก เป็นต้น โดยประโยชน์ของคาร์โบไฮเดรต คือ เป็นแหล่งพลังงานชั้นยอดที่ร่างกายต้องการ สารอาหารจำพวกนี้จะถูกทดแทนเมื่อร่างกายต้องใช้พลังงาน เช่น การเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกาย เป็นต้น นอกจากนั้นยังช่วยให้ร่างกายสามารถเผงผลาญไขมันส่วนเกินได้ดีขึ้นอีกด้วย แน่นอนว่าหากร่างกายขาดสารอาหารชนิดนี้ไป จะทำให้มีไขมันส่วนเกินในปริมาณมาก และเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอ้วนตามมา นั่นเอง
หมู่ที่ 3 : วิตามิน
วิตามิน ได้รับจากการรับประทานอาหารจำพวก ผักและผลไม้ต่างๆ โดยประโยชน์ของวิตามิน คือ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และทำให้ร่างกายเข็งแรงมากยิ่งขึ้น รวมถึงอวัยวะต่างๆ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังช่วยในเรื่องของสายตา เช่น ตาฝ้าฟาง ตลอดจนช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์ประสาท หากขาดสารอาการจำพวกวิตามินไป จะทำให้ร่างกายขาดภูมิคุ้มกัน อาจเป็นสาเหตุให้โรคภัยไข้เจ็บเข้ามาเบียดเบียนได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเล็กเด็ก หากไม่ได้รับสารอาหารจำพวกวิตามินในปริมาฯที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะกระดูกบาง หรือเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้
หมู่ที่ 4 : แร่ธาตุหรือเกลือแร่
แร่ธาตุหรือเกลือแร่ สารอาหารประเภทนี้ ยกตัวอย่างเช่น โครเมียม ไอโอดีน แมกนีเซียม โซเดียม และ สังกะสี เป็นต้น ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในอาการจำพวกผักและผลไม้ ประโยชน์ของเกลือแร่หรือแร่ธาตุ คือ ช่วยให้น้ำในร่างกายเกิดความสมดุล และช่วยควบคุมความเป็นกรด-ด่างในรางกาย ถ้าหากร่างกายขาดเกลือแร่หรือแร่ธาตุไป จะส่งผลให้ ร่างกายสูญเสียความสมดุล หรืออาจเกิดความผิดปกติในระบบประสาท ตลอดจนทำให้เกิดโรคกระดูก และไขข้อเสื่อมได้อีกด้วย
หมู่ที่ 5 : ไขมัน
สารอาหารที่มีไขมันดี เป็นส่วนประกอบ ยกตัวอย่างเช่น นำมันมะพร้าว น้ำมันรำข้าว และน้ำมันปาล์ม เป็นต้น โดยประโยชน์ของไขมันคือ ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต และเป็นแหล่งสำรองพลังงานที่สำคัญไว้ใช้ในยามจำเป็น รู้หรือไม่ว่า ปริมาณไขมันเพียงแค่ 1 กรัม สามารถให้พลังงานแก่ร่างกายได้มากถึง 6 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว ดังนั้น ถึงแม้ว่าไขมันจะมีความจำเป็นต่อร่างกาย แต่ก็ควรบริโภคอย่างเหมาะสม เพราะหากได้รับมากเกินไปอาจก่อให้เกิดไขมันส่วนเกิน หรือโรคอ้วนได้เช่นกัน
เคล็ดลับ เลือกรับประทานอาหารอย่างไร ให้มีสุขภาพดี
นอกจากการรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ จะมีความสำคัญต่อร่างกายแล้ว วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหารอย่างไรให้มีสุขภาพดีมาฝาก
- ไม่ควรทานอาหารแบบสุกๆ ดิบๆ ควรทานอาหารที่สุกเท่านั้น โดยผ่านกระบวนการทำความร้อน เพื่อกำจัดเชื้อโรคและพยาธิไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมหรือเกลือในปริมาณที่มากเกินความเหมาะสม เพราะหากได้รับเกลือในปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองได้
- ควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว ทั้งนี้ให้นับรวมทั้งน้ำเปล่า และนมที่มีไขมันต่ำ เครื่องดื่มต่างๆ เช่น ชา กาแฟ และควรเป็นกาแฟที่ไม่มีน้ำตาล เพราะอาจทำให้ฟันผุ แถมยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ คงพอตอบข้อสงสัยหรือไขข้อข้องใจได้แล้ว ใช่หรือไม่ ว่าทำไมมนุษย์จึงต้องรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพราะสารอาหารทั้งหมดนั้นมีความสำคัญต่อร่างกาย และช่วยให้ร่างกายสามารถเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนต่างๆ ให้เกิดภาวะสมดุล โดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่ควรได้รับสารอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อการเจริญเติบพร้อมทั้งมีร่างกายที่สมบูรณ์และแข็งแรง